ปรัชญา : การยึดติด-ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งสมมุติ

Sornpraram

ปรัชญา : การยึดติด-ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งสมมุติ

[ ไม่มีช้อน ]
นักบวชน้อย : "อย่าพยายามงอช้อนเลย มันเป็นไปไม่ได้, พยายามเข้าถึงความจริงเถิด "
นีโอ : "ความจริงอะไร ?"
นักบวชน้อย : "ไม่มีช้อน"
นีโอ : "ไม่มีช้อนหรอ ?"
นักบวชน้อย : "ลองดูซิ ไม่ใช่ช้อนที่งอ แต่ตัวคุณงอ ต่างหาก"



"อย่าพยายามงอช้อนเลย มันเป็นไปไม่ได้, พยายามเข้าถึงความจริงเถิด "

[ ธงและลม ]
พระรูปหนึ่ง : “เห็นชัดๆว่าธงกำลังปลิวไสว”
พระอีกรูปหนึ่งค้านว่า : “เป็นลมต่างหากที่ไหว หากไม่มีลมธงจะปลิวได้อย่างไร ?”
พระทั้งสองรูปต่างก็ยึดเหตุผลของตนเป็นใหญ่ ต่างถกเถียงกันไม่เลิกรา  โดยไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ในที่สุดพระอาจารย์ที่ฟังอยู่ด้านข้าง  จึงกล่าวขัดขึ้นว่า
พระอาจารย์ : “มิใช่ธงไหว และมิใช่ลมไหว แต่เป็นใจของพวกท่านต่างหากที่ไหว”


[ พระอุ้มผู้หญิงข้ามแม่น้ำ ]
มีพระ 2 รูป เดินทางไปตามถนนเฉอะแฉะเพราะฝนกำลังตกหนัก  และได้พบหญิงสาวสวยกำลังรีรอจะข้ามแม่น้ำ  
พระท่านหนึ่งจึงเข้าไปอุ้มเธอข้ามฝั่ง ส่วนอีกพระท่านถึงกับอึ้ง! ตกใจมาก  แต่ไม่กล้าปริปากพูด
จนกระทั่งตอนกลางคืน ครุ่นคิด หนักอกหนักใจ นอนไม่หลับ ทนไม่ไหว

... พระท่านจึงเอ๋ยถามว่า ....

“พระเราแตะต้องผู้หญิงไม่ได้ โดยเฉพาะสาวสวยเช่นนั้นยิ่งอันตราย"
"ทำไมท่านกล้าทำถึงขนาดนั้น”

พระที่อุ้มผู้หญิงจึงตอบว่า ....

“ผมวางเธอไว้ที่นั่นตั้งนานแล้ว คุณยังอุ้มเธออยู่หรือนี่”



[ ไม้สั้นไม้ยาว ]
หลวงพ่อชา : “ลองดูไม้ท่อนนี้ซิว่า สั้นหรือยาว"
หลวงพ่อชา : "ถ้าคนอยากได้ไม้สั้น ไม้ท่อนนี้ก็ยาว ถ้าคนอยากได้ไม้ยาว ไม้ท่อนนี้ก็สั้น"
หลวงพ่อชา : "ตัณหาของคนต่างหาก ที่ทำให้ไม้สั้น หรือ ยาว"

ที่มา : http://www.matrix.siligon.com/tm04spoon.html

oustayutt

ขอบคุณครับ

Marine

ทุกอย่างจิตเราเป็นคนสร้างขึ้นมา

Sornpraram

หลายหนที่ชมภาพยนต์ ต่างประเทศ ต่างศาสนา

เหมือนเขา เข้าใจในหลักศาสนาพุทธ มากกว่าคนไทย

ละครไทยมีแต่ตบตี แย่งผัวแย่งเมีย หาสาระยาก

Sornpraram

ธรรมะกับสิ่งสมมุติ

สิ่งสมมุติที่มนุษย์เราชอบคิดชอบกระทำนั้นมันจะดีจริงหรือ ทำไมต้องชอบสมมุติกันด้วย และในทางธรรมะล่ะ การสมมุตินั้นควรพึ่งกระทำหรือไมเพราะเหตุอันไหน ธรรมะจะตอบเราได้เรื่องไม ลองไปอ่านธรรมะเกี่ยวกับสิ่งสมมุติที่ "หลวงปู่ชา สุภัทโท" ได้กล่าวไว้

สิ่งทั้งหลายในโลกนี้...
ล้วนแต่เป็นสิ่งสมมุติ ที่เราสมมุติขึ้นมาเองทั้งสิ้น
สมมุติแล้ว...ก็หลงสมมุติของตัวเอง เลยไม่มีใครวาง
มันเป็นทิฏฐิ...ความเห็นไม่ตรง
มันเป็นมานะ...ความถือตัว
ความยึดมั่นถือมั่น...
อันความยึดมั่นถือมั่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จะจบได้
มันจบไม่ได้สักที...เป็นวัฏฏสงสาร
เวียนว่ายตายเกิดที่ไหลไปไม่ขาด...ไม่มีทางสิ้นสุด

หลวงปู่ชา สุภัทโท

แอดมินว่า สิ่งสมมุติทั้งหลายเป็นการปรุงแต่งจากอดีตและอนาคตมาผสมกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าสิ่งสมมุตินี้ไม่ใช่สิ่งปัจจุบันไม่ได้เป็นปัจจุบันสิ่งที่สมมุติไว้อาจไม่เป็นดังหวัง ยิ่งเราสมมุติมากเราก็ยิ่งติดบ่วงของกิเลสต่างๆ เราทั้งหลายควรทิ้งการสมมุตินี้ให้ผ่านไปแบบลมพัดผ่านมา อย่าได้ยิ่บดึ่งฝุ่นดินที่ลอยมาตามลมเลย เราท่านทั้งหลายควรมั่นศึกษาธรรมะและปฎิบัติธรรมเถอ

ขอบคุณธรรมะดีๆจาก: http://dhammasatta.igetweb.com/index.php?mo=3&art=414162