ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย ~

[คัดลอกลิงก์]
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-29 10:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
๏ ลำดับสมณศักดิ์

พ.ศ. ๒๕๑๘ พระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต”

พ.ศ. ๒๕๒๐ พระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม

พ.ศ. ๒๕๒๘ พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ “พระสุนทรธรรมากร” อันมีความหมายเป็นมงคลว่า “ผู้เป็นต้นธรรมที่ดีพร้อม”

แม้จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะ แต่ใจท่านเป็นพระเต็มตัว ละแล้วซึ่งกิเลส ไม่ยึดติดในลาภสักการะคำสรรเสริญเยินยอใดๆ


๏ ลักษณะนิสัยทั่วไป


พระเดชพระคุณหลวงปู่เป็นพระมหาเถระ ที่มีอัธยาศัยใจคอกว้างขวาง เยือกเย็น มีความเมตตา กรุณาต่อศิษยานุศิษย์ ตลอดถึงญาติโยมทุกคนที่เข้าหาท่าน ใครก็ตามที่มีปัญหา หรือมีความทุกข์เข้าหาท่าน จะได้รับการต้อนรับจากท่านอย่างดียิ่ง เสมอกันหมด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ต่อครูบาอาจารย์และพระเถระที่อาวุโสกว่า หลวงปู่จะแสดงอาการอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ โดยไม่เคยจะแสดงอาการแข็งกระด้างใดๆ เลย ด้วยเหตุนี้หลวงปู่จึงเป็นที่เคารพนับถือของศิษยานุศิษย์และญาติโยมโดยทั่วไปเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้แล้ว หลวงปู่ก็ยังเป็นพระเถระที่มีความตั้งใจมั่นคงหนักแน่นอีกด้วย จะเห็นได้จากการที่ท่านตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้ว จะต้องทำสิ่งนั้นให้สำเร็จให้จงได้ คงเป็นเพราะความตั้งใจจริงและความตั้งใจมั่นคงนี้เอง ที่ทำให้หลวงปู่ทำสิ่งใดก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี และรวดเร็วเกินความคาดหมายทุกประการ

ตัวอย่างเช่น พระธาตุมหาชัย, อุโบสถวัดธาตุมหาชัย, กำแพงล้อมรอบวัดธาตุมหาชัย และกุฏิสงฆ์หลังใหม่ ๒ หลัง ซึ่งสิ่งก่อสร้างแต่ละอย่างล้วนแต่ใช้ค่าก่อสร้างจำนวนมากทั้งสิ้น เมื่อคณะศรัทธาญาติโยมที่มีความเคารพนับถือในตัวหลวงปู่ได้ทราบ ต่างก็มีจิตศรัทธาช่วยกันสละกำลังทรัพย์มาช่วยในรูปของกฐินบ้าง ผ้าป่าบ้าง จนงานก่อสร้างดังกล่าวสำเร็จรวดเร็วเกินคาด

อีกประการหนึ่ง โดยอุปนิสัยแล้ว หลวงปู่ท่านถือการปฏิบัติกัมมัฏฐานเป็นประจำนับตั้งแต่อุปสมบทพรรษาแรก จนกระทั่งมรณภาพ
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-29 10:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
๏ การมรณภาพ

พระเดชพระคุณพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) ได้ละสังขารอย่างสงบในกุฏิจำพรรษา ด้วยโรคชราภาพ  ประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายอย่างแทรกซ้อน หลังจากอาพาธมานานหลายปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๖  เวลาประมาณ ๐๑.๕๙  น. ณ วัดธาตุมหาชัย สิริรวมอายุได้ ๘๙ พรรษา ๕๙ สร้างความสลดโศกเศร้าให้แก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ใกล้ชิด ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่เป็นอย่างยิ่ง วันนี้...หลวงปู่คำพันธ์ พันธุ์ไม้มีแก่นในตัว ไม่โอ้อวด ไม่ยึดติด ท่านสิ้นใจแต่ไม่สิ้นธรรม


หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ



.............................................................

รวบรวมและเรียบเรียงมาจาก ::
(๑) http://www.watthatmahachai.com/
(๒) หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 29  คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
วันที่ 23  มกราคม พ.ศ. 2548  ปีที่ 14  ฉบับที่ 5169
(๓) ขอกราบขอบพระคุณที่มาของรูปภาพทุกแหล่ง
โดยเฉพาะจาก ห้องพระ http://www.chiangmai1900.com
                                                                                       

.............................................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=19512

13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-29 10:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


อิทธิบารมีเหรียญพระสมเด็จหลวงปู่คำพันธ์

จากนิตยสารโลกลี้ลับ ปีที่ 20 ฉบับที่  223  
ประจำเดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2546


ในบรรดาพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั่วทั้งพุทธจักร ย่อมรู้จักนามของ “หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ” หรือ “พระสุนทรธรรมากร” นักบุญผู้มีเมตตาธรรมสูง แห่งวัดธาตุมหาชัย บ้านมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่มีศีลาจารวัตรอันงดงาม พรหมวิหารธรรมของท่านประกอบด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั่วไป  

โดยเฉพาะอิทธิมงคลของหลวงปู่คำพันธ์ ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ปาฏิหาริย์สูงล้ำหลายด้าน จึงได้รับความนิยมจากวงการพระเครื่องอย่างรวดเร็ว ด้วยท่านเป็นผู้อุทิศชีวิตให้กับการปฏิบัติธรรมจนบรรลุผลทางใจกลายเป็นพระอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาอันสูงสุด ทั้งยังเป็นแสงสว่างแห่งปัญญาวิสุทธิ์ของชาวพุทธ ท่านมิใช่เกจิอาจารย์ธรรมดา แต่หลวงปู่นี้คือยอดเกจิอาจารย์ผู้รุ่งเรืองด้วยพุทธิปัญญาโดยแท้  

ด้วยคำสอนอันเรียบง่ายของท่าน แต่ลึกซึ้งด้วยแก่นแท้แห่งธรรมที่นักปราชญ์ทั้งทางโลกและทางธรรมยอมรับว่าท่านมี ดวงตาที่สาม สามารถรู้แจ้งในพระธรรมของพระพุทธเจ้า เป็น ผู้รู้  ผู้ตื่น ผู้เบิกบานในธรรม สมกับที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น พหูสูตทางศาสนา ผู้หนึ่ง

ในช่วงกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2535 ทางวัดธาตุมหาชัยกำลังพัฒนา หลวงปู่คำพันธ์จึงได้สร้างอิทธิมงคล ชุด “มหาชัยมงคล” ขึ้น เพื่อนำปัจจัยมาสมทบทุนมูลนิธิสังฆศาสน์ และเป็นทุนพัฒนาวัดธาตุมหาชัย ซึ่งผมเองก็ได้เดินทางไปขอเช่าวัตถุมงคลด้วย เป็นพระสมเด็จปรกโพธิ์หล่อ และล็อกเกตอุดผงตะกรุดทองคำ  เพื่อไว้บูชาและความเป็นสิริมงคล  โดยที่ได้นำเอาพระสมเด็จปรกโพธิ์หล่อจัดใส่กรอบแขวนห้อยคอตัวเอง ส่วนล็อกเกตอุดผงได้ให้ภรรยาแขวนคอไว้บูชา ซึ่งหลวงปู่คำพันธ์ได้ทำพิธีอธิษฐานจิต ปลุกเสกมหามนตราศักดิ์สิทธิ์วัตถุมงคลนี้เป็นกรณีพิเศษ

หลังจากที่ได้พระสมเด็จปรกโพธิ์ของหลวงปู่คำพันธ์ มาบูชา โดยคล้องคออยู่ตลอดเวลา จนมาช่วงหลายเดือนมกราคม ปี 2540  ผมได้เดินทางไปเข้าร่วมอบรมสัมมนาทางวิชาการฯ ของโรงเรียนในกลุ่มเขตการศึกษา 10  ที่จังหวัดอุบลราชธานี หลังเสร็จสิ้นภารกิจการอบรมฯ  ที่จัดขึ้น 3 วันแล้ว  วันสุดท้ายจึงได้ไปเที่ยวฟังเพลงในคาเฟ่แห่งหนึ่งในตัวจังหวัดเพียงคนเดียว  จนกระทั่งเกิดเหตุทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นที่เมาสุรา และเหมือนคราวเคราะห์  เนื่องจากเหตุการณ์ณ์บานปลาย  

ขณะนั้นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นได้ชักปืนขนาด .38 ออกมายิงใส่ตัวผมจำนวน 5 นัดซ้อน ในระยะเผาขน  จนเป็นเหตุให้ผมล้มฟุบลงด้วยความเจ็บ ก่อนที่วัยรุ่นกลุ่มนั้นจะแตกกระเจิงหลบหนีไปคนละทิศละทาง  และจากความแรงของวิถีกระสุนทำให้ผมมีอาการเจ็บปวดระคนจุกเสียดบริเวณหน้าอกและกลางหลังเหมือนกับจะหมดสติ และนอนนิ่งกองกับพื้นหมดสติไปในที่สุด  ณ ที่ตรงนั้น  ชั่วอึดใจได้มีผู้คนเห็นเหตุการณ์แห่มามุงดู  พอผมตั้งสติได้จึงขยับตัวพยายามลุกขึ้นยืนท่ามกลางความงุนงงของผู้คนเหล่านั้น
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-29 10:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เวลานั้นผมบอกอะไรไม่ถูก เหมือนคนตายแล้วเกิดใหม่และแทบไม่น่าเชื่อว่าผมจะยังมีชีวิตอยู่ ผมรอดตายมาได้ยังไง ? ด้วยมีรอยกระสุนที่ถูกยิงบริเวณหน้าอก ชายโครง และท้องน้อย 5 จุด ซึ่งมีลักษณะเป็นรอยไหม้และแผลเป็นลึกบุ๋มลงไปเล็กน้อยเท่านั้น คงเป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระสมเด็จปรกโพธิ์หล่อ ของหลวงปู่คำพันธ์ แน่เลยที่ช่วยให้ผมรอดพ้นจากความตายมาได้อย่างน่าอัศจรรย์เพียงนี้

ด้วยความศักดิ์สิทธิ์นี่เอง ผมจึงได้ห้อย ‘พระสมเด็จปรกโพธิ์หล่อ’ ของหลวงปู่คำพันธ์ ติดตัวเป็นประจำด้วยความเคารพเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้า  และมีความมั่นใจกับพระเครื่อง ของหลวงปู่คำพันธ์ที่ท่านได้สร้างขึ้นว่า เป็นพระแท้ที่เปี่ยมด้วยพลังเมตตา แคล้วคลาดสูงสุด ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระปรมาจารย์ หรือพระเกจิอาจารย์องค์สำคัญใดๆ ในแผ่นดินธรรมนี้เลย


หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ  



.............................................................

คัดลอกมาจาก ::
http://www.lekpluto.com/suksit/suksit_04.htm
พิมพ์เนื้อเรื่องส่งมาให้โดย คุณ Lilly                                                                                       

............................................................

ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=19512

15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-29 10:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ กับ หลวงปู่บุดดา ถาวโร


16#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-29 10:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-29 10:06 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

สาธุครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้