ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนานพระเกจิอาจารย์แห่งแดนสยาม
»
หลวพ่อพาน สุขกาโม วัดเฉลิมราษฎร์ บ้านโป่งกะสัง
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 3764
ตอบกลับ: 6
หลวพ่อพาน สุขกาโม วัดเฉลิมราษฎร์ บ้านโป่งกะสัง
[คัดลอกลิงก์]
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-7-8 13:42
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
ท่านเป็นพระแท้ ขลัง และดังเงียบอยู่ในอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคึรึขันธ์ คนถิ่นอื่นจะไม่ค่อยรู้จักท่านเท่าใดนัก (แต่ปัจุบันเป็นเพราะสื่อเลยทำให้คนรู้จักท่านกันเยอะขึ้น)
ประวัติของหลวงพ่อพาน สุขกาโม โดยสังเขป
หลวงพ่อพาน สุขกาโม ท่านเกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2454 ในสกุล พุ่มอำภา ดั้งเดิมท่านเป็นชาวบ้านกล้วย ตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี และได้อุปสมบท ณ ปี พ.ศ.2475 ณ วัดหนองไม้เหลือง อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี หลวงพ่อพานท่านเป็นพระพี่น้องกับหลวงพ่อเพลิน (พระครูนันทศีลาวัตร) วัดหนองไม้เหลือง อดีตพระเกจิชื่อดังของเมืองเพชรบุรี หลวงพ่อพานท่านย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเฉลิมราษฎร์ บ้านโป่งกระสัง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ พ.ศ.2513 ตั้งแต่วัดยังเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆและท่านก็ได้พัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อพานท่านเป็นพระที่หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ยกย่องเสมอว่าท่านเก่งจริง ขลังจริง วัตถุมงคลที่หลวงพ่อพานสร้าง และมีประสบการณคือเหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2519 และเหรียญรุ่นต่างๆ ที่ขึ้นชื่อเลยคือตะกรุดโทนของท่านครับ
หลวงพ่อพาน มรณภาพเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2539 สิริรวมอายุได้ 84 ปี สรีระสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย ทางวัดได้เก็บรักษาไว้ในหีบไม้เพื่อให้ญาติโยมลูกศิษย์ได้กราบไหว้
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-7-8 13:42
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ซ่อนเร้นกำบังกาย
นางสะอิ้ง บูรณาภา ปัจจุบันอายุ 63 ปี อยู่ที่ 145 หมู่ 4 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ โทร 081-1940687 เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วร่วม 30 ปี แต่ก็ยังอยู่ในความทรงจำไม่เคยลืมให้ฟังว่า ตนเองเป็นชาว จ.เพชรบุรี แต่ได้ย้ายมาอยู่ที่ อ.กุยบุรี และได้มีเพื่อนซึ่งเป็นชาว จ.เพชรบุรี ด้วยกันเล่าเรื่องราวที่เกิดกับตัวเขาเอง และได้รอดพ้นจากความตายมาได้ เพราะบารมี หลวงพ่อพาน ช่วยคุ้มครอง เรื่องมีอยู่ว่า วันนั้น ตนเองถูกไล่ยิงมาตามถนนเพชรเกษมโดย 2 คนซึ่งเป็นอริเก่า มาถึงแยกหนองเผาถ่าน (อยู่ระหว่าง อ.ชะอำกับ อ.ท่ายาง )สมัยก่อนจะเป็นทางเลนเดียว รถยังวิ่งผ่านน้อยมาก ตนเองได้โบกรถคันแรกที่ผ่านมา แต่ไม่ยอมจอด เพราะกลัวจะโดนยิง จนกระทั่ง มีรถเมล์แดงผ่านมา (เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ คนขับรถเมล์แดงเล่าให้ฟัง หลังเกิดเหตุ)วันนั้นหลวงพ่อพานได้นั่งรถเมล์แดงจาก จ.ประจวบฯมุ่งหน้า จ.เพชรบุรี โดยหลวงพ่อพานนั่งหน้ารถซ้ายมือคนขับ คนขับรถเมล์แดง เห็นคนโดน 2 คนร้ายไล่ยิงกันอยู่ข้างหน้า โดยทุกคนในรถเมล์ก็เห็น รวมถึงหลวงพ่อพานด้วย ตนเองได้โบกรถเมล์แดงให้จอด แต่รถเมล์แดงไม่ยอมจอด ผู้โดยสารตะโกนบอกคนขับอย่าจอดๆและในใจของคนขับก็ไม่คิดจะจอด จนขับผ่านมา หลวงพ่อพานบอกคนขับรถจอดๆจอดรับเดี่ยวนี้ คนขับรถมองหลวงพ่อพานๆพูดย้ำอีกจอดๆ จนคนขับรถยอมจอดและหลวงพ่อพานให้คนขับรถลงจากรถและให้คนโดนไล่ยิงขึ้นมานั่งหน้ารถโดยให้นั่งตรงกลางระหว่างคนขับรถกับหลวงพ่อพาน รถออกตัวมาได้นิดเดียว 2 คนร้ายก็วิ่งมาถึงจอดๆๆ เสียงคนร้ายมาพร้อมท่าทางให้รถจอด เมื่อรถจอด คนร้ายเห็นพระนั่งหน้ารถก็ยกมือ พร้อมพูดว่า สวัสดีครับหลวงพ่อจะไปไหนหรือ หลวงพ่อพานตอบจะไปเพชรบุรี เอ๊..แต่เมื่อสักครู่รถได้จอดรับคนที่ผมไล่ยิงไม่ใช่หรือ หลวงพ่อพานตอบก็มองดูเอาซิ 2 คนร้ายมองหน้ารถ พยายามมองหา แต่ไม่เจอ คนร้ายพูดต่อ นั้นนิมนต์หลวงพ่อลงจากรถก่อน ทั้งหลวงพ่อพานและคนขับรถได้ลงจากรถ และคนร้ายก็ได้พยายามมองหา แต่ไม่พบ ป้าสะอิ้งพูดต่อ เพื่อนป้ามันนั่งเหงื่อตกซิกๆ อยู่หน้ารถมันก็แปลกใจ ว่าทำไม 2 คนร้ายไม่เห็นมัน 2 คนร้ายนิมนต์หลวงพ่อพานขึ้นรถแล้วเดินจากไป รถออกตัวขับได้มาพักใหญ่ๆ หลวงพ่อพานให้คนขับจอดรถ และให้เพื่อนของป้าลงจากรถและบอกว่าปลอดภัยแล้ว เพื่อนป้ามันขอบคุณหลวงพ่อพานยกใหญ่เลยป้าสะอิ้งกล่าว และมันก็บอกกับป้าว่า หลวงพ่อพาน นี้เก่ง นักหนา
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-7-8 13:43
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โดนยิงกรอกปากแค่ฟันหัก
นายแย้ม จิตรมั่น อายุ 50 ปี โทร 089-0050676 อยู่ที่ 89/2 ม.2 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเอง ให้ฟังว่า ในเย็นวันหนึ่ง หลังจากตนเองเลิกจากการทำงานไร่สับปะรด ตนเองและเพื่อนๆจึงนัดหมายกันดื่มสุราที่บ้านของผู้ใหญ่แนบ เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากงาน หนึ่งในเพื่อน 3-4 คนคือนายแขก ดื่มกันไปก็พูดคุยกันไปตามประสาคนดื่มเหล้าทั่วๆไป จนมาถึงเรื่องของสลากเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่ง จนเกิดมีปากเสียงกันขึ้นมาบวกกับฤทธิ์ของสุราเริ่มทำงาน จนนายแขกเริ่มมีอารมณ์โกรธเลยลุกขึ้นเดินออกไปสตาร์ทจักรยานยนต์คู่ใจกลับบ้านไป ส่วนผมและเพื่อนๆยังดื่มกันต่อ สักพักใหญ่ๆนายแขกได้ขับจักรยานยนต์กลับมาและเดินเข้ามานั่งในวงเหล้าตรงข้ามกับตนเอง(นายแย้ม)นายแขกยังไม่ทันได้ดื่มเหล้า ได้เอ่ยปากเรียกนายแย้มที่กำลังก้มหน้าดื่มสุราอยู่ “เฮ้ย..ไอ้แย้ม” สิ้นสุดเสียงเรียก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับนายแย้มได้เงยหน้าตนเองตามเสียงเรียกของนายแขก นายแขกได้ชักปืนแม็กกาซีนขนาด .32 มม.(ทราบภายหลังเกิดเหตุ)ที่ขึ้นลำกล้องมาเรียบร้อยพร้อมใช้งานยิงเข้าไปที่ปากของนายแย้มในระยะเผาขนจำนวน 1 นัด นายแย้มล้มฟุบลงทำแกล้งตายเพราะเกรงว่านายแขกจะยิงซ้ำ นายแย้มเล่าต่อไปว่า ตอนนั้นผมรู้สึกร้อนชาไปทั้งปาก ฝ่ายนายแขกเมื่อนายแย้มล้มฟุบลงรีบลุกขึ้นแล้วขับจักรยานยนต์หลบหนีไป ผู้ใหญ่แนบดูทีวีอยู่กับภรรยาได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งเข้าไปดูเห็นนายแย้ม นอนกองอยู่กับพื้น จึงช่วยกันนำนายแย้มส่งโรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลพานายแย้มเข้าห้องพยาบาลผู้ใหญ่แนบบอกหมอว่าคนไข้โดนยิงมา หมอยังไม่เชื่อคิดว่าโดนตีมา เมื่อทำแผลภายในปากเรียบร้อยพบว่า ภายในปากไม่มีบาดแผลเลย แม้กระทั้งริมฝีปากก็ไม่มีบาดแผล แต่ว่าฟันบนหักไป 3 ซี่ ฟันล่างหักไป 1.5 ซี่ ผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมแผลในปากผมไม่มีเลยฟันหักอย่างเดียว ซึ่งวันนั้นในคอผมคล้องตะกรุดดอกเล็กของหลวงพ่อพานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
4
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-7-8 13:43
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ดักยิงถล่มยกครัว
นายเปลว สุขสวน และ ภรรยา อยู่ที่ 148 หมู่ 5 ต.ไร่เก่า กิ่ง อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ โทร ติดต่อ 085-2929906 082- 4767896 เล่าให้ฟังว่า เรื่องนี้เกิดขึ้น ในราวปี พ.ศ.2549 ตนเอง นายทองเปลว และภรรยาตนและหลานอีก 3 คน รวมเป็น 5 คน โดนคนร้าย 3 คน ดักยิงถล่มแต่รอดชีวิตกลับมาได้เพราะ บารมี หลวงพ่อพาน คุ้มครอง ในวันนั้น ตนเองพร้อมด้วยภรรยา และหลานอีก 3 คน โดย หลานสาวอายุ 10 ขวบ หลานชายอายุ 7-6 ขวบ ตามลำดับ ตนเองขับรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่น sd ตอนเดียว ด้านหลังเป็นลูกกรงเหล็ก โดยหลานชาย 1 คน นั่งหน้ารถกับตน ส่วนอีก 2 คน นั่งกระบะหลังกับภรรยา โดยขับจากบ้าน ตามถนนเพชรเกษม เลี้ยวขวาแยกหนองหมู มุ่งหน้า ถนนวังเต้น (เส้นทางนี้จะเลยวัดโป่งกะสัง)พอขับมาถึงที่เกิดเหตุ(ถนนวังเต้น)จะเป็นทางลาดต่ำลงคล้ายๆกับลงห้วย จะเป็นทางแยก 2 เส้นทางถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นถนนเส้นหลัก แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเข้าไร่ของคนอื่น ในจังหวะนั้นเอง ได้มีชาย 2 คนถือปืนยาวคนละกระบอก ดักอยู่ข้างหน้าในลักษณะขวางรถไม่ให้วิ่งผ่านตนเองจึงหยุดรถแต่เครื่องยนต์ยังติดอยู่(ระยะห่างของรถกับชาย 2 คนประมาณไม่เกิน 3 เมตร)ตนเองคิดว่าชายทั้ง 2 คน คงจะมาอาศัยรถเรากลับบ้านด้วยกะมัง และหลานชายได้พูดแทรกขึ้นมา “ปู่ๆเขาไปเที่ยวล่าสัตว์มาหรือปู่”ยังไม่ทันสิ้นเสียงหลานชาย ชายทั้ง 2 คน ยกปืนขึ้นประทับบ่า ยิงใส่หน้ารถตนเองไม่ยั้ง ลูกปืนเจาะผ่านกระจกหน้ารถ แตกละเอียด คนร้ายยิงจนแน่ใจแล้วว่า นายเปลวและหลานชาย ได้เสียชีวิตแล้ว(ภรรยานายเปลวแซกขึ้นมาเล่าต่อ)ฉันตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยโดยได้กอดหลานชายไว้ในอ้อมกอด ส่วนหลานสาวหมอบหลบอยู่ใกล้ๆฉันเหลือบมองด้านหน้ารถเห็นชายทั้ง 2 คน กำลังเดินมาด้านหลังรถเป้าหมาย น่าจะเป็นฉันและหลานอีก 2 คน และฉันมองขึ้นไปบนเนินสูงข้างรถด้านหลัง ใต้ต้นมะขามใหญ่มีชายอีก 1 คน ยืนถือปืนสั้น คอยคุมอยุ่ เมื่อชายทั้ง 2 คน เดินมาถึงด้านหลังรถได้ใช้ปืน ยิงใส่เข้าที่หลานสาวและฉัน โดยฉันได้ร้องขอชีวิต”อย่ายิงฉันเลยๆๆ”คนร้ายหาลดละไม่ก็ยังยิงใส่ฉันและหลานสาว ส่วนหลานสาวที่หมอบอยู่ใกล้ๆได้ร้องตะโกน”อย่าทำย่าหนู ยิงย่าหนูทำไมๆ”คนร้ายทั้ง 2 ก็ยังไม่เห็นใจ ยังยิงใส่ฉันและหลานสาว จนแน่ใจแล้วว่า คนทั้ง 5 คนในรถได้เสียชีวิตหมดแล้ว ชายที่ยืนคุมงานอยู่ ได้เดินลงมาใช้ปืนสั้น จ่อยิงที่ศรีษะภรรยานายเปลวอีก 1 นัด แล้วยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 1 นัดพร้อมตะโกน”เรียบร้อยแล้วพวกเรา”แล้วคนร้ายทั้งหมดได้เดินออกห่างจากรถไป ภรรยานายเปลว เห็นดั่งนั้นจึงตะโกนเรียก นายเปลว”เหยียบรถเลยๆ” นายเปลวฟื้นคืนสติหลังจากวูบไปด้วยอานุภาพของอาวุธปืน “เห็นครับ ผมเห็นจริงๆผมไม่ได้ตาฟาดหรือเสียสติ ผมเห็นผ้าเหลือง หลวงพ่อพาน คุมรถผม เป็นอุโมงค์คล้ายๆจะให้รถขับผ่านอุปสรรคไป ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขับผ่านมาได้อย่างไร ผมขับรถมาตามถนนที่เป็นไร่ของคนอื่นไม่ได้ขับมาตามทางสายหลัก ซึ่งทางนั้นเป็นทางที่ยังใช้การไม่ได้ เพราะกำลังรื้อไร่ใหม่ มีทั้งตอขนุน ตอมะม่วงเต็มไปหมด ผมขับผ่านมาได้อย่างไรยังงงกับตนเองจนทุกวันนี้ ผมขับมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และผ่านวันอันโหดร้ายวันนั้นมาได้ เพราะพุทธคุณในพระของ หลวงพ่อพาน ที่ช่วยคุมครองตนเองและครอบครัว ในวันนั้นที่หน้ารถของนายทองเปลวมี วัตถมงคลของหลวงพ่อพาน คือ สมเด็จเนื้อผง พิมพ์ปรกโพธิ์ และ สมเด็จเนื้อผง ที่ด้านหลังเขียนว่ารุ่น 1 ทุกวันนี้รอยกระสุนปืนก็ยังเป็นแผลเป็นให้เห็นอยู่ทุกคน ลุงทองเปลวมีที่ หน้าผาก ไหล่ ต้นแขนขวา ข้อมือ ส่วนภรรยามีที่ รอยจ่อยิงที่ศรีษะ ตามตัว หลานสาวมีที่เนื้อหน้าอกด้านซ้าย หลานชายคนเล็กมีรอยตามตัว
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
5
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-7-8 13:43
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ซ่อนเร้นกำบังกาย- รถพลิกคว่ำ- ดลใจ
นาย เจษฎา เนื้อนิล โทร 080-3012593 อยู่ที่ 94/35 ม.1 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ที่ทำงาน โรงแรมมาราเกสหัวหินรีสอร์ตแอนสปา เล่าว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตนเอง เมื่อหลายปีก่อน นายเจษฎา (ตั้ม) ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่เธคในโรงแรมแกรนด์หัวหิน ซึ่งตนเองเที่ยวอยู่เป็นประจำ โดยในวันนั้น ตนเองได้ไปกับเพื่อนๆรวม 20 กว่าคน ในขณะที่อยู่ในเธคได้เกิดเขม่นกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ถึงขั้นจะขว้างแก้วใส่กัน พวกผมคิดว่า ถ้าออกมาข้างนอกต้องตีกันแน่นอน ทุกคนจึงวางแผน ให้แผนกที่ขับรถจักรยานยนต์ ให้ขับรถออกไปคอยก่อน และได้นัดหมายให้ไปรับที่หน้าตู้โทรศัพท์หน้าปากซอยสารวัตร ส่วนที่เหลือรวมทั้งตัวผมได้ออกมาทีหลัง และได้ทะเลาะวิวาทกับคู่อริซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บ จนกระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาที่เกิดเหตุจึงได้แยกย้ายกันหลบหนี ตัวผมได้วิ่งหนีมารอเพื่อนที่นัดกันไว้ที่หน้าตู้โทรศัพท์ บริเวณนั้นเป็นข้างถนนในตัวเมืองจึงมีแสงสว่างจากไฟส่องทางสาธารณะซึ่งเห็น ตัวผมได้ชัดเจน สักครู่เดียวได้มีรถจักรยานยนต์ ขับมุ่งหน้ามาหาตัวผม 4 คัน ทั้ง 4 คันมีผู้ซ้อนท้าย 2-3 คน ในใจผมคิดว่าคงเป็นเพื่อนของตนเอง ที่นัดไว้แน่นอน รถจักรยานยนต์ทั้ง 4 คันขับใกล้เข้ามา จนตัวผมเห็นได้ชัดเจนว่า ไม่ใช่เพื่อนของผม ผมใจดีสู้เสือคิดในใจเป็นไงเป็นกัน รถจักรยานยนต์ทั้ง 4 คัน จอดห่างจากตัวผมไม่ถึง 10 ก้าว ในมือของคู่อริผม มีอาวุธทั้งมีด ทั้งไม้ แต่หลายคนในนั้นหันซ้ายหันขวา คล้ายๆกำลังหาสิ่งใดอยู่ ตัวผมก็ยังยืนงงอยู่ตรงนั้น ถ้าคนในกลุ่มนั้นไม่พูดผมก็ไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่พวกเขากำลังหาอยู่คือผม “เอ้ย...เมื่อสักครู่มันยังอยู่ตรงนี้เลย...มันหลบไปไหนแล้วว่ะ”ผมยืนงง นี่ถ้าคู่อริไม่พูดผมไม่รู้จริงๆว่าพวกมันไม่เห็นผม จนหนึ่งในนั้นพูดว่า “สงสัยมันวิ่งหลบไปซอยอื่นแล้ว...นั่นพวกเราไปตามหามันซอยอื่นกันเถอะ” ตัวผมงงไปหมด มันไม่เห็นผมได้อย่างไร มันพูดตัวผมก็ได้ยินชัดเจน ผมนึกขึ้นมาได้ ในคอผมมีตะกรุดของหลวงพ่อพาน ที่ผมใช้ติดตัวมาตลอด ได้ช่วยคุ้มครองชีวิตของผมให้รอดพ้นจากภัยอันตรายในครั้งนี้ ขอบคุณครับ หลวงพ่อพาน ขอบคุณจริงๆ และยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวกับตัวผม เรื่องนี้เกิดในราวปี พ.ศ.2552 ในขณะนั้นตัวผมได้ทำงาน ขับรถส่งอาหารวัวนมตามฟาร์มวัวนมทั่วไป วันที่เกิดเหตุผมได้ขับรถส่งของตามปกติเช่นทุกวัน ถึงที่เกิดเหตุ เป็นถนนเส้นบายพาส จาก อ.ปราณบุรี มุ่งหน้า อ.ชะอำ ถึงบริเวณจุดกลับรถบ้านไร่เนิน รถของผมเกิดยางระเบิดขี้น ทำให้รถเสียหลักผลิกคว่ำตีลังกา 3 ตลบ ในขณะที่รถตีลังกาอยู่ ผมคิดว่าไม่รอดแน่ๆในครั้งนี้ แต่เหลือเชื่อครับ รถยนต์ของผมพังยับเยิน และไม่ชนกับต้นไม้ที่เกาะกลางถนนที่มีอยู่มาก แต่รถยนต์ของผมเข้าไปอยู่ระหว่าง ตรงกลางของต้นไม้ 4 ต้นพอดี และตัวผมได้ออกจากรถยนต์ยืนดูตัวเองว่าเป็นอะไรบ้าง เหลือเชื่อครับตัวผมไม่เป็นอะไรเลย เลือดสักหยดก็ไม่มี สักครู่เดียวมีรถมูลนิธิและรถตำรวจมากันหมดเลย และได้มาถามผมว่าคนขับอยู่ที่ไหน ผมจึงบอกว่า ผมเองเป็นคนขับคนที่ได้ยินผมพูดถึงกับอึ้งกันไปหมด ทั้งตำรวจและมูลนิธิ เหตุการณ์ในวันนั้นมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดอยู่ตลอดจนทุกวันนี้ วันนั้นได้มีผู้หญิงวัยกลางคนและลูกชายของเขา ได้เขาทักทายกับผมพร้อมทั้งบอกว่า ตนเองและลูกชายขับรถจาก จ.สุราษฎ์ธานีเพื่อที่จะไป จ.นครสวรรค์ และได้ขับรถตามผมมา และตอนเกิดเหตุเขาเห็นผมรถผลิกคว่ำเขาตกใจมาก เขาเห็นรถตีลังกา 3 ตลบ เขาทั้ง 2 แม่ลูกคิดว่าผมไม่รอดแน่ แต่กลับไม่เป็นอะไรเลย และยังเอ่ยปากถามผมว่ามาคนเดียวหรือ ผมตอบว่ามาคนเดียว ทั้ง 2 แม่ลูกทำหน้าตา งงๆเหมือนมีอะไรในใจบางอย่าง จนเขาบอกกับผมว่า เขาเห็นมีพระนั่งในรถมากับผมด้วย ผมก็ งงๆ ในตอนนั้น แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว ผมคิดว่าคงเป็นเพราะบารมีหลวงพ่อพาน ที่ช่วยคุ้มครองชีวิตผมให้ปลอดภัยจากเหตุอันตรายที่เกิดขึ้นกับตัวผม
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
6
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-7-8 13:44
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ย่นระยะทางได้ - เมตตา
นายประยูร กลิ่นเมือง อายุ 71 ปี โทร 086-0901825 อยู่ที่ 11 ม. 4 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ เล่าให้ฟังว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยที่หลวงพ่อพานยังมีชีวิตอยู่วันนั้นเป็นวันทอดผ้าป่าของวัดหนองไม้เหลืองนายประยูรและชาวบ้านโดยการนำของหลวงพ่อพาน ได้จัดพุ่มผ้าป่าที่วัดโป่งกะสัง พอตอนเช้าที่จะไปทอดผ้าป่าที่วัดหนองไม้เหลืองชาวบ้านที่จะไปร่วมงานต่างเดินทางมาที่วัดโป่งกะสังเมื่อผู้คนมาจนครบจำนวนแล้ว นายประยูรได้เดินไปตามหลวงพ่อพานที่กุฎิ พบหลวงพ่อพานคุยธุระอยู่กับแขก หลวงพ่อพานหันมาเห็นนายประยูร ได้กล่าวกับนายประยูรว่า “ไปก่อนเถอะยูรเดี๋ยวอาตมาตามไปเองยังติดธุระอยู่” นายประยูรได้ฟังจึงเดินมาที่รถผ้าป่าเป็นโชเฟอร์ขับพาชาวบ้านมุ่งหน้า จ.เพชรบุรี (แต่ในสมัยก่อนถนนเพชรเกษมช่องทางเดินรถจะมีแค่ไปและกลับอย่างละเลนเท่านั้น) นายประยูรขับรถมาตามถนนเพชรเกษมจนถึงจุดหมายวัดหนองไม้เหลือง ชาวบ้านโป่งกะสังที่มากับนายประยูรลงจากรถพร้อมด้วยพุ่มผ้าป่าต่างก็เดินไปที่ศาลา แต่เมื่อถึงศาลาทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อภาพที่ทุกคนเห็นอยู่ตรงหน้าเป็นหลวงพ่อพานกำลังนั่งคุยกับชาวหนองไม้เหลือง และเมื่องานทอดผ้าป่าเสร็จสิ้นเรียบร้อยนายประยูรพร้อมคณะจึงลาหลวงพ่อพานกลับก่อนส่วนตัวท่านกลับทีหลัง นายประยูรคิดอยู่ในใจตลอดว่าหลวงพ่อพานมาถึงก่อนเราได้อย่างไร ครั้นเมื่อขับรถกลับมาถึงที่หมายนายประยูรก็ยังนั่งพูดคุยกับผู้ที่ไปทอดผ้าป่าด้วยกัน “มันก็แปลกเราออกเดินทางก่อนท่านรถที่แซงเราก็นับคันได้เพราะโดยปกติผมเป็นคนที่ขับรถเร็วอยู่แล้ว”นายประยูรกล่าว หรือว่าท่านย่นระยะทางไปดั่งที่หลายคนเคยเห็นจริงๆ และนายประยูร ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าส่วนตัวของนายประยูรเองได้มีเรื่องที่แสดงถึงบารมีของท่าน คือเรื่องนี้เกิดขึ้นในเดือน พ.ค.ปี พ.ศ.2556 ผมนายประยูรได้เป็นนายหน้าขายที่ดินแห่งหนึ่งที่โป่งกะสัง จำนวน 40 ไร่ด้วยความที่เราอยากได้ค่านายหน้าจึงไปที่ศาลาพานทอง วัดโป่งกะสัง จุดธูป 9 ดอกบนบาลหลวงพ่อพานขอให้การเป็นนายหน้าขายที่ดินในครั้งนี้จงสำเร็จไปด้วยดี ขอให้ผมได้เงินมาใช้หนี้สินให้หลุดเสียที และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆการเป็นนายหน้าครั้งนี้เป็นผลสำเร็จผมได้เงินไปใช้หนี้ดังที่หวัง ผมจึงมอบเงินให้เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน 4 หมื่นบาทเป็นการแก้บน ส่วนตัวผมทุกวันนี้ต้องไปทำบุญที่วัดโป่งกะสังทุกๆวันพระไม่เคยขาดเลยนายประยูรกล่าว
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
7
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-7-8 13:44
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มีดสปาต้าฟันหลัง
นายกฤษดา พันชู อายุ 38 ปี โทร 088-5422591 อยู่ที่ 167 ถนนสุขจิต ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบฯ มีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าตนเองชนิดไม่น่าเชื่อว่าพุทธคุณในเหรียญของหลวงพ่อพานจะเหนียวขนาดนี้ เรื่องนี้เกิดเมื่อหลายปีก่อน วันที่เกิดเหตุนั้นผมและเพื่อนๆลักลอบเล่นไฮโลกันอยู่ที่สายใต้ใหม่(ซึ่งปัจจุบันย้ายแล้ว)ในอดีตเป็นเขตรับผิดชอบของ สน.ตลิ่งชัน แต่ปัจจุบันเป็นเขตรับผิดชอบของ สน.บางยี่ขัน วันนั้นเป็นเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืนพวกผมรวมทั้งเพื่อนผมคนโดนมีดสปาต้าฟันมีอาชีพขับรถทัวร์สายใต้ แต่วันนี้พักงานกันเลยชวนกันมาทำกิจกรรมยามว่างกันเพื่อผ่อนคลาย ขณะเล่นไฮโลกันเพลินๆโดยไม่ได้คิดอะไร ส่วนเรื่องตำรวจผมก็มีคนดูต้นทางแล้ว วันนั้นผมยังจำได้ผมนั่งยองๆเล่นไฮโลกันเป็นวงใหญ่เพื่อนผมนั่งเล่นอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผม(แอบเล่นกันอยู่มุมตึก)และไม่รู้ว่าคู่อริเก่าของเพื่อนผมมันย่องมาจากที่ไหน มันตรงเข้ามาข้างหลังเพื่อนผมที่ไม่ได้คอยระวังตัว มันเอามีดสปาต้าเล่มใหญ่ฟันด้วยมือขวาเต็มแรงชนิดที่ว่าเอาให้อยู่ในทีเดียว เสร็จแล้วมันกระชากมีดให้เป็นทางยาว(คือฟันแล้วกระชาก)กะเอาให้ตาย แต่มันฟันได้ทีเดียวเพื่อนผมมันลุกขึ้นสู้จึงเกิดชุลมุนกันขึ้นแล้วคนที่ฟันก็หลบหนีไป เมื่อเหตุการณ์ปกติผมจึงเข้าดูที่หลังเพื่อนผมคนที่โดนฟัน พบว่าเสื้อเชิ้ตแขนสั้น(เป็นเสื้อคนขับรถทัวร์)ขาดยาวเป็นรอยคมมีดแต่ไม่ระคายผิวเลย มีดสปาต้าฟันหลังเพื่อนผมไม่เข้าเป็นไปได้อย่างไรผมคิดอยู่ในใจแผ่นหลังของเพื่อนผมแดงยาวแต่ไม่เข้า ผมจึงล้วงเข้าไปที่คอเพื่อนผม พบว่าเป็นเหรียญหลวงพ่อพานรุ่น1แต่สภาพสึกไม่ค่อยสวย ผมจึงถามว่า “เองได้มาอย่างไรว่ะ”เพื่อนผมมันตอบว่ามันเป็นเด็กที่บ้านโป่งกะสัง และบวชเณรที่นั่น แต่พระนี่แม่ให้มาแขวนไว้ที่คอนานแล้วผมคิดในเหนียวจริงๆและพยายามขอมันแต่มันไม่ให้
http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=4&qid=52283
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...