ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนานพระเกจิอาจารย์แห่งแดนสยาม
»
หลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต แห่งวัดโนนทรายทอง บ้านนาเยีย
1
2
/ 2 หน้า
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
เจ้าของ: Metha
หลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต แห่งวัดโนนทรายทอง บ้านนาเยีย
[คัดลอกลิงก์]
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54565
11
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-3 17:56
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ดังนั้นการตัดสินใจมาอยู่ที่ป่าช้าผีดิบแห่งนี้ จึงเป็นการพิสูจน์ถึงความเข้มแข็งของจิตใจหลวงปู่ว่าจะอยู่ได้หรือไม่ ความจริงหลวงปู่ก็รู้สึกกลัวๆ อยู่เหมือนกันแต่เมื่อสถานการณ์มันบังคับอย่างนี้ก็ต้องทำเป็นใจดีสู้เสือตายเป็นตายกันละคราวนี้ต่อจากนี้ไป หลวงปู่ได้ตั้งใจจะปฏิบัติบำเพ็ญเพียรภาวนาอย่างเข้มแข็ง ไม่อย่างนั้นอาจจะแพ้ภัยจากวิญญาณอันเหี้ยมโหดของผีตายโหงที่ป่าช้านี้ก็ได้ ดังนั้น หลวงปู่จึงได้กำหนดการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันไว้ดังนี้
ตื่นตี 4 นั่งสมาธิภาวนา เดินจงกรม จนถึงเวลา 5.30 น. ทำภารกิจส่วนตัวออกรับบิณฑบาต เสร็จภัตตกิจ แล้วเริ่มทำสมาธิภาวนา แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ แก่ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษเจ้ากรรมนายเวร 1 ทุ่ม เริ่มสวดมนต์ทำวัตรเย็นนั่งสมาธิเดินจงกรม จนถึงเวลา 21 นาฬิกา จึงเข้านอนจำวัด ปรากฏว่าตลอดระยะเวลาที่นั่งปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่สำนักป่าช้าแห่งนี้ ไม่มีสิ่งใดและเหตุการณ์ใดที่ผิดปกติเกิดขึ้น ผลจากการปฏิบัติอย่างเข้มงวดนี้ยิ่งทำให้จิตใจสงบ มีปิติสุขมากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง หลังจากฉันภัตตาหารเสร็จ มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งชื่อยายนาง แกเล่าให้ฟังว่า น้องชายที่เสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยอุบัติเหตุคือ เป็นคนงานรับจ้างตัดไม้ซุงขนาดใหญ่ใส่รถบรรทุกไปส่งยังโรงเลี่อยที่อุดรธานีไม้ยางที่ตัดโค่นได้ล้มทับร่างฝั่งจมดินเสียชีวิตทันที ศพได้นำมาฝั่งไว้ที่ป่าช้าใกล้ๆกุฏิของหลวงปู่นี่เอง เมื่อคืนนี้วิญญาณของน้องชายไปเข้าฝันยายนางว่า นับตั้งแต่เขาตายไป ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด วิญญาณยังคงวนเวียนอยู่ระหว่างป่าช้ากับบ้านดงสวรรค์ มีความเป็นอยู่อย่างอดๆ อยากๆ ตลอดมา นับตั้งแต่หลวงปู่มาอยู่ที่นี่ ท่านให้เมตตาอาหารการกินทุกวัน เสื้อผ้ามีให้ใส่ มีความสุขสบายขึ้นมาก อยากจะให้พี่สาวมาบอกเล่าและขอบคุณหลวงปู่แทนด้วย นี่ก็เป็นเรื่องที่ดีน่าอนุโมทนา หลวงปู่ได้บอกแก่โยมนางว่า คงเป็นเพราะหลวงปู่ได้แผ่เมตตาให้ทุกวันนี่เอง
มาอยู่วัดภูจำปา
พอออกพรรษามาอยู่ที่วัดภูจำปาตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้แต่ต้น ซึ่งที่นั่นอาจารย์ประเสริฐ มาจากอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ท่านมาอยู่ก่อนแล้วพอไปถึงหลวงปู่ก็เลือกสถานที่พักที่เป็นสัปปายะ คือแคร่ที่ถ้ำขาม ( มีถ้ำและมีต้นมะขาม ) คืนแรกก็เจอดีเข้าให้ คือพอตกเย็นก็เริ่มสมาธิภาวนาพุทธโธ พุทโธ ไปเรื่อยๆพอจิตเริ่มสงบ คลับคล้ายคลับคลาจะฝัน หรือเป็นนิมิต ปรากฏมีโยมผู้ชายคนหนึ่งถือขันดอกไม้ ธูปเทียน เดินเข่าเข้ามาหา ยกขันนิมนต์ยื่นให้ และกล่าวว่า
โยมผู้ชาย : ขอนิมนตืข้าน้อย
หลวงปู่ : นิมนต์ให้ทำอะไรล่ะ ?
โยมผู้ชาย : นิมนต์ให้อยู่ที่นี่เพราะข้าน้อยจะได้ทำบุญ
ในนิมิตนั้น หลวงปู่มิได้คิดพิจารณาอะไรมาก ก็รับเอาขันนิมนต์ทันที เมื่อตื่นจากภวังค์ จึงพูดกับตัวเองว่า เอ๊ะ ! นี่เรารับนิมนต์เขาแล้วล่ะซี ตามธรรมเนียมปฏิบัติของพระจะต้องอยู่ต่อไป ซึ่งความจริงก็อยากอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ปรากฏว่าการปฏิบัติศาสนกิจ การเจริญจิตภาวนาที่วัดภูจำปานั้น เป็นไปด้วยดี จิตก็สงบดีมาก
ทางด้านญาติโยม ชาวบ้านภูจำปาก็มีความเสื่อมใสศรัทธา ให้ความอุปฏฐากอุปถัมภ์ทางวัดเป็นอย่างดี แม้แต่ญาติโยมจากต่างถิ่น เมื่อทราบข่าวว่ามีพระภิกษุพระธุดงค์มาจำพรรษาอยู่ที่นี่ ก็หลั่งไหลเข้ามาทำบุญมิได้ขาด มีอยู่วันหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในวัดดูท่าทางเป็นผู้ใจดีมีบุญ ทราบชื่อภายหลังว่า คุณหญิงนุ่มเข้ามากราบและถามว่า
คุณหญิงนุ่ม : หลวงปู่เจ้าขา ที่วัดนี้มีความขาดแคลน หรือมีความต้องการอะไร ไม่ว่าจะเป็นเสนาสนะ ศาลา กุฏิ หรือแม้แต่สถานพยาบาล ดิฉันยินดีจะมาสร้างถวาย เพราะที่นครพนม ดิฉันก็ได้สร้างถวายมาแล้ว 2 แห่ง เจ้าค่ะ ส่วนหมอและเจ้าหน้าที่ดิฉันจะจัดหามาให้เอง เจ้าค่ะ
อาจารย์ประเสริฐ : อย่างอื่นไม่มีอะไรขาดแคลนอาตมาอยากได้หอระฆังอย่างเดียว
คุณหญิงนุ่ม : หลวงปู่เจ้าค่ะ ตกลงเลยสร้างหอระฆังให้ตามต้องการ หลวงปู่จำพรรษาอยู่ที่วัดภูจำปา 4 พรรษา คือตั้งแต่พรรษาที่ 3 พ.ศ 2529 ถึงพรรษาที่ 6 พ.ศ 2532 หลวงปู่ได้มีโอกาสพัฒนาและสร้างเสนาสนะร่วมกับอาจารย์ประเสริฐพอสมควร มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความประหลาดใจและจนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ คือ แต่เดิมมา ทางขึ้นไปทางวัดภูจำปานั้นเป็นพลาญหิน มีลักษณะลาดชัน พื้นผิวขรุขระ มีหลุมและแอ่งเป็นแห่งๆรถยนต์ขึ้นไปได้แต่ลำบากมาก หลวงปู่จอม ซึ่งเป็นพระอยู่ด้วยกันอีกรูปหนึ่งมีความคิดที่จะสร้างถนนคอนกรีตขึ้นไป แต่ยังไม่มีงบประมาณ จึงไปขอยืมเงินจากพระอาจารย์คำ วัดสำราญนิเวศ พอที่จะซื้อปูนซีเมนต์ได้ 20 ถุง เมื่อได้มาก็เกิดปัญหาต่อเนื่องว่า จะหาหินและทรายจากที่ใด เอามาอย่างไรงานสร้างถนนจึงจะเร็จ เพราะงบประมาณส่วนนี้ยังไม่มี เคยนำเรื่องเข้าปรึกษาหารือกับพระในวัด แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ต่อมาอีก 2 วัน ก็มีรถหกล้อ สีส้มเหมือนรถแขวงการทางคันหนึ่งบรรทุกหินและทรายเต็มคันรถ วิ่งขึ้นมาเทกองไว้บนพลาญหิน และบอกว่า มีผู้สั่งให้เอามาถวาย แต่ไม่ระบุชื่อผู้สั่ง ได้ถามพระในวัดทุกรูปแต่ก็ไม่มีผู้ใดได้สั่งเข้ามา จึงไปถามผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านภูจำปา ก็ไม่มีผู้ใดสั่งหินและทรายเข้ามา นับเป็นเรื่องที่แปลกมาก จนกระทั่งบัดนี้
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54565
12
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-3 17:56
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรื่องแปลกๆที่ภูจำปา
มีอยู่บ่อยครั้งที่เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดที่ภูจำปาคือเมื่อถึงเวลาค่ำมืดขณะที่หลวงปู่กำลังนั่งสมาธิภาวนาอยู่ จะปรากฏเห็นคนเดินผ่านมาด้านหน้าครั้งละ 3-4 คน ครั้นพอถึงตรงหน้าเขาจะนั่งคุกเข่าลง แล้วก้มกราบ 3 ที แล้วก็ลุกขึ้นเดินต่อไปทั้งๆที่ทางข้างหน้าเป็นป่าทึบ เหวลึกหน้าผาสูงชันมีเสียงพูดคุยกันพึมพำ แต่ฟังไม่ได้ศัพท์ ก็เป็นเรื่องที่นับว่าแปลกที่เกิดขึ้นบนภูจำปา
ออกจากวัดภูจำปา
หลวงปู่อยู่ที่ภูจำปาได้ 4 พรรษา ก็มีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ อันเป็นเหตุให้ไม่อยากอยู่ที่นั่นอีกต่อไป เพราะถ้าขืนอยู่ก็คงมีเรื่องมัวหมองมาถึงตัว คือขณะที่ทางวัดมีการก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ อยู่นั้น บรรดาศรัทธาจากโยมก็นำปัจจัยมาถวาย เพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง ก็มีพระในวัดรูปหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นพระเลขาและเหรัญญิก พอรวบรวมเงินได้ก้อนหนึ่งก็เผ่นแนบกลับบ้านเดิมไปสร้างความไม่พอใจแก่ญาติโยมมาก ปีนั้นหลวงปู่เป่ สังวโร จากวัดบ้านนาเยียก็ไปอยู่ด้วย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นมา พลังศรัทธาจากญาติโยมก็เริ่มเสื่อมถอยลง เสียงซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบก็เริ่มหนาหูเข้ามาเรื่อยได้ยินแม้กระทั่งว่า “ ถ้าหลวงปู่บุญหลายยังคงขืนอยู่ที่นี่ต่อไป มีแต่จะทำให้คนเกลียดวัดยิ่งขึ้น ดังนั้น หลวงปู่เริ่มคิดหนัก ต้องหาทางย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นส่วนจะเป็นที่ใดนั่น ยังตัดสินใจไม่ได้ ต้องหาจังหวะและเวลาที่เหมาะสมต่อไปไปอยู่วัดบ้านนาเมือง ”
อาจจะเป็นเพราะจิตพะวงในเรื่องการย้ายที่อยู่ เพราะห้วงเวลานั้น คิดหาแต่สถานที่ที่จะย้ายไปอยู่แห่งใหม่ จึงมีอยู่คืนหนึ่ง หลวงปู่ฝันไปว่า ได้สะพายย่ามและบาตรเดินทางลงมาจากภูจำปา มุ่งหน้าต่อไปโดยไม่ทราบเป้าหมายจนกระทั่งไปถึงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง จึงแวะเข้าไปพักผ่อนในฝันนั้นคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นบ้านนี้มาก่อน เมื่อสังเกตดูผู้คน และบริเวณสถานที่แล้ว จึงรู้ว่าเป็นหมู่บ้านนาเมืองนั่นเอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดภูจำปาเท่าใดนักพอตื่นเช้าขึ้นมาหลังจากปฏิบัติภัตตะกิจเสร็จ จึงตัดสินใจออกเดินทางไปบ้านนาเมืองตามนิมิตโดยบอกลาเฉพาะมัคคะทายกและผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น พอไปถึงก็ได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านเป็นอย่างดี เพราะญาติโยมส่วนใหญ่ก็เป็นบุคคลที่เคยรู้จักกันมาก่อนพอมาอยู่ได้ 3- 4 วัน ชาวบ้านภูจำปาก็ยกขบวนมาขอนิมนต์ให้กลับไปอยู่ที่วัดภูจำปาอีก ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ทางฝ่ายบ้านนาเมือง บ้านที่มาอยู่ใหม่เมื่อทราบข่าวว่าญาติโยมจากบ้านภูจำปา มาขอนิมนต์ให้กลับ ก็ไม่ยอม จึงเกิดมีการรวมตัวกัน ยกขบวนมาเผชิญหน้า และปะทะคารมย์กัน ส่วนหลวงปู่เองก็ไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไร จึงกล่าวแก่ญาติโยมทั้ง 2 หมู่บ้านว่า ณ สถานการณ์อย่างนี้อาตมาขอวางตัวเป็นกลาง และขอทำตัวเป็นพระพุทธรูปดีกว่า ให้พี่น้องเจรจากันด้วยเหตุด้วยผล เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงและมีมติว่าอย่างไร อาตมายินดีปฏิบัติตาม จนในที่สุด ชาวบ้านนาเมืองก็ให้เหตุผลว่า เมื่อหลวงปู่อยู่ที่วัดภูจำปาก็ได้ช่วยสร้างความเจริญให้กับทางวัดไว้มากแล้ว คราวนี้หลวงปู่เองก็ได้ตั้งใจจะมาอยู่ที่วัดบ้านนาเมือง ท่านคงต้องการมาเปลี่ยนแปลงสถานที่เปลี่ยนแปลงบรรยากาศขออย่า ได้ฝืนความตั้งใจของท่านเลย หากวันใดท่านมีความคิดถึง และอยากกลับไปอยู่ที่นั่นอีก ชาวบ้านนาเมือง ยินดีไปส่งเป็นอันว่า ชาวบ้านภูจำปายอมตามเหตุผลและเงื่อนไขนั้นทุกอย่าง
หลวงปู่มาอยู่ที่วัดบ้านนาเมือง ตอนแรกๆ ก็ได้รับความร่วมมือจากพลังศรัทธาจากญาติโยมเป็นอย่างดี จนกระทั่งมีผู้ส่งบุตรหลานเข้าบวช เป็นพระภิกษุสามเณร แม่ชี จำนวนมาก ครั้นอยู่ต่อมาได้ 2-3 พรรษาสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปเพราะโดยธรรมชาติของสังคมมนุษย์นั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานภาพแบบใด ในกลุ่มของพุทธบริษัททั้ง 4 แล้ว ทุกคนมีความแตกต่าง ทั้งในเรื่องรูปร่างหน้าตานิสัยใจคอ อารมณ์ สติปัญญา ความรู้สึกนึกคิด ยิ่งถ้าสังคมนั้นขาดข้อตกลง กติกา ระเบียบปฏิบัติที่รัดกุมแล้ว ย่อมมีความขัดแย้ง วุ่นวายเป็นธรรมดา ในหลักทางโลกธรรม 8 แล้ว ทุกคนย่อมหนีไม่พ้น
ดังนั้น สังคมที่วัดบ้านนาเมือง จึงเกิดความขัดแย้ง วุ่นวาย แบ่งเป็นกลุ่มเป็นพวก ทำให้หลวงปู่บุญหลายไม่สบายใจ เพราะโดยนิสัยส่วนตัวแล้วท่านเป็นคนที่รักความสงบ เรียบง่าย ไม่เคยขัดแย้งกับใคร หรือถ้ามีท่านก็เลือกที่จะหลีกหนีให้ห่างหรือเป็นฝ่ายยอมแพ้ดีกว่า ดังนั้น เมื่ออยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ ท่านจึงคิดหาทางหนีออกห่างดีกว่า แต่ขณะที่ยังไม่ได้ไป จิตใจของท่านก็ไม่เป็นสมาธิมีความว้าวุ่น กระวนกระวายใจมาก
มีอยู่คืนหนึ่ง ขณะที่หลวงปู่นั่งสมาธิเหนื่อยแล้ว จำวัตรกำลังจะหลับก็เกิดนิมิต เห็นหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่และหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ทั้งสองเดินเข้ามาหา ดูท่าทางหลวงปู่มั่นท่านกำลังโมโห เข้ามาชี้หน้าและด่าหลวงปู่บุญหลาย ด้วยเสียงดังห้าวว่า “ อย่ามัวยุ่งอยู่กับความวุ่นวายหมกมุ่นอยู่กับเรื่องก่อ-เรื่องสร้างอยู่ทำไม อย่างนี้มันจะไปถึงไหนกันไป๊ ! ออกไปทำสมาธิภาวนาอยู่ตามภู ตามผา ตามป่าตามดงโน่น ขืนอยู่ที่นี่จะได้อะไร ” ส่วนหลวงปู่นั้น ท่านั่งอยู่เฉยๆไม่พูดไม่จาว่ากระไร
วันรุ่งขึ้นก็เกิดเหตุแปลกๆตามมา สำหรับหลวงปู่ คือพอหลวงปู่ไปนั่งแคร่ไม้ไผ่ แคร่นั้นก็หักลง ไปนั่งบนเก้าอี้ เก้าอี้ก็พัง ไปนั่งม้านั่งยาวซึ่งทำด้วยปีกไม้เนื้อแข็งอย่างหนา ม้านั่งนั้นล้มลง คล้ายๆ กับจะเป็นลางบอกว่า อยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว หลวงปู่เริ่มคิดถึงปัญหาความวุ่นวายของพระเณรในวัด นิมิตที่หลวงปู่มั่นมาเตือน และเหตุการณ์เก้าอี้พังที่ผ่านไปใหม่ๆ มาประกอบเหตุผลจึงตัดสินใจย้ายที่อยู่อีก โดยไปบอกลาเฉพาะพ่อใหญ่มัคทายกวัดเท่านั้น ไปแวะเยี่ยมชม หรือฝากคัวเป็นลูกศิษย์ท่านก็ได้ครับ
ที่มา ขอขอบคุณ
www.watnonsaithong.com/
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
sritoy
sritoy
ออฟไลน์
เครดิต
3631
13
#
โพสต์ 2014-6-3 19:54
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อ่านวันหน่อยนะครับสาธุ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
1
2
/ 2 หน้า
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...