|
๏ การศึกษาพระปริยัติธรรม
เมื่อทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว พระอาจารย์อุ่ยพาท่านกลับวัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร เพื่อศึกษาอบรมพระธรรมวินัย และฝึกหัดข้อวัตรปฏิบัติในสำนักของพระอาจารย์เสาร์ต่อไป ในวัดป่าสุทธาวาสนี้มีพระมหาปาน เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมอยู่ก่อนแล้ว ท่านจึงตั้งใจเรียนพระปริยัติธรรมต่อ ปรากฏว่าท่านสอบความรู้นักธรรมในสนามหลวงวัดพระธาตุเชิงชุมได้ทุกปี คือ พ.ศ. ๒๔๘๑ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี, พ.ศ. ๒๔๘๒ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท และ พ.ศ. ๒๔๘๓ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก ตามลำดับ
เมื่อเรียนจบนักธรรมชั้นเถรภูมิแล้ว ในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ท่านตั้งใจจะเรียนบาลีไวยกรณ์ต่ออีก โดยมี พระอาจารย์มหาเส็ง ปุสโส (อดีตพระอริยคุณาธาร) เป็นครูสอน ระหว่างกลางพรรษาในปีนั้น ท่านเริ่มอาพาธเป็นไข้หนัก ทำให้การเรียนไม่สะดวก ผลแห่งการเรียนบาลีไวยกรณ์ของท่านเลยไปไม่ตลอด ออกพรรษาแล้วอาการอาพาธก็ยังไม่หายเป็นปกติดี ท่านจึงกลับมารักษาตัวอยู่ที่วัดคามวาสี บ้านหนองดินดำ ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร อันเป็นมาตุภูมิของท่าน เมื่อรักษาตัวให้หายเป็นปกติแล้ว ท่านก็กลับไปอยู่วัดป่าสุทธาวาสตามเดิม
๏ สร้างวัดคามวาสี
พ.ศ. ๒๔๘๘ ทางบ้านคำตานาซึ่งเป็นบ้านญาติพี่น้องของท่าน วัดได้ว่างจากพระภิกษุสามเณรที่อยู่จำพรรษาลง พวกทายกทายิกา ผู้เฒ่าผู้แก่ และศรัทธาญาติโยมในหมู่บ้านคำตานา ซึ่งมีผู้ใหญ่สุวรรณเป็นประธาน ปรารภอยากจะให้มีวัดธรรมยุตประจำหมู่บ้านขึ้น จึงได้ประชุมปรึกษาหารือกัน แล้วตกลงกันไปนิมนต์ท่านจากวัดป่าสุทธาวาส ขอให้ท่านไปอยู่จำพรรษาโปรด และเป็นประธานสร้างวัดต่อไป ท่านตอบเห็นดีและรับนิมนต์ด้วย ในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ นั้นท่านได้พักอยู่จำพรรษาที่วัดบ้าน ซึ่งเดิมเป็นวัดฝ่ายมหานิกาย
เมื่อออกพรรษาปวารณาแล้ว ในหน้าแล้งของปี พ.ศ. ๒๔๘๙ นั้น ท่านเองพร้อมทั้งผู้เฒ่าผู้แก่ ศรัทธาญาติโยม และผู้ใหญ่บ้านทั้งสามหมู่บ้าน คือ บ้านคำตานา, บ้านหนองหอยคัน และบ้านหนองไผ่ยาว ได้พากันออกแสวงทำเลที่เหมาะสม เพื่อจะสร้างวัดในเครือธรรมยุตให้เป็นวัดป่าขึ้นต่อไป เมื่อเห็นทำเลที่เหมาะสมแล้ว ท่านจึงออกไปอยู่รุกขมูลก่อน ต่อมาพวกทายกทายิกาทั้งสามหมู่บ้านนั้นจึงได้ทำเสนาสนะให้อยู่จำพรรษาเรื่อยมา จึงได้เกิดเป็นวัดที่ถาวร คือ วัดคามวาสี ขึ้นจนกระทั่งถึงในปัจจุบันนี้
ครั้นถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ทางวัดคามวาสีซึ่งเป็นวัดดั้งเดิม และเป็นวัดสำคัญในถิ่นนั้นขาดพระเถระผู้เป็นหัวหน้าบริหารหมู่คณะลง พวกทายกทายิกาชาวบ้านตาลโกน, บ้านหนองดินดำ และบ้านหนองแสง จึงได้ไปนิมนต์ท่านจากวัดพุฒาราม ให้กลับมาอยู่วัดคามวาสี ท่านก็ตกลงรับนิมนต์ ส่วนทางวัดพุฒาราม บ้านคำตานานั้น ท่านก็ได้ให้สัทธิวิหาริกของท่านอยู่รักษาต่อไป นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นต้นมา ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดคามวาสีและวัดศรีสว่างแดนดิน จนถึงกาลอวสานแห่งชีวิตของท่าน
|
|