|
เสียงเคาะประตูดังลั่นเข้ามาในความรู้สึก สมาชิกร่วมห้องดีดตัวขึ้นจากเตียงแทบจะพร้อม ๆ กัน
เปิดประตูออกมาเป็นพี่วุ่นนี่เองมาเคาะปลุก เพราะถึงเวลานัดแล้วแต่ห้องนี้ยังม่ายตื่น:L ชีวิตวุ่น
วายมากครับกับการอาบน้ำทำเวลาอย่างรวดเร็ว แล้วลงมานั่งรอรถตู้ที่นัดเอาไว้ยามเช้าตรงล๊อบบี้
ของโรงแรมกันหน้าสลอน โรงแรมเห็นเราจะออกเดินทางแต่เช้าไม่รับอาหารเช้าฟรีก็ยังใจดีจัด
กล่องอาหารว่างแบบเบา ๆ ให้พวกเราไปกินกันบนรถซะอีกแน่ะ
...
เนื่องจากวันนี้เราต้องเข้าไปเยี่ยมชมหลายปราสาทมาก...มากจริง ๆ ;P ผิดพลาดประการใดขอ
อำไพทุก ๆ ท่านมา ณ โอกาสนี้ครับ การทัวร์ปราสาทในแต่ละวันจะต้องมีการซื้อตั๋วเข้าชมครับ
ในราคา 20 ดอลล่าร์ ขาดตัวต่อมะได้ แถมต้องไปรายงานตัวตอนซื้อตั๋วซะด้วยเพราะเค้าต้อง
ถ่ายรูปของเราลงบัตรแล้วปรินท์ออกมาให้พกติดตัวไว้แสดงเวลาพนักงานตรวจครับ หรือบางทัวร์
เค้าก็มีแจกแท็กไว้ให้ลูกทัวร์ห้อยคอเอาไว้เลย คิดเป็นเงินไทยกลม ๆ ณ เวลานั้นก็ 600 บาท
ครับ เข้าชมได้ทุกปราสาทที่ท่านอยากจะไปในหนึ่งวัน แนะนำกันอีกซักนิดกรุณาเช็คเวลาเปิด
ปิดให้เข้าชมปราสาทต่าง ๆ ให้ดีก่อนวางแผนนะครับ บางที่รู้สึกว่าจะปิดเร็ว บางที่ก็ปิดช้าครับ
พลาดแล้วจะทำให้เสียเวลาในการเดินทาง...ต่อ...ต่อ...ถ่ายรูปเสร็จปุ๊ปได้ตั๋วปั๊ป เค้าจะมีโบชัวร์
วางเอาไว้ข้าง ๆ ช่องจ่ายเงินนั่นหละครับ มือไวใจเร็วหยิบได้เรยย์ฟรีแน่นอน เป็นแผนที่พร้อม
ภาพประกอบสวยให้เราดูประกอบการตัดสินใจพอสังเขปครับ(ปล. 3 วันเค้าคิด 40 ดอลล์) เปิด
จำหน่ายตั๋วตั้งกะตีสีครึ่งหรือยังไงนี่ละครับ ว่ากันตั้งแต่เช้ามืดไปเรยย์ เค้าเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ตี
สามหรือตีสี่นี่แหละครับจำไม่ได้แหล่ว:L เรียกว่าจุดเทียนส่องกันได้ตามที่ท่านต้องการเลย(อัน
นี้เข้าทางทัวร์คณะนี้พอดี;P)
...
จริง ๆ แล้วนักท่องเที่ยวส่วนมากจะรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ตัวปราสาทบริเวณสระน้ำนั่นเองครับเป็น
ไฮไลท์สำหรับจุดนี้โดยเฉพาะ ส่วนคณะคศช. ไม่มีเวลาดูพระอาทิตย์ขึ้นหรอกครับ รีบจ้ำอ้าวไป
ยังตัวปราสาทหลังเล็กที่องค์อัฎฐะกรเทวราชประทับอยู่ตามนิมิตรของท่านอาจารย์ที่เห็นว่ามีคนมา
โยนผ้าสีขาวให้ คณะของคศช.ทำการสักการะท่านอีกครั้ง ด้วยความปลาบปลื้มครับ ใครจะไปนึก
ว่าจะได้พบท่านทั้งเช้าและเย็น:loveliness: ถึงตอนนี้ก็เปิดการเจรจากับผู้ดูแลบริเวณนั้นครับและ
ผ้าคล้องพระกรขององค์ท่านก็ได้ถูกอัญเชิญมาโดยท่านอาจารย์สรายุทธของเราให้ลูกศิษย์ที่ไม่ได้
ไปในครั้งนี้ได้สักการะบูชาถึงสำนักกรุงเทพเลย...แน่นอนครับจุดนี้เราได้มวลสารแบบเยอะมาก ๆ
ขออะไรได้อย่างนั้นเลยเชียว:victory: ....เติมเต็มด้านกำลังใจกันเต็มที่แล้วได้เวลาตะลุยปราสาท
นครวัดกันแล้วค๊าบบ..:loveliness:
มาถึงปราสาทนครวัดแล้ว ผมต้องสารภาพด้วยความจริงใจเลยครับว่า...ถ้าให้เวลาผมชื่นชม
ตัวปราสาทเอาแบบเต็มอิ่ม เกรงว่าจะเสียเวลาไปอย่างน้อย ๆ ก็ 1 วันเต็ม ๆ หละครับ ด้วย
ความกว้างใหญ่ และมีมุมเล็กมุมน้อยให้เราลัดเลาะเยี่ยมชมดูความงามในด้านโน้นด้านนี้ โห...
เหนือจนเกินกว่าจะบรรยายได้จริง ๆ เป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพโดยแท้จริงครับ...เพียงแค่
คุณเดินตกปุ๊!!! ลงมาที่ราวระเบียงที่แกะสลักเรื่องราวต่าง ๆ เอาไว้มากมาย จะเดินชื่นชม
ให้รอบน่าจะใช้ซักครึ่งวันเนอะ??;P
...
ไหนจะมีนางฟ้าคอยแอบมองเราอยู่ตรงมุมนู้น...มุมนี้ หน้าตาก็คนละพ่อคนละแม่ไม่เหมือน
กันนี่นา(เลือกไม่ถูกว่างั้นเหอะ...ใช่ป่าวฮะเสี่ยเมธ:P) ต้องคอยเตือนตัวเองอยู่ในใจให้มอง
ดูชาวคณะไว้...ไม่ใช่มัวตะชื่นชมนู่นนี่นั่นหันมาอีกที...หายกันหมด ครานี้ต้อง:'( หละครับจะ
ไปตามหากันยังไงหละมีตั้งหลายชั้น นับเป็นสุดยอดผลงานชั้นครูที่เกิดจากแรงศรัทธา,หยาด
เหงื่อแรงงาน,ทรัพย์มากมายมหาศาลครับ ควรค่าแห่งการเยี่ยมชมเพื่อเป็นเสี้ยวหนึ่งของ
ความทรงจำในชีวิตจริง ๆ
...
เดินตามอาจารย์สรายุทธ,พี่จ๊อ,เจ๊น้ำ,พี่นก,พี่เพชร,พี่วุ่นไปต้อย ๆ ไม่ทราบว่าทะลุกำแพงไปกี่ชั้น
วนอยู่ราวระเบียงกี่รอบ ดูโน่นดูนี่กันไม่รู้เบื่อ...อันไหนเกินความเข้าใจก็เก็บความสงสัยเอาไว้:L
จนทะลุเข้ามาถึงองค์พระปรางค์ประธานปราสาท ต้องนั่งรอเวลาเปิดครับ ประมาณ 7 โมงครึ่งรึ
แปดโมงนี่หละจำบ่ได้อีกแหล่ว ถึงตอนนี้เป็นเวลาชื่นชมสาวงามหละครับ ชาติไหนก็เลือกชม
ได้ตามสบายใจเลย;P...เปิดปุ๊ปรีบวิ่งไปต่อคิว...หารู้ไม่ว่าความน่ากลัวกะลังจะบังเกิด:L
...
องค์ปรางค์ประธานเปิดให้ชมทุกวันยกเว้นวันพระครับ นับวันให้ดี ๆ ก่อนไปเที่ยว นักท่องเที่ยว
กรุณาแต่งกายสุภาพครับ เนื่องจากบันไดทางขึ้นนั้นสูงชัน(ชันจริง ๆ เลยครับ) ถ้าใส่กระโปรงสั้น
ไปจะเป็นที่หวาดเสียว....แก่ผู้เดินตามมั่ก ๆ แว่ว ๆ ว่าเป็นที่เก็บพระศพพระเจ้าชัยวรมันที่2 ทำ
ให้ต้องสุภาพเข้าไว้นะครับ มาเดินขึ้นบันไดกันต่อดีก่า จับราวสะพานค่อย ๆ ก้าวขึ้น โฮ้ย!!! ที่
เค้าเรียกว่าปีนบันไดสวรรค์คงประมาณนี้หละ ถ้าใครพลาดตกลงไปซักคน คงจะเจ็บกันหลายคน
นิ แต่ขึ้นไปแล้วก็เหมือนที่เค้าว่าหละครับ สวยงาม สงบ และเย็นฉ่ำไปทุกความรู้สึกจริง ๆ เป็น
วิวแบบพาโนรามาเลยครับ ถ่ายรูปกันแบบไม่ต้องยั้ง ผมเองเพิ่งจะรู้ว่าแอ่งที่ลงไปยืนเล่นอยู่เป็น
สระน้ำซึ่งเค้าจะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างบนด้วยขุดลึกลงไป 27 เมตร...แต่ปิด...ห้ามเข้าครับ...แป่ว!
...
ถึงตอนนี้ตาปรือใกล้จะหลับแล้วครับ มีหมอนคงจะนอนสบาย:sleepy: แต่เวลาไม่รอท่าพวกเรา
ต้องทำเวลา เพราะต้องเดินทางไปอีกหลายปราสาท สมควรแก่เวลาแล้วก็เดินลงสิคับ...บันไดเดิม
ขึ้นทางซ้าย-ลงทางขวา ขาลงนี่ขามันไม่ค่อยจะเชื่อฟังคำสั่งผมเลยคอยจะสั่นพั่บ ๆ ให้อายเค้าอยู่
ซะเรื่อยเชียวนิ ตกลงไปก็รับเละคนเดียวละครับ เพราะคนทยอยกันลงเลยมีคนน้อยมากไม่เหมือน
ตอนขึ้น เดินออกมานอกตัวปราสาทเค้ามีบอลลูนให้นักท่องเที่ยวพาตัวเองขึ้นชมวิวบนท้องฟ้าดูแร้ว
หวาดเสียวเอาการอยู่...ใจนึกสงสัยว่ามันสมควรหรือเปล่าน้อ...ให้ใครต่อใครลอยข้ามสถานที่ศักดิ์
สิทธิ์ไปข้ามมา...เป็นเมืองไทยละก้อ:@
...
เดินข้ามฟากมาดื่มน้ำมะพร้าวใหญ่ ๆ ซะจนพุงกางจากลูกสด ทีแรกนึกว่าเป็นมะพร้าวน้ำหอมจิคับ
กว่าจะเฉลียวใจก็พุงกางไปแระ...ดูดไม่หมดหลอดซะทีวุ้ย...มองดี ๆ ไม่ใช่น้ำหอมนี่นา กินกันจน
อิ่มไปเรยย์ แล้วเดินเยี่ยมชมซื้อของที่ระลึกกันเพลินเลยคับ...ก่อนจะขึ้นรถตู้สู่จุดหมายปลายทาง
ต่อปาย:lol
...
ปัจฉิมลิขิต....มีหนังสือราคาน่าซื้อหามาก ภาพสวยงามประทับใจยามเย็นเด็ก ๆ พากันเสนอขาย
เพียง 1 ดอลล์ เท่านั้นตื่นเช้ามาอีกวันคุณอาจจะเจอตัวเลข 20,15,10 ดอลล์กันได้อย่างน่าประ
หลาดใจ...แหมน่าปกเหมือนกันเปี๊ยบเลยนะตะเอง:'(
|
|