ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 12195
ตอบกลับ: 7
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงพ่อแดง ติสฺโส วัดแหลมสอ ~

[คัดลอกลิงก์]

หลวงพ่อแดง วัดแหลมสอ-เมืองสุราษฎร์ธานี

ข้อมูลประวัติ

เกิด                     วันพุธ  ขึ้น 11 ค่ำ  เดือน 3 ปีมะโรง พ.ศ.2434 ณ บ้านเขาปุก อ.เกาะสมุย  สุราษฎร์ธานี  เป็นบุตรของ นายแก้ว  นางอ่อน  ทองเรือง

อุปสมบท              ครั้งแรก เมื่ออายุ 21 ปี ณ วัดสำเร็จ ได้ประมาณ 2 พรรษา  ครั้งที่สองอุปสมบท ณ วัดเดิม

มรณภาพ              คืนวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2519

รวมสิริอายุ             85 ปี

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อัตโนประวัติของหลวงพ่อแดง ติสฺโส

เกิดเมื่อวันพุธ ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 3 ปีมะโรง พ.ศ.2434 ที่บ้านเขาปุก ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นบุตรของนายแก้ว ทองเรือง และนางอ่อน ทองเรือง

ในวัยเด็กเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย เป็นผู้มีความขยันขันแข็งและเอาใจใส่ในการเล่าเรียน ช่วยเหลืองานบ้านมาด้วยดี

เมื่ออายุได้ 21 ปี บิดาและมารดาซึ่งมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงเห็นสมควรที่จะให้ลูกชายได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย จะได้เป็นคนดียิ่งๆ ขึ้นไป จึงได้บอกความประสงค์ต่อบุตรชายซึ่งเห็นดีเห็นงามตามคำของบิดาและมารดา

และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดสำเร็จ โดยมีพระครูวิบูลธรรมสาร (เพชร วชิโร) อดีตเจ้าคณะอำเภอเกาะสมุย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูทีปาวราคุณารักษ์ (รักษ์ อินฺทสุวณฺโณ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทับ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หากอุปสมบทได้เพียง 2 พรรษาเกิดเป็นโรคผิวหนังขึ้นมา จำต้องลาสิกขาเพื่อไปรักษาตัว ต่อเมื่อรักษาจนหายขาดแล้วจึงได้กลับมาอุปสมบทใหม่อีกครั้งหนึ่งที่วัด สำเร็จ โดยคงมีพระอุปัชฌาย์ พระกรรมวาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ รูปเดิมที่เคยอุปสมบทให้ในครั้งแรก

อุปสมบทแล้วได้ติดตามพระอุปัชฌาย์ไปศึกษาฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐานที่ วัดอัมพวัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ศึกษาอยู่ได้ 7 เดือนกลับมายังวัดสำเร็จ ต่อมาพบว่าที่สำนักสงฆ์เขาเล่เป็นสถานที่อันเงียบสงบเหมาะแก่การ บำเพ็ญสมณธรรม จึงได้พำนักอยู่ที่เขาเล่หลายปี จนเมื่อวัดท้องกรูด (สันติวราราม) ว่างตำแหน่งเจ้าอาวาส บรรดาอุบาสกอุบาสิกาได้พร้อมใจกันมานิมนต์ให้หลวงพ่อแดง ติสฺโส มาจำพรรษาที่วัดท้องกรูด พร้อมๆ กับได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่พระอนุสาวนาจารย์ ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่นานหลายปี พบเห็นว่าการเป็นสมภารรับหน้าที่ต่างๆ มีแต่เรื่องกังวลใจ เวลาในการฝึกปฏิบัติธรรมก็ลดน้อยลง จึงได้มอบหมายหน้าที่ให้แก่ผู้อื่น ส่วนตัวของหลวงพ่อแดง ติสฺโส ได้ออกไปหาที่สงบเพื่อบำเพ็ญปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งสถานที่ที่หลวงพ่อแดง ติสฺโส ได้ไปมีหลายแห่ง เช่น ถ้ำยายที่ละไม แหลมเสด็จ น้ำรอบ แหลมสอ วัดโพธิ์บ้านทะเล วัดโพธิ์แหลมสอ ถ้ำที่คลองตีนเป็ด ฯลฯ

หลวงพ่อแดง ติสฺโส เมื่อไปพำนัก ณ สถานที่ใดท่านจะสร้างความเจริญให้กับสถานที่นั้นๆ ดังเช่น การชักชวนชาวบ้านสร้างอุโบสถที่วัดท้องกรูด (สันติวราราม) และพระเจดีย์ที่หาดหินปะการัง สร้างวิหารพระพุทธบาทที่เขาเล่

ทางด้านสาธารณประโยชน์ ได้ดำเนินการสร้างถนนหนทางต่างๆ ศาลา บ่อน้ำ โรงเรียน โรงพยาบาล

ในบั้นปลายของชีวิตหลวงพ่อแดง ติสฺโส ก่อนหน้าจะมรณภาพประมาณ 3 ปี ได้อาพาธหนักจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพมหานคร ครั้งนั้นหลวงพ่อแดง ติสฺโส ได้กล่าวถึงหลวงพ่อลำดวน วัดหินลาด ซึ่งเป็นสหธรรมิกของท่านต่อลูกศิษย์ว่า "ท่านลำดวนก็เหมือนๆ อาตมา"

หลวงพ่อลำดวนนั้นเป็นผู้มีวิชาความรู้ที่มิธรรมดา หากแต่เพราะไม่อวดรู้อวดตัวจึงไม่ปรากฏชื่อเสียงมากนัก แต่ระหว่างหลวงพ่อแดง ติสฺโศ และหลวงพ่อลำดวนแล้วนั้น ทั้งสองสามารถรู้วาระจิตหรือส่งโทรจิตถึงซึ่งกันและกันได้ดีเป็นพิเศษ

กระทั่งวันหนึ่ง หลวงพ่อลำดวนได้บอกกับนายอิน เมืองพรหม พร้อมกับลูกศิษย์คนอื่นๆ ว่า "ให้ไปนิมนต์หลวงพ่อแดง อย่าให้มรณภาพก่อนอาตมา" ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อแดง ติสฺโส อาพาธหนักซึ่งบรรดาลูกศิษย์ต่างคาดว่าหลวงพ่อแดง ติสฺโส คงจะสิ้นอายุขัยแล้ว แต่แล้วก็หายอาพาธกลับเป็นปกติ ซึ่งเชื่อว่าเพราะการอาราธนาไว้ของหลวงพ่อลำดวน

เมื่อหลวงพ่อแดง ติสฺโส หายอาพาธแล้ว เหล่าลูกศิษย์ทั้งหลายได้นิมนต์ให้ท่านมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาเล่ ใกล้ๆ บ้านเกิดของท่าน อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่านเคยอยู่เมื่อสมัยบวชใหม่ๆ

แต่เมื่อมาอยู่ที่เขาเล่ประชาชนต่างมาเยี่ยมเยียนท่านมากมาย ที่พักอาศัยก็ไม่สะดวก หลวงพ่อแดง ติสฺโส จึงได้ชักชวนญาติโยมสร้างศาลาโรงธรรมขึ้น 1 หลัง ใช้เวลาในการสร้างไม่กี่เดือนก็แล้วเสร็จ จากนั้นเห็นว่าวิหารพระพุทธบาทชำรุดทรุดโทรม จึงได้ชักชวนประชาชนทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่อย่างสวยงาม
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรื่องราวแห่งปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อแดง

พระดีแห่งเมืองร้อยเกาะ "สุราษฎร์ธานี" อีกรูปหนึ่งนาม หลวงพ่อแดง ติสฺโส แห่งวัดแหลมสอ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งกิตติประวัติที่เล่าขานสืบกันมาถึงเรื่องราวแห่งอัตโนประวัติของท่านมาก ด้วยสีสันยิ่งนัก

ดังเรื่องราวที่นางเจี้ยว ผู้มีถิ่นฐานอยู่ที่บ้านบางเก่า วันหนึ่งมีเหตุเดินทางไปยังอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช นางได้เห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส บิณฑบาตอยู่ที่อำเภอขนอม ครั้นในวันเดียวกันนั้นได้เดินทางไปยังเกาะราบ และได้พบหลวงพ่อแดง ติสฺโส จึงแปลกใจยิ่งนัก จึงได้สอบถามชาวบ้าน ซึ่งต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อเช้าหลวงพ่อแดง ติสฺโส บิณฑบาตอยู่ที่เกาะราบมิได้ไปที่ไหน

หรือเรื่องเดินบนผิวน้ำ ที่เล่ากันว่า ปกติแล้วนั้น หลวงพ่อแดง ติสฺโส จะเดินทางด้วยเรือชักใบลำเล็กๆ ของท่าน แต่มีอยู่วันหนึ่งขณะที่หลวงพ่อแดง ติสฺโส กำลังแล่นเรืออยู่กับนายอิ่ม ซึ่งพิการขาเป๋ ขณะที่เรือกำลังแล่นอยู่ระหว่างเกาะกะแตนกับเกาะสมุย เรือของท่านก็บังเกิดล่มจมลง ตรงบริเวณนั้นน้ำจะลึกประมาณไม่น้อยกว่า 7 วา หลวงพ่อแดง ติสฺโส ได้ร้องบอกให้นายอิ่มยืนขึ้น ปรากฏว่านายอิ่มสามารถยืนในน้ำได้ครึ่งร่าง ส่วนหลวงพ่อแดง ติสฺโส สามารถเดินบนผิวน้ำได้

เรื่องราวแห่งปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อแดง ติสฺโส ที่ยังคงเล่าขานกันยังมีอยู่อีกหลายเรื่อง ดังเรื่องที่นายชม โอชารส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลหน้าเมือง มาแอบจับตามองหลวงพ่อแดง ติสฺโส ที่ชาวบ้านเล่าขานกันว่า สมัยที่หลวงพ่อแดง ติสฺโส จำพรรษาอยู่ที่วัดน้ำรอบ บริเวณรอบๆ วัดจะมีน้ำล้อมโดยรอบ การเดินทางจะต้องข้ามฟากด้วยเรือ แต่ปรากฏว่าหลวงพ่อแดง ติสฺโส ท่านข้ามมาโดยไม่ต้องอาศัยเรือ และจีวรไม่เคยเปียกน้ำแต่อย่างใดเลย จึงเป็นที่สงสัยของชาวบ้านยิ่ง จึงเฝ้าจับตามองดูว่า หลวงพ่อแดง ติสฺโส ท่านข้ามฟากมาด้วยวิธีการใด

วันหนึ่งผู้ใหญ่ชม โอชารส ซึ่งแอบซุ่มเฝ้ามองดูอยู่ เห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส ยืนอยู่ริมฝั่งวัดน้ำรอบ แต่เพียงพริบตาเดียวหลวงพ่อแดง ติสฺโส ก็มายืนอยู่ทางด้านฝั่งเดียวกับผู้ใหญ่ชม โดยที่จีวรไม่เปียกน้ำเลย ครั้นถามไถ่หลวงพ่อแดง ติสฺโส ว่าท่านข้ามมาอย่างใด ก็ได้รับคำตอบว่า นั่งเรือมา แต่มองไปก็ไม่พบเรือสักลำ

หรือเรื่องที่นายจันทร์ เพชรศรี ได้ประสบพบมา เมื่อครั้งนำอาหารไปถวายหลวงพ่อแดง ติสฺโส ที่วัดแหลมสอ เมื่อเปิดประตูกุฏิไปหาพบเห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส ไม่ จึงเอาปิ่นโตแขวนไว้ที่หน้ากุฏิแล้วนั่งคอยก็ไม่เห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส มาสักที จึงได้ไปปลดปิ่นโตเพื่อนำไปไว้ในกุฏิ เมื่อเปิดประตูกุฏิก็เห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส นั่งอยู่ ครั้นถามท่านก็ตอบว่าไม่ได้ไปไหนนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว

อีกรายหนึ่งที่ประสบพบเห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส ล่องหนหายตัว คือ นายนอบ ทวยเจริญ และพรรคพวก ได้พบหลวงพ่อแดง ติสฺโส บริเวณแหลมละไม ซึ่งท่านได้มาให้คนเลื่อยไม้เพื่อต่อเรือระมาด ตัวท่านนั่งอยู่บริเวณปากถ้ำ นายนอบ ทวยเจริญ กับเพื่อนๆ เห็น จึงขึ้นไปเพื่อจะถามไถ่ถึงควายชนว่าตัวไหนจะชนะ เพื่อจะได้ไปแทงพนัน แต่พอไปถึงบริเวณที่ท่านนั่งอยู่กลับไม่พบเห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส แม้จะตามหาทั่วบริเวณก็หาพบไม่

หรือแม้แต่การถ่ายรูปหลวงพ่อแดง ติสฺโส หากไม่ขออนุญาตท่านเสียก่อน ก็ไม่สามารถถ่ายติดรูปท่านได้ นับเป็นที่แปลกอัศจรรย์ และมีผู้พบประสบมาหลายรายแล้ว


http://www.meeboard.com/view.asp ... mp;rid=20&qid=7
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม

                เหรียญรุ่นแรก ปี พ.ศ.2513  เป็นเหรียญกลมขนาดค่อนข้างใหญ่  รูปเหมือนเต็มองค์ ระบุชื่อ “หลวงพ่อแดง” ด้านล่าง  ส่วนด้านหลังเป็นยันต์ ระบุชื่อวัด

                รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก ปี พ.ศ.2513

                เหรียญรุ่นสอง ปี พ.ศ.2516  สร้างโดยพระใบฎีกาสถิตย์ มี 2 พิมพ์ด้วยกัน คือ เหรียญรูปไข่ทรงชลูด  และเหรียญคล้ายพระ 25 พุทธศตวรรษ ทั้ง 2 เหรียญ จะปรากฎรูปหลวงพ่อยืนเต็มองค์  ด้านหลังเป็นพระเจดีย์  ยันต์  และชื่อวัด

                รูปเหมือนหล่อรุ่นสอง ปี พ.ศ.ี พ.ศ.2516  เป็นรูปเหมือนแบบหล่อ  ห่มลดไหล่  สำหรับมงคลอื่น ๆ ได้แก่ ตะกรุดโทน  ลูกอม  และผ้ายันต์




พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา

                พุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านเด่นทาง  อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด  มหาอุตม์  และเมตตามหานิยม

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ปาฏิหาริย์แห่ง"อิทธิวิธิ" "หลวงพ่อแดง"วัดแหลมสอ

ปาฏิหาริย์แห่ง"อิทธิวิธิ"(1) "หลวงพ่อแดง"วัดแหลมสอ

คอลัมน์ มุมพระเก่า

โดย สรพล โศภิตกุล

ครั้งหนึ่งพระครูวิบูลธรรมสาร (เพชร ติสฺโส) วัดอัมพวัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อดีตเจ้าคณะแขวงอำเภอเกาะสมุย ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อแดง ได้เคยกล่าววาจาไว้ว่า

"หลวงพ่อแดงถึงจะเก่งอย่างไรก็จะต้องดับทางน้ำ" อีกทั้งหลวงพ่อแดง ก็เคยกล่าวกับนายโสพร ทองมั่น ซึ่งอยู่ที่ตำบลละไม อำเภอเกาะสมุย ว่า "อาตมาจะต้องมรณภาพทางน้ำ" ก่อนหน้าที่หลวงพ่อแดงจะมรณภาพไม่นานนัก

แล้ววาจาของพระครูวิบูลธรรมสาร (เพชร) ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2519

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ได้มีผู้ที่นับถือและเคยช่วยเหลือหลวงพ่อแดงมาเป็นระยะเวลายาวนาน ได้นิมนต์หลวงพ่อแดงไปฉันภัตตาหารเพื่อเป็นสิริมงคลที่บ้านดอน ซึ่งโดยปกติแล้วหลวงพ่อแดงไม่ค่อยจะรับนิมนต์เรื่องทำนองนี้จากผู้ใด หากครั้งนี้หลวงพ่อแดงได้ชักชวนนายดำ ผิวขำ ลูกศิษย์ท่านมาด้วย


ขณะที่หลวงพ่อแดงชักชวนนายดำนั้น นายอิน เมืองพรหม และนายโธ่ ศรีแสง อยู่ด้วย ซึ่งหลวงพ่อแดงได้กล่าวว่า "คำเอ๋ยเราไปให้พ้นกันเสียที"

รุ่งขึ้นวันที่ 6 สิงหาคม ได้เดินทางกลับเกาะสมุย โดยเรือโดยสารพันธนูทอง หลวงพ่อแดงได้พักอยู่ในห้องพิเศษที่ทางเรือจัดไว้ให้เพียงรูปเดียว ส่วนลูกศิษย์ที่ติดตามมาได้พักอยู่หน้าห้อง รวมทั้งนายชั้น ชัยทวัฒน์ ขณะอยู่บนเรือนั้นหลวงพ่อแดงได้ทำมือพลิกคว่ำพลิกหงาย มีผู้โดยสารเรือเห็นกันมาตลอด

นายชั้นก็เห็นแต่หาเฉลียวใจไม่ คิดเพียงว่าหลวงพ่อแดงท่านใบ้หวย แต่ก่อนที่หลวงพ่อแดงจะเข้าพักในห้องได้หันมาสั่งว่า "คืนนี้นอนก็นอนเถอะ แต่อย่าให้หลับ" นายชั้นสงสัยจึงถามกลับว่า "ทำไมจึงไม่ให้หลับ"

หากหลวงพ่อแดงก็ไม่ตอบเดินเข้าห้องพักไป

จนกระทั่งเวลาประมาณหนึ่งนาฬิกา เรือโดยสารได้แล่นมาเกิดอุบัติเหตุด้วยเข้าผิดร่องน้ำ ไปเกยชานข้างร่องแล้วพลิกคว่ำลง ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งไม่กี่ไมล์ แต่ด้วยเป็นช่วงเวลาที่ผู้โดยสารต่างนอนหลับจึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึงกว่า 20 คน

ในนั้นมีหลวงพ่อแดง และนายคำ ร่วมอยู่ด้วย

เมื่อได้ทำการกู้ร่างของหลวงพ่อแดงขึ้นมา และพยายามช่วยเหลือด้วยการเอาน้ำออกจากร่างหลวงพ่อแดง ด้วยคิดว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่ปรากฏว่าไม่มีน้ำอยู่ในท้องของท่านเลย ต่างไปจากผู้เสียชีวิตรายอื่นที่ล้วนมีน้ำอยู่เต็มท้อง อีกทั้งผิวพรรณยังผ่องใสเหมือนกับท่านยังมีชีวิตเพียงแต่นอนหลับอยู่เท่านั้น

จากสภาพที่เห็น ต่างเชื่อกันว่า หลวงพ่อแดงท่านได้ละสังขารไปก่อนที่เรือจะประสบอุบัติเหตุ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีน้ำในท้องของท่าน และเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็ด้วยทราบถึงวาระแห่งชีวิต

อันเป็นที่หลีกไม่พ้นได้


ที่มาhttp://www.matichon.co.th/khaosod/kh...day=2006/09/26
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ปาฏิหาริย์แห่ง"อิทธิวิธิ" (2) "หลวงพ่อแดง"วัดแหลมสอ

คอลัมน์ มุมพระเก่า

สรพล โศภิตกุล



หนังสือ "ธรรมวิภาค" ปริเฉทที่ 2 หน้า 63 ได้กล่าวไว้ว่า

"อิทธิวิธิกล่าวไว้ในนิทเทสว่า แสดงฤทธิ์ได้ต่างๆ คนเดียวนิรมิตเป็นคนมากก็ได้ กลับเป็นคนเดียวอีกก็ได้ ล่องหน คือ ผ่านไปในวัตถุกั้นขวางอยู่ เช่น ฝา กำแพง ภูเขา ดุจไปในที่แจ้งก็ได้ ดำดินคือไปใต้ดิน แล้วผุดขึ้นในที่ปรารถนา ดุจดำในน้ำก็ได้ เดินน้ำคือไปได้บนน้ำ อันไม่แตก ดุจเดินบนพื้นดินก็ได้ เหาะคือนั่งไปในอากาศ ดุจนกบินก็ได้ ลูบคลำพระจันทร์ พระอาทิตย์ด้วยมือก็ได้ ใช้อำนาจด้วยกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้"

"อิทธิวิธิ" นี้ หลวงพ่อแดง แห่งวัดแหลมสอ ได้สำแดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏ ดังเรื่องราวเล่าขานที่จะกล่าวถึง

เรื่องแรก คือ การแบ่งภาคบิณฑบาต เรื่องมีอยู่ว่า นางเจี้ยว ซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ที่บ้านบางเก่า

เช้าวันหนึ่งมีเหตุให้ไปทำธุระอยู่ที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เห็นหลวงพ่อแดงบิณฑบาตอยู่ที่อำเภอขนอน วันเดียวกันได้เดินทางกลับเกาะสมุยเและได้พบหลวงพ่อแดง ก็ให้สงสัยไปสอบถามชาวบ้านดู ชาวบ้านล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อเช้าหลวงพ่อแดงบิณฑบาตที่เกาะราบไม่ได้ไปไหน

ในสมัยพุทธกาลนั้น มีพระสาวกที่สำคัญหลายรูปด้วยกันที่สามารถแบ่งภาคได้ ดังเช่นพระอานนท์ หรือพระจุลบัณถก กล่าวสำหรับพระจุลบัณถกนี้ สามารถแบ่งภาคได้ถึง 1,000 องค์ทีเดียว


ในประวัติมีกล่าวไว้ว่า ครั้งหนึ่งอาณาบิณฑกเศรษฐีได้จัดอาหารเพื่อจะถวายพระพุทธเจ้า และพระสาวก แต่ปรากฏว่าครั้นถึงเวลาก็ขาดพระจุลบัณถก 1 องค์

อาณาบิณฑกเศรษฐีจึงให้คนไปนิมนต์พระจุลบัณถก แต่ปรากฏว่าท่านแบ่งภาคออกเป็น 1,000 องค์ ผู้นิมนต์จึงมิอาจทราบได้ว่าองค์ไหนคือองค์ท่านที่แท้จริง

ในที่สุดพระพุทธเจ้าทรงตรัสให้ไปเรียกชื่อ ถ้าองค์ไหนขานตอบก่อนองค์นั้นก็คือ พระจุลบัณถก

เรื่องที่สอง เล่าถึงอิทธิวิธิของหลวงพ่อแดงเดินบนผิวน้ำว่า ปกติแล้วหลวงพ่อแดงมักเดินทางด้วยเรือชักใบลำเล็กๆ ของท่าน มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังแล่นเรืออยู่กับนายอิ่ม ซึ่งพิการขาเป๋ แล่นเรืออยู่ระหว่างเกาะกะแตนกับเกาะสมุย เรือของท่านก็บังเกิดล่มจมลง ตรงบริเวณนั้นน้ำลึกไม่น้อยกว่า 7 วา

หลวงพ่อแดงจึงร้องบอกนายอิ่มให้ยืนขึ้น ปรากฏว่านายอิ่มสามารถยืนในน้ำได้ครึ่งตัว

ส่วนหลวงพ่อแดงนั้นท่านสามารถเดินบนผิวน้ำได้

7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ปาฏิหาริย์แห่ง"อิทธิวิธิ"(จบ) "หลวงพ่อแดง"วัดแหลมสอ

คอลัมน์ มุมพระเก่า

สรพล โศภิตกุล



เรื่องเดินบนผิวน้ำนี้ ยังปรากฏเป็นที่ประจักษ์สายตาของผู้คนอยู่ เมื่อครั้งที่หลวงพ่อแดงยังจำพรรษาอยู่ที่วัดน้ำรอบ บริเวณวัดจะมีน้ำล้อมอยู่ทุกด้าน เช่นนั้นเมื่อหลวงพ่อแดงจะมาอีกฝั่งหนึ่งก็จำเป็นต้องใช้เรือข้าม

หากว่าหลวงพ่อแดงสามารถข้ามฝั่งไปโดยมิได้โดยสารเรือมา กระนั้นแม้กระทั่งจีวรก็หาเปียกไม่ เป็นที่สงสัยของผู้คนอยู่มาก จึงคอยจับตามองยามที่หลวงพ่อแดงข้ามฝั่ง แต่ก็ไม่อาจทราบได้

ในที่สุดชาวบ้านจึงช่วยกันถางโค่นเถาวัลย์ที่อยู่สองฝั่งลงจนหมด


ด้วยสงสัยว่าหลวงพ่อแดงจะไต่เถาวัลย์ข้ามฝั่งมา แต่หลวงพ่อแดงก็ข้ามฝั่งมาได้โดยมิได้ใช้เรือข้ามมาแต่อย่างใด

วันหนึ่ง นายชม โอชารส ขณะนั้นเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลหน้าเมือง ขณะที่มาคอยมองดูหลวงพ่อแดง ก็มองเห็นหลวงพ่อแดงยืนอยู่ฝั่งวัดน้ำรอบ ชั่วพริบตาเดียวหลวงพ่อแดงก็ข้ามฝั่งมายืนตรงที่ผู้ใหญ่ชมแล้ว โดยจีวรไม่เปียกน้ำเช่นเคย

ผู้ใหญ่ชมจึงได้ถามไถ่หลวงพ่อแดงถึงเรื่องข้ามฝั่ง หลวงพ่อแดงตอบไปว่า ท่านนั่งเรือมา แต่ผู้ใหญ่ชมไม่เห็นเรือแม้แต่ลำเดียว


กระนั้น "ปาฏิหาริย์" ของหลวงพ่อแดง อันเป็นที่เล่าขานกันมาก็ยังมีอีก โดยเฉพาะในเรื่องล่องหนหายตัวที่มีผู้ประสบเหตุ ดังเช่น เมื่อนายจันทร์ เพชรศรี บ้านอยู่แหลมสอ อำเภอเกาะสมุย ได้นำอาหารจะไปถวายหลวงพ่อแดง

เมื่อขึ้นไปบนกุฏิได้เปิดประตูเข้าไป แต่ปรากฏว่าไม่เห็นหลวงพ่อแดงอยู่ในกุฏิแต่อย่างใด จึงได้เอาปิ่นโตแขวนไว้ที่หน้าประตูกุฏิแล้วนั่งคอย ไม่เห็นหลวงพ่อแดงสักที ด้วยคิดว่าหลวงพ่อแดงคงมีกิจธุระไปที่อื่น

ในที่สุดจึงปลดปิ่นโตลงจากที่แขวนจะเอาเข้าไปไว้ในกุฏิของหลวงพ่อแดง แต่พอเปิดประตูไปก็พบหลวงพ่อแดงนั่งอยู่ จึงได้สอบถามดู หลวงพ่อแดงก็บอกว่า ท่านนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหนตั้งแต่เช้าแล้ว

หรือในรายของนายอบ ทวยเจริญ เมื่อครั้งหลวงพ่อแดงได้มาให้คนเลื่อยไม้เพื่อต่อเรือละมาดที่แหลมละไม

ขณะนั้นนายอบและเพื่อนๆ ได้เห็นหลวงพ่อแดงนั่งอยู่ที่ปากถ้ำ จึงขึ้นไปถามเรื่องควายชนว่าตัวไหนจะชนะ เพื่อจะไปวางพนันขันต่อ แต่พอนายอบกับเพื่อนเข้าไปถึงปรากฏว่า

หลวงพ่อแดงหายไปไม่สามารถหาท่านได้พบ


ที่มา http://board.palungjit.com/f127/ ... E0%B8%AD-51319.html

กราบนมัสการครับ

ขอบพระคุณข้อมูลครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้