ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1979
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

dog tag ประวัติเอกบุคคลบนแผ่นป้ายเหล็ก

[คัดลอกลิงก์]






dog tag ประวัติเอกบุคคลบนแผ่นป้ายเหล็ก




ช่วงนี้ไม่ว่าจะเดินไปไหนต่อไหน สายตาเป็นต้องปะทะกับแผ่นสเตนเลสซึ่งมีชื่อเรียกกันสั้นๆ ว่า "dog tag" หรือชื่อทางการว่า "Military identification" แกว่งไปมาบนแผงหน้าอก ลำคอของหนุ่มๆสาวๆวัยทีนเอจ ซึ่งกำลังนิยมห้อยคู่สร้อยเส้นยาวๆ ตามห้างร้านตู้โชว์เต็มไปด้วยแผ่นป้ายที่สลักสำเร็จเรียบร้อยด้วยถ้อยคำวลีหลากประโยค
      
       ตลาดนัดสวนจตุจักร แหล่งผลิต dog tag แผ่นสเตนเลสเปล่าๆ ถูกสอดเข้าเครื่องออกมาเป็นข้อความสดๆร้อนๆ ส่งต่อไปยังกลุ่มตามกระแสสังคมวัยรุ่นนิยม ในความเห่อตามกระแสยังคงมีกลุ่มคนที่เห็นประโยชน์ของแผ่นป้าย ประวัติของแต่ละบุคคลสลักเรื่องราวให้ติดตามเมื่อถึงยามฉุกเฉิน
      
       ฮิปฮอปสร้างกระแสฮิต dog tag
       "สมัยสงครามเวียดนาม ทหารสหรัฐฯทุกคนนำไปแขวนห้อยคอ 2 แผ่นและที่ผูกไว้กับรองเท้าทั้ง 2 ข้าง ข้างละอัน รวมทั้งหมดมีติดตัวอยู่ 4 แผ่น เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหากเกิดกรณีทหารถูกสะเก็ดระเบิด จำนวนทหารที่ตายในสมรภูมิมีเป็นจำนวนมาก การสู้รบยังติดพัน ไม่สามารถจัดส่งศพทหารที่เสียชีวิตกลางสมรภูมิสู่มาตุภูมิได้ จึงทำการนำแผ่นด็อกแท็กใส่ไว้ในปาก 1 แผ่นพร้อมกับนำอีกแผ่นกลับประเทศแม่"
      
       "สำหรับ 2 แผ่นที่ผูกแนบกับเชือกผูกรองเท้า ใช้ในกรณีที่ด็อกแท็กห้อยคอหลุดร่วงจากการถูกทำลายของฝ่ายตรงข้ามจนได้รับความเสียหาย จะใช้ 2 อันที่เหลือแยกส่งกลับและใส่ไว้ในปากของทหารที่เสียชีวิต หากมีโอกาสกลับไปด็อกแท็กที่ใส่ไว้ในปาก ซึ่งสลักหมายเลขประจำตัวของทหารแต่ละนาย กลุ่มเลือด สังกัดช่วยให้สามารถล่วงรู้ได้ว่าศพที่ฝังอยู่ใต้ผืนดินบริเวณนั้นคือใคร ทหารจำนวนมาก ห้อยด็อกแท็ก 2 อัน เวลากระทบกันก่อให้เกิดเสียง จึงมีการนำเอาขอบยางมาหุ้มไว้กันเสียงกระแทก"
      
       "บ้านเราทหารไม่เคยมีป้ายแขวนจริงๆจังๆ บางโอกาส เท่าที่เคยเห็นและเคยได้ยินมาว่าสมัยสงครามโลก รบกับญี่ปุ่น ทหารจะแขวนแผ่นป้ายวงกลม เจาะรู 2 ข้างซ้ายขวา ข้างในสลักปี และหมายเลขประจำตัวทหารแต่ละนาย กึ่งกลางทำเป็นรอยประ สามารถหักครึ่ง แยกใส่ปากและอีกส่วนส่งกลับคืนสังกัดทหารได้"
      
       อำนวย โสมสำราญ เจ้าของร้านรับทำป้าย dogtag โครงการที่ 12 วัย 45 ปี ทำมานาน 14 ปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2534 ควบคู่กับการเปิดร้านขายเครื่องอุปกรณ์สนาม แคมปิ้ง เล่าที่มาของด็อก แท็กซึ่งถูกนำมาใช้ในกองทัพทหารสหรัฐฯ มานาน สำหรับบ้านเรายังไม่เป็นที่นิยม ยกให้เป็นเรื่องของความสำคัญมากนัก
      
       อำนวยกล่าวถึงคุณประโยชน์เพิ่มเติมจากเดิมต่อไปว่านอกจากจะสลักชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว สำหรับบุคคลที่มีโรคประจำตัวต่างๆ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เจ้าตัวไม่สามารถเอ่ยปากขอความช่วยเหลือได้ ผู้ที่พบเห็นป้ายสามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที หรือแพทย์สามารถจ่ายยาที่ไม่เสี่ยงต่อการแพ้ยาให้ได้ทันที ถ้ามีคนตาย สภาพศพจำไม่ได้ เหลือแต่โครงกระดูก ถ้ามีป้ายสามารถระบุได้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร มาจากไหน
      
       อำนวยแจงข้อดีต่อไปว่าเอื้อประโยชน์ได้หลายทาง บางคนเอาไปทำเป็นพวงกุญแจ อย่างผมเองทำเป็นพวงกุญแจ เคยทำหาย แล้วมีคนโทรศัพท์ให้ไปรับคืน ถือเป็นประโยชน์อีกอย่าง บางคนที่บ้านมีรถหลายคันนำไปห้อยติดกุญแจรถ สลักบอกชื่อรถ ทะเบียน เพื่อให้จำได้ง่าย บางคนทำเป็นพวงกุญแจรีสอร์ต บางคนสั่งทำเป็นป้ายคล้องกล้อง ทำเป็นป้ายรหัสตู้เซฟ ป้ายสลักหมายเลขบัญชี แหวกแนวหน่อยทำเป็นต่างหู สร้อยข้อมือ
      
       "ต่างประเทศให้ความสำคัญสำหรับทหาร คนทั่วไปทำได้แต่ร้านรับทำมีน้อย และมีราคาแพง พอมาเห็นในบ้านเรา ชาวต่างประเทศส่วนใหญ่จึงให้ความสนใจ สั่งออเดอร์กันครั้งละมากๆ ส่วนใหญ่นิยมตอกเป็นประวัติของคนๆนั้น ตั้งแต่ชื่อ นามสกุล บัตรประจำตัว กลุ่มเลือด คนไทยแค่เดินเข้ามามองๆ บางคนมองว่าทำไปทำไม เป็นการแช่งตัวเองเปล่าๆ"
      
      
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-10-23 08:25 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
"ป้ายทหารบอกชื่อยศ นามสกุล  กลุ่มเลือด วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประจำตัว สังกัดทหารมีหมายเลขประจำตัว 10 ตัว  คนที่มาสั่งทำป้ายทั่วไปไม่มีแบบเฉพาะ เขียนได้ 5 บรรทัด มีทั้งเขียนเป็นกลอน  หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน มีหมายเลขทั้งหมด 13 ตัว  แผ่นป้ายสามารถรองรับตัวอักษรได้มากที่สุด 16 ตัว แผ่นเปล่าแผ่นละ 60 บาท  แผ่นที่ตอกแผ่นแล้ว 120 บาท มีขอบยางเพิ่มขอบละ 20 บาท "
       "ที่มีมาแปลกๆเขียนเป็นวลีต่างๆ อย่างบางคน ให้สลักชื่อ  บรรทัดถัดมาเขียนว่าอั้งยี่ ยากูซ่า แมงดาเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้  บางคนสลักเป็นวลีสุดฮิตอย่าง ไอ เลิฟ ยู หรืออาจจะสลักเป็น ฟอร์เก็ต มี  นอตก็มี"

       "เหมาะสำหรับเด็กและคนแก่ทำห้อยคอ เผื่อเวลาหลงทาง  ถ้าไม่โดนระเบิด หรือสูญหายสามารถเก็บไว้ได้นาน เพราะเป็นสเตนเลสไม่เป็นสนิม  เดี๋ยวนี้ทำตามแฟชั่น อย่างเด็กฮิปฮอป เล่นสเกต  นำไปแขวนห้อยเป็นเครื่องประดับไปแล้ว เป็นอมตะไม่มีวันตาย เหมือนกางกางยีนส์  ตราบใดที่ยังมีทหารอยู่"

ถัดจากโครงการที่ 12 เดินตามทางจนถึงโครงการที่ 14 ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้ายทำป้ายแขวนคอ  หรือด็อกแท็กอีกร้านหนึ่ง ระวิทย์ สุรสกุลวัฒน์ เจ้าของร้านวัย 36 ปี เปิดร้านมาได้ 5 ปีโดยก่อนหน้านี้ขายอุปกรณ์สนามควบคู่  เมื่อได้งานประจำจึงเหลือเพียงหันมาทำป้ายด็อกแท็ก ระวิทย์ ชายหนุ่มรูปร่างบึกบึน  ท่าทางดุดันพูดถึงกระแสความนิยมด็อกแท็กในบ้านเราเป็นที่ต้องการอยู่เรื่อยๆ กระทั่ง 3 เดือนที่ผ่านมาด็อกแท็กได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเด็กฮิปฮอป

"ด็อกแท็กบ่งบอกความเป็นตัวคนทำ  นิยมมากว่า 10 ปี ยังนิยมเรื่อยๆ ไม่ตกรุ่น 30-40 ปียังอยู่ได้  ส่วนใหญ่ไม่ใช่เป็นแฟชั่น นึกถึงตัวเอง สลักชื่อ-สกุล  ถ้าเป็นลมล้มช่วยตัวเองไม่ได้คนที่มาช่วยดูเห็นแผ่นช่วยแก้ไขได้ 3 เดือนที่ผ่านมาเด็กฮิปฮอป แนวอัลเทอร์นิยม กระแสมาจากศิลปินเพลงสไตล์ลินคินปาร์ค  ทำให้มีลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามา แต่ก่อนทำเป็นแฟชั่นแค่ 10 % เดี๋ยวนี้เพิ่มเป็น 35 % ปกติทำได้วันละ 30 ชุดช่วงหนังจีไอเจนฟีดแบ็กแรงเพิ่มเป็น80ชุด"

       "เด็กวัยรุ่น  คนบางกลุ่มไม่เข้าใจในการใช้งาน ไม่รู้ว่าเดิมมีที่มาที่ไปยังไง ใช้ในคนกลุ่มไหน  รู้แค่ว่าในแผ่นเป็นชื่อบ่งบอกความเป็นตัวของคนๆนั้นเอง  อย่างสึนามิไม่ต้องไปตรวจดีเอ็นเอ ลดค่าใช้จ่าย ความยุ่งยากในการพิสูจน์  บางทีไม่อยากพูดถึงสึนามิปวดใจ และไม่ได้คิดว่าจะเอาโอกาสจากตรงนั้นมาหากิน  หรืออย่างเดินไปแพ้แดด คนอื่นเห็นสามารถช่วยได้  แพทย์รู้ว่าแพ้ยาอะไรสามารถช่วยได้จุดนี้"

       "ลูกค้าเฉลี่ยอายุไม่ต่างกัน  ผู้ปกครองทำให้ลูก วัยรุ่นสั่งทำเป็นป้ายรับน้อง สถานีวิทยุทำแจกแฟนเพลง  ทำไปแขวนให้สุนัข เรียกว่ามีทุกกลุ่มทุกวัย ราคาเทียบต่างประเทศถูกกว่า อันละ 180 บาท ชุดใหญ่มี 2 อันราคา 280 บาท ราคาครึ่งต่อครึ่ง  ชีวิตเค้าประโยชน์ของคนคือกำไรของผม ไม่เยอะมาก ถามว่าคุ้มไหมถ้าไม่หาย  เก็บได้ตลอดชีวิต"

อำนวยบอกว่าอุปกรณ์นำเข้าจากอเมริกาเท่านั้น  บ้านเราหรือแถบเอเชียไม่มีผลิต ราคาเครื่องละ 4,500 เหรียญ มีหลายรุ่น  ทั้งแบบกะทัดรัด สามารถถอดเป็นชิ้นยกไปไหนต่อไหนได้ หรือแบบโบราณยกทีใช้คนช่วย 4-5 คน ส่วนระวิทย์บอกว่าอุปกรณ์ของเขาตกเครื่องละแสนห้า มองระยะสั้นถือว่าไม่คุ้ม  มองผลระยะยาว เครื่องเหล็กอยู่ได้นาน เมื่อถามว่าด็อกแท็กมีที่มาอย่างไร  ระวิทย์คาดเดาว่าน่าจะเป็นแสลง มาจากครั้งแรกใช้กับสุนัข ต่อมาหน่วยทหารนำไปใช้  จึงนำมาเปรียบเหมือนป้ายห้อยคอสุนัข

"จุดประสงค์ให้ทหารออกไปรบ  เผื่อได้รับบาดเจ็บ พกติดตัว 3 แผ่น ห้อยคอ 2 แผ่นอีกแผ่นแนบกับรองเท้าบูท  เผื่อถูกฝ่ายตรงข้ามทำลายสถานะป้ายบ่งบอก ในหมู่ทหารสหรัฐฯ จะรู้กันว่าถ้าป้าย 2 แผ่นห้อยคอถูกทำลาย ยังเหลืออีกแผ่นร้อยแนบไว้กับเชือกรองเท้า  ทหารบ้านเราเท่าที่ผ่านมาใช้ในเวลาไปราชการสงครามที่เกาหลี เวียดนาม  ลาวและล่าสุดที่สงครามอิรัก องค์การสหประชาชาติเป็นฝ่ายจัดทำให้ สุนัขสงครามก็ใส่  ผู้คุมสุนัขเสียชีวิต สุนัขหลงทางพอเห็นคนในชุดทหาร ความเคยชินจากการถูกฝึก  มักวิ่งเข้าหา พอทหารเห็นป้าย  ช่วยให้รู้ว่าเป็นสุนัขสังกัดกรมไหน"

แค่แฟชั่นหรืออมตะนิยม

อแมนด้า  และออสการ์ 2 พี่น้องชาวนอร์เวย์ วัย 18 ปีและ 17 ปีเพิ่งมาถึงเมืองไทยเพียงวันเดียว กับสถานที่เที่ยวแห่งแรกตลาดนัดจตุจักร  ป้ายของอแมนด้าสลักชื่อและนามสกุล พร้อมที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์  เช่นเดียวกับป้ายของออสการ์น้องชาย  ต่างกันที่ป้ายของออสการ์เพิ่มเติมกลุ่มเลือดลงไป อแมนด้าเล่าว่าในประเทศนอร์เวย์  ด็อกแท็กเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อแต่งตัวเลียนแบบชุดทหาร  สร้อยและป้ายดูเหมาะสม "เข้ากับชุดทหาร ใส่แล้วเท่  มีประโยชน์ถ้าเกิดไม่สบาย"

ปรัชญา มาจันดี ชายหนุ่มชุดทหารวัย 23 ปี กำลังขะมักเขม้นกับการกรอกข้อความที่ต้องการลงบนแบบฟอร์มที่ทางร้านยื่นให้  ปรัชญาบอกสาเหตุที่สนใจป้ายแขวนคอ เพราะเห็นว่าสวยดี  ถือเป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่ง "เคยเห็นในหนัง เป็นตัวแทนของคนคนนั้น  ส่วนตัวถือเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง  ดูเท่ดี"

ทิมเพื่อนสาวที่มาด้วยกันเล่าเสริม "คนไทยนิยมซื้อป้ายชื่อของทหารสหรัฐ หรือป้ายเขียนชื่อคนอื่น ที่เอามาขาย  บางอันอาจเป็นของทหารที่เสียชีวิตแล้วมาใส่"
เริ่มจากซื้อไปใช้เอง  เพราะเห็นว่าแปลกไม่เหมือนใคร พอถูกถามจากลูกค้าแถวบ้านมากเข้ายุ้ย-สงกรานต์  หญิงสาววัย 28 ปีจึงรับออเดอร์สั่งไปขาย "แปลก ไม่เหมือนใครดี  บ้านเราสไตล์เด็กวัยรุ่นจะออกเป็นเด็กแนว ไม่เหมือนใคร แต่ประโยชน์ก็มี  ส่วนตัวสั่งชุดใหญ่มี 2 แผ่นใส่เองและอีกแผ่นให้สุนัข ชอบหายบ่อย วันหนึ่งหายไป  มีคนเจอโทร.มาให้ไปรับคืน"

มิงค์-ศุภลักษณ์  หญิงสาววัยแรกรุ่นอายุ 16 ปี กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนพณิชยการจำนงค์  แย้มยิ้มจนเห็นเหล็กดัดฟัน ชูมือโชว์dog tag ซึ่งเพิ่งซื้อมาจากร้านย่านเมเจอร์รัชโยธินพลิกหน้าพลิกหลังให้ดู  ป้ายที่มิงค์โชว์ให้ดูนั้นด้านหน้า ก่อนจะบอกเหตุผลที่เลือกซื้อด้วยราคา 199 บาท  เพราะเห็นว่าสวยดี  ประกอบกับกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น

       แต่ถ้าจะถามถึงประวัติความเป็นมาของป้ายที่กำลังนิยม  มิงค์ส่ายหน้าเป็นคำตอบ  เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มกลุ่มใหญ่เมื่อเห็นป้ายร้านต่างตรงรี่เข้ามาหยิบๆจับๆ  เมื่อเห็นเพื่อนให้ความสนใจ เด็กคนหนึ่งในกลุ่มพูดออกมาว่าจะไปรบเวียดนามหรือ  อีกคนถามขึ้นมาพร้อมกันว่าใช้แล้วเท่รึป่าว ก่อนที่จะเดินจากไป  ในร้านเดียวกันชายหนุ่มหญิงสาววัยกลางคนนั่งรอป้ายสลักชื่อ-นามสกุล ที่อยู่  เบอร์โทรศัพท์  กลุ่มเลือดที่สั่งไว้ให้ลูกสาวซึ่งนั่งอยู่ข้างเคียง

"มีหลายคนอยากทำแต่ไม่รู้ว่าจะหาทำได้ที่ไหน  อย่างผมหามานานแล้ว อยากทำมานาน แต่หายาก ปกติเป็นคนแพ้ยาเยอะมาก  ต้องจดใส่กระดาษแผ่นเล็กๆติดตัวตลอดเวลา พอดีพาเพื่อนต่างชาติมาเที่ยว  จึงมาพบเจอร้านทำป้ายชื่อโดยบังเอิญ จึงตัดสินใจสั่งทำโดยไม่รีรอ  เขียนยาที่แพ้ทั้งหมด เบอร์ติดต่อคนใกล้ชิดที่บ้าน  เบอร์ภรรยาและลูก"

       "วัยรุ่นมองเป็นแฟชั่น  เรามองประโยชน์ใช้สอย เป็นประโยชน์มาก หากเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนสมควรจะทำเก็บไว้  เวลามีปัญหาอะไร คนที่พบเห็นเลขที่บัตร ไปค้นหาข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวได้ง่าย  บางคนมองโก้เก๋ถ้าไปเจอเกาะหลักแล้วจะรู้ถึงประโยชน์" พิชิต พงศ์ธเนศ  ผู้พิพากษาสมทบศาลยุติธรรม อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส  ซึ่งพาเพื่อนชาวต่างประเทศมาเดินเที่ยวสวนจตุจักร  เป็นเหตุให้บังเอิญได้เจอร้านด็อกแท็ก  ซึ่งเจ้าตัวหามานาน

       จะว่าไปแล้วสำหรับคนบางกลุ่ม  ในช่วงเวลาหนึ่ง ความนิยมสวมใส่ด็อกแท็กเป็นไปเพื่อความโก้เก๋โดยไม่รู้ที่มาที่ไป  ใส่ตามๆกัน ตามแฟชั่นที่กำลังนิยม  แต่สำหรับคนบางกลุ่มแล้วด็อกแท็กเป็นมากกว่าแฟชั่นวัยรุ่นนิยม  แต่หมายความไปถึงการทำหน้าที่คู่มือความปลอดภัยยามฉุกเฉิน  หรือแผนที่หาหนทางกลับบ้าน ความอมตะในแง่ประโยชน์ใช้สอยอเนกอนันต์และคงทนนานเท่านาน  


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9480000004306
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้