ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ตราสวัสดิกะที่ฮิตเล่อร์ใช้ เป็นเครื่องหมายมาจากต่างดาวตามในประวัติคำภีร์โบราณ

[คัดลอกลิงก์]
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-12-11 09:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ไม่เรียกตัวเองว่าประเทศนี้ของฉัน ประเทศนั้นของเธอ เหมือนที่ผ่านมา...มนุษย์จะกลมเกลียวมีความสมานฉันท์ เป็นอันหนื่งอันเดียวกันทั่วโลกเลยละครับ..เพราะมีพว กเขาที่ไม่ใช่มนุษย์โลกมาเป็นเงื่อนไขใหม่...มาเป็นบ ทเรียนใหม่ให้กับพวกเราครับ...
รวมถึงศาสนาทุกศาสนาก็จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันอีกค รั้ง โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความเจริญ ชาวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาศึกษาหาความรู้ใหม่ๆกันไม ่ว่างเว้น...เพราะอยากรู้ว่าเมืองไทยมีอะไรดี..ในสิ่ งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน..
ในบรรดาอคันตุกะผู้มาเยือนทั้งหลายมีมากันหลายรูปแบบ มีกลุ่มที่เป็นมิครกับโลก บางกลุ่มนำพาพลังงานด้านลบติดมาด้วย บางกลุ่มเพิ่งมาใหม่ และบางกลุ่มได้เคยติดต่อกับมนุษย์นับเป็นร้อยๆปีมาแล ้ว
ปรากฎการณ์ Crop Circle เป็นอีกเื่รื่องที่มนุษย์สนใจ เคยสอบถามจากผู้รู้ โดยการสื่อสารทางโทรจิตว่า จริงๆแล้วเป็น"การทดลองสื่อสารของมนุษย์ต่างดาวกลุ่ม หนึ่งที่เป็นมิตร" ที่ทดลองยิงสัญญาณลงมาที่พื้นผิวโลก เกิดร่องรอยการหักล้มของต้นหญ้าอย่างเป็นระเบียบบนท้ องทุ่ง เมื่อได้ผลก็ยิงลงมาบ่อยขึ้น มีทั้งเรื่องการอธิบายเกี่ยวกับจักรวาล เรื่่องของพวกเขา รวมถึงข่าวสารที่เกี่ยวกับโลก ซึ่งต้องการผู้ที่วชาญในการถอดความ ส่วนใหญ่จึงไปปรากฎอยู่ทางยุโรป และอเมริกา เนื่องจากมีผู้วชาญหลายคน...
นักวิจัยกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า..
Crop Circle เป็นปรากฎการณ์ที่อธิบายไม่ได้ จนถึงทุกวันนี้ เป็นความมหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อเป็นว่าฝีมือของมนุษย์บนโลกนี้ ว่าทำไมพืชผักเหล่านั้นล้มตัวลงแบนราบ โดยไม่หักพังเสียหายแบบการใช้เครื่องจักร หรือใช้มือกดทับโดยทั่วไป แต่ทางรัฐบาลมักจะกล่าวว่า "เกิดจากฝีมือมนุษย์และเป็นการหลอกลวงประชาชนเสม อ "
มีนักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมคนหนึ่ง กล่าวว่า เป็น "แปลกใจว่ารูปทรงนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมจึงดูราวกับศิลปะที่มีรูปลักษณะที่วิจิตรบรรจงแล ะไม่เคยที่ไหนเห็นมาก่อนบนโลกนี้?"
มีอยู่ภาพหนึ่ง ที่มีผู้ถอดความกล่าวถึงมาก...เป็นภาพดวงอาทิตย์อยู่ ตรงกลาง และมีวงโคจร 4 วง ลักษณะที่ปรากฎนี้เหมือนดาวเคราะห์วงใน และกลุ่มดาวเคราะน้อยที่อยู่รอบนอกสุด อาจหมายถึงระบบสุริยะของเรานั่นเอง แต่แปลกตรงที่"มีดาวเคราะห์อยู่ดวงหนึ่งที่หายไป" ซึ่งคือดาวเคราะ์โลกนั่นเอง..(สังเกตวงที่ 3 ครับ มีแต่วงกลม แต่ไม่มีโลกปรากฎอยู่)
"ทำไมโลกเราจึงหายไป? หรืออาจเกี่ยวกับคำทำนายการสิ้นสุดของโลกที่ตรงกับบั นทึกของชาวมายา ที่กล่าวถึง ค.ศ 2012" นักวิจัยกลุ่มนั้นกล่าวอย่างตกตะลึง..
การปรากฎตัวของจานบินในมิติของโลก
จานบินที่อยู่ในกาแลคซี่เดียวกันเรา จะปรากฎให้เห็นรูปทรงชัดเจน และสามารถบันทึกภาพได้ง่าย เนื่องจากอยู่ในมิติเวลาเดียวกัน วัตถุธาตุใกล้เคียงกัน จะมองเห็นแสงเงาเป็นโลหะที่คล้ายกับบนโลก...
ส่วนจานบินที่มาจากกาแลคซี่อื่นๆ มักปรากฎไม่ชัดเจน เห็นเป็นเงาลางๆหรือเป็นแสงจ้า เนื่องจากอยู่ต่างมิติ ต่างเวลา การปรากฎตัวจะถูกพรางด้วยมิติของเวลาที่แตกต่างกัน ความชัดเจนของรูปทรงในจะลดน้อยลง..
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-12-11 09:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
บางทีที่เราเห็นการเคลื่อนตัวของวัตถุต่างมิติไปมาแบ บซิกแซก แล้วหายไป หรือ ก็เนื่องจากการมีที่ "มิติของเวลาที่แตกต่างกัน"จึงเกิดการบิดเบือนเป็นภา พเสมือน หลอกตาของเรา ทำให้เราเข้าใจว่าเป็นการเคลื่อนตัวในแบบที่เราไม่คุ ้นเคย..
จดหมายจากมนุษย์ต่างดาวยูมิต หรืออุมโม(UMMO)
ถือกันว่าเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่โดดเด่นมากที่สุด เหตุการณ์หนึ่งของวงการในการติดต่อสื่อสารกันมนุษย์ต ่างดาว...
เป็นเรื่องราวของจดหมายจากผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นมนุษย ์ต่างดาวยูมิต ถูกส่งมาให้คนสเปนผู้หนึ่งชื่อ "เชสม่า"ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่กรุงมาดริด เป็นผู้ที่ชอบค้นคว้าศาสตร์เรื่องลึกลับ และอ้างตนว่าเคยพบมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว
โดยการติดต่อครั้งแรกนั้น เริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ 1962 จากการมีจดหมายนับพันฉบับถูกส่งมาถึงเชสม่าติดต่อกัน มานานกว่า30ปีแล้ว โดยที่มนุษย์ต่างดาวยูมิต ซึ่งไม่เคยปรากฎตัวออกมาให้ชาวโลกพบแม้แต่ครั้งเดียว แต่เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาวิชาการในจดหมายต่างๆ เหล่านั้นแล้ว แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ระดับสุดยอดของโลกที่เป็นผู้นำเ หตุการณ์เหล่านี้มาตีแผ่ คือ ดร.ปิแอร์ ปูจิ (Jean Pierre Petit) นักวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์จักรวาลก็ต้องยอมรับว่า นี่ไม่ใช่เรื่องตลกหรือเรื่องพิเรนทร์ของนักวิทยาศาส ตร์สติเฟื่องที่สร้างจดหมายปลอมว่าเป็นจดหมายจากมนุษ ย์ต่างดาวขึ้นมาได้ มิหนำซ้ำ วิทยาการหลายอย่างที่นำเสนอในจดหมายนั้น ได้มีการนำไปประยุกต์ทดลองในปัจจุบันด้วย จดหมายเหล่านี้และเนี้อหาที่เป็นวิทยาการชั้นสูงของม ันคือหลักฐานที่ดีที่สุดในการยืนยันว่า มีการดำรงอยู่ของมนุษย์ต่างดาวอยู่แล้วภายในตัวนั่นเ อง...
อันที่จริง จุดประสงค์ในตอนแรกที่มนุษย์ต่างดาวยูมิตมาเยือนโลกใ บนี้คือมาสำรวจวิจัยเท่านั้นเอง แต่เขาเกิดอยากรู้ปฏิกริยาของชาวโลกว่า ถ้าหากชาวโลกรู้ว่ามีมนุษย์ต่างดาวที่มีรูปร่างหน้าต าเหมือนมนุษย์ มาแอบอาศัยอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ผู้คนส่วนใหญ่จะรู้สึกกันอย่างไร เขาจึงทดลองส่งจดหมายไปถึงเชสม่า และ็ส่งติดต่อกันมาเรื่อยๆ เนื้อหาของจดหมายส่วนใหญ่เกี่ยวกับวิทยาการเทคโนโลยี ่ขั้นสูง ประวัติศาสตร์ของดาวอุมโม และสังคมของมนุษย์ต่างดาว
ในปีค.ศ.1967มนุษย์ต่างดาวยูมิตได้ส่งจดหมายฉบับหนึ่ งมาให้เชสม่าและพวกว่ายานอวกาศของพวกเขาจะมาร่อนลงที ่ชานเมืองมาดริดในวันรุ่งขึ้น เชสม่าเองก็ยังไม่แน่ใจในจดหมาย จึงร่างจดหมายพิสูจน์ยืนยันรับรองกับเพื่อนๆทุกคนให้ เซ็นชื่อเป็นพยายไว้ก่อน พอวันรุ่งขึ้นยานอวกาศก็มาจริงๆ เป็มที่ประจักษ์ของผู้คนจำนวนมาก และยังมีร่องรอยปรากฎให้เห็นบนพื้นดินด้วย..หลังจากน ั้น เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวยูมิต หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปในนามของ อุมโม(ummo) ก็เริ่มเป็นที่ทราบกันในวงการกว้างขึ้นกว่าเดิม
หลังจากหายข่าวคราวไปชั่วระยะหนึ่่ง จดหมายจากมนุษย์ต่างดาวยูมิตก็เริ่มเปลี่ยนโทนไปจากเ ดิม จดหมายเริ่มเปลี่ยนจากเนื้อหาเรื่องยานอวกาศ และโครงสร้างจักรวาล แล้วหันมาเตือนชาวโลกเรื่องความพยายามคิดค้นระเบิดมห าประลัยที่ชื่อว่า ระเบิดพลาสม่า ซึ่งมีอานุภาคร้ายแรงกว่านิวเคลียร์หลายหมื่นเท่าและ สามารถทำลายโลกนี้ให้เป็นจุลได้ภายในพริบตา...และพูด ถึง อภิปรัชญา และโลกหลังความตายของพวกเขาด้วย...

]


นำมาจาก http://www.thaigaming.com/10587-post1.html
13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-12-11 09:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้