ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 9663
ตอบกลับ: 10
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> ไก่แก่แม่ปลาช่อน <<

[คัดลอกลิงก์]
วิชาไก่แก่แม่ปลาช่อน สุดยอดวิชาที่หลวงปู่หล้าวัดวังโพรงเข้

(ท่านสำเร็จวิชาไก่แก่แม่ปลาช่อนมาจาก จ.สุรินทร์)


เมือท่านนำวิชามาสร้างขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อน

จนอิทธิคุณไพศาลปรากฎไกล ในเรื่องเมตตามหานิยมร้อนแรงเป็นเอกอุ

จนท่านต้องวิชาเรียกกลับ ก่อนที่จะให้พระจำปีไปฝังทิ้ง

ดั่งมีรายละเอียดการบันทึกจากพระจำปี ว่า..


     ปี พ.ศ. ๒๔๙๐  หลวงพ่อก็ออกจากป่ามาอยู่วัดตามปกติ  หลังจากหลวงพ่อออกจากป่ามาแล้วท่านก็เปลี่ยนแนวการสร้างวัตถุมงคลทางคงกระพันชาตรีมาเป็นทางเมตตา  ในปีดังกล่าวหลวงพ่อได้ทำสีผึ้งสัมพันธ์ตึงและสร้างพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อนแจกจ่าย เวลามีคนมาขอหรือบูชาสีผึ้งสัมพันธ์ตึงกับหลวงพ่อ ผู้หญิง หลวงพ่อจะให้รับสีผึ้งมือซ้าย  ผู้ชายจะให้รับมือขวา เมื่อรับแล้วให้ยื่นมือข้างที่รับออกไปจนสุดแขน และให้ดมที่มืออีกข้างหนึ่ง ถ้าใครไม่ได้กลิ่นสีผึ้ง หอมผ่านมาที่มืออีกข้างหนึ่งไม่ต้องเอาไป  แต่ก็ปรากฏว่าทุกคนที่ได้รับสีผึ้ง  ก็จะได้กลิ่นหอมผ่านมือผ่านแขนมาอีกข้างหนึ่งกันทุกคน

        หลังจากหลวงพ่อแจกสีผึ้งสัมพันธ์ตึง     และพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อนไปได้ประมาณสองเดือน     ก็เริ่มมีญาติโยมมาต่อว่าหลวงพ่อ    ถึงอภินิหารสีผึ้งสัมพันธ์ตึงและพระขุนแผนไก่แก่-

แม่ปลาช่อน ซึ่งการต่อว่าก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก โดยเฉพาะโยมผู้หญิงไม่ชอบใจเลยกับสีผึ้งสัมพันธ์ตึงและขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อน มีโยมผู้หญิงหลายคนที่แอบขโมยสีผึ้งและพระขุนแผนดังกล่าวของโยมผู้ชายมาคืนหลวงพ่อ  และยิ่งนานวันก็มีโยมผู้หญิงมาต่อว่ามากขึ้นจนวันหนึ่ง คุณนายของท่านสำราญ  เครือนิลและคุณนายปลัดแสวง  นำภัตตาหารเพลมาถวายหลวงพ่อ และก็ต่อว่าหลวงพ่อถึงเรื่องความขลังของสีผึ้งสัมพันธ์ตึงกับพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อน  เมื่อคุณนายทั้งสองกลับไปแล้ว  

  หลวงพ่อก็พูดกับผมว่า  “คือสิบ่เข้าท่าแล้วหละจำปีเอ๊ย   บ่คึดว่ามันสิขลังปานนี่หนะ”
  (คงจะไม่ได้การแล้วนะจำปี ไม่คิดว่าจะขลังขนาดนี้)  


  และคืนวันนั้นหลังจากพระลูกวัดเข้าห้องจำวัดกันหมดแล้ว  หลวงพ่อท่านก็นั่งสมาธิตรงหน้าพระประธานที่ใช้ทำวัตรสวดมนต์ประจำ   ผมรู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่เห็นหลวงพ่อนั่งสมาธิตรงนั้น  

เพราะปกติหลวงพ่อจะนั่งในห้องของท่าน  พอตีสี่ผมก็ตื่นมาตีระฆังทำวัตรเช้าตามกิจวัตรที่เคยปฏิบัติมา เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จก็มาจุดเทียนหน้าพระประธานที่ทำวัตรสวดมนต์

พอแสงไฟจากเปลวเทียนสว่างขึ้น ผมต้องแปลกใจเมื่อเห็นตลับสีผึ้งหลากหลายรูปแบบ และพระขุนแผนกองอยู่บนเสื่อ  หน้าพระประธานที่หลวงพ่อนั่งสมาธิเมื่อคืนนี้เป็นจำนวนมาก     

ผมจึงพูดกับพระลูกวัดด้วยกันว่า   “หลวงพ่อเอาสีผึ้งกับพระขุนแผนมาจากไหนอีก   ก็แจกจ่ายไปหมดแล้วนี่น่า ทำไมเหลือมากขนาดนี้”  แต่พอช่วยกันพิจารณาดูก็รู้ว่าเป็นสีผึ้งและพระขุนแผนที่แจกญาติโยมไปแล้วนั่นเองมขนลุกไปทั้งตัวจนต้องยกมือขึ้นกุมหัวเหมือนคนหวาดเสียวสุดขีด (ขนลุกขนชัน)


แม้ตอนเสือขาวยกปืนยิงใส่หลวงพ่อก็ไม่รู้สึกอย่างนี้  ตอนหลวงพ่อเรียกงัวโยมโสมขึ้นจากหล่มก็ไม่รู้สึกอย่างนี้  ตอนเอาไม้เท้าหวายทิ่มพุงโยมลาให้ฟื้นจากงูจงอางกัดก็ไม่รู้สึกอย่างนี้ตอนช้างพวกอะโยธยาจับควนฟาดกับพื้นและกระทืบซ้ำก็ไม่รู้สึกอย่างนี้ ตอนเรียกจระเข้ขึ้นจากสระก็ไม่รู้สึอย่างนี้

(“อธิบายความรู้สึกของพระจำปี * วินัยธร)  ตอนที่เสือขาวยกปืนยิงใส่หลวงปู่ได้กล่าวแล้วในตอนต้น  ตอนเรียกงัวนายโสมขึ้นจากหล่ม   คือ  วัวนายโสม  ชมกลิ่น  ติดโคลนตมข้างวัด   คนหลายคนเอาวัวขึ้นจากโคลนตมไม่ได้    หลวงปู่จึงเดินมาดูและเรียกวัว  “มาขึ้นมา”    วัวก็เดินขึ้นมาเฉย ๆ    ตอนเอาไม้เท้าหวายทิ่มพุงโยมลาฯ คือ นายลา  ปุณทะสี  ถูกงูจงอางกัดจนหมดสติ  พอคนหามนายลามาถึงวัด เพื่อให้หลวงปู่รักษา หลวงปู่ก็เอาไม้เท้าที่ทำด้วยหวายจิ้มเบา ๆ  ไปที่ท้องนายลา พร้อมกับพูดว่า “ตื่น  ลาตื่น”    แล้วนายลาก็ลุกขึ้นเป็นปกติไม่เจ็บปวดอะไรเลย  ตอนช้างจับควานช้างฟาดกับพื้น ฯ คือ ปลัดแสวงว่าจ้างช้างจากอยุธยามาลากไม้และมาพักที่วัด วันหนึ่งช้างคงเหนื่อยมากไม่ยอมงัดไม้เพื่อเรียงเก็บ  ควานช้างพยายามบังคับ  ช้างโมโหจึงเอางวงจับควานฟาดลงกับพื้นและกระทืบซ้ำ แต่ควานช้างไม่เป็นอะไรเลย ควานช้างมีตะกรุดพญาไก่แก้ว     
(แต่ตะกรุดไม่น่าจะป้องกันแรงกระทืบของช้างได้ คงรอดเพราะเหตุการณ์นั้นเกิดต่อหน้าหลวงปู่มากกว่า)  


ตอนเรียกจระเข้ขึ้นจากสระ  คือ จระเข้ขึ้นจากลำคลองมาหากินในสระน้ำสำหรับบริโภคของชาวบ้าน   ด้วยความกลัวจระเข้จึงไม่มีใครกล้ามาตักน้ำ    เมื่อเห็นชาวบ้านเดือดร้อนหลวงปู่จึงเดินมาที่สระน้ำและเรียกจระเข้ให้ขึ้นมา  จระเข้หลายตัวก็ขึ้นมา แล้วหลวงปู่ก็บอกให้มันกลับไปอยู่ที่วังน้ำในลำห้วยตามเดิม  จระเข้เหล่านั้นก็เดินกลับไปอย่างว่าง่ายแล้วหลวงปู่ก็สั่งห้ามจระเข้มาหากินที่สระน้ำนี้อีกตั้งแต่นั้นจระเข้ก็ไม่ข้ามมาหากินในสระน้ำอีกเลย         


เมื่อหลวงพ่อออกจากห้องมาทำวัตรเช้า ผมก็ถามหลวงพ่อว่า ทำไมหลวงพ่อเรียกของกลับคืนมาหมด ทำไมไม่ถอนอาคมเฉย ๆ หลวงพ่อตอบว่า วิชาอาคมที่ทำลงไปแล้วเขาไม่ถอนกันดอก ถ้าถอนของที่ทำไปแล้ว ทำครั้งต่อไปก็จะไม่ขลัง หรือของที่ทำแล้วและให้เขาไปหมดแล้ว ก็ไม่ต้องกลับไปทำซ้ำอีก ต้องทำอย่างอื่นไปเรื่อย ๆ ดัดแปลงเอาอันเก่านั่นแหละ แต่ไม่ทำแบบเก่า ทำของพวกนี้มีพลังเท่าไหร่ต้องอัดใส่ให้หมด หมดแล้วหมดเลย กลับไปทำอีกมันก็ไม่ขลัง เพราะมันหมดแล้วในจุดนั้น ๆ


อย่าคิดกลับไปทำอีก นี่คือเคล็ดลับในการทำของให้ขลัง

(เคล็ดลับของแต่ละรูปอาจไม่เหมือนกัน * วินัยธร)

เมื่อทำวัตรสวดมนต์เช้าเสร็จแล้ว หลวงพ่อก็ให้ผมกับพระเอาสีผึ้งสัมพันธ์ตึงและพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อนไปฝัง

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-6-15 11:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มั่นภาวนา ความอุดมสมบูรณ์จะเพิ่มขึ้น

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
สาธุครับ ตำนานจะเกิดขึ้นอีกครั้งก็ที่สำนักเรานี่แหละ
เอ๊ะ ดีหรือไม่ดีหว่า ดีละกันๆๆ
เหตุที่อาจารย์ นำเอาไก่แก่แม่ปลาช่อน ไว้ด้านหลังขุนแผนแสนตรีเวทย์

อาจารย์บอกว่า หากมีเสน่ห์ และต้องมีความสมบูรณ์ ไปพร้อมๆๆกันด้วย

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขอบคุณสำหรับคาถากำกับครับ
จะหมั่นภาวนาให้ขึ้นใจครับ
"มีเสน่ห์พร้อมความสมบูรณ์"

สีผึ้งไก่แก่ฯ บอกเลย ลองแล้ว ดี๊ดี ฟันธง
ยังไม่มี ยังไม่มี
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้