ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1465
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

◎ ตะปูสังฆวานร ◎

[คัดลอกลิงก์]
◎ ตะปูสังฆวานร ◎


เรื่องเล่าชาวสยาม ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ในอัลบั้ม: ศาสตร์และไสยเวทย์
◎ ตะปูสังฆวานร ◎
แท่งเหล็กเก่าคร่ำคร่า ที่เห็นในรูป ลักษณะคล้ายตะปูเก่า นั้น เป็นของดีแต่โบราณมาแล้ว เรียกกันว่า ตะปูสังฆวานร ตะปูสังขวานร นั้น นับเป็นวัตถุมีดีในตัวเครื่องรางกันภูตผี ในอดีตเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคาแก่กล้า เมื่อต้องการจะทำหารสร้างมีดหมอ หรืออาวุธใดๆ ที่ใช้ในการป้องกันภูตผีปีศาจ หรือคุณไสยต่างๆ สิ่งที่จะขาดมิได้เลยก็คือตะปูสังขวานร เนื่องจากมีอานุภาพในการป้องกันภูตผี คุณไสยต่างๆ สิ่งอัปมงคลทั้งหลาย ได้ผลชัดเจน
ตะปูสังฆวานร เกิดจากพญาวานรตนหนึ่งซึ่งลงมาจุติเกิดในภพภูมิของมนุษย์ แล้วเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังมิวายที่จะติดใจหลงไหลในฤทธิ์อำนาจของตนเองที่ติดตัวมาตั้งแต่ อดีตชาติ เมื่อเข้ามาบวชเรียนแล้ว พญาวานรก็ยังชอบที่จะใช้ฤทธิ์ใช้อำนาจที่มีอยู่เดิม ในการเหาะเหิรเดินอากาศเพื่อที่จะไปเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุ(สีขาวนวล) ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศธาตุ ซึ่งมิได้ถูกเทพ-เทวาอัญเชิญไปเป็นฐานพระเกตุแก้ว จุฬามณี (ฐานของพระเกตุแก้วจุฬามณีเป็นวัชรธาตุ)
เมื่อเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุได้ตามต้องการแล้ว พญาวานรก็นำไปหลอมละลายเข้ากับเงินยวง หรือเงินบริสุทธิ์ แล้วทำการประจุพลังปลุกเสกอริยธาตุขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีฤทธิ์มีอำนาจตามที่พญาวานรต้องการ จากนั้นจึงนำไปเก็บไว้ในถ้ำลึกที่ตนอาศัยอยู่เพื่อใช้ในการทดสอบฌานสมาบัติ และฤทธิ์อำนาจของตัวเอง ความติดในฤทธิ์อำนาจจึงทำให้พญาวานรไม่เจริญก้าวหน้าในทางธรรม เพราะมัวแต่หลงไหลยึดมั่นถือมั่นในฤทธิ์อำนาจ เมื่อถึงเวลาธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ ของพญาวานรแตกดับไป แต่ด้วยจิตที่ผูกพันหวงแหนในธาตุกายสิทธิ์ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา ทำให้จิตวิญญาณของพญาวานรติดตามไปดูแล ธาตุกายสิทธิ์นั้นไม่ให้ได้ตกไปอยู่ในมือของหมู่มารที่มีอคติต่อพระพุทธศาสนา
ดังนั้นแร่สังฆวานรจึงเกิดจากเหล็กไหลขาวที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ ถูกนำมาหุงใหม่บวกกับฤทธิ์ฌานสมาบัติของพญาวานรเข้าไปรวมด้วย เราจึงเรียกธาตุกายสิทธิ์นี้ว่า "สังฆวานร" หรือบางคนก็เรียก "สังขวานร" โลหะชนิดนี้มีสีเงินยวง ขาวนวลกว่าเหล็กไหลขาวทั่วไป
เพราะสังฆวานรมีฤทธิ์อำนาจในการป้องกันศัตรูหมู่มารและภัยพิบัตินานา ประการ มิให้เข้ามากร้ำกรายลุกร้ำสถานที่นั้น ๆ ได้ โดยมีคาถากำกับเอาไว้ว่า "นะมะหะนุ วะลุสังหะ" จึงมีฤทธานุภาพเหมือนกับหนุมาน แต่ที่แตกต่างกันก็คือธาตุกายสิทธิ์นี้มีบารมีธรรมขั้นสูงกำกับอยู่ นั่นคือมีบารมีธรรมของเหล่าอริยสงฆ์ที่ตั้งใจลงมาช่วยเหลือเกื้อกูลต่อพระ พุทธศาสนา ให้หลุดรอดจากเหล่าหมู่มารทั้งหลาย บวกกับฤทธานุภาพของพญาวานร จึงทำให้แร่สังฆวานรนี้มีอานุภาพอย่างยิ่ง
ตะปูสังฆวานร หรือที่เรียกกันว่า ชินสังฆวานร เดิมเป็นวัสดุที่สร้างขึ้นจากโลหะผสมตระกูลดีบุก ซึ่งอาจจะมีตัวโลหะเจือที่เป็นกลุ่มของสังกะสี ตะกั่ว ปรอทและอื่นๆ นำมาใช้ประโยชน์เป็นตัวยึดโครงสร้างไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงสร้างของวัด หรือปราสาทราชวัง
ในสมัยอยุธยายังไม่มีตะปูหรือน๊อตในการสร้างโบสถ์ วิหาร สมัยนั้นจึงใช้ชินเขียวทำเป็นตะปู นำมาเป็นตัวตอกสลัก โดยเทและทำเป็นแท่งกลม แท่งเหลี่ยม ปลายแหลม เรียกว่า ตะปูสังฆวานร ใช้ตอกยึดเสนานะและถาวรวัตุในวัด ตลอดอายุการใช้งานอันยาวนาน ตะปูสังฆวานร ได้ผ่านศาสนพิธีการสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น สวดพระปาติโมกข์ และการสวดญัตติเวลาที่มีการบวชพระ อีกทั้งหลวงพ่อ หลวงปู่ ในสมัยนั้นก็มักจะนิยมปลุกเสกวัตถุมงคลในโบสถ์สม่ำเสมอ เมื่อเสนานะโบสถ์ วิหาร ชำรุด ปรักหักพังลง โบราณจารย์ผู้ชาญฉลาดเล็งเห็นว่า ตะปูสังฆวานร นั้นได้ผ่านกาลเวลา และผ่านการปลุกเสกตลอดมา รวมถึง ได้ผ่านพิธีการทางสงฆ์ต่างๆ มาเป็นระยะเวลายาวนาน จึงเชื่อว่าน่าจะเต็มไปด้วยพลังพุทธคุณต่างๆ นั่นเอง จึงได้นำมาหลอมละลายเพื่อผสมผสานในการสร้างพระเนื้อชิน ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังนิยมนำมาตอกสะกดภูติผีปีศาจได้ผลยิ่งนัก ต่อมาจึงใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างมีดหมอหรือมีดอาคมต่างๆ
เนื่องจากสมัยก่อนไม่นิยมนำของวัดเข้าบ้านโดยตรง ต้องแปรสภาพหรือสร้างขึ้นใหม่เสียก่อน เป็นมีดหมอหรือพระเครื่องเนื้อชิน จึงจะสบายใจกัน ทุกวันนี้ ถ้าใครมีไว้ติดตัว ติดบ้าน ก็มั่นใจได้ว่า มีของดี ที่ทรงคุณค่าและอานุภาพในตัวพร้อมสรรพเลยทีเดียว

เครดิต เรื่องและภาพ จากเพจ เรื่องเล่าชาวสยาม

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้