|
ร่างไร้วิญญาณของเด็กน้อยถูกอุ้มด้วยวงแขนของเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู บรรดาไทยมุงกระเย้อกระแหย่งมองแต่ยังเห็นไม่ชัด จนกระทั่งถึงปากหลุม ศพของ ด.ญ.สร้อยเพชร บุญน้อย จากศีรษะถึงปลายเท้า ไม่เกิน 85 ซม. ส่วนไหล่กว้าง 18 ซม. ใส่เสื้อกล้ามตัวเดียวซึ่งกลายเป็นสีโคลน แขนและขาอยู่ในสภาพปกติ แต่ภาพน่าสังเวชคือส่วนกระหม่อมมีรอยถูกแทงจนแหลกเหลว นับแผลไม่ถ้วน ลักษณะของบาดแผลที่ถูกแทงทุกครั้งที่มีการใช้เหล็กแหลมทะลวงดินลงไป แสดงภาพของเด็กน้อยว่า ตกไปอยู่ในลักษณะสองมือชูครูดลงไปในรูเสา ซึ่งมีขนาดเขื่องกว่าลำตัวนิดเดียว
บุญ บุญน้อย พุ่งพรวดไปหาเลือดเนื้อเชื้อไขตนเอง ยื่นมือจับมือขวาของลูกแนบไว้สนิท ด้วยท่วงท่าโศกสลด ไม่มีน้ำตาจากพ่อซึ่งยังสามารถคุมสติ
"ดีใจที่ได้ศพลูกคืนมา ตั้งใจจะเอาไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดตะพานย่านดินแดง" นายบุญตอบผู้สื่อข่าว ส่วนผู้เป็นแม่เป็นลมล้มพับไป
ที่สุดแล้ว ก็สามารถกู้ร่างของหนูน้อยผู้อาภัพขึ้นมาได้ โดยได้ใช้ทุนทรัพย์ในการกู้ร่างกว่า 10 ล้านบาท แต่เงินดังกล่าวคงไม่มีค่าเท่ากับชีวิต
เงินบริจาคหลั่งไหล แต่…เจอคนใจบุญจอมปลอม
หลังได้ศพ ญาติได้จัดบำเพ็ญกุศลอย่างเงียบเหงา มีเพียงญาติพี่น้องร่วมงานเท่านั้น ขณะเดียวกันได้มีการระดมเงินช่วยเหลือจากประชาชน ได้เงิน 8,200 บาท ขณะที่ทางตำรวจได้ตั้งข้อหาบริษัทรับเหมากระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษจำคุก 10 ปี
ขณะที่ครอบครัว "บุญน้อย" หลังจากฌาปนกิจ ด.ญ.สร้อยเพชรแล้ว ตั้งใจจะกลับไปทำไร่ที่ลพบุรี นอกจากนี้ ทางหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยังอาสาเป็นตัวกลางระดมเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวนี้ได้ 78,000 บาท แต่สิ่งเลวร้ายที่ครอบครัวบุญน้อยต้องเผชิญชะตากรรมยังไม่จบ เพราะหลังจากเป็นข่าวดัง มีผู้คนหลายคนแสดงตนว่าต้องการช่วยเหลือ โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่นลพบุรี รายหนึ่ง ที่ประกาศว่าจะมอบที่ดิน 25 ไร่ ในพื้นที่ลพบุรี ซึ่งห่างจากบ้านเดิมของครอบครัวบุญน้อย 30 กม.ให้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือ แต่พอเวลาผ่านไปกลับพบความจริงว่า ผู้ใจบุญคนเดิมกลับ "พลิกลิ้น" บอกว่าจะ "แลกเปลี่ยน" กับเงินบริจาคที่ได้
ในห้วงแห่งความทุกข์เวทนาเช่นนี้ ก็ยังมีคนฉวยโอกาสหวังชื่อเสียงโดยไม่ละอายแก่ใจ ทั้งนี้ หากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ไม่ตามติดเรื่องนี้ ผู้คนก็จะเข้าใจว่า ครอบครัว "บุญน้อย" ได้รับการอุ้มชูจาก "ผู้ใจบุญ" ไปแล้ว ขณะเดียวกัน การเสนอข่าวดังกล่าว ยังทำให้ภาครัฐ และภาคเอกชน ตระหนักถึงความรับผิดชอบในการป้องกันอุบัติเหตุในสถานที่ก่อสร้างมากขึ้น
ทั้งนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับคดีนี้มาให้ติดตามอ่านต่อวันพรุ่งนี้ เพราะหากเกิดเหตุแบบนี้ในปัจจุบัน จะมีการช่วยเหลืออย่างไร นอกจากนี้ ยังมีเสียงจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้นมาเล่าให้ฟังอีกด้วย
*ภาพทั้งหมดจากหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 4 ก.พ.28 ถึง 8 ก.พ.28*
http://www.thairath.co.th/content/511906
|
|