สาริกาอาจารย์ชุม ไชยคีรี

Sornpraram

ตะกรุด สาลิกาอาจารย์ชุม ไชยคีรี (เมตตา มหาเส่นห์) [/td]

ประวัติพิธีทำ ตะกรุด สาริกาอาจารย์ชุม ไชยคีรี พระอาจารย์เจ้ากำหนดให้หาฤกษ์ทำพิธีในวันตรงกับวันเสาร์ 5 เดือน 5 ขึ้น 5 ค่ำ หรือขึ้น 15 ค่ำ หรือวันเสาร์เดือน 10 ขึ้น 15 ค่ำ เป็นวันมหาสิทธิโชคแห่งฤกษ์ ควรแก่การทำพิธีสร้างพระยันต์ พระสาริกาทั้งคู่ ฉนั้น เมื่อโอกาสแห่งฤกษ์ดังกล่าวแล้วเวียนมาบรรจบเข้าเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2521 คือเป็นวันเสาร์เดือน 10 ขึ้น 15 ค่ำ วันพระ มีพระจันทร์เต็มดวงได้อุดมฤกษ์ตามตำราอาจารย์จึงจัดเครื่องอุปกรณ์การทำพิธีพร้อมแล้วจึงนำศิษย์ประจำสำนัก ที่ฝึกอบรมให้รู้สมาธิ รู้อารมณ์ของญาณ และอาจารย์ได้ประสิทธิ์ประสาทครอบมือให้ เป็นอาจารย์ประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ได้แล้ว 10 คน กับศิษย์ที่ยังศึกษาสมาธิขึ้นต้นอีก 10 คน ออกเดินทางไปยังถ้ำแฝด วัดถ้ำแฝด อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นมงคลสถาน ชื่อแฝดหรือฝาแฝด ประกอบด้วยเป็นสถานที่สงบ เคยทำพีธิสำคัญอย่างยิ่ง พระอาจารย์สำฤทธิ์ เจ้าอาวาส ท่านเป็นพระอาจารย์ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี น่าเคารพ จึงเข้าไปขอทำพิธีในถ้ำแฝด จัดพิธีถูกต้องตามตำรา อาจารย์และศิษย์ทำพิธีลงพระยันต์ พระสาลิกาทั้งคู่ ลงพระสาลิกาตัวผู้ในแผ่นเงิน ลงพระยันต์สาลิกาตัวเมียลงในแผ่นทองคำบริสุทธิ์ อาจารย์บริกรรมอธิษฐานใส่แผ่นพระยันต์ลงในขันน้ำ พระสาลิกาตัวผู้ใส่ลงในขันทางขวามือ เอาพระยันต์สาลาลิกาตัวเมียใส่ลงในขันทางซ้ายมือ นั่งบริกรรมอยู่จนกระทั่งพระยันต์ในแผ่นเงิน แผ่นทองคำ อย่างละ 200 ดวง ลอยขึ้นเหนือน้ำเวียนเป็นทักษิณาวัตรอย่างน่าอัศจรรย์ แล้วเอาขึ้นจากน้ำ ให้อาจารย์ทั้ง 10 อาจารย์บริกรรมม้วน เมื่อม้วนเป็นตะกรุดเสร็จแล้ว อาจารย์ก็อาราธนาลงในขันน้ำ นั่งบริกรรมจนกระทั่งตะกรุดสาลิกาทั้งคู่ลอยขึ้นพร้อมกัน มีกิริยาเวียนเดินช้าเดินเร็ว ตามแรงอธิษฐานของอาจารย์ คณะศิษย์ 20 คนนั่งตั้งใจจับตาดู ทุกคนเห็นความอัศจรรย์ของตะกรุดพระยันต์พระสาลิกาทั้งคู่มีความเคลื่อนไหวอย่างกับมีชีวิต เมื่อปลุกเศก อธิษฐานในถ้ำมีอานุภาพเป็นจริง พิสูจน์ความจริงได้ตามตำราแล้ว ขั้นสุดท้ายพระอาจารย์เจ้าตำรา ท่านบังคับไว้ว่าให้นำพระยันต์ตะกรุดพระสาลิกาทั้งคู่ไปนั่งบริกรรมภาวนาหายใจเข้า กำหนดรู้อารมณ์นึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ" ใต้ต้นโพธิ์ หรือใต้ต้นไทร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เรียกวิญญาณพระสาลิกาทั้งคู่ที่อยู่ในอากาศ อาราธนาวิญญาณพระสาลิกาตัวผู้มาสิงสถิตย์อยู่ในพระยันต์พระสาลิกาตัวผู้ อาราธนาวิญญาณพระสาลิกาตัวเมียให้มาสิงสถิตย์อยู่ในพระยันต์พระสาลิกาตัวเมีย จนกระทั่งนกสาลิกา หรือนกช่างร้องช่างพูดบินมาจับคู่เจรจากันบนต้นไม้ที่นั่งบริกรรมปลุกเศก แล้วจึงอธิษฐานจบพิธี ถือว่าวิญญาณวิเศษสาลิกาทั้งคู่มาสิงอยู่ในตะกรุดพระสาลิกาทั้งคู่ ทรงคุณวิเศษตามตำราแล้ว ฉะนั้น เมื่ออาจารย์ทำพิธีในถ้ำถูกต้อง มีอภินิหาริย์สมความปรารถนาแล้ว เวลา 5.00 น. จึงนำขันตะกรุดพระสาลิกาทั้งคู่ออกจากถ้ำ ไปนั่งใต้ต้นไทรหน้าถ้ำ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก บริกรรมภาวนาทำอารมณ์พุทธจิตให้เกิดขึ้น เข้าสมาธิกำหนดรู้อารมณ์ หายใจเข้านึกว่า "พุท" กำหนดรู้ว่าตัวพุท คือพระสาลิกาตัวผู้ จงมาอยู่ในพระสาลิกาตัวผู้อยู่คงที่ คงที่เหมือนอารมณ์ที่กำลังอธิษฐาน แล้วกำหนดรู้ลมหายใจออก ส่งลมสมาธิจิตออกไปในอากาศทุกทิศ ส่งกระแสร์จิตพระสาลิกาตัวผู้ที่อยู่กับที่ ออกไปรับพระสาลิกาตัวเมีย กำหนดรู้ออกไปนึกว่า "โธ" แล้วกำหนดรู้ลมหายใจเข้ามาอย่างนิ่มนวลจน "โธ" มาพบกับ "พุท" อาจารย์นั่งบริกรรมอยู่ 4 ชั่วโมง คือถึงเวลา 9.00 น. ของวันอาทิตย์ นกประเภทช่างพูด มาจับคู่นั่งเจรจาบนต้นไทรกิ่งตรงกับที่อาจารย์นั่งทำพิธี อาจารย์จึงอธิษฐานจบพิธี คณะศิษย์ และท่านอาจารย์ สำฤทธิ์ เจ้าอาวาส เห็นความอัศจรรย์ พิสูจน์ความจริงได้ตามตำราทุกประการ ตะกรุดพระสาลิกา หรือตะกรุดสาริกา ของอ.ชุม ไชยคีรี เป็นตะกรุดขนาดจิ๋ว ตัวผู้ทำด้วยเงิน ตัวเมียทำด้วยทองสร้าง 200 คู่

naithai

ขอบคุณสำหรับข้อมูล ครับผม

Metha