ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ปรัชญา ว่าด้วย ระยะห่าง

[คัดลอกลิงก์]
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-6-22 08:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ความสัมพันธ์เนิ่นนาน รักษาไว้

จะคบใคร ให้ยั่งยืน ไม่ฝืนจิต


ระยะห่าง ควบคุมไว้ ไม่ใกล้ชิด


เคารพใน วิถีชีวิตกันและกัน

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-6-22 07:59 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มิตรภาพเป็นสิ่งที่เปราะบาง และจำเป็นต้องได้รับการทะนุถนอมประดุจทรัพย์สินล้ำค่าที่เปราะบาง”
(Friendships are fragile things and require as much handling as any other fragile and precious thing.)
แรนดอล์พ เอส บอร์น (Randolph S. Bourne) นักวิจารณ์สังคมชาวอเมริกัน (1886-1918) ได้ให้ข้อคิดสะกิดใจไว้ในข้างต้น  

ซึ่งผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง!

อาจมีคนมากมายที่เราได้พบพานในชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เราพบ เราอยากจะคบหา  

และในท่ามกลางคนที่เราอยากคบหาก็มีไม่กี่คนที่เราอยากจะคบเป็นเพื่อน

และในหมู่เพื่อนเหล่านั้น จะมีเพียงบางคนเท่านั้นที่เราขอพัฒนาความ

สัมพันธ์เป็นมิตรสนิท!


แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ …


เรามักจะเกรงใจให้เกียรติคนไม่รู้จักกันมากกว่าให้เกียรติเพื่อนหรือมิตรสนิท!


คนเรายิ่งสนิทกันมากเท่าไร ก็ยิ่งไม่เกรงใจให้เกียรติกันมากขึ้นเท่านั้น!


อากัปกิริยา ท่าทาง หรือคำพูดที่มีต่อกันก็เลยมักจะไม่ค่อยถนอมน้ำใจกัน!


ผลที่ตามมาก็คือ  “มิตรภาพ” ที่มีต่อกันแตกดัง “โพล๊ะ!”


ช่างน่าเสียดายที่คนเรามักประมาทและมองข้ามความ


“เปราะบาง” ของ “มิตรภาพ” ไป !



แท้จริงแล้วกว่าที่คนเราจะสร้างและพัฒนามิตรภาพระหว่างกันขึ้นมาได้นั้นต้องใช้เวลาอย่างยาวนาน

และต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลด้วยเหตุนี้เราจึงควรใช้ความอดทนอดกลั้น

และความตั้งใจอย่างสูงในการ “รักษา” ความสัมพันธ์ดังกล่าวให้ “คง” อยู่อย่างยืนยาว!

หากใครชะล่าใจปล่อยปละละเลยความจริงในข้อนี้ คน ๆ นั้นอาจทำให้ความสัมพันธ์ฉันมิตร

ที่ตัวเขาและเพื่อนสู้อุตส่าห์ฟูมฟักกันมาผ่านวันคืนชีวิตอันยาวนานนับสิบปีต้องพังพินาศลงไปอย่างน่าเสียดาย!

ดังนั้น วันนี้

ยังไม่สายเกินไปที่เราจะทบทวนถึงสิ่งที่เราพูด เราแสดงออกหรือเรากระทำต่อมิตรของเรา!

ยังไม่สายเกินไปที่เราจะประเมินค่าว่าสิ่งที่เราทำเหล่านั้น ส่งผลกระทบต่อ “มิตรภาพ” ที่มีต่อกันอย่างไรบ้าง?


http://www.churchofjoy.net/4441


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-6-21 06:59 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
"ระยะห่างของความสัมพันธ์คือความต้องการหรือสิ่งจำเป็น"


การเว้นระยะห่างของความสัมพันธ์มันมีทั้งดีและไม่ดีแต่ต้องเป็นความจำเป็นที่ช่วยทำให้อะไรอะไรมันดีขึ้น


ไม่ว่าผลสุดท้ายจะกลับมารักกันใหม่หรือจะจบลงก็ตาม

เคยสังเกตไหม...???

เวลาคน 2 คนคบกันนานนานไปมักจะเรียกร้องหาระยะห่างของความสัมพันธ์จนลืมถามใจตัวเองว่านี่คือความต้องการหรือมันเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีกันแน่

น่าคิดทำไมหากระยะห่างของความสัมพันธ์คือความต้องการความต้องการก็เหมือนอะไรบางอย่างที่เราอยากได้เพราะวันนี้อยากต่อไปก็ต้องมีไม่อยาก

แต่หากระยะห่างของความสัมพันธ์คือ สิ่งจำเป็นเป็นสิ่งจำเป็นเหมือนข้าวที่เราจำเป็นต้องกินทุกวัน

เพื่อให้ร่างกายดำรงอยู่ความรักกับความจำเป็นต้องเว้นระยะห่างจึงดูต่างจากความต้องการต่างตรงที่สิ่งจำเป็นถ้าเราไม่มีเราก็อยู่ไม่ได้

แต่ความต้องการถ้าได้ก็ดีถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหาเอาใหม่ หรือรอคอยเวลาสักหน่อยอาจจะได้ก็ได้อะไรประมาณนั้น

เพราะฉะนั้น...เราจึงควรมองให้ถ่องแท้ทั้งแง่มุมและต้องถามใจตัวเองอย่างจริงจังว่าเราต้องการจะอยู่ในมุมไหนกันแน่

ระหว่างต้องการระยะห่างของความสัมพันธ์กับจำเป็นต้องมีระยะห่างเพื่อให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้น

ถ้าต้องการแสดงว่าวันนี้เราห่างกันเถอะแต่ถ้าพรุ่งนี้เรายังกลับมาอยู่ ใกล้ชิดกันใหม่ได้แต่มันคล้ายๆอารมณ์รักรักห่างห่างหรือเปล่า

อย่างนี้จะดีต่อความรักของเราบ้างไหมแต่ถ้าจำเป็นแสดงว่าความรักกำลังขาดอากาศหายใจจำเป็นต้องห่างกันไปจริงๆ

เพื่อถนอมความรักไว้ไม่ให้เลวร้ายมากไปกว่านี้ซึ่งการห่างห่างกันไปสุดท้ายมันจะมีคำตอบที่ตายตัวของมันนั่นคือ..


ห่างเพื่อกลับมาเริ่มต้นกันใหม่กับห่างเพื่อเลิกรากันไปในท้ายที่สุด


แต่มันจะเป็นการจบความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ด้วยดีเพราะคน 2 คนได้ทบทวนใจตัวเองมาอย่างดีที่สุดแล้ว

หากวันนี้มีอะไรบางอย่างเคลือบแคงอยู่ภายในใจแล้วทำให้ใจขุ่นมัว คุยกันไปก็ไม่รู้เรื่อง พยายามปรับแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นความรัก

สามารถไปต่อได้ตาวิถีทางของมันกันอยู่ห่างห่างกันอาจเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องรีบทำแต่หากเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบที่หลุดปากออกไป

เพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บปวดคำว่า ห่างห่างกันไปเถอะอาจยิ่งบอลทำลายความรักให้กล่อมและแหลกสลายลงไปเร็วขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น

เพราะฉะนั้น..

การเว้นระยะห่างของความสัมพันธ์มันมีทั้งดีและไม่ดีแต่ต้องเป็นความจำเป็นที่จะช่วยทำให้อะไรอะไรมันดีขึ้น


ไม่ว่าผลสุดท้ายจะกลับมารักกันใหม่หรือจบลงก็ตามหากระยะห่างจำเป็นต้องเกิดขึ้นจริงเราต้องรู้ว่ามันจำเป็นไปเพื่ออะไร


และต้องถามและตอบใจตัวเองให้ดีอย่างจริงใจที่สุด

หากจำเป็นต้องมี ระยะห่าง ..


เพื่อปรับความสัมพันธ์นั่นหมายความว่าคุณ2คนพร้อมใจกันทำความรักให้มันดียิ่งขึ้นกติกาการปรับความสัมพันธ์


คือควรใช้ชีวิตโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกันให้โอกาสกันและกันได้ลองไปใช้ชีวิตในโลกของตัวเอง


ไปทำความสะอาดหัวใจให้ใสสะอาดขึ้นไม่รก ไม่วุ่นวาย


ไม่ทำให้ปวดหัวเหมือนเดิมอีกแม้จะเหงาไปบ้าง


แต่ต้องยอมรับและอยู่ให้ได้กับความเหงานั้นหากจำเป็นต้องมีระยะห่าง


เพื่อท้ายที่สุดจะได้ตัดความสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น


และไม่ทำร้ายจิตใจกันและกันให้หนักหนาสาหัสและย่ำแย่ลงไปมากกว่าเดิม

การหางในครั้งนี้ ต้องเป็นการห่างเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองเปิดใจให้ใครคนใหม่ อาจจะมีคนใหม่เข้ามา

หรือไม่มีก็ได้แต่ยังไงก็ต้องเป็นการห่างที่ต่างก็พร้อมจะเปิดใจให้คนที่สามารถช่วยทำให้เรามีความสุขกับความรักได้มากกว่าที่เป็นอยู่

มันจะได้พิสูจน์ใจกันไปเลยว่าคนสองคนไม่ได้รักกันจริงๆ และพร้อมจะตัดความสัมพันธ์ให้ขาดไปด้วยความเข้าใจและยอมรับแต่

ถ้าห่างกันไปเปิดใจก็แล้วลองคบคนใหม่ก็แล้วแต่หัวใจยังยืนยันว่ายังอยากกลับไปเริ่มต้นใหม่กับคนรักคนเดิมการกลับมาเพื่อให้โอกาสกันและกัน


ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเพราะท้ายที่สุดแล้วคนสองคนจะค้นพบอะไรบางอย่าง


ที่ช่วยให้การเริ่มต้นใหม่มันใสและเบามากขึ้นกว่าเดิม




https://storylog.co/story/566d89f6fad98195322ad2cd

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้