ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 17268
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เรื่องเล่า..เสือหัวขาด

[คัดลอกลิงก์]



มีคนถามผมว่า ยันต์สักใดที่โดดเด่นที่สุด
ในอีสานเหนือ ผมตอบไปว่ายันต์เสือหัวขาด!!!
เป็นยันต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมาก มีเรื่องเล่าถึงประสบการณ์ของยันต์นี้สูงมาก โดยเฉพาะสายของพ่อทองสุข ก้อนบุญแห่งบ้านโนนชนะสังคม เรื่องของพ่อทองสุขกลายเป็นตำนานไปแล้ว ผมทราบข่าวการเสียชีวิตของท่านขณะอยู่เมืองนอก ผมแม้ไม่ใช่ศิษย์สืบทอดสายวิชาจากท่าน ก็ได้เก็บกำเอาแยบคายต่างๆที่พ่อเมตตาเล่าให้ฟัง
ปรมมาจารย์สักยันต์เสือหัวขาดไม่ได้มีแต่พ่อทองสุขท่านเดียว!!
หลายคนอาจจะไม่รู้?
ผมขอเล่าอุทธาหรณ์นักไสยศาสตร์เรื่องหนึ่ง
เรื่อนี้เกิดขึ้นในปี๒๕๒๔
ปีนั้นบริเวณอำเภอศิวิไล ในปัจจุบันยังเป็นพื้นที่สีแดงจ๋า ผมหมายถึงพื้นที่ของหน่วยงานพรรคคอมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แม้แต่นายพินิจ จารุสมบัติในยุคหัวเอียงซ้ายก็อยู่ในเขตงานนี้ ในยุคนั้นบริเวณนี้คือบ้านป่าเมืองเถือนที่ยิงกันฆ่ากัน กลางวันแสกๆ
บ้านห้วยลึก ตำบลชมภูพร ตอนนั้นขึ้นกับเขตอ.บึงกาฬ วันนั้นครูหนุ่มในโรงเรียนบ้านห้วยลึกพากันตื่นเต้นกับการมาเยือนของอาจารย์เสือ(นามสมมุติ) ท่านเป็นอาจารย์สักเสือหัวขาดที่กำลังมีชื่อเสียง ไม่มีใครรู้พื้นเพท่านนัก
รู้แต่ว่าท่านเป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ท่านสักเสือหัวขาดเป็นยันต์หลัก และเหนียวมาก!!
ท่านได้รับเชิญให้มาสักยันต์ที่บ้านพักครู
เมื่อสักแล้วก็มีการใช้มีดสับผมบนหัวลูกศิษย์ผมขาดเหมือนฟักลาบ แต่ไม่ระคายหนังศรีษะ บางรายโดนเอามีดกรีดตามตัวเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งแต่คมมีดไม่ระคายผิว ชาวบ้านเห็นแล้วก็ฮือฮากัน และชักชวนกันมาสัก ที่น่าสังเกตุคือ มีการเอามีดพร้าพาดที่ต้น
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-1-17 12:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขาแล้วใช้สันขวานสับลงไปที่มีดพร้าอีกด้วย(แบบการชุบของพ่อทองสุข)
มีลูกบ้านนั้นนายหนึ่ง เป็นนักเลงเกเร บอกว่าฉันจะเอาปืนไปลองดูสักหน่อย หากอยู่ปืนจะไปกราบตีนขอสักด้วย หากไม่อยู่ก็ตายเสีย!!
ค่ำนั้นประมาณสองทุ่ม อ.เสือกำลังจดคาถามหานิยมแจกแก่ครูหนุ่มอยู่ หนุ่มเกเรเอาปืนลูกกดจุด22 พาดที่ราวบันใด หางตัวอาจารย์เสือสักวา นึ่ง แล้วลั่นไกออกไป ปัง!(เสียงจุดสองสองแต่ดังในความวังเวงของดงสีชมพู) กระสุนเข้าที่ลิ้นปี่อาจารย์เสือ อ.ผลุดลุกขึ้นแล้วพูดว่า "ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร"แล้วแกก็เป่าคาถาใส่ที่แผล เดินได้สองก้าวก็ฟุบลงกับพื้น ยุคนั้นโรงพยาบาลบึงกาฬไกลสามสืบกว่ากิโล แต่พาร่างอาจารย์เสือผ่านบ้านห้วยลึกแค่สองกิโล อาจารย์เสือก็สิ้นลมเสียแล้ว!!
.ในยุคบ้านป่าเมืองเถื่อนเช่นนั้นอ.เสือก็เปรียบเสมือนศพไร้ญาติขาดมิตร ตายโหงเช่นนี้ไม่มีใครเผากัน จึงนำศพท่านใส่เฝือกไม้ฝังไว้ที่ โคกดอนกลอย ใกล้หมู่บ้านตราบเท่าปัจจุบัน
ที่น่าสังเกตในสายวิชาคือ การสักเสือสายนี้คล้ายกับพ่อทองสุขมาก เช่นการชุบด้วยใบไส้ตัน แม้กระทั้งการชุบด้วยพร้า และมีการสักอักขระ อะไว้ที่ก้านคอลูกศิษย์เสียด้วย ที่น่าสนใจมากๆอีกประการ คือการสักเสือหัวขาดของท่านไม่ได้สักแบบนั้นตลอดกาล เมื่อเวลาล่วงเลยมาได้สามปีอาจารย์จะสักหัวเสือเพิ่มให้อีก
ในพ.ศ.นั้นอาจารเสืออายุประมาณ ๕๗-๕๘ปี นับว่าอายุไล่เรี่ยพ่อทองสุขมากทีเดียว(พ่อทองสุขเล่าว่าท่านเริ่มสักตั้งแต่ปี๒๕๐๒) เรื่องนีน่าค้นคว้าเรื่องสายวิชาจริงๆ
คนเราแม้เหนียวคงปานใด ก็มีจังหวะปลอดอยู่นั่นเอง เร่งทำมรณานุสสติเถิดเจ้า
ความตายแขวนขอเราทุกบาทย่าง!!
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1636821889930382.1073741832.1633254706953767&type=3
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้