|
ปรศุรามวตาร
ท่านเป็น 1 ในภาคอวตารแห่งนารายณ์มหาเทพ เมื่อครั้งโลกมนุษย์ถูกปกครองโดยวงศ์กษัตราผู้หยาบคายว่า "ท้าวสหัสอรชุน" ซึ่งเป็นพระโอรสของท้าวกฤตวีรยะ ท้าวอรชุนนั้นจึงมีฉายาว่า "การตวีรยะ" ท้าวอรชุนนั้นได้ร่ำเรียนวิชาจากฤาษีทัตตะไตยะ
ฤาษีตนนี้ท่านเป็นบุตรของมหาฤาษีอัตริพรหมประชาบดี 1 ใน มหาสัปตฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 ตน และเป็นบิดาของฤาษีทุรวาส ท้าวอรชุนได้หมั่นปรนนิบัติฤาษีทัตตะไตยะเป็นอย่างดี จนท่านเมตตาให้ท้าวอรชุน ขอพรจากท่านได้ 7 ข้อ เพื่อตอบแทนที่หมั่นปรนนิบัติท่านมา ท้าวอรชุนจึงได้ขอพรจากฤาษีทัตตะไตยะ 7 ข้อ ดังนี้
1.ขอให้มีพระกร 1,000 พระกร
2.ขอบุษบกที่สามารถเหาะลอยได้ตามใจปรารถนา
3.ขอให้มีอำนาจ ปัญญาปราบทุจริตให้สำเร็จด้วยความยุติธรรม
4.ขอให้ชนะได้ทั่วทั้งแผ่นดินเหนือพระราชาทั้งโลก
5.ขอให้จิตรู้จักผิดชอบชั่วดีเพื่อจะได้ปกครองประชาชนโดยธรรม์
6.ขออย่าให้พ่ายแพ้แก่ผู้ใด ในการสู้รบ
7.ถ้าจะตาย ขอให้ตายด้วยมือของผู้มีเกียรติลือเลื่องทั่วไตรภพ
ท่านจึงประทานพรให้ตามนั้น ท้าวอรชุนปกครองบ้านเมืองด้วยความสงบสุข นครมหิษบดีปุระในยุคสมัยของอรชุนนั้นอยู่ยืนยาวถึง 8,500ปี และเมื่อมีสงครามก็ชนะทุกครั้งไป
เรื่องราวลือไปไกลจนถึงนครลงกา ทราบถึงท้าวราพนาสูร(ทศกัณฐ์ยังวัยเยาว์ ร่ำเรียนวิชากับฤาษีโคบุตร) เกิดความสงสัยในฤทธิ์ของท้าวอรชุน จึงแอบเขาไปยังอุทยานนครมหิษบดีปุระ พบว่าท้าวอรชุนมีบุษบกวิเศษที่สามารถไปที่ใดก็ได้ และอาจเป็นผลให้มีฤทธิ์มาก จึงเกิดความอิจฉาริษยาอยากได้เป็นของตน ทันใดนั้นท้าวอรชุนสังเกตุเห็น จึงร้องถามและเกิดวาทะโอ้อวดเรืองฤทธิ์ ทำให้ท้าวอรชุนมีโทสะลงมือสั่งสอนท้าวราพนาสูรจนบาดเจ็บสาหัส
ฤๅษีโคบุตรรู้ด้วยญานเตือนภัยแก่ศิษย์จึงออกตามหา ก็พบท้าวอรชุนเอาศรนาคมัดราพนาสูรตระเวนไปบนฟ้าก็ตกใจ ด้วยกล้วว่าลูกศิษย์จะตายจึงขอโทษแทนศิษย์ ท้าวอรชุนแม้ยังโกรธแต่เมื่อท่านฤๅษีอ้อนวอน จึงยอมยกโทษอภัยให้ ด้วยเหตุครั้งนั้นทำให้เป็นที่นับถือให้ความเคารพมากยิ่งขึ้น เมื่อมีเรื่องอะไรกันก็จะให้ท้าวอรชุนตัดสิน บรรดาวรรณะกษัตริย์ก็ยอมอยู่ใต้พระบารมีของท้าวอรชุน เวลาที่วรรณะกษัตริย์มีเหตุกับวรรณะพราหมณ์ก็ให้ท้าวอรชุนช่วย ซึ่งท้าวอรชุนก็จัดการกับพราหมณ์ฤาษี จนพราหมณ์พ่ายแพ้ไปเสียทุกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่พราหมณ์ที่ดีมีคุณธรรม ด้วยความหลงในอำนาจและเกียรติที่ได้รับทำให้คุณธรรมเจือจากไป
บรรดาฤาษีและคณะพราหมณ์ จึงรวมกันทำพิธียัญญกรรมอันเชิญพระนารายณ์มหาเทพให้ลงมาปราบและแก้ไขศีลธรรม พระองค์ทรงอวตารเป็นบุตรคนที่ 5 ของฤาษีชมทัคนีผู้ที่ถือได้ว่าเป็นยอดแห่งฤาษี และด้วยเหตุแห่งพิธีกรรมของมหาฤาษีภฤคุ 1 ในสัปตะฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 ตน ให้บุตรในคราวหลานมีฤทธิ์เดชเรืองอำนาจมาก เมื่ออวตารมาได้ถือร่ำเรียนสรรพวิชาและพรตบำเพ็ญเป็นฤาษีนาม"ราม"หรือ"รามฤทธิรุทร" รามเป็นที่ชื่นชอบของพระศิวะเจ้ามาก
ท่านจึงประทานขวานเพชรให้แล้วเรียกขานว่า
"ปรศุราม"
วันหนึ่งฤาษีชมทัคนีได้เข้าป่าหาผลไม้ นางเรณุกาภรรยาได้ไปเพื่ออาบน้ำที่ลำธารตามปกติ นางเรณุกาก็ได้ยินเสียงของพระราชาจิตรสแห่งเมืองมฤติกาวดีกับพระมเหสีกำลังพลอดรักกันอยู่ในลำธาร ทำให้นางเรณุกาจึงเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจว่า ตนเองนั้นเป็นถึงธิดากษัตริย์แต่กลับต้องทำงานเยี่ยงบ่าวไพร่ และไม่มีเวลาได้อยู่กับฤาษีชมทัคนี นางได้กลับมาที่อาศรมแต่มีอาการกระวนกระวายใจ เมื่อฤาษีชมทัคนีกลับมาเห็นนางผิดแปลกไป จึงเอ่ยถามนางนางจึงเล่าให้ฟังทั้งหมด จึงทำให้ฤาษีชมทัคนีโกรธว่าทำไมนางมีจิตใจลามกเช่นนี้ และได้สั่งให้บุตรชายคนโตรุวัณวัตสังหารนางเสีย แต่รุวัณวัตไม่สามารถทำได้ ฤาษีชมทัคนีจึงสั่งบุตรชายคนที่สองไปจนกึงคนที่สี่แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำได้ ฤาษีจึงโกรธมากและสาปให้ คนหนึ่งเป็นคนโง่ คนหนึ่งเป็นคนบ้า คนหนึ่งเป็นคนเสียสติ คนหนึ่งเป็นคนวิกลจริต ในขณะนั้นปศุรามกลับมาที่อาศรมพอดี ฤาษีชมทัคคีจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังและสั่งให้ปรศุรามสังหารมารดาเสีย ปรศุรามไม่อยากสังหารมารดาแต่ก็ไม่อยากขัดคำสั่งบิดา และไม่อยากเป็นเช่นพี่ชายทั้งสี่คน จึงก้มลงกราบลงที่เท้าของนางเรณุกาและนำขวานเพชรฟันพระศอของนางขาดกระเด็นเมื่อสังหารนางเรณุกาแล้ว ฤาษีชมทัคนีได้ชื่นชมปรศุรามและได้ให้พร 3 ประการ ปรศุรามจึงขอพรดังนี้
1.ขอให้นางเรณุกาฟื้นคืน
2.ขอให้พี่ชายทั้ง 4 กลับมาเป็นคนปกติ
3.ขอให้ตนเองมีฤทธิ์เดช อายุยืน มีเกียรติแบบแห่งมุนี
ซึ่งฤาษีชมทัคนี ก็ประทานพรให้ และทั้งหมดก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
|
|