ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค ~

[คัดลอกลิงก์]
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-18 12:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อกลับมาหาท่าน ท่านจะรดน้ำมนต์ให้ รดแล้วจะต้องให้กินหมากเสกอีกว่า หมดสิ้นหรือยัง ถ้าไม่มีรสหวานก็หมดแล้ว ถ้ายังหวานอยู่ก็ต้องนึกดูก็ต้องแก้บนอีก แล้วจึงรักษาหาย รสขม แสดงว่าต้องคุณคนคือถูกของที่มีผู้ใช้เดียรัจฉานวิชานำมาไว้ในตัว เช่น ในท้องมีตะปูบ้าง มีเข็มเย็บผ้าบ้าง ไม้กลัดผูกกาบาทบ้าง ด้ายตราสังข์มัดศพ เปลวหมูบ้าง หนังสัตว์บ้าง ของเหล่านี้จะทำให้คนไข้เจ็บปวดเสียดแทงในร่างกายเป็นที่ทรมานนัก คนไข้ประเภทนี้ส่วนใหญ่เป็นหญิง ที่เป็นชายมีน้อย โดยมากพวกนี้มักจะรับจ้างทำร้ายผู้อื่น หรือไม่ก็ปล่อยไปตามยถากรรม ถูกใครก็เจ็บไป ทำร้าย ใครไม่ได้ก็กลับมาเข้าตัวเอง เคยมีแขกผู้หนึ่งถูกของของตัวเอง หลวงพ่อปานท่านแก้ให้แล้วขอสัญญา ให้เลิกอาชีพนี้เสีย คนไข้ประเภทนี้ หลวงพ่อท่านจะเสกน้ำมนต์พิเศษใส่กระป๋องน้ำ เพื่อให้คนที่แช่เท้าทั้งสองข้างไว้ เพื่อเวลารดน้ำมนต์ ของที่อยู่ในตัวจะได้หลุดออกมาทางเท้าอยู่ในกระป๋องน้ำมนต์ มีอาการยันหมาก มึนงงศีรษะเวียนศีรษะ  อย่างนี้หลวงพ่อท่านว่าถูกคุณผี คือมีอาการใช้ผัมาเข้าสิง คนไข้นั้นจะสำแดงอาการกิริยาผิดปกติ ถ้าผียังสิงอยู่ จะไม่ยอมกินหมากเสกหลวงพ่อ ต้องใช้อำนาจจิตบังคับให้กิน ถ้าผีแกล้งออกไปชั่วระยะ คนไข้จะยอมกินหมากแล้วมีอาการยันหมาก ผีประเภทนี้ เป็นผีตายโหง ที่มีผู้มีวิชานำวิญญาณมาใช้ทำอันตรายคนทำให้เสียสติเพ้อคลั่งเสียคน เป็นต้น

         คนไข้ประเภทนี้ หลวงพ่อปานท่านจะทำน้ำมนต์พิเศษจากพระดินเผาของท่านเอง ซึ่งท่านมักจะใส่ในกระเป๋าอังสะของท่านอยู่เสมอ เพื่อทำน้ำมนต์ให้คนไข้อาบ และใช้มีดหมอของท่านกดกลางศีรษะ และรดน้ำมนต์คนไข้นั้นเรื่อยไปจนกว่าผีจะออก ถ้าดิ้นรนก็ต้องมีคนมาช่วยจับและรดน้ำมนต์ในระหว่างที่ท่านกดมีดหมอและบริกรรมอยู่ คนไข้ประเภทนี้เมื่อหายแล้วจะจำอะไรไม่ได้เลย และท่านมักจะให้สายสิญจน์มงคล ไว้คล้องคอกันถูก กระทำซ้ำ อีกทุกรายมีอาการร้อนหูร้อนหน้า แสดงว่าร้ายแรงมาก ถึงขนาดที่ถูกน้ำมันผีพราย ประเภทนี้จะอาการป้ำๆ เป๋อๆๆ คุ้มดีคุ้มร้าย ชาวบ้านเรียกว่า ลมเพลมพัด ขาดสติ ปวดศีรษะบ่อยๆ

         คนไข้ชนิดนี้ท่านจะให้แช่เท้าในกระป๋องด้วยเหมือนกับที่ถูกคุณคนเมื่อเวลารดน้ำมนต์นั้น น้ำมันพรายจะซึม ออกมา เป็นฝ้าน้ำมันลอยอยู่ในน้ำให้เห็น หลวงพ่อบอกว่า คนไข้ประเภทนี้หายยาก เพราะว่าน้ำมันซึมอยู่ในร่างกาย ต้องมารักษาบ่อยๆ เป็นเวลาติดต่อกันนานๆ จนกว่าจะหมดน้ำมันพรายและท่านมักจะสั่งห้ามกินน้ำมันสัตว์ เพราะจะไปเพิ่มน้ำมันให้กับน้ำมันพราย หมากเสกของท่านนี้ ถ้ากินแล้วร้อนลึกเข้าไปในทรวงอก ท่านว่าเป็นโรคฝีในท้อง วัณโรค ประเภทนี้นอกจาก รดน้ำมนต์แล้ว ยังต้องกินยาคุณพระควบไปด้วยอีกทางหนึ่ง เป็นการขับถ่ายพิษร้าย ออกจากร่างกาย
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-18 12:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รักษาโรคด้วยยาพระพุทธคุณ

          นอกจากน้ำมนต์แล้ว ท่านยังมียาคุณพระพุทธคุณให้กินอีกด้วย ยานี้มีสรรพคุณแก้โรคได้ทุกชนิด แล้วแต่ ชนิดของโรค คือยานี้เป็นยาอธิษฐานของหลวงพ่อปาน นอกจากจะรักษาโรคแล้ว ยังเป็นยาที่หลวงพ่อปานให้กิน เวลาท่านรดน้ำมนต์แก้ถูกกระทำไปแล้ว ยาของท่าน ท่านจะบอกกับผู้ใกล้ชิดว่า ตำรับยานี้เป็นของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ องค์อุปัชฌาย์ของท่านมอบให้ท่านเป็นทายาทแทนเมื่อหลวงพ่อสุ่นล่วงลับไปแล้ว

พระคาถา

(ว่า "นะโม ฯลฯ " ๓ จบ )

พระคาถาบทนำ ว่าครั้งเดียว

พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ

พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์ ว่า ๓ จบ หรือ ๕ จบ หรือ ๗ จบ หรือ ๙ จบ ก็ได้ แต่ต้องสม่ำเสมอ จึงจะเกิดผล

" วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา

วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มาณี มามะ พุทธัสสะ สวาโหม "

13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-18 12:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คาถามหาพิทักษ์

จิตติ วิตัง นะกรึง คะรัง

ใช้ภาวนาขณะใส่กุญแจ ปิดหีบ ปิดตู้ ปิดประตูหน้าต่างฯ

คาถา มหาลาภ

นะมามีมา มะหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังวา ระชะตังวา ธะนังวา พึซังวา อัตถังวา ปัตถังวา

เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมึมา นะมามิหัง

ใช้สวดภาวนาก่อนนอน ๓ จบ และตื่นนอนเช้า ๓ จบ เป็นการเรียกทรัพย์เรียกลาภ

พระคาถา ๓ บทนี้ เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก หากผู้ใดนำไปใช้จะเกิดโชคลาภมั่งมีเงินทองอย่างมหัศจรรย์
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-18 12:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรื่องอภินิหารแห่งการมรณะภาพของหลวงปู่ปาน

ข่าวเล่าลือในการตายน่ะมันมีเยอะ ถ้าฉันจะไม่นำมาเล่าเสียบ้างมันก็จะลำบาก
ท่านตายในกุฏิของท่าน คนจะเข้ามาเยี่ยมศพก็แสนจะลำบาก
เลยต้องเคลื่อนศพมาไว้ที่ศาลา ทีแรกดำริกันว่าจะใส่หีบศพ จะใส่โลงผีน่ะ
เอาว่ากันอย่างนั้นนะ ก็มาปรึกษากันว่าถ้าใส่หีบศพเข้าแล้ว คนเขามาไหว้ก็ลำบาก
เพราะลูกศิษย์ลูกหาท่านมาก เอาไว้ข้างนอกสัก ๓ วันเป็นยังไง
สมัยนั้นยาฉีดกันเน่ากันเหม็นน่ะมันไม่มีนะลูกหลาน
ก็เลยปรึกษากันว่า ๓ วัน หลวงพ่อคงยังไม่เป็นไร

ก็ช่างเถอะ ถ้าเป็นก็ค่อยเอาใส่หีบศพกัน ก็ทำเตียงเข้าไว้ เอาท่านนอนลงไป
คนทุกคนที่มาก็ให้มีโอกาสสรงน้ำ สรงน้ำก็อนุญาตให้รดแต่เพียงแค่เท้า
ไม่มีอะไรเป็นเครื่องประทังความเหม็นและความเน่า

ท่านนอนอยู่ ๓ วันบนที่นั้น ก็ปรากฏว่ามีอาการเหมือนคนหลับ
กลิ่นสางสักนิดหนึ่งก็ไม่มี เนื้อหนังที่จะผิดปกติอย่างคนตายก็ไม่มี
เขาก็เกิดสงสัยว่า คนเราถ้าตายเอาไว้ในที่แจ้งๆ นี่มันไม่ค่อยเน่า
เขาก็ว่ายังงั้นนะ เขาไม่ว่าเป็นเหตุอัศจรรย์หรอก เขาลือกันว่ายังงั้น
วันนั้นเป็นวันที่ ๓ หลังจากวันที่ ๓ ไปแล้วเป็นวันที่ ๔

ตาเก๊าที่ตลาดบ้านแพนตาย เขาเห็นหลวงพ่อปานเอาไว้ยังงั้นไม่เน่า
พวกลูกหลานเขาก็ดีใจ ว่ายังงั้นเราก็เอาไว้อย่างหลวงพ่อปานบ้าง
พวกนี้พยายามขี้ตามช้างเขาเอาไว้บ้าง พอวันที่ ๓ นะลูกหลานที่รัก
พระไปฉันไม่ได้ สวดก็ไม่ได้ พระบอกว่าอ้าปากไม่ขึ้น

ถามว่าทำไม บอกว่าหูตามันปลิ้นไปหมด ลิ้นจุกมือกางแขนขากางไปเต็มที่เน่าเฟะ
แล้วทีนี้มาดูหลวงพ่อปานครบวันที่ ๖ แล้วยังไม่เป็นไร เป็นปกติ

ร่างกายของท่านน่ะเป็นปกติ เอาไว้กันอย่างนี้ตั้งแต่วันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๘
จนกระทั่งถึงวันขึ้น ๘ ค่ำเดือน ๙ กี่วันนับไปก็แล้วกัน
ร่างกายของท่านไม่ผิดปกติเลย เมื่อถึงเวลาก็เก็บศพ

ระหว่างเวลาที่ยังเอาศพท่านไว้ ที่เขาเล่าลือกันนะ บอกว่ามีปาฏิหาริย์ต่างๆ
ฉันไม่อยากจะเล่าให้ฟัง แต่ไม่เล่าให้ฟังเดี๋ยวใครเขามาพูด ลูกหลานจะสงสัย
มันมีอยู่คราวหนึ่งที่ท่านเจ้าคุณพิมลธรรมวัดมหาธาตุ
15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-18 12:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สมัยนั้นยังดำรงตำแหน่งพระศรีสุธรรมุนี เป็นเจ้าคณะจังหวัดอยุธยา
กำลังเทศน์ กลางวันนะ ก็มีแสงขึ้นไปจับอยู่ที่เพดานตรงกับหลวงพ่อปาน
แล้ววนไปวนมาตลอดเวลาเทศน์ แสงสว่างมากเป็นจุดคล้ายๆกับแสงไฟฉายขนาดใหญ่
กลางวันนี่ ใครจะฉายไฟขึ้นไปเราก็เห็น แต่ว่าเขาไม่ได้ฉายกันเราก็เลยไม่เห็นคนฉาย
อันนี้อย่างหนึ่ง แล้วมีนกกลุ่มหนึ่งมาจับ เข้ามาหาท่านอยู่เสมอ อันนี้ก็ไม่แปลก

อีกอย่างหนึ่งคือเต่า เต่าตัวนี้หลวงพ่อท่านปล่อยที่จังหวัดสิงห์บุรี
ท่านเขียนชื่อท่านไว้ แม่สุ่นแล้วก็ตาเซ่งหลีหรือไงก็ไม่ทราบที่ตลาดบ้านแพน
เขาไปซื้อมาจากคนเมา มันจะแกง แล้วเขาก็มาถวายท่าน
ท่านเขียนไว้ที่อกว่า พระปานปล่อยที่จังหวัดสิงห์บุรี
แม่สุ่นแล้วก็พ่ออะไร ซุ่นหลีอะไรก็ไม่ทราบ ท่านเขียนไว้ที่หน้าอกด้วยตะปู
รอยยังอยู่ แต่ว่าปล่อยหลายปีมาแล้วประมาณว่าสัก ๑๐ ปี
เจ้าเต่าตัวนี้มันโตมาก ขนาดเด็กขี่ได้ ไปกับผักชวา

พอไปถึงหน้าวัดก็ไต่ขึ้นมาบนเขื่อน คนเดินดูกัน ก็ไต่ไปตามถนนของเขื่อน
พอถึงถนนหน้าศาลาแล้วมันก็เลี้ยว เลี้ยวขึ้นไปจะขึ้นบันไดศาลา
คนก็เลยจับขึ้นบันได แล้วไปไหน ก็ปรากฏว่าไปนอนอยู่ใต้ศพหลวงพ่อปาน
ต่อมาเจ้าของชื่อที่เขาเอามาถวายท่านปล่อย

เมื่อเขานำศพไปเก็บแล้วก็เอาไปเลี้ยงไว้จนกระทั่งเต่าตัวนั้นตาย
สงเคราะห์ตลอดไป นี่เรื่องก็มีเท่านี้นะ



ขอบคุณที่มาจาก... ประวัติหลวงพ่อปาน

กราบนมัสการครับ

ขอบพระคุณข้อมูลครับ
แปลกครับ เมื่อวาน แวบๆ เหมือนเห็นหลวงปู่ปาน
ท่านกำลังจะ จะสื่อสานอะไรเราหนอ  
ขอบคุณคร้าบ
19#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-3-27 10:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2014-3-23 08:08
คาถา มหาลาภ

นะมามีมา มะหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังว ...

ขอบคุณครับ
คาถา มหาลาภ

นะมามีมา มะหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังวา ระชะตังวา ธะนังวา พึซังวา อัตถังวา ปัตถังวา

เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมึมา นะมามิหัง

ใช้สวดภาวนาก่อนนอน ๓ จบ และตื่นนอนเช้า ๓ จบ เป็นการเรียกทรัพย์เรียกลาภ

พระคาถา บทนี้ เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก หากผู้ใดนำไปใช้จะเกิดโชคลาภมั่งมีเงินทองอย่างมหัศจรรย์
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้