. . ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ไม่ทราบที่มา จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี . ภาพนารายณ์บรรทมสินธุ์ ในช่วงยุคพุทธศตวรรษที่ 15 - 16 ยังพบที่หน้าบันโคปุระทิศตะวันออกฝั่งด้านในของ “ปราสาทสด๊กก๊อกธม (Sdok kok Thom Pr.)” ที่จังหวัดสระแก้ว ศิลปะแบบเกลียง (Kleang Style) อายุในราวต้นพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นภาพสลักของพระนารายณ์นอนบรรทมตะแคงไปทางซ้ายบนพญาอนันตนาคราชห้าเศียร มีรูปพระนางลักษมีเทวีนั่งประทับ ยกพระเพลาข้างหนึ่งมาวางไว้บนตักในท่ากำลังนวดเฟ้น ปรนนิบัติ เหนือขึ้นไปมีรูปพระพรหมประทับอยู่บนดอกบัว ด้านข้างของพระพรหมมีรูปบุคคลถือกระบอง ที่น่าจะเป็นภาพของอสูร “มธุ” และ “ไกฏภะ”ที่ออกมาจากพระกรรณของพระวิษณุ ตามคัมภีร์ “มารกัณเฑยะปุราณะ” ของไวษณพนิกาย เพื่อที่จะทำลายการสร้างโลกใหม่ของพรหมครับ . . ภาพสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์ในปาง "มทุสุทานะ" ในระหว่างการจัดเรียงก่อนนำขึ้นไปติดตั้ง . . ปราสาทประธาน ปรสาทสด๊กก๊อกธม ที่ถูก "สร้างขึ้นใหม่" โดยวิธีอนัสติโลซิสแบบไทย ๆ . . ประตูปีกทางทิศเหนือด้านใน ของโคปุระตะวันออก ปราสาทสด๊กก๊อกธม จังหวัดสระแก้ว จุดที่เป็นรูปสลักของนารายณ์บรรทมสินธุ์บนหน้าบัน . หากจะบอกว่าในเมืองไทย ก็มีรูปสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์ แบบที่สลักกันบนโขดหินข้างธารน้ำไหลตามธรรมชาติแบบ “พนมกุเลน – กบาลสเปียน” หลายคนก็อาจจะสงสัย แต่จริงครับ มีรูปสลัก “นารายณ์บรรทมสินธุ์” สลักบนโขดหินธรรมชาติ ที่ลำโดมใหญ่ ในเขตเทือกเขาพนมดอกเร็ก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี อายุในราวต้นพุทธศตวรรษที่ 16 ร่วมสมัย ร่วมยุคศิลปะบาปวน อย่างที่พบบนเขาพนมกุเลนเลยครับ . . รูปสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์บนโขดหิน ที่ลำโดมน้อย . ลักษณะของรูปสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ลำโดมใหญ่ จะเป็นรูปพระวิษณุนารายณะสองกร บรรทมตะแคงขวา เหนือพระเศียรเป็นรูปพญาอนันตนาคราชสามเศียร ที่ปลายพระเพลา มีรูปพระนางลักษมีเทวี ประทับนั่งอยู่ด้านหลังในท่านวดปรนนิบัติ . . การสำรวจภาพสลักของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ที่ลำโดมใหญ่ ในปี 2553 . รูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ลำโดมใหญ่ สลักบนโขดหินทราย ริมธารน้ำ ในช่วงหน้าน้ำ น้ำจะหลากท่วมจนมองไม่เห็น จะเห็นรูปสลักได้ชัดเจนก็เฉพาะตอนช่วงหน้าแล้งเท่านั้นครับ . ผู้แกะภาพสลักนี้ น่าจะเคยเดินทางไปยังธารน้ำกบาลสเปียน และน่าจะได้รับอิทธิพลความคิดแบบ “ไวษณพนิกาย” มาจากเมืองพระนครหลวง เมื่อเดินทางผ่านมาตามช่องเขาของเทือกเขาพนมดองเร็ก ในช่วงหน้าแล้งหนึ่ง จึงได้สลักรูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ เพื่อ “สมมุติ” ให้สายน้ำลำโดมใหญ่ มีความ “ศักดิ์สิทธิ์” จากสายน้ำธรรมชาติกลายเป็น “เกษียรสมุทร” บนสรวงสวรรค์ . การแกะสลักรูปที่ลำโดมใหญ่ ดูจะยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ช่างผู้เดินทางผ่านมาได้สลักทิ้งค้างคาไว้ เพราะต้องเดินทางต่อขึ้นไปทางเหนือ รูปสลักที่ต้นแขนด้านบนก็ยังคงร่างเป็น “ลายเส้น” รูปบัวตูมค้างไว้ มีร่องรอยของก้านดอกบัวเป็นริ้วบาง ๆ ลงมาที่พระนาภี ลายละเอียดของรูปส่วนอื่น ๆ ก็ยังคงเป็นรูปโกลน ไม่สมบูรณ์ . ภาพสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่น่าสนใจอีกชิ้นหนึ่ง ปรากฏบนทับหลังบนซุ้มประตูด้านในของอาคารบรรณาลัยด้านทิศเหนือ “ปราสาทสระกำแพงใหญ่ (Sra Kampaeng Yai Pr.)” หรือที่ปรากฏชื่อในจารึกว่า “กมรเตงชคตศรีพฤทเธศวร" (ผู้เป็นใหญ่เหนือพงไพร) ที่จังหวัดศรีสะเกษ เป็นทับหลังศิลปะแบบบาปวน อายุในราวกลางพุทธศตวรรษที่ 16 ครับ . . ปราสาทประธาน ปราสาทสระกำแพงใหญ่ . . มุขประตูบรรณาลัยฝั่งทิศเหนือ ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ด้านหน้าเป็นภาพสลักบนทับหลังในตอน "พระกฤษณะประลองกำลังกับม้าเกศิน" . . |