คัดลอกจากหนังสือ "ธัมมวิโมกข์" (ฉบับที่ ๑๔๕ หน้า ๖๓) โดย: ศ.ธรรมทัสสี หลวงพ่อเคยบอกว่า "สมเด็จองค์ปฐม" ได้ให้ พระพุทธกัสสป, พระพุทธทีปังกร คุมเรื่องลาภ
"...องค์ปฐมก็มา และพระพุทธกัสสปก็มา สมเด็จพระพุทธทีปังกรก็มา...องค์ปฐมท่านบอกว่า เรื่องลาภนะ สมเด็จพระพุทธกัสสป หนักที่สุด และรองลงมาคล้ายคลึงกันคือ สมเด็จพระพุทธทีปังกร ก็เลยถามท่านว่า
"พระพุทธเจ้ามีบารมีเต็มเหมือนกัน ทำไมแตกต่างกันเรื่องลาภ"
ท่านบอกว่า "สุดแล้วแต่การเริ่มต้น คู่อันไหนแรงกว่ากัน".. ท่านบอก "ให้พระพุทธกัสสปคุมเพราะลาภมาก" องค์ปฐมบอกว่า..."ลีลาต่างกันนิดหนึ่ง...
...สมเด็จพระพุทธทีปังกร : มีกำลังแข็งมากสู้แรงมาก
...พระพุทธกัสสป : ท่านนิ่มนวลในทางลาภมหาศาล
...แต่ลาภมหาศาลทั้งคู่ : ท่านก็เลยบอกว่าเป็นหน้าที่ของทั้ง ๒ องค์.."
ท่านพูดไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ในหนังสือ "ธัมมวิโมกข์" (ฉบับที่ ๑๒๓ ประจำเดือนพฤษภาคม หน้า ๑๕) โดย ศ.ธรรมทัสสี ...หลวงพ่อเคยบอกเกี่ยวกับราคาพระคำข้าวในอนาคตว่า อีก ๓๐ ปี พระคำข้าวจะมีค่าบูชาหลายหมื่น นี่ก็ผ่านมาแล้ว ๑๖ ปีครับ ก็ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ครับ...ท่านพูดไว้ดังนี้ครับ
หลวงพ่อ : "ก็ก่อนจะทำ (ทำพระคำข้าว) พระพุทธเจ้าท่านบอกแล้วให้ทำ บอกให้มันรวยทั้งวัดทั้งบ้าน คือว่าเอาไปขึ้นราคานิดหน่อยใชไหม ๑๐๐, ๒๐๐ ไม่หนักนัก อีก ๓๐ ปี หลายหมื่น...
ผู้ถาม : เฉพาะพระคำข้าวนี่หรือครับ ?
หลวงพ่อ : ใช่..ขอยืนยัน..!
อานุภาพพระคำข้าวมหาลาภ
(คัดลอกบางตอนจาก "หนังสือประวัติวัดท่าซุง" และหลวงพ่อพระราชหรหมยาน หน้า ๔๗
โดย พระบุญมา ปภาธโร เจ้าหน้าที่ธัมวิโมกข์ พิมพ์ สิงหาคม ๒๕๔๙)
โดย ศ.ธรรมทัสสี
"..มีเรื่องยืนยันจากเจ้าหน้าที่ "ศูนย์ศิลปาชีพ" ท่านหนึ่ง ซึ่งเดินทางมาร่วมอุปสมบทหมู่ถวายพระราชกุศลฯ ที่วัดท่าซุง ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เจ้าหน้าที่ท่านนี้ปฏิบัติภารกิจอยู่ภาคใต้ ญาติให้พระมาพกติดตัว ๑ องค์ เพราะความเป็นห่วงที่สถานการณ์ไม่ค่อยปกติ
ปรากฏว่าก่อนเดินทางมาบวชประมาณ ๓ วัน ได้ถูกผู้ร้ายดักยิงจนรถมอเตอร์ไซด์ล้มลง เจ้าหน้าที่ท่านนี้คิดว่าตนเองคงต้องตายแน่ เพราะผู้ร้ายได้มายืนจ่อยิงอีกหลายนัด แต่ไม่เข้าเลยสักนัดเดียว ทำให้เกิดความมั่นใจและนึกด่าผู้ร้าย ปรากฏว่าหลังจากนึกด่า ถูกผู้ร้ายยิงซ้ำอีก ๑ นัด ลูกปืนทะลุเข้าฝังอยู่ใต้ผิวหนัง
ภายหลังแพทย์ได้ลงความเห็นว่าสามมารถเดินทางมาบวชก่อนได้เพราะไม่เป็นอันตราย หากผ่าตัดเอาลูกปืนออกจะต้องรักษาแผลหลายวัน เจ้าหน้าที่ท่านนี้เมื่อมาบวชที่วัดท่าซุง ได้เล่าเหตุการณ์ให้พระพี่เลี้ยงฟัง และได้นำพระที่ห่อกระดาศทิชชูพกอยู่เพียงองค์เดียวมาให้ดู จึงทราบว่าพระที่พกอยู่นั้นเป็น "พระคำข้าว" ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุงนี้เอง.."
อานุภาพพระคำข้าว-พระหางหมาก บางอย่าง โดย : ศ.ธรรมทัสสี
หลายครั้งที่ผมไปทำงานรีบๆ ขับรถไปถึงบริษัทแล้วเพิ่งนึกออกว่าลืมกระเป๋าสตางค์ จะขอยืมใครก็ไม่กล้าเพราะตำแหน่งเรามันไม่ควรยืม...และบังเอิญทุกครั้งนะครับ ต้องมีเหตุได้กินฟรี เจ้านาย พี่ๆ เพื่อนๆ ชวนไปทานข้าวมื้อใหญ่ๆ หรือ บางครั้งผู้บริหารชวนไปเลี้ยงรับรองลูกค้า หรือบางวันเพื่อนขี้ตืดบางคนเกิดอาการครึ้มๆ เลี้ยงเราเฉยเลย
จากที่สังเกตุ ถ้าเราเดินทางไปไหนแล้วลืมกระเป๋าสตางค์ หรือไม่มีเงินโดยเหตุผลใดก็ตาม รับรองไม่อดแน่นอน ไม่ต้องฟันธง ตั้งธงได้เลยไม่อดแน่ๆ
แต่เราจะต้องบูชา เช้า-เย็นด้วยความเคารพ จำภาพพระให้แม่นๆ ขึ้นใจครับ เมื่อเหตุฉุกละหุก ฉุกเฉิน นึกถึงท่านด้วยความเคารพขอบารมีให้ท่านช่วย คือขอบารมีท่านปกหัว ไม่ใช่เห็นท่านเป็นคนใช้นะครับ
|