ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 6052
ตอบกลับ: 4
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

“ขอมละโว้”สร้างกรุงศรีอยุธยา

[คัดลอกลิงก์]
“ขอมละโว้”สร้างกรุงศรีอยุธยา
ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2552



ไม่มี“ชนชาติขอม”อยู่ในโลก

“ขอม”เป็นชื่อทางวัฒนธรรม

ใครๆก็เป็น“ขอม”ได้ ถ้านับถือพราหมณ์ หรือมหายาน


นี่เป็นข้อความชื่อเรื่องที่ลงในพื้นที่สุวรรณภูมิสังคมวัฒนธรรม(ส่วน ประชาชื่นในมติชน ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2552)
แล้วยังเขียนในคอลัมน์สยามประเทศไทยในวันเดียวกันอีกว่า



คนที่เป็น“ขอม”คือบรรพชนทั้งของคนไทยและคนเขมร




คำว่า “บรรพชน” ตรงนี้หมายถึงคนที่อยู่ในวัฒนธรรมขอม ไม่ใช่“ชนชาติขอม”
เพราะไม่มี“ชนชาติขอม”
ชาติพันธุ์ขอมก็ไม่มี


หากผมเขียนคลุมเครือจนทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนเป็นอย่างอื่นก็ขอประทานโทษไว้ตรงนี้
แล้วกรุณาเข้าใจตามนี้ แต่ถ้าจะคลาดเคลื่อนอีกก็ต้องแก้ไขอีกร่ำไป โดยไม่รังเกียจจะแก้


คนนับถือศาสนาคริสต์ เรียกคริสต์ คนนับถือศาสนาอิสลามเรียกแขก แต่ไม่มีชนชาติคริสต์(หรือชาติพันธุ์คริสต์)
และไม่มีชนชาติแขก(หรือชาติพันธุ์แขก) ฉะนั้นชนชาติขอมย่อมไม่มี รวมทั้ง
ไม่มีชาติพันธุ์ขอม



“ขอมละโว้”(ลพบุรี)


เป็นประเด็นที่มีปัญหามากที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย เริ่มตั้งแต่“ขอมสบาดโขลญลำพง”จากเมืองละโว้

ยกพลขึ้นไปยึดครองกรุงสุโขทัย(มีในจารึกวัดศรีชุม สุโขทัย)


แต่ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย ไม่นับขอมสบาดฯเป็นกษัตริย์รัฐสุโขทัย

ทั้งๆมีอำนาจครองอยู่จริงในช่วงเวลาหนึ่ง(เหมือนกรณีขุนวรวงศาธิราชกับเจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ แห่งกรุงศรีอยุธยา)



เหตุก็เพราะมีอคติต่อเขมร ดูถูกเหยียดหยามเขมร เลยสร้างให้ขอมสบาดฯเป็นผู้ร้าย กลายเป็น

ประวัติศาสตร์บาดหมาง สร้างบาดแผล
สืบถึงทุกวันนี้


“ละโว้”


เป็นชื่อเมืองร่วมสมัยปราสาทนครวัด มีจารึกและภาพสลัก

(รูปร่างหน้าตาท่าทางและวัฒนธรรม อย่างที่เราเรียกว่า“เขมร” นั่นแหละ)

เป็นที่รับรู้ทั่วกันว่าละโว้เรืองอำนาจเป็นรัฐขนาดใหญ่เรียกรัฐละโว้ มีศูนย์กลางอยู่ลพบุรี

แต่หลัง พ.ศ. 1600 ย้ายราชธานีลงมาอยู่“อโยธยาศรีรามเทพนคร” บริเวณที่เป็นอยุธยาในสมัยหลัง

แต่ยังเรียกที่เดิมว่าเมืองละโว้



จนถึงแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ฯเปลี่ยนนามละโว้เป็นลพบุรีตามคติรามเกียรติ์ลพบุรีจึงเป็นเมืองบริวาร

ของกรุงศรีอยุธยาแทนชื่อละโว้ตั้งแต่แผ่นดินพระนารายณ์ฯลงมา


ฉะนั้นจึงไม่เคยมี“อาณาจักรลพบุรี”อย่างที่พูดกันทั่วไป (ดูใน X-Cite ไทยโพสต์ ฉบับวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2552 หน้า 3)


“ขอมละโว้”นี่เองเป็นบรรพชนของราชวงศ์ที่สถาปนากรุงศรีอยุธยา


พูดตามประสาประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยก็คือ



พระเจ้าอู่ทองมาจากเมืองละโว้



หมายความว่ารัฐละโว้เป็นจุดกำเนิดกรุงศรีอยุธยา และ



พระเจ้าอู่ทองที่สถาปนากรุงศรีอยุธยามาจากเมืองละโว้หรือลพบุรี



ฉะนั้นละโว้เก่าแก่กว่าอยุธยาไม่น้อยกว่า 1,000 ปี หรืออาจมากกว่านั้นอีก

เพราะดินแดนละโว้มีคนตั้งหลักแหล่งตั้งแต่ราว 4,000 ปีมาแล้ว

ส่วนที่มีราชการจะยื่นขอมรดกโลกให้ลพบุรีหรือละโว้ หรืออย่างไรก็ตามใจโลกทุนนิยม

แต่ไม่ควรพูดเรื่อยเปื่อยให้คนทั่วไปเข้าใจผิดว่าลพบุรีเป็นอาณาจักร มีที่มาอยู่ในยุคเดียว

กับอยุธยา(กรุณาอ่านเนื้อร้องเพลงอยุธยาอย่างง่ายๆในล้อมกรอบที่เอามาพิมพ์ไว้ด้วย จะได้เข้าใจ)

สถาบันการศึกษาทั่วประเทศควรแบ่งปันเผยแพร่ความรู้ตรงไปตรงมาว่า

ละโว้หรือลพบุรีเป็นที่ให้กำเนิดกรุงศรีอยุธยา หรือลพบุรีสถาปนากรุงศรีอยุธยา






เพลง            อยุธยา


ทำนอง รำวง
เนื้อร้อง          สุจิตต์ วงษ์เทศ



     ๏ อยุธยา                        นามเต็มว่ากรุงเทพ

ทวารวดี                                ศรี อยุธยา

สืบทวา                                 รวดี มีมา

สืบละโว้อโยธยา                     ศรีรามเทพนคร

๏  แห่งแรก                           อาณาจักรสยาม

เริ่มนาม                                คนไทยที่นี่ก่อน

เครือญาติชาติพันธุ์                 ประชากร

ผสมเผ่าพระนคร                     กรุงศรีอยุธยา



                                           6 พฤศจิกายน 2548




ที่มา.http://www.sujitwongthes.com
ขอบคุณครับ
ผมเห็นว่า การผสมผสานชาติพันธ์ บนดินแดนสุวรรณภูมิ มีความร่วมสมัย มีการสืบเชื้อสายจากเจ้านาย หัวเมืองฝ่ายต่างๆ มีผลทำให้หัวเมืองบางหัวเมืองได้รับ อิทธิพลทางความเชื่อ และเชื้อสายชาติพันธ์ โคตรวงศ์ ดังกระทู้ที่ว่า ขอมละโว้สร้างอยุธยา  นอกจากนี้ยังมีอีกหลายหัวเมือง เช่น หริภุญชัย พระนางจามเทวี ก็เชื้อสายละโว้ ศรีเทพ หรือแม้แต่สุโขทัย และ สวรรคโลกเองก็ น่าจะมีเจ้านายที่สืบเชื้อสายมาจากขอม บ้างคิดในแง่มุมกลับ เจ้านายผ่ายสยามก็น่าจะมีไปทางฝั่งขอมเช่นเดียวกัน  ทราวดี ขอมละโว้  สุุโขทัย อุ๋ทอง ต่างก็เป็นช่วงคาบเกี่ยวยุคสมัย ผลัดกันเจริญ และเสื่อมถอย ดังนั้นผมเชื่อว่าไม่มีวัฒนธรรมใดโดดเดียว กลับอุ้มชูสืบต่อสืบสานกันจากรุ่นสู่รุ่น เพียงแต่ยุคใดสมัยใดจะมีค่านิยมที่มีทิศทางไปทางหนึ่งทางใดมากกกว่ากัน ที่เราเรีัยกว่าฮิตนะครับ สิ่งนั้นก็แสดงออกมาโดดเด้่น และชัดเจนกว่า   
เยี่ยม
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-7-10 06:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้