หลวงพ่อจรูญ. วัดเฉลิมอาสน์

oustayutt

เป็นประเด็นปัญหาให้ผู้คนในสังคมต้องช่วยกันตีความอยู่ไม่ใช่น้อย เมื่อมีข่าวว่า พระภิกษุรูปหนึ่งที่ไม่เคยมีชื่อในสารบบพระดัง มรณภาพลง ทิ้งเงินสดๆ ในกุฏิ แคบๆ ถึง 26 ล้านบาท
ว่ากันว่า เงินก้อนใหญ่ที่ฆราวาสต้องตาลุก อยากได้นี้ เป็นเงินที่ญาติโยมและศิษย์ผู้ศรัทธา นำมาถวายต่อเนื่องกันนานหลายสิบปี เหตุผลที่มีคนนำเงินมาถวาย เชื่อกันว่าเพราะได้ตัวเลขจากพระรูปนี้ ไปแทงหวย แล้วก็ถูกหวย
มีหลายคำถามที่ต้องถาม คำถามแรก พระบอกใบ้ให้หวย ถูกต้องตามพระธรรม วินัยหรือไม่ พระครูโชติสุวรรณคุณ หรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า หลวงพ่อประเทือง เจ้าอาวาสรูปที่ 4 ของวัดเฉลิมอาสน์ หมู่ที่ 2 ริมแม่น้ำแม่กลอง ตำบลท่าชุมพล อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี บอกว่า
“พระจรูญ กนุตจาโร เป็นหลานฉัน เท่าที่ฉันเห็น ท่านไม่เคยทำผิดวินัยสงฆ์”
พระจรูญบวชเมื่ออายุ 23 มรณภาพอายุ 65 เป็นพระนักปฏิบัติที่เคร่งต่อพระธรรมวินัย พูดน้อย มีเหตุมีผล วางตัวเรียบง่าย ไม่แสวงหาชื่อเสียงและความดัง พระในวัดเฉลิมอาสน์รู้กันดีว่า พระจรูญไม่ใช่พระธรรมดา ท่านเป็นพระของจริง พระจรูญผิวขาว ร่างผอมบางเล็ก สูงราว 160 กว่า ยิ้มง่าย ไม่เคยสร้างปัญหาให้ใคร มีโรคประจำตัวก็ไม่เคยปริปากบอกให้ใครเดือดร้อนวุ่นวาย ไม่ไหวจริงๆก็หนีไป รักษาตัวเองเงียบๆที่โรงพยาบาล กลับมาแล้ว ญาติโยมถาม ก็มักจะบอกไปเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญ ทั้งยังยกเป็นตัวอย่างสอน ให้ญาติโยมรู้ว่า เรื่องเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา
หลวงพ่อประเทืองบอกว่า พระจรูญมีความเมตตาสูง ช่วยเหลือผู้คนที่ตกยากเสมอ ใครเดือดร้อน ก็เข้าช่วยเหลือ ออกพรรษาก็มักลาไปหาอาจารย์ เหนืออีสานออกตกใต้แต่...ไม่เคยบอกให้ใครทราบ จึงไม่มีใครรู้ว่า ท่านไปฝึกวิชาจากอาจารย์ใด แต่สิ่งที่ได้จากอาจารย์ คือการเป็นพระนักปฏิบัติ ที่มีคนเชื่อกันว่าท่านมีญาณวิเศษ อย่างน้อยก็รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า บอกอนาคตได้แม่นเพราะพื้นฐานมีเมตตา ใครมาหาก็มีแต่เรื่องทุกข์ร้อน บางคนไม่ทันได้ถาม ท่านแค่หลับตา ก็แนะนำ...
“เรื่องนี้แปลกแต่เกิดขึ้นจริง ฉันเป็นพระด้วยกัน พูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จะให้พูดมากไปกว่านี้คงไม่ดี”คนที่มาหาพระจรูญ...แต่ละวันมีไม่มาก มาให้ดูดวงเสียส่วนใหญ่ ในจำนวนนี้ก็มีนักเลงหวย นักตีเลขมาด้วย ชื่อเสียงเรื่องเลขหวย หลวงพ่อประเทืองก็ไม่รู้ว่า แพร่หลายไปรู้เข้าห ูพวกบ้า หวยเมื่อไหร่ อย่างไรนักเล่นหวยพวกนี้ เขาเก่งตีเลข เห็นอะไร ขณะอยู่กับท่านก็ตีเป็นตัวเลข ในความสัมพันธ์สองสถาน สถานแรก เป็นสมภารดูแลพระลูกวัด สถานสองเป็นอา-หลาน หลวงพ่อประเทืองกล้ายืนยันว่า พระจรูญไม่เคยบอกใบ้ให้หวย ไม่เห็นด้วยและไม่ส่งเสริม การเล่นหวย
ตีเลขได้แล้ว เอาไปแทง จะถูกหรือแทงผิด หลวงพ่อประเทืองก็ไม่ทราบ แต่สังเกตได้ว่า ตลอดเวลาหลายสิบปีก็มีผู้หลักผู้ใหญ่มากมายมาหา มาแล้วจะถวายปัจจัยหรือถวายอะไรอื่น ก็ไม่มีใครรู้
เรื่องที่ญาติโยมนำปัจจัยมาถวาย...จะแทงหวยถูก หรือจะตอบแทน หรือเพราะศรัทธาพระจรูญ ไม่ใช่เรื่องแปลก เรื่องแปลกที่คนในวัดรู้กันดีก็คือพระจรูญรับแล้ว ก็ไม่เคยถามว่าเท่าไหร่ ไม่เคยนับ จับโยนใส่
โยนเงินลงลัง เหมือนโยนผ้าลงพื้น ได้ซองเงินมา แล้วก็โยนอย่างนี้ นานกว่า 20 ปี ตอนนั้นไม่เคยมีใครรู้ว่า กุฏิแคบๆ ขนาด 3 คูณ 4 เมตร 3 ห้อง ซึ่งมองด้วยตา เป็นที่เก็บของเครื่องใช้ จะกลายเป็นขุมสมบัติมากค่า

oustayutt

พระด้วยกันพอเข้าใจ พระจรูญไม่สนใจเรื่องเงิน มองเงินเป็นเศษกระดาษ”
หากพระจรูญเห็นเงินเป็นเงิน เอาเงินไปเข้าธนาคาร ก็คงเก็บงำความลับนี้ไม่ได้ ใครรวยใครจน เมื่อธนาคารรู้ ชาวบ้านก็รู้ ชีวิตท่านคงวุ่นวาย ไม่สงบ
“สมภารอย่างฉันยังรู้สึกทึ่ง พระจรูญรู้ล่วงหน้าว่า 13 เมษายน เป็นวันมรณภาพ”
หลวงพ่อประเทืองว่ามุมมองจากพระระดับสมภาร ดูจะมีข้อจำกัดหลายด้าน โดยเฉพาะด้านความขลัง วิสัยพระพูดไม่ถนัด เท่ากับญาติโยมที่เข้าไปสัมผัสกับ พระจรูญด้วยตัวเอง
เสี่ยใหญ่...วัย 61 ปี แน่นอน เรื่องราวกึ่งชอบไม่ชอบอย่างนี้ จึงไม่ประสงค์จะบอกชื่อ บอกกับสกู๊ปหน้า 1 เป็นคนหนึ่งที่ขอรับเป็นเจ้าภาพสวดศพพระจรูญ
เขาเริ่มต้นพูดถึงท่านว่า ท่านเป็นผู้มีพระคุณที่สุด ช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน 20 ล้านบาท ให้หมดไปได้
ผมพูดอย่างนี้ คงมีหลายคนไม่เชื่อ ก็ตามใจ แต่คนในตระกูลผม บริษัทของผม เป็นหนี้ท่าน นับถือท่านเป็นเทพเจ้า”
เรื่องหนี้สินธุรกิจเป็นมาอย่างไร เสี่ยไม่ขอพูด แต่จะพูดเรื่องราวที่ไปหาท่านเมื่อ 3 ปีที่แล้ว รู้ข่าวมานาน ท่านเป็นพระที่ไม่ธรรมดา
“วันที่ผมไปหา กราบท่าน ยังไม่ทันบอกอะไร ท่านก็พูดว่า โยมเดือดร้อนหนักมาหรือ? ผมบอกท่านว่า เดือดร้อนหนักมาก”
“ท่านก็ถามว่า อายุเท่าไหร่ ผมบอกว่า 58 ปี”
“อ่อนกว่าอาตมาตั้ง 4 ปี”
พระจรูญพูดแล้วก็ยิ้ม ขณะที่มือลูบศีรษะไปมาเสี่ยกลับถึงบ้าน นำเรื่องราวที่ไปพบพระจรูญ

oustayutt

มาคิด แล้วก็คิด คิดจนได้ข้อสรุป ว่าจะเอาอายุท่านไปแทงหวย
“ผมอายุ 58 ปี ท่านบอกว่าอ่อนกว่าท่าน 4 ปี แสดงว่าอายุท่าน 62 อาการที่ท่านลูบศีรษะ เหมือนบอกว่า ให้แทงข้างบน”
เพราะมีความมั่นใจเป็นทุนเดิม...เสี่ยเล่าว่า ยุทธการแทงหวยล้างหนี้ก็เกิดขึ้นประชุม ทุกคนในบ้าน วางแผนแทงหวยตั้งแต่ 8 วันก่อนหวยออก แต่เงินทุนที่จะใช้แทงต้องมาก จำนวนหลายล้าน ตัดสินใจหยิบยืมเงินจากญาติหลายคน
“เดิมพันผมสูงมาก ถ้างวดนั้น หวยไม่ออก 62 กิจการสองแห่งของผม ก็ต้องขายใช้หนี้”
การทุ่มเงินล้านแทงหวยบางเลข ไม่ใช่จะลงตัวได้ง่ายๆ บางเลขเจ้ามืออาจไม่รับแทง โชคเข้าข้างเสี่ย งวดนั้นเจ้ามือทั่วประเทศไม่รับเลข 93 หรือ 39 ทั้งข้างล่างและข้างบน เนื่องจากมีข่าวพระใบ้หวยที่เพชรบูรณ์กำลังมาแรง ให้หวยถูกติดต่อกันหลายงวด“ผมส่งสายไปแทงเจ้ามือใหญ่ๆ 17 จังหวัด ทุ่มหนักที่สุด เจ้ามือใหญ่ ย่านเยาวราช ในกรุงเทพฯ”
เสี่ยมีประสบการณ์เล่นหวยมาไม่น้อย ถึงขั้นที่รู้ว่า จะต้องยกเว้นจังหวัดราชบุรีเอาไว้ ขืนแทงถูกไปแล้ว เป็นเรื่องดัง ไม่เป็นผลดีทั้งต่อตัวเองและตัวพระจรูญ
ก่อนหวยออก 1 ชั่วโมง เสี่ยเล่าว่า ทั้งอึดอัดและตื่นเต้น ไม่รู้จะ หันหน้าไปทางไหน ตัดสินใจไปหาพระจรูญที่วัด ท่านก็ทักว่า “มาทำไมอีก? มีอะไรอีกหรือ”
เสี่ยไม่กล้าพูดกับท่าน ขับรถไปจอดที่หน้าวัดเขาช่องพราน ห่างจากวัด เฉลิมอาสน์ราว 7 กิโลเมตร ปิดโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 เครื่อง
“ผมไม่กล้าฟังข่าวตัดสินชีวิตด้วยหูตัวเอง” เสี่ยสารภาพ หนึ่งชั่วโมงต่อมา ถึงเวลาหวยออก โทรศัพท์มือถือลูกน้องที่ยืนนอกรถดังขึ้นเดาได้ว่า แม่บ้านเสี่ยโทร.ตาม ลูกน้องที่รับสาย ตกอกตกใจสุดขีด พูดจาไม่เป็นภาษา แต่สีหน้ายิ้มแก้มป่อง เสี่ยก็รู้ทันที หวยออก 62 แน่ นี่คือข่าวดี หนี้สินหมดแล้ว เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้สดใสแล้ว ตั้งสติได้ เสี่ยก็สั่งให้ลูกน้องขับรถ ไปที่วัด ตั้งใจจะกราบพระจรูญอีกครั้ง แต่ท่านไม่อยู่วัดแล้ว
อีก 5 วันต่อมา ตั้งใจไปกราบท่าน กราบที่เท้า ท่านไม่มีสีหน้ายินดียินร้าย ผมไม่พูดอะไรกับท่าน เอาผลไม้และโอวัลตินถุงใหญ่ ห่อใส่ถุงถวาย ถอยออกมานั่ง 10 นาทีต่อมา ก็เข้าไปกราบลา ถึงตักท่านอีกครั้ง คราวนี้เสี่ยน้ำตาก็ไหล
ท่านขอให้โชคดี แล้วพูดเป็นปริศนา ร้องไห้ครั้งเดียวพอแล้วนะ
ประโยคร้องไห้ครั้งเดียว...พอ เสี่ยไขปริศนาของพระจรูญว่า หมดหนี้สินแล้วก็ไม่ควร ไปเล่นหวยอีก เหมือนท่านตั้งใจจะสอนว่า...การพนันเป็นเหตุแห่ง ความฉิบหาย
เสี่ยบอกทิ้งท้าย ในถุงโอวัลติน ไม่มีเนื้อโอวัลติน แต่มีเงินใบละ 1 พัน 1,500 ใบ ที่ตั้งใจถวายตอบแทนคุณท่าน
เงินที่เสี่ยถวาย เสี่ยก็เข้าใจว่า คงรวมอยู่ในเงินทั้งหมด 26 ล้าน ที่ถูกทิ้งหกหล่นเรี่ยราดอยู่ในห้อง โดยไม่มีใครรู้ จนถึงวันที่ท่านมรณภาพ

Metha