. . พระพุทธรูปในรูปแบบแบบ “ชัยพุทธมหานาถ” ขนาดใหญ่น้อย และหลัก “พุทธะ-ยันตระมณฑล” ที่ถูกรื้อถอนออกมาจากภายในปราสาท มาฝังรวมกันไว้ในหลุมหน้าอาคารขนาดเล็ก ทางด้านหน้าฝั่งทิศเหนือของปราสาทบันทายกุฎี . ซึ่งก็คงต้องยกให้พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ผู้ล้มล้างจักรวรรดิบายนทั้งทางโลก (อำนาจ การปกครอง)และในทางอำนาจเหนือธรรมชาติ (อำนาจแลอานุภาพ) ได้กลายเป็น “จำเลย” ในหน้าประวัติศาสตร์ของการทำลายล้างคติความเชื่อเดิมของอดีตแห่งพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แบบ “ขุดรากถอนโคน” ในปราสาทบันทายกุฎีนี้ อย่างไม่มีข้อสงสัย . . . รูปประติมากรรมขนาดใหญ่น้อย ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ถูกรื้อถอนออกมาจากภายในอาคารศาสนสถาน มาฝังรวมกันไว้ในหลุมหน้าอาคารขนาดเล็ก ทางด้านหน้าฝั่งทิศเหนือของปราสาทบันทายกุฎี . และเมื่อปีที่แล้ว (2011) ก็ยังมีการขุดพบรูปประติมากรรมของพระพุทธรูปนาคปรกขนาดใหญ่ศิลปะแบบบายน ความสูงกว่า 2 เมตร ที่ข้างฐานอาคารหอนางรำ (วิหาร) ด้านหน้าของปราสาทตาพรหม ที่น่าจะเป็นพระประธานสำคัญของราชวิหารแห่งนี้ ในสภาพถูกทุบแยกพระเศียรออกจากพระวรกาย เช่นเดียวกันกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในทั่วเมืองพระนครในช่วงเวลาเดียวกัน . . พระพุทธปฏิมากรนาคปรกขนาดใหญ่ ที่อาจเป็น “พระชัยพุทธมหานาถ” ประธานของราชวิหารแห่งปราสาทตาพรหม ถูกขุดพบในเดือนตุลาคม ปี 2011 . ปัจจุบันรูปประติมากรรมทางพุทธศาสนาที่ขุดพบในเขตปราสาทบันทายกุฎีทั้งหมดถูกนำขึ้นมาเก็บรักษาและจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์พระนโรดมสีหนุ (Preah Norodom Sihanouk – Angkor museum) ซึ่งรายละเอียดจากการศึกษารูปแบบทางศิลปะในยุคบายน “แท้” ที่พบหลักฐานแบบ “ยกเข่ง – เหมาโหล”เช่นนี้ ก็จะมีส่วนช่วยให้เราทำความเข้าใจเรื่องราวความต่อเนื่องของ “พระพุทธรูปนาคปรก” ที่สืบทอด “ร่องรอยทางศิลปะและคติความเชื่อ” มาจนถึงในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดีครับ . . ช่องรูที่ชั้นบนสุดของปราสาทประธานปราสาทบายน เป็นช่องรูที่เคยสวมเดือยของแท่นฐานพระพุทธปฏิมากรนาคปรกคู่จักรวรรดิ . ซึ่งนั่นก็คือเรื่องราวของ “พระพุทธรูปนาคปรก” และรูปเคารพ “ชัยพุทธมหานาถ” ในศิลปะแบบบายน ที่พบเห็นได้ในเขตจักรวรรดิบายนที่เคยยิ่งใหญ่ในยุคโบราณ ซึ่งใน “ปัจจุบัน” ก็คือส่วนของประเทศกัมพูชา บางส่วนของประเทศไทยและประเทศลาว ไงครับ . . หลักหินในคติ “พุทธมณฑล”( Buddha Mandala) เป็นการจัดวางเหล่าพระพุทธเจ้าบนสรวงสวรรค์มันดารา แบบเดียวกับหลัก “ยันตรมณฑล” ของฮินดูตันตระในยุคก่อนหน้า ขุดพบที่ปราสาทบันทายกุฎีพร้อมกับพระพุทธรูปที่ถูกทุบทำลายจำนวนมาก . . หลักหินรูปซุ้มปราสาท 4 ทิศ ด้านฝั่งที่เป็นรูปของ “พระวัชรธร” หรือบุคคลาธิษฐานแห่งความสำเร็จโดยพลัน . . พระพุทธรูปนาคปรกในรูปแบบมีมวยผมหรืออุษณีษะแบบรัดเกล้าเป็นรูปกลีบบัวซ้อน แบบ ”พระชัยพุทธมหานาค” ที่ปราสาทบันทายกุฎี
|