เรื่องจากคุณ 704534 ผีที่ดอนเมืองมีมานานแล้วครับ ช่วงปี 2527 ไปซ่อมเครื่องทำความเย็น ที่อาคาร ผสด.ขาออก จำไม่ได้ว่าเป็นอาคารอะไร เพราะเปลี่ยนไปเยอะมาก เมื่อก่อนยังไม่มีอาคารจอดรถ แบบนี้ด้วยกำลังรอเซ็ตระบบน้ำเย็นอยู่ เวลาช่วงตี 3 กว่า มีคนวิ่งมาทางที่พวกผมนั่งหลับนกกันอยู่ วิ่งมาแล้วถามพวกผมว่า เห็นใครวิ่งมาตรงนี้ใหม พวกผมนั่งบ้างนอนบ้าง ถ้ามีใครวิ่งมา ก็เหยียบหัว เหยียบแข้งเหยียบขาที่ก่ายกันระเกะระกะ พวกผมพากันงงว่า ถามแบบนี้ มีอะไรไม่ดีแน่ๆ พวกที่วิ่งมาแต่งกายช่างการบินไทยทุกคน เราถามสองสามครั้งพวกเขาไม่ตอบ ค่อยๆ เดินหายไปทีละคนเหมือนไม่มีเท้าเดิน ลอยไปเรื่อยๆ ผมไม่สังเกตุอะไรนัก ตาจ้องที่หน้าปัดเกจวัดแรงดันไนโตรเจ่น แต่ในหัวคิด อ้าว…แล้วที่วิ่งกันมาไม่มีเสียงวิ่งเลยนี่ เป็นใคร มาทำใมในห้องเครื่อง เท้าไวเท่าความคิด ผมออกวิ่งตามไปทางที่พวกเขาหายเข้าไป เป็นทางเลี้ยว วิ่งชนประตูโครมเป็นแผ่นใม้อัด ตีปิดทับประตูที่ชายล่างผุๆ จมูกผมบวมเป่ง งงมากขึ้น นี่มันอะไรกันว่ะ ผี ผี แน่ๆผมไม่เคยกลัวผี เคยท้าเตะท้าต่อยกับผีกลางสุสานวัดดอนมาแล้ว (เมาจัด ห้าวเป้ง) แค่ขนลุกแต่ก็ต้องอยู่ทำจนเสร็จ จนฟ้าสางพวกผม 5 คนตาโหลเหล แปลกพิกล ไม่มีแรงยืนเลย เหมือน ไปต่อสู้กับอะไรมาทั้งกองพัน เสื้อผ้าชุดช็อปมอมแมมเลอะเปรอะเปื้อนทุกคน ผมถึงกับเสื้อขาดเป็นไปไม่ได้ พวกเราไม่ได้ไปมุด ไปปีนป่ายอะไรที่ใหนเลย เจ็ดโมงเช้าหัวหน้าช่างการบินไทยเดินมาหา ถามว่าเมื่อคืนใครต่อยกันตรงนี้ มีคนเห็นพวกคุณต่อยกับคนสามสี่คน มีเรื่องอะไรกันบ้าที่สุด ผมในฐานะหัวหน้าขาสั่นหน้าซีด ลูกน้องคนลพบุรีร่วงหล่น นอนตาปลิ้นน้ำลายฟูมปาก หัวหน้าฯแกต้อง ว.เรียกพวกช่างฯ ให้มาพาพวกผมออกไปจากตรงนั้น ที่สุดแล้วเป็นพวกผมได้ตีกับผีช่างการบินไทยที่แทงกันตายตรงนี้ เพราะเหตุทะเลาะเรื่องผู้หญิงที่เป็นแอร์โฮสเตส กลัวสุดขีด แต่ไม่ถอย ที่แปลกใจ หัวหน้าช่างฯแกบอกว่า เป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้ว ผีคงยังไม่ไปไหน ที่พวกผมทำท่าทางเตะต่อยนั่นนี่นั่นแหละ พวกเรากำลังเคลิ้มไม่รู้ตัว เป็นครั้งแรกที่ผมเจอผีจังๆ ยังมีอีกหลายครั้ง ที่พวกเราเจอผีในห้องเครื่อง ที่โรงงานปลากระป๋องสมุทรสาครปี 2528 ก็เจอเอาน้ำอัดลมมาให้กินทั้งคืน มาทีไรยิ้มหวานมาก่อนเลย มารู้ตอนเช้าว่าเป็นอดีตแม่บ้านออฟฟิตชอบดูแลช่างผู้ชายหล่อๆ เคยมีคนจูงมือเข้าไปในซอกเพื่อ… ช่างที่ทำแบบนั้นป่วยงอมตาโหล อ้อ โรงงานปลากระป๋องเสี่ยคนดัง ที่ไปยิงตัวตายที่อเมริกานั่นแหละ แกลงทุนมากก็เครียดมาก เรื่องจากคุณat_thajak วันนั้นน่าจะเป็นช่วงหน้าหนาว เพราะตอน๖โมงเช้าที่ดอนเมืองท้องฟ้ายังมืดอยู่เราถูก assign ให้ไปบอร์ดผู้โดยสารที่เกท 12 กับพี่ซีเนียร์อีกคน เกทนั้นเป็นเกทที่อยู่ปลายสุดของ Pier 1 วันนั้น ได้ทำไฟล์ทไปบาหลี บอร์ดผู้โดยสารขึ้นเครื่องเสร็จ น่าจะราวๆตี5:50กว่าๆละ บอร์ดเสร็จ เก็บอุปกรณ์เสร็จ เหมือนจะท้องเสีย เลยบอกพี่ที่ไปบอร์ดไฟล์ทด้วยกันให้ไปรอที่ Pier 2 เลยเดี่ยวเราขอแวะไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ข้างๆเกทก่อน อึเสร็จ กำลังยืนล้างมืออยู่ตรงอ่างล้างหน้า ได้ยินเสียงคนกดชักโครกและเสียงคนม้วนกระดาษทิชชู่ในห้องน้ำเราก็มั่นใจนะ ว่าตอนนั้นอยู่ในห้องน้ำคนเดียว ก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก เดินไปเปิดประตูห้องน้ำทุกบาน ก็ไม่เจอใครเดินออกมาข้างนอก อดสงสัยไม่ได้ เลยเดินเข้าไปส่องในห้องน้ำหญิงด้วย เปิดประตูดูด้วยนะ แต่ก็ไม่เจอใคร ตอนนั้นไม่น่าจะมีผู้โดยสารเเล้ว แม่บ้านก็ไม่มี พอเริ่มคิดได้ ก็กลัว รีบวิ่งจากเกท12 มาที่ pier2 อย่างเร็วเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า แถวๆ Pier 1 มีอะไรเล้นลับหรือเปล่า เพราะเราเองก็พิสูจน์อะไรไม่ได้ แต่ก็ทำให้เรากลัวตลอด ทุกครั้งที่ไปบอร์ดหรือว่าไปรับเครื่องคนเดียวตอนดึกๆ เรื่องจากคุณ : Misrandear ผมเป็นนักศึกษาครับ เคยเข้าไปช่วยงานอาจารย์ทำข้อมูลสำรวจปรับระดับรันเวย์ทั้งหมด ทำงานตอนกลางคืน (เพราะเครื่องขึ้น-ลงน้อย) ต้องใช้บัตรไรเยอะแยะ เรื่องราวเยอะมากครับบบ เพราะมันมืดดดด มากกก ประมาณสองสามวันแรกนี่แหละ ทำงานกัน ฝนตกหนักครับ เพื่อนผมคนนึงรับหน้าที่ขับรถคอยส่งอุปกรณ์แต่ละจุดกล้องสำรวจไรงี้ ขับรถเข้ามาจะมาหากลุ่มเพื่อน (ใส่เสื้อสะท้อนแสง) ก็เห็นกัน 4 คนครับ ปรากฎพอเข้ามา เพิ่งรู้จริงๆ กลุ่มนั้นมีกัน 3 คน …อีกคน..ใครไม่รุ้ หรือถ้าใครเรียนวิศวกรรมโยธา หรือสำรวจจะรู้จักกล้อง Total station ตอนนั้นส่องไปที่ Staff ทำงานตอนกลางคืนก็ต้องใช้ไฟฉายชี้เข้า Staff ให้เห็นตัวเลขใช่ปะ ปรากฎพอส่องกล้องไป มีเงายืนบัง Staff ก็วอไปบอกเพื่อนที่ถือ Staffว่า “เห้ย บอกอีกคนดิ๊อย่ายืนบัง Staff ส่องไม่ได้” เพื่อนวอกลับมา “บังบ้าอะไรกุยืนอยู่คนเดียว..”แค่นั้นแหละครับ นิ่งกันทั้งก๊วน 5555 บอกเลยว่าโหดจริงๆ ไปทำงานมาสามอาทิตย์ จะเลิกโปรเจคตั้งแต่ 3 วันแรก เหตุเพราะกลัวผี จะเข้าทีไรรู้สึกแย่ๆ ทุกที เรื่องจากคุณ : 856306 เราเคยไปฝึกงานที่เลาจน์การบินไทยที่สุวรรณภูมิ ตรงคองคอร์สซี เเล้วแบบเหมือนมีผู้โดยยังค้างอยู่ในเลาจน์มั่งจำไม่ได้เเล้ว จำได้แค่ว่าเดินตามไปเพื่อจะเร่งให้รีบๆ เป็นผู้โดยชาวเอเชีย เราเห็นเขาเดินเลี้ยวเข้าไปที่ห้องนอนห้องสุดท้าย เราเลยยืนรอ ไม่ได้เข้าไปแต่รอประมาณสามนาทีก็ไม่มีใครออกมา เลยตัดสินใจเดินเข้าไปที่ห้องนั้น ปรากฏว่าไม่มีใครเลย เลยวิ่งมาหน้าเคาน์เตอร์ เล่าให้พี่ๆฟัง และนั่งอยู่นานก็ไม่มีผู้โดยที่เราเดินไปตามออกมาเลย
|