...
3
...
ตกเข้าช่วงบ่ายรถตู้ที่พาเรามาเริ่มจะเข้าเขตเสียมเรียบแล้ว ถนนภายในเขตนี้จะเริ่มรู้
สึกได้ว่าแคบลง บางครั้งดูเหมือนไม่มีไหล่ถนน รถวิ่งสวนกันดูหวาดเสียวมิใช่น้อย
รถจักรยาน-มอเตอร์ไซค์ก็ขี่กันประมาณตามใจฉัน คนขับรถต้องอาศัยจังหวะแซงเอา
หรือม่ายก็บีบแตรไล่กันบ้าง พอเริ่มเข้าตัวเมืองเริ่มจะมีต้นไม้ใหญ่ ๆ แลดูร่มรื่นขึ้นมาก
เลย เป็นลักษณะของไม้ใหญ่มาก ถนนคดเคี้ยวไปตามหมู่ไม้เหล่านี้หละครับ...รถจอด
ครั้งแรกก็เป็นที่ "สระสรง" โชเฟอร์บอกจอดเข้าห้องน้ำ พวกเราก็เลยเข้าห้องน้ำแล้ว
เดินมาดู "สระสรง" ที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ไม่มีวันแห้ง แลดูน้ำตื้น ๆ นะครับอาจจะ
เป็นเพราะว่าอยู่ช่วงหน้าแล้งกระมัง
...
...
ออกจาก "สระสรง" ลัดเลาะมาตามหมู่ไม้เริ่มเห็นเงาโบราณสถานวอบ ๆ แวม ๆ ตาเริ่ม
จะโตแระ เพ่งมองแบบใช้กระแสจิตหวังจะมองทะลุป่าจะได้เห็นตัวปราสาท
ตอนนี้
ท่านอาจารย์ธรรมรัตน์จะพาเราหาที่พักก่อนเพื่อเก็บสัมภาระ แล้วจะได้มีเวลาออกทัวร์
กันแบบสบายใจ พระอาจารย์บอกกับพวกเราว่าในเมืองนั้นน่ะเทียบกับไทยแล้วก็เหมือน
เมืองเชียงใหม่นั่นหละ(โอ๊ว..ว้าววว!!! นึกในใจว่ามันจะขนาดนั้นเลยเหรอ..แอบไม่เชื่อ
นะครับ
)
...
รถเริ่มพาเราเข้าตัวเมือง เริ่มเห็นตึกรามบ้านช่อง เออ...เริ่มรู้สึกว่ามันเป็นเมือง ๆ หนึ่งนะ
ไม่ใช่ป่านี่หว่า ขับรถตะลุยเมืองมาเรื่อย ๆ เฮ้ย! ร้านพิซซ่าฮัท, KFC,ซเวนเซ่น นึกในใจ
ว่าไม่อดตายแล้ว แต่ก็ยังดูเล็กกว่าเมืองเชียงใหม่อยู่ดีนั่นแหละน่าถึงจะดูมีทุกอย่างที่ทัน
สมัยครบก็เหอะ พอมาถึงโรงแรมรถตู้ก็จอดให้เราไปจัดการต่อรองราคา ฟุตฟิตฟอไฟตกกะ
ไดขาหักกันเสร็จ ประมาณแร้วเราต้องจ่ายค่าห้องพักโดยเฉลี่ยคนละ 300 ก่า ๆ ต่อคืนถ้า
จะให้ดาวตามประสาผม ก็คงเป็นโรงแรมสองดาวได้หละมั้งครับ จากการสำรวจของคุณโอม
และเหล่าพี่น้องสรุปได้ว่า โรงแรมในเมืองนี้มีเยอะมากจนน่าจะเกินความต้องการของตลาด
ตอบสนองต่อผู้เข้าพักได้หลายระดับ สุดแต่นักท่องเที่ยวจะสรรหาครับ นับว่าเป็นเรื่องดี ๆ
ในเมืองนี้เลยเชียว เราจ่ายค่าที่พักกันเป็นเงินดอลล์ครับ
...
...
ตอนที่ไปค่าเงินไทยที่ผูกอยู่กับดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น ถ้าแลกไปจากเมืองไทยจะถือว่าได้ถูก
กว่าเราไปแลกที่โน่นครับ มาแลกที่เขมรก็จะแพงขึ้นนิดหน่อย ใช้จ่ายเป็นดอลล์จะได้เปรียบ
เพราะการแข็งของค่าเงิน สะดวกเพราะใช้จ่ายได้ทุก ๆ ที่ แต่ก็ควรมีเงินเรียลติดไม้ติดมือไว้
เพื่อใช้ตามเขตรอบนอกนะครับจะได้ไม่ต้องทอนเงินให้ยุ่งยากเวลาใช้ดอลล่าร์ ส่วนเงินไทย
ใช้ได้บ้าง แต่เหรียญสิบใช้ไม่ได้นะค๊าบ
...
มาถึงตรงนี้เริ่มมองเห็นภาพราง ๆ กันบ้างหรือยังครับ...เมืองแห่งมรดกโลกที่มีที่พักในราคาที่
คุณหรือใคร ๆ ก็ไปพักได้ ค่าใช้จ่ายอาหารการกินก็แพงแบบเมืองท่องเที่ยว เพราะใช้เงินสกุล
ดอลล่าร์เป็นหลัก ถ้าคุณฉลาดรู้จักพูดภาษาอังกฤษได้นิด ๆ หน่อย ๆ พอรู้เรื่องแบบนักท่อง
เที่ยว อยู่ติดเมืองไทยแบบนั่งเครื่องบินชั่วโมงก่า ๆ ถึงหรือโดยสารรถตู้ก็สะดวกสบายในระดับ
หนึ่ง จับกลุ่มกันหลายคนไปเที่ยวแบบสามวันสองคืนผมจัดงบประมาณให้แบบสบาย ๆ ตกคนละ
ประมาณ 5,000.- บาทเท่านั้น(ถ้านั่งเครื่องบินโลว์คอสต์มีหมื่นก็น่าจะพออ่ะนะ) ไอ้ห้าพันนี่ถ้า
วางแผนดี ๆ ผมว่าเงินเหลืออ่ะนะ.