ก่อนปี 2525 หลวงตามีที่พำนักประจำอยู่ที่ บ้านละลม อำเภอขุขันธ์ เป็นที่นาของยายอึ๊บ ถวายให้ท่านปลูกกระต๊อบอยู่ราวๆ 1 ไร่ มียายชีแก่เฒ่าอยู่เฝ้าคนหนึ่ง ไม่ว่าหลวงตาจะไปไหนมาไหน
สุดท้ายย้อนกลับมาที่นี่เสมอ ต่อมามีคนถูกหวยได้ลาภจากหลวงตามากเข้า
พากันลงขันสร้างที่พัก
สร้างส้วมดีๆ
เพื่ออำนวยความสะดวกถวายหลวงตา ปรากฏว่าหลังจากนั้นท่านไม่มาที่นี่อีกเลย เว้นแต่ครั้งที่ยายชีเสียชีวิต
ท่านมาจัดแจงเรื่องศพให้
แล้วก็หายไปไม่กลับมาอีก พ่อบุญเลิศอธิบายว่าหลวงตาไม่ชอบสถานที่หรูหราสะดวกสบาย
แม้ส้วมก็ไม่เคยใช้
ท่านขุดดินด้วยมือเปล่าแล้วใช้หลุมที่ขุดด้วยมือท่านเองจนตลอดชีวิต --- ระหว่างที่ท่านยังอยู่ที่นายายอึ๊บนั้นมีเหตุการณ์น่าสนใจเกิดขึ้น พ่อลูกคู่หนึ่งขับรถเบนซ์รุ่นล่าสุดเข้ามา
หน้าตาพ่อแบกทุกข์หนัก
ถามไถ่ได้ความว่าลูกสาวที่มาด้วยอายุ 12 ขวบ กำลังป่วยเป็นมะเร็งลำไส้
หมอบอกว่าหมดหนทางเยียวยา
ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่เกิน 6 เดือน บังเอิญมีผู้รู้จักแนะนำให้มาหาหลวงตา
ให้ความหวังว่าบางทีหลวงตาจะช่วยได้
เพราะเคยเห็นท่านช่วยคนเป็นมะเร็งรอดตายมาอย่างน้อยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวอำเภอขุขันธ์นี่เอง (จะเล่าให้ฟังต่อไป) ผู้เป็นพ่อขอร้องให้พ่อบุญเลิศกราบเรียนหลวงตาขอความเมตตาช่วยลูกสาวด้วย พ่อบุญเลิศตอบว่า นั่นต้องแล้วแต่หลวงตา ท่านจะช่วยหรือไม่ช่วย ก็สุดแต่ท่าน แต่จะกราบเรียนให้ "หลวงตาหลานหญิงตัวน้อยนี้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ หลวงตาช่วยเขาหน่อย" คุณบุญเลิศกราบเรียนท่านเสียงดัง "อื๊อ" ท่านขานรับแล้วไม่ว่าอะไร
คงรับแขกด้วยการเขียนหนังสือสื่อสารกับคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยๆ --- ขณะหนึ่งมีเด็กสาววัยรุ่นอยู่แถวนั้นกำลังดื่มนมกล่อง
ท่านเห็นก็กวักมือเรียก
ชี้นิ้วไปที่นมกล่องที่เด็กสาววัยรุ่นกำลังดูดกิน
หล่อนเข้าใจความหมายที่หลวงตาเรียกได้ดี
กุลีกุจอจะไปหาเอานมกล่องใหม่ถวายหลวงตา
แต่ท่านไม่เอา ยังคงชี้ใส่นมกล่องที่เด็กสาวคนนั้นดูดกินไปแล้ว เด็กสาวก็จำเป็นต้องถวายนมกล่องที่ดื่มยังไม่หมดให้หลวงตา ท่านรับมาแล้วก็ดูดจิบเดียว หันมาเรียกเด็กหญิง ๑๒ ขวบ ที่กำลังป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ให้เข้าไปหา ส่งนมกล่องให้
พยักเพยิดให้ดูดกินจนหมด
เด็กหญิงที่ป่วยก็ดื่มจนหมด -- เวลาผ่านไปๆ
เนิ่นนานจนเป็นเหตุให้ผู้เป็นพ่ออึดอัด "พ่อเลิศครับ ช่วยเรียนหลวงตาอีกครั้งเถิดครับ" "ไม่ต้องห่วงหรอกครับ.. เรียนท่านครั้งเดียวก็ไม่ลืม ถ้าท่านจะช่วยท่านก็ช่วยเองหรอก..เมื่อกี้ท่านเอานมให้หนูคนนี้กิน ไม่แน่ว่าท่านช่วยไปแล้วก็ได้ " --- เรื่องนมกล่องนั้น
ดูยังไงก็ไม่มีใครจะเฉลียวว่าเป็นการช่วยเหลือจากหลวงตาแน่ๆ
เป็นแค่เมตตาของหลวงตาเอื้อเฟื้อของกินแก่เด็กเท่านั้น พ่อลูกคู่นี้อดทนคอยต่อไป
รอจนกว่าจะแน่ใจว่าหลวงตาทำพิธีช่วยเหลือที่ชัดเจน ในที่สุดหมดความอดทน คิดว่าท่านไม่สนใจใยดีจะช่วย จึงกราบลากลับกรุงเทพฯ --- เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนลืม กี่สัปดาห์
กี่เดือน พ่อบุญเลิศบอกจำไม่ได้ นึกไม่ออก พ่อลูกคู่นี้ย้อนกลับมาอีก
พร้อมด้วยรถกระบะติดตาม 2 คัน
บรรทุกข้าวของเครื่องอุปโภคบริโภคสารพันสารพัดเต็มคันรถทั้ง2คัน
เอามาถวายหลวงตา บอกพ่อบุญเลิศอย่างตื่นเต้นดีใจว่า ลูกสาวปลอดภัยแล้วไม่ตายแน่นอนแล้ว คือหลังจากกลับไปคราวนั้น
หมอตรวจไม่พบมะเร็งลำไส้
ทั้งยังสงสัยว่ามะเร็งหายไปเองได้อย่างไร ขณะนี้เชื่อมั่นว่านมกล่องนั้น
น่าจะเป็นการช่วยเหลือจากหลวงตาจริงดังที่พ่อบุญเลิศตั้งข้อสังเกตุ --- ข้าวของที่ขนมาถวายเยอะแยะ ๒ คันรถนั้น
หลวงตาไม่ยอมรับ
ท่านเรียกชาวบ้านทั้งหมู่บ้านมา
แล้วแจกให้ทุกคนจนเป็นที่สนุกสนานกัน -- ทุกวันนี้ลูกสาว12ขวบก็โตเป็นสาวแล้ว ยังมีชีวิตอยู่เป็นสุขสบายดี
เครดิต : facebook อำพล เจน
|