ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4077
ตอบกลับ: 17
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

อานุภาพบารมีแห่งพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร: ปราสาทบันทายฉมาร์

[คัดลอกลิงก์]
อานุภาพบารมีแห่งพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร: ปราสาทบันทายฉมาร์

รูปสลักนูนต่ำสำคัญบริเวณผนังระเบียงคดชั้นนอกทิศตะวันตกเฉียงของปราสาทบันทายฉมาร์ แสดงให้เห็นคติ “วัชรยาน” หรือผู้บูชาพระโลเกศวร ผู้ทรงอานุภาพเหนือโลกและจักรวาล ที่มีเหล่า“ยิดัม” คติแห่ง “ตันตระยาน” เหล่าผู้ปกป้องพระศาสนาผู้เหี้ยมหาญชาญชัยเหนืออวิชชาและเทพเจ้าฮินดู

            พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร  มีความหมายว่า “พระโพธิสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ ผู้เพ่งมองโลก” เป็นกายที่แบ่งภาคออกมาจากพระธยานิพุทธเจ้าอมิตาภะ อันเป็นพระพุทธเจ้าในโลกปัจจับันตามความเชื่อแบบมหายาน

            พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระมหาธยานิโพธิสัตว์แห่งความเมตตากรุณา ในวัฒนธรรมพุทธศาสนาแบบเนวาร์ของเนปาล เรียกพระนามพระองค์ว่า “พระโลเกศวร” - พระผู้เป็นใหญ่แห่งโลก หรือ “มหากรุณิกา” (พระผู้ทรงพระมหากรุณา) ทรงปรากฏพระองค์ได้ถึง 108 ปาง

            ตามตำนานที่เล่าขานกันสืบมา ครั้งหนึ่ง พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ทรงตั้งพระมหาปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะนำสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากสังสารวัฏทุกข์ก่อนที่พระองค์เองจะบรรลุความตรัสรู้ แต่เมื่อทรงแลเห็นว่าสรรพสัตว์ที่พระองค์ทรงช่วยไว้ได้นั้น ช่างน้อยแสนน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับสรรพสัตว์ที่ยังคงหลงเวียนว่ายในความทุกข์ ความโทมนัสนั้นทำให้พระเศียรและพระวรกายของพระองค์แตกทำลายเป็นเสี่ยงๆ พระอมิตาภะพุทธเจ้าทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้น จึงได้เสด็จมาสู่พระผู้ช่วยของพระองค์ ทรงเนรมิตพระวรกายที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ นั้นกลับขึ้นใหม่ ให้เป็นพระวรกายอันทรงพละกำลังมากยิ่งกว่าเดิม มีสิบเอ็ดพระเศียรและหนึ่งพันพระกร เพื่อจะได้ทอดพระเนตรอันเปี่ยมด้วยกรุณาแลดูสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ทั่วทุกทิศ และสามารถช่วยเหลือสรรพสัตว์เหล่านั้นได้ทันท่วงทีด้วยพระกรทั้งพันนั้น

            ตำนานหนึ่งเล่าว่า น้ำพระเนตรแห่งความโทมนัสของพระโลเกศวรจะไหลรวมเป็นทะเลสาบสองแห่ง แล้วพระโพธิสัตว์ตาราเขียวและพระโพธิสัตว์ตาราขาวก็ทรงถือกำเนิดจากดอกบัวอันผุดขึ้นจากทะเลสาบทั้งสองนั้น





ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x

ขอบคุณครับ
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2017-1-4 21:22

ภาพสุดท้าย เป็นภาพการแสดงอานุภาพ ราชาแห่งโลกและสรวงสวรรค์ เป็นภาพ "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 16 กร 11 พระพักตร์ (?)" ในท่ามกลางเหล่าเทพเจ้าและกษัตริย์ ประนมหัตถ์นมัสการแซ่ซ้องสาธุการ ด้านบนเป็นพระอาทิตย์และพระจันทร์ เหล่านางฟ้าแห่งสรวงสวรรค์กำลังเหาะเหิน โปรยปรายเครื่องหอมและบุปผามาลัยถวายการบูชา




ภาพสลักที่แปด อานุภาพบารมีแห่งพระมหาโพธิสัตว์อวโลิเตศวร ราชาเหนือโลกและสวรรค์

...จงเอ่ยพระนามแห่งเรา “โอม มณีปัทเม หูม”  เพื่อให้เราได้เพ่งมองเห็น และจักบริบาลเจ้าด้วยเมตตา...


ที่มา : วรณัย พงศาชลากร
http://oknation.nationtv.tv/blog/voranai/2016/11/16/entry-1

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

  ภาพสลักที่เจ็ดและแปดที่ปลายของผนัง อยู่ในสภาพพังทลาย ถล่มลงเป็นกองหินจากสงคราม หรืออาจถูกลักลอบขนเอาออกไปหมดแล้ว (ภาพถ่ายเก่าของสำนักฝรั่งเศสปลายบุรพทิศ (EFEO)) ภาพที่เจ็ดเป็นการแสดงอานุภาพบารมีแห่งการ“บริบาล” ความทุกข์และโรคร้าย ทั้งทางกายและจิตใจให้แก่โลกและมวลมนุษย์ เป็นภาพของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 4 กร พระหัตถ์ถือ ดอกบัวปัทมะ (Padma)  คัมภีร์ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร ลูกปะคำของนักบวช (Rudraksha Mala) และอมฤตกุมภ์ (กมัลฑลุ) (Amritakumbha) มีภาพของนางโยคินี (Yogini) ธิดาแห่งเหวัชระ กำลังร่ายรำในท่า “อรรถปรยังกะ” (ความยินดีในชัยชนะเหนืออวิชชาและความชั่วร้าย) และการเฉลิมฉลองของผู้คนด้วยความสุขและยินดี


ภาพสลักที่เจ็ด อานุภาพบารมีแห่งพระมหาโพธิสัตว์อวโลิเตศวร ผู้เพ่งมองมวลมนุษย์และบริบาลช่วยเหลือ


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้