ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 5646
ตอบกลับ: 9
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มณีโคตร

[คัดลอกลิงก์]


เรื่องราวเก่าๆ.....แต่นำมาเล่าใหม่....เผื่อใครที่ยังไม่รู้


ต้นมณีโคตร เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่กลางคอนพะเพ็ง


       “น้ำตกคอนพะเพ็ง” เป็นน้ำตกเลื่องชื่อของแขวงจำปาสัก สปป.ลาว แม้จะเรียกว่าน้ำตก แต่จริงๆ แล้วคอนพะเพ็งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำโขง โดยคำว่า “คอน” ในภาษาลาว หมายถึง “แก่ง” นั่นเอง โดยคอนพะเพ็งถือเป็นคอนหรือแก่งขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดในแม่น้ำโขง ส่วน “พะเพ็ง” นั้นหมายถึง “พระจันทร์วันเพ็ญ”
      
       แก่งบริเวณคอนพะเพ็งเป็นแก่งขนาดใหญ่ ความสูงของแก่งกว่า 10 เมตร ทำให้สายน้ำโขงที่ไหลบ่ามาในบริเวณนี้เชี่ยวกรากดุดัน ยิ่งเมื่อสายน้ำกระโจนลงสู่แก่งหินเบื้องล่างอย่างรุนแรงเกิดเป็นน้ำตกอันยิ่งใหญ่ตระการตา จนได้ชื่อว่าเป็น “ไนแองการ่าแห่งเอเชีย”
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-10 08:46 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รูปถ่ายต้นมณีโคตรที่เด็กๆ นำมาขายเป็นของที่ระลึกที่น้ำตกคอนพะเพ็ง
      

นอกจากความสวยงามอลังการแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่อยู่คู่น้ำตกคอนพะเพ็ง คือ “ต้นมณีโคตร” หรือมะนีโคด ในภาษาลาว เป็นต้นไม้เก่าแก่สันนิษฐานว่ามีอายุหลายร้อยปีหรืออาจถึงพันปี ขึ้นอยู่บนแก่งหินกลางแม่น้ำโขง ชาวลาวนับถือว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์และเชื่อว่ามีต้นเดียวในโลก ตามตำนานเรียกว่าเป็น “ต้นชี้ตายปลายชี้เป็น” โดยหากเอาด้านหัวของกิ่งชี้ไปที่ใครคนนั้นก็จะตาย แต่หากใช้ด้านปลายของกิ่งชี้คนตายก็กลับฟื้นขึ้นมาได้
      
       แกนของกิ่งต้นมณีโคตรหากตัดดูจะเห็นเป็น 3 สี คือสีนวลเหมือนไข่ไก่ สีม่วง และสีชมพู เป็นที่มาของชื่อมณีโคตร
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-10 08:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รูปถ่ายอีกมุมหนึ่งของต้นมณีโคตร
      

มณีโคตรต้นนี้ มองด้านหนึ่งคล้ายเขาควาย มี 3 กิ่งหลักๆ กิ่งหนึ่งหันไปฝั่งลาว ชาวลาวเชื่อว่าใครได้กินผล (หมาก) ที่เกิดจากกิ่งนี้จะแก่ชราขึ้น กิ่งหนึ่งหันไปทางเขมร เชื่อว่าใครกินผลของกิ่งนี้จะกลายเป็นลิง และอีกกิ่งหนึ่งหันไปทางฝั่งไทย เชื่อว่าใครที่ได้กินผลจากกิ่งนี้ จะหนุ่มขึ้น เยาว์วัยขึ้น บ้างก็ว่าไม่ว่ากินจากกิ่งไหนก็จะมีกำลังวังชาเหนือมนุษย์ และบ้างก็เชื่อว่าปลายกิ่งทั้งสามที่ชี้ไปทางกัมพูชา ไทยและลาว หมายถึงว่าทั้งสามประเทศจะเจริญเป็นมรกตแห่งอินโดจีน แต่ก็ยังไม่เคยมีใครได้กินผลจากกิ่งใดเลย เพราะสายน้ำเชี่ยวกรากทำให้ไม่เคยมีใครเข้าไปถึงต้นมณีโคตรต้นนี้ ยกเว้นนกกระยางขาวและอีกาที่มักจะบินไปเกาะอยู่เต็มต้นมณีโคตรทุกๆ วันพระ

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-10 08:48 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ศาลที่สร้างขึ้นบนฝั่งใกล้น้ำตก
      


นอกจากยังเชื่อกันว่า กิ่งของต้นมณีโคตรเมื่อนำไปฝนกับน้ำแล้วดื่มก็จะรักษาได้สารพัดโรค ทั้งอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคตับ โรคเบาหวาน โรคที่หมอรักษาไม่ไหวแล้ว พอได้กิ่งมาฝนน้ำดื่มไปสักอาทิตย์หนึ่งก็หายจากโรค แม้แต่ฝรั่งเศสในสมัยที่ยังปกครองลาวเคยพยายามส่ง ฮ.(เฮลิคอปเตอร์) เข้าไปบินใกล้ๆ เพราะดูถูกในความเชื่อของคนลาว แต่ ฮ. ก็ต้องตกลงอย่างไม่รู้สาเหตุ ด้วยความเชื่อว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ จึงมีการสร้างศาลไว้ให้คนบูชาไว้ที่ฝั่งบริเวณใกล้ๆ กับน้ำตก
      
       น่าเสียดายที่ว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2555 ต้นมณีโคตรได้โค่นล้มลงแล้ว สาเหตุที่ต้นไม้ล้มเชื่อว่าเนื่องมาจากต้นไม้อายุมากแล้ว และก่อนหน้านั้นก็มีพายุลมแรงและฝนตกติดต่อกัน 3 วัน ทำให้ต้นไม้ทานกระแสลมและกระแสน้ำไม่ไหว

5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-10 08:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คอนพะเพ็งวันนี้ที่ไม่มีต้นมณีโคตร
      



    แต่มีบางกระแสข่าวเล่าว่า เหตุที่ต้นมณีโคตรโค่นล้มเนื่องมาจากการบวงสรวงที่ต้องกระทำทุกปีนั้น ในปีนี้ได้กระทำผิดวิธี ทำให้ต้นไม้โค่นลง โดยหลังจากเริ่มทำพิธีเมื่อเวลา 1 ทุ่ม จากนั้นตอน 4 ทุ่มต้นไม้ก็ล้มลง เป็นที่ฮือฮาน่าตกใจสำหรับชาวลาวเป็นอย่างยิ่ง
      
       ในขณะนี้ต้นมณีโคตรที่โค่นล้มยังคงถูกมัดไว้กับแก่งหินในบริเวณคอนพะเพ็ง โดยใช้วิธีหย่อนคนลงมาจาก ฮ. เพื่อนำเชือกมามัดต้นไม้ไว้กับแก่งหินไม่ให้ลอยหายไป แต่ยังไม่สามารถนำต้นขึ้นมาบนฝั่งได้เนื่องจากต้นไม้มีขนาดใหญ่มากและกระแสน้ำเชี่ยวมากเช่นกัน โดยหากเมื่อนำขึ้นมาแล้วจะนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ต่อไป
      
       ส่วนกิ่งน้อยใหญ่ที่หลุดลอยไปกับสายน้ำนั้นคนที่เก็บได้ก็นำไปบูชา บ้างก็นำไปขาย กิ่งขนาดเท่าแขนขายได้ราว 40,000 บาท กิ่งใหญ่ๆ ที่ลอยไปทางฝั่งเขมรว่ากันว่ามีคนประมูลไปในราคา 20,000 เหรียญ นอกจากนี้ยังมีแก็งค์มิจฉาชีพนำกิ่งไม้ชนิดอื่นมาหลอกขายว่าเป็นกิ่งมณีโคตร ถูกตำรวจจับไปก็มี
      
       น่าเสียดายยิ่งนักที่ต่อจากนี้ไป ต้นไม้มณีโคตรแห่งน้ำตกคอนพะเพ็ง คงเหลือเพียงชื่อและตำนานให้เล่าขานกันเท่านั้น
      
      
ที่มา  ASTVผู้จัดการออนไลน์
20 สิงหาคม 2555 16:38 น.

ขอบคุณครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย morntanti เมื่อ 2013-7-11 00:36

ไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่าพอดีเจอใน facebook
ในที่สุดก็ขุดค้นเจอ..เจดีย์ขนาดใหญ่กลางแม่น้ำโขง
ระหว่างเมืองเชียงแสนฝั่งไทยกับเมืองต้นผึ้งฝั่งลาว
หลังจากเป็นเรื่องเล่ามายาวนานว่ากลางลำน้ำโขง
มีวัด พระพุทธรูป เจดีย์และวิหารจมน้ำ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขอบคุณครับ
ชัดเจน สาธุ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้