|
[url=][/url]
‘เสี่ยอู๊ด’ไลน์ลาโลก‘11ต้นเหตุปิดฉากชีวิต’ ‘เสี่ยอู๊ด’ไลน์ลาโลก‘11ต้นเหตุปิดฉากชีวิต’
การเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายของ “สิทธิกร บุญฉิม” หรือ “เสี่ยอู๊ด” นักสร้างพระชื่อได้ทิ้งข้อสงสัยไว้มากมาย แต่ถ้าดูเนื้อความในจดหมายที่เสี่ยอู๊ดทิ้งไว้ในห้องพักก่อนจบชีวิตจะพบว่า ทุกเรื่องมาจากความ “น้อยเนื้อต่ำใจ” จากการกระทำที่ผ่านมาเป็นเหตุผลใหญ่
จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 22 ตุลาคม เวลา 07.41 น. เสี่ยอู๊ดส่งข้อความผ่านทางไลน์ถึง “ไตรเทพ ไกรงู” ผู้สื่อข่าว “คม ชัด ลึก” เพื่อนสนิทคนหนึ่ง โดยระบุเป็น “คำคมข้อคิด จากบัณฑิต ม.3 ผู้ให้ทำชั่ว ไม่มี..ผู้รับทำดี ไม่มีชั่ว”
จากข้อความดังกล่าว “เสี่ยอู๊ด” เลือกที่จะสื่อความหมายโดยเจาะจงว่า “11 เรื่องจริงอุทาหรณ์สอนใจ!!” จากนั้นได้พร่ำพูดถึงความในใจเพื่อบ่งบอกอะไรบางอย่าง
การจะหาคนดีที่ไหนก็ไม่มีแน่ ถ้าตัวเราไม่ดีแท้ในสายตาเขา สำหรับปุถุชนคนทั่วไปที่ยังยึดติดลาภ ยศ สุข สรรเสริญ วันใดเราหมดสิ้นหรือไม่ให้ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ บุคคลเหล่านั้นก็ใช่จะเห็นเราว่าเป็นคนดี ถ้าหวังให้ใครดีกับเราตลอด เราก็ต้องคิดดี พูดดี และทำดี ให้กับเขาตลอดไป แม้เราจะเคยทำดี เคยช่วยเหลือ เคยให้เขามามากมาย ยิ่งใหญ่ และยาวนานขนาดไหน แต่ถ้าวันใดเราขัดใจไม่ดีกับเขาแม้เพียงครั้ง เขาก็จะเห็นเราไม่ใช่คนดีทันที
“ผมเชื่อ ไม่ว่าใครๆ ในโลกก็อยากให้ อยากช่วย หรืออยากทำดี กับคนที่เป็นคนดีจริงๆ แต่ในความเป็นจริง คนที่จะดีจริง ดีตลอดไป กลับไม่มี เพราะถ้าเขาไม่ได้รับสิ่งที่ดีจากเราตลอดไป การกระทำก็จะปรับเปลี่ยนไปตลอดกาล เหตุการณ์ที่ผมจะกล่าวข้างล่างต่อไปนี้ ผมมิได้ว่าใครไม่ดี หรือจะว่าใครชั่ว ก็หาไม่ หากแต่การกระทำของทุกท่าน เป็นธรรมชาติความจริงของมนุษย์ครับ”
ขอยกอุทาหรณ์ดังนี้...
ทั้งนี้ใน 11 อุทาหรณ์ เสี่ยอู๊ดพูดถึงความน้อยเนื้อต่ำใจในสิ่งที่เคยกระทำร่วมกับบุคคล และสถานที่ต่างๆ ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงฆ์ชื่อดัง วิทยาลัยสงฆ์ชื่อดัง สภาสังคมสงเคราะห์แห่งหนึ่ง มูลนิธิ วัดชื่อดังอีก 3 แห่ง โรงพยาบาล นักเรียนทุน พระชื่อดัง และดาราคนหนึ่ง โดยสรุปเนื้อหาดังนี้
“ผมเคยมอบเงิน 186 ล้านบาท สร้างศูนย์กลางมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และมอบเงินกว่า 100 ล้านให้สถานสงเคราะห์ดังกล่าว สมัยนั้นทุกคนยกย่องผมเป็นประธาน แต่เมื่อผมติดคุก ตกเป็นข่าวเสื่อมเสีย ทุกคนต่างไม่อยากเกี่ยวข้องกับผม รังเกียจสถานภาพนักโทษของผม ไม่ต้อนรับ และไม่รับผิดชอบต่อสัญญาที่เคยทำไว้กับผม เหตุเพราะเขาเห็นผมเป็นคนชั่วไปแล้ว”
นอกจากนี้ เสี่ยอู๊ดยังพูดถึงบรรดามูลนิธิ และโรงพยาบาลบางแห่งว่า เคยอุปถัมภ์เงิน 132 ล้านบาท แต่หลังจากต้องคดีความติดคุกเสื่อมเสียสถานภาพ นับแต่บัดนั้น คนเหล่านี้ไม่เห็นความสำคัญเหมือนครั้งแรกๆ จากที่เคยเอาอกเอาใจ ตอนนี้ทั้งทีมก็เปลี่ยนไปทันที
ส่วนมูลนิธิแห่งหนึ่งเคยให้ทุนครบ 100 ล้านบาท สมัยนั้นมูลนิธิทำโล่มามอบให้ แต่พอเกิดเรื่อง ประธานมูลนิธิพูดกับดีเอสไอว่า “สิทธิกร บุญฉิม ทำให้มูลนิธิเสื่อมเสียชื่อเสียง" ทุกคนรังเกียจ ทุกคนว่าผมชั่ว
เสี่ยอู๊ดยังพูดถึงการสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับบ้านเกิดใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ว่า เคยสร้างสาธารณประโยชน์ให้วัด และโรงเรียนในบ้านเกิด แต่เมื่อติดคุกเสื่อมเสียชื่อเสียง เลยไม่มีชื่อติดอาคารให้เห็น
ขณะเดียวกัน เสี่ยอู๊ดยังพูดถึงการหาเงินทองให้วัดชื่อดังหลายแห่ง แต่เมื่อเกิดเรื่องร้ายแรงในชีวิตทุกสิ่งกลับตาลปัตร พระชื่อดังที่เคยสนิทด้วยไม่ยอมต้อนรับ โดยเสี่ยอู๊ดใช้คำว่า “สรุปพระทั้งวัดเห็นผมเป็นคนไม่ดีไปแล้ว” ไม่เหมือนสมัยก่อนที่เจ้าอาวาสเอาใจทุกอย่าง แต่หลังจากที่เข้าคุกอาคารเรียนที่สร้างเสร็จปรากฏจารึกชื่อผู้เกี่ยวข้องมากมาย ยกเว้นชื่อนักโทษ ทั่วทั้งวัด ไม่มีสิ่งใดที่จะทำยกย่องนักโทษคนนี้
ส่วนนักเรียนทุนที่เคยอุปการะผู้คนเล่าเรียนจำนวนมากรวมเกือบร้อยคน แจกทุนทั่วไปมีเป็นพันๆ คน สมัยนั้นนักเรียนทุกคนเวลาคุยกันจะนั่งกับพื้น หลังติดคุกนักเรียนทุนส่วนใหญ่กลับไม่ยอมพบหน้า โดยเฉพาะนักเรียนทุน 57 คน ที่จบการศึกษาไปแล้ว แต่กลับไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่รับพระราชทานปริญญาแล้วจะใส่ครุยพร้อมนำปริญญาบัตรมาขอถ่ายรูปด้วย และไม่มีนักเรียนทุนคนใดจะกล้าเปิดเผยต่อสาธารณชนในเฟซบุ๊ก, ไทม์ไลน์, อินสตาแกรม ว่า สำเร็จการศึกษาจากการเคยรับเงินทุนจากนักโทษในคุก!!! อดีตนักเรียนทุนทั้งหลายที่ทำเช่นนี้กับผมเพราะต่างเห็นพี่สิทธิกร บุญฉิม เป็นคนชั่ว ไม่น่าเคารพนับถือไปแล้ว เมื่อผมติดคุกกลับมีพ่อแม่และนักเรียนทุน(หลายคน)ตำหนิกล่าวว่า นักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็ทยอยหายไปจากชีวิต แม้แต่นิสิตแพทย์จุฬาฯ นักเรียนนายร้อย จปร. ที่เคยเขียนจดหมายพรรณนาว่าอยากเจอ ถึงวันนี้ 8 ปีที่ไม่เคยได้พบหน้ากัน
สุดท้ายเสี่ยพระชื่อดังได้เจาะจงถึง “ดาราคนหนึ่ง” โดยระบุว่า เคยช่วย เคยให้ แก่ครอบครัวของดาราคนหนึ่ง สมัยนั้นครอบครับดาราดีกับตนอย่างมาก ต่อมาเมื่อเกิดเรื่องดาราคนนี้ไปบอกสื่อว่า ไปแอบอ้างว่ารู้จักเขา จึงต้องตำหนิเขา นับแต่บัดนั้นดาราคนนี้และครอบครัวว่าผมเป็นคนไม่ดี ต่อมาติดคุก 5 ปี พวกเขาไม่เคยไปเยี่ยมเลย ล่าสุดผมออกจากคุกเขาให้ข่าวว่า “ขอเตือนเหล่าดารา ระวังจะถูกผมหลอกลวง” วันนี้ผมเป็นคนชั่วร้าย เขาจึงกล่าวเช่นนั้น ทั้งๆ ที่ยังอาศัยอยู่ในตึกที่ผมประมูลจากแบงก์เอากลับมาให้ฟรีๆ นอกจากเขาจะเห็นผมเป็นคนชั่วแล้ว พ่อแม่เขาก็ไม่คบและไม่ยอมพบหน้าผมนับตั้งแต่ได้บ้านไป อีกเลย...
นี่คือข้อความที่เสี่ยอู๊ดเลือกใช้คำว่า “อุทาหรณ์สอนใจ” โดยสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทราบว่า สาเหตุทำให้นักสร้างพระคนดังตัดสินใจจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 44 ปี เกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจจากบุคคลที่รักใคร่ สนิทชิดเชื้อกันมายาวนาน แต่มาวันหนึ่งเมื่อเสี่ยคนดังก้าวสู่จุดตกต่ำของชีวิตกลับไม่เคยมีใครเหลียวแลหรือให้โอกาสจนต้องใช้ความตายเป็นที่พึ่งสุดท้าย
- See more at: http://www.komchadluek.net/detai ... thash.LKoFhiuj.dpuf |
|