ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 6847
ตอบกลับ: 20
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

วิหารเทพวิทยาคม

[คัดลอกลิงก์]
ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ดังที่พุทธศาสนิกชนทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกันรังสรรค์ "วิหารเทพวิทยาคม" แห่งวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา

วิหารดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นมหาวิหารแห่งพระไตรปิฎก หรืออีกนัยหนึ่งคือดินแดนแห่งการรวบรวมพุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ทั้งหมด

มหาวิหารแห่งนี้จึงเป็นที่แรกและที่เดียวในโลกที่นำเอาพระไตรปิฎกมาแสดงและให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป

วิหารเทพวิทยาคม (อาคารปริสุทธปัญญา) เริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 บนพื้นที่กลางบึงน้ำขนาด 30 ไร่ ภายในวัดบ้านไร่ ส่วนบริเวณวิหารมีปริมณฑลกว้าง 60 เมตร ยาว 60 เมตร เฉพาะองค์วิหารเป็นอาคารลักษณะทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตร สูงประมาณ 42 เมตร มี 4 ชั้น ทางเข้าด้านหน้าทิศตะวันออกเป็นซุ้มประตูพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่แห่งสรวงสวรรค์ สถิตอยู่ใต้เศียรช้างเอราวัณขนาดใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองร่มเย็นเป็นสุขของบ้านเมือง

ใช้ทุนในการสร้างกว่า 200,000,000 บาท ซึ่ง หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ทำพิธีลงเสาเอก สำหรับงานก่อสร้าง เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2555 ด้วยเหตุนี้ทางคณะกรรมการจึงมีการสร้าง "พระกริ่งและพระชัยวัฒน์เทพวิทยาคม" ขึ้นเพื่อระดมทุนจัดสร้างองค์วิหาร โดยมี ขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เป็นประธานอำนวยการกิตติมศักดิ์ เพื่อวิหารแห่งพลังศรัทธาในพุทธศาสนาสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

งดงามอย่างไรสุดแล้วแต่ปัจเจกมอง แต่ความหมายยิ่งใหญ่แห่งพุทธประวัติ คงอยู่ชั่วกาลนาน
ภาพจิตรกรรมพุทธประวัติ



ความอลังการงดงามเป็นเอกลักษณ์ของวิหารเทพวิทยาคม อยู่ที่ยอดอาคารประดิษฐานรูปหล่อโลหะพระพุทธรูปปางลีลาสูง 7 เมตร 50 เซนติเมตร และรูปหล่อโลหะหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ในอิริยาบถยืนถือตะบองสูงกว่า 5 เมตร อันเป็นสัญลักษณ์ของวัดป่าบ้านไร่ ส่วนชื่อวิหาร ได้มาจากราชทินนามสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นเทพ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานถวาย

"ซุ้มหัวพญานาค" ทอดกายเป็นสะพานแห่งศรัทธา เดินข้ามผ่านโลกมนุษย์สู่โลกแห่งธรรม

ด้วยความที่มหาวิหารอยู่กลางน้ำ จำต้องมีสะพานเพื่อทอดจากฝั่งไปยังตัววิหาร ผู้ออกแบบจึงนำ "พญานาค" ประติมากรรมปูนปั้นบุด้วยกระเบื้องโมเสกอันวิจิตรบรรจงพาดผ่านสองข้างสะพาน พญานาคสองตัวนี้ แต่ละตัวมีเศียร 19 เศียร รวม 2 ฝั่ง 38 เศียร มีความหมายอันเป็นมงคลชีวิต 38 ประการ สถิต ณ จุดทางเข้าสู่มณฑลวิหาร ลำตัวของพญานาคโอบอุ้มวิหารกลางน้ำไว้โดยรอบ

"แก้วสารพัดนึก" โอบด้วยเกลียวหางพญานาค ขมวด 3 ชั้น ศีล สมาธิ ปัญญา

ณ จุดที่หางสะพานพญานาคมาบรรจบขดเป็นเกลียว 3 เกลียว ห่อหุ้มแก้วสารพัดนึกซึ่งมีรัศมีเรืองรองสว่างไสวตลอดเวลา มีความหมายถึง "ไตรสิกขา" คือศีล สมาธิ ปัญญา อันเป็นสามัคคีธรรมที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายดั่งใจนึก สำหรับใครที่ต้องการประสบความสำเร็จตามใจปรารถนา ลองนำคติธรรมที่แอบแฝงอยู่ภายในแก้วสารพัดนึกไปปฏิบัติกันได้

ส่วนความวิจิตรที่ประชาชนจะพบเมื่อลอดผ่านแก้วสารพัดนึก คือซุ้มประตูมหาบารมีทั้ง 4 ทิศ
ดำเนินการสร้าง



ได้แก่ ซุ้มอภิมหาบารมีพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ซุ้มอภิมหาบารมีพระพิรุณ ซุ้มอภิมหาบารมีพระกุเวร (ท้าวเวสสุวรรณ) และสุดท้ายซุ้มอภิมหาบารมีพระยมและรูปปั้น "สุนัข 3 หัว" อันมีความหมายถึง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งแฝงไปด้วยความหมายแห่งการปล่อยวาง สุนัข 3 หัวนี้มีหน้าที่เฝ้าไม่ให้ดวงวิญญาณชั่วร้ายกลับออกมาจากประตูนรกเด็ดขาด นอกจากนี้ยังมีพญาแร้งบริวารของพระยม ตัวแทนแห่ง โลภะ โทสะ โมหะ กิเลสในใจของมนุษย์ทุกคน หากละเลิกหรือหลีกเลี่ยงกิเลสไม่ได้ ก็จะเป็นอุปสรรคขัดขวางความดีตนเองในอนาคต

เมื่อเห็นถึงความงดงามภายนอกวิหารแล้ว ภายในวิหารยังสวยงามไม่แพ้กัน

ผู้ศรัทธาที่เดินชมภายในจะพบเรื่องราวพุทธประวัติตั้งแต่สมัยกำเนิดพระพุทธเจ้าต่อจากพระชาติสุดท้ายจนถึงพระองค์ดับขันธปรินิพพาน ถ่ายทอดผ่านจิตรกรรมฝาผนัง 6 ภาพจากศิลปิน 6 คน ที่เกิดขึ้นจากความประณีตบรรจงสุดฝีมือของผู้ถ่ายทอด โดยใช้ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์แทนองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

ส่วนเสาที่รองรับหลังคาเอราวัณ ผู้ออกแบบได้บรรจุภพชาติที่พระพุทธเจ้าถือกำเนิดทั้ง 523 ชาติไว้รอบๆ ตัวเสาที่โอบล้อมตัววิหารอย่างสวยงาม ต่อด้วยจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง "ทศชาติชาดก" ที่เป็นจิตรกรรมเขียนสีแผ่นเซรามิก แล้วนำไปเผาไฟแรงสูง ซึ่งในแต่ละภาพจะเล่าเรื่องราวในอดีตชาติของพระพุทธเจ้า ถ่ายทอดจากศิลปินผู้มีชื่อเสียง อาทิ ปรมัตถ์ เหลืองอ่อน, สัมพันธ์ สารารักษ์, จินตนา เปี่ยมศิริ ถือเป็นภาพจิตรกรรมผนังที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-26 17:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นอกจากนี้ยังมี ต้นโพธิ์อธิษฐานและโซนเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง บันดาลแสงสว่าง บันดาลทรัพย์ศฤงคาร

พื้นที่แห่งความวิจิตรตระการตาอีกแห่ง ซึ่ง ต้นโพธิ์อธิษฐาน เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายแห่งพุทธะ ความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ต้นโพธิ์ต้นนี้จะตั้งอยู่บริเวณโถงชั้นหนึ่ง เพื่อให้ผู้คนได้อธิษฐานขอพร เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และโซนเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงอยู่ภายในตัววิหาร จัดแสดง "เจ็ดสิ่งนำโชคในโลกใต้บาดาล" ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมที่สาธุชนที่มาเยี่ยมชมได้ขอพร พร้อมไขปริศนาธรรมนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันทั้ง 7 สิ่ง ได้แก่

1. มังกรและลูกแก้ว สัญลักษณ์แห่งการปกป้องและคุ้มครอง, 2.พญานาคตัวแทนความยิ่งใหญ่ อุดมสมบูรณ์, 3.ปลาอานนท์ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ค้ำชูความสงบสุขของโลกมนุษย์, 4.จระเข้ ตัวแทนความเสียสละ, 5.พญาเต่า ทำให้มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมาค้าขายร่ำรวย, 6.ปลาม้าน้ำ สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์

และ 7.ปะการัง หมายถึงคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง สิ่งมงคลสิ่งสุดท้ายนี้จะช่วยกระตุ้นจิตใจให้รู้สึกผ่อนคลาย

ภายในวิหารเทพวิทยาคม สถานที่แห่งพลังความเลื่อมใสนี้ ยังมีสถาปัตยกรรม ศิลปะอันงดงามที่ถ่ายทอดบนความศรัทธาความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา

ใครที่สนใจสามารถแวะเวียนไปกราบนมัสการรูปหล่อหลวงพ่อคูณหรือทำบุญเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่แห่งบุญวิถีนี้ โดยจะเปิดให้เข้าฟรีในเดือนตุลาคมนี้

ประกอบศาสนกิจสร้างกุศล เที่ยวชมธรรมสถาปัตย์ ณ "วิหารเทพวิทยาคม" วัดหลวงพ่อคูณ


อ้างอิง http://www.matichon.co.th/news_d ... pid=03&catid=03

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
วิหารสวยจังเลยครับ
สมแล้ว กับบารมีที่ท่านบำเพ็ญมาก
สาธุครับ
สาธุ
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-29 04:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2013-7-26 20:06
สาธุ

พี่ป้อมไปถ่ายรูปจริงมาให้ชมหน่อยครับ
สาธุ ขอบคุณครับ ขอโมทนาบุญวิหารทานด้วยครับ
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-30 00:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-7-29 04:41
พี่ป้อมไปถ่ายรูปจริงมาให้ชมหน่อยครับ ...

ว่างก่อนเด้อ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้