นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
◎อาถรรพณ์แห่งปืนไขว้◎ ปีพุทธศักราช 2500 พระบาทสมเด็จพระภูมิพลมหาราชทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวาระฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ด้วยการทางอภัยโทษให้แก่สัตว์ผู้ยากที่อยู่ในขุมนรกบนดิน
บรรดานักโทษทั้งหลายที่ต้องขังมาเป็นเวลานาน และมีความประพฤติดี ในเรือนจำต่างๆทั่วประเทศ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณทั่วหน้า ในจำนวนนั้นมีนักโทษชื่อไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม ได้รับพระมหากรุณาธิคุณคราวนี้ด้วย ผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักกับอดีตนักโทษประหารผู้นี้ หลังจากที่เขาได้รับพระราชทานอภัยโทษพ้นจากเรือนจำบางขวางมาดำเนินชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไป
ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม ได้เล่าเรื่องราวแต่หนหลังในชีวิตการเป็นนักโทษประหารสูงสุด ไม่นับรวมอีก129ปี ที่ต้องชดใช้กรรมให้ข้าพเจ้าฟัง เรื่องราวที่ท่านจะได้พบต่อไปนี้เป็นเรื่องราวจากปากของเขาผู้เขียนได้เรียบเรียงขึ้น เพื่อให้อ่านง่าย ได้สาระสำหรับผู้อ่านทุกท่าน เพื่อความบันเทิงหรือนำไปสอนลูกหลานให้ได้รำลึกว่า เส้นทางแห่งอาชญากรเป็นเรื่องเลวร้าย ไม่เคยทำให้ผู้ใดได้ดี ไม่ว่าจะด้วยความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือด้วยสันดานแห่งอาชญากรก็ตาม พุทธศักราช 2484 งานประจำปี นมัสการองค์พระปฐมเจดีย์และพระร่วงโรจนฤทธิ์ อันเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำองค์พระปฐมเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรังคารแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า รัชกาลที่ 6 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ มีผู้คนมาร่วมงานจากทั่วทุกสารทิศ หลายคนถือโอกาสมาแก้บนที่บนไว้ต่อองค์พระปฐมเจดีย์ หรือพระร่วงโรจนฤทธิ์ก็ตามที มีการออกร้านขายส้มสูกลูกไม้ ขนมนมเนย อาหารการกิน ในจังหวัดนครปฐมอย่างเอิกเกริก ในจำนวนพ่อค้าแม่ค้าที่นำสินค้ามาขาย ก็มีร้านขายข้าวหลามและผลไม้ประจำถิ่นคือ ส้มโอนครชัยศรีของสิบตรีฉกาจ เด่นชาตรี อดีตพลทหารที่มีผลงานดีเด่นในการรบ จนได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็นสิบตรีเพื่อเป็นบำเหน็จในความดี สิบเอกฉกาจเคยเล่าให้ข้าพเจ้า (ไพฑูรย์)ฟังว่า การรบทุกครั้งไม่มีอะไรเป็นขวัญและกำลังใจ นอกจากเหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง พระเกจิอาจารย์ชิ่อดังเเห่ง จังหวัดนครปฐม
เหรียญของหลวงพ่อแช่มเป็นเหรียญทรงกลม ขอบมี 16 แฉก แต่ละแฉกมีอักขระอ่านว่า ''นะ มะ นะ อะ นอ กอ นะ กะ กอ ออ นอ อะ นะ อะ กะ อัง'' เรียกว่า ''ธาตุทั้ง16'' ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อแช่มนั่งเต็มองค์อยู่บนปืนพระราม 6 สองกระบอกไขว้กัน มือขวายกขึ้นเสมอ อก แบฝ่ามือออกด้านนอกในลักษณะการห้าม กลางฝ่ามือมีอักขระตัว ''นะ'' ปรากฏอยู่ชัดเจน ใบหน้าของหลวงพ่อมีใบหูข้างเดียว ด้านหลังเป็นรูปหนุมานอ้าปากอมพลับพลาที่ประทับของพระรามกับพระลักษณ์ พร้อมอักขระ เลขยันต์ หลวงพ่อแช่มปลุกเสกเดี่ยวแจกให้กับผู้เคารพนับถือ โดยมีศิษย์ชาวกรุงเทพฯ เป็นผู้ออกทุนสร้างถวายหลวงพ่อ สิบเอกฉกาจเล่าว่า ''เมื่อเข้าปะทะกับทหารกองกำลังผสมฝรั่งเศสกับญวนในสมรภูมิอินโดจีนสงครามเรียกร้องดินแดนที่ถูกฝรั่งเศสยึดเอาไปด้วยความฉ้อฉลในสมัยกรณีพิพาท ร.ศ.112 ที่ฝรั่งเศสเอากองทัพเรือมาปิดอ่าวไทย เเล้วข่มขู่ให้ต้องจำยอมยกดินแดนในฝั่งลาวเเละเขมรที่เคยเป็นดินเเดนในปกครองของประเทศสยามในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวบรมราชาธิราชให้กับฝรั่งเศสคืนกลับมาเป็นของประเทศไทยอีกครา ''เมื่อบุกเข้าหากองทัพฝรั่งเศสในระยะไกล กระสุนปืนเล็กยาว กระสุนปืนกล และสะเก็ดระเบิดจากกระสุนปืนใหญ่ และปืน ค. จะวิ่งผ่านตัวไปเสียงหวีดหวิวอยู่ตลอดเวลาครั้นเข้าสู่ระยะฉกรรจ์ของกระสุนปืนใหญ่ มีบ้างที่ถูกยิงอย่างจัง เสื้อขาดเป็นรู เเรงปะทะของกระสุนปืนทำให้รู้สึกจุกหงายหลังผลึ่ง เอามือลูบคลำดูไม่มีเลือดก็เกิดกำลังใจ ลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหาข้าศึกอีกครั้ง'' ''ข้าศึกเเทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าทหารไทยตัวเล็กๆ ไม่มีเสื้อเกราะถูกยิงจนล้มหงายหลังไปต่อหน้าต่อตา แต่กลับลุกขึ้นมาได้ ผบ.ทหารฝรั่งเศสสั้งให้ถอย โดยบอกว่าให้ถอยไปตั้งแนวรับใหม่ทหารไทยเป็นทหารผี'' เมื่อเข้าถึงระยะประชิดตัวแทงกันด้วยดาบปลายปืน ทหารฝรั่งเศสกับญวนยุ่ยเหมือนหยวกกล้วยแต่ทหารไทยเหนียวเหมือนแทงยาง กองพันทหารเสือของฝรั่งเศสที่เคยคุยนักหนาว่าไม่เคยรบแพ้ที่ใดในโลก มาพ่ายแพ้ต่อทหารไทยตัวเล็กๆ เสียธงเฉลิมพลให้ฝ่ายไทยถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน ผบ.ที่มียศเป็นพันเอกตายในที่รบอีกด้วย สิบตรีฉกาจมีลูกสาวอยู่หนึ่งคนชื่องามตา มีรูปร่างหน้าตาสะสวย ประกวดนางนพมาศและเทพีส้มโอ ได้รางวัลเงินสดและขันน้ำพานรองมาแล้ว อายุ18 ปี กำลังสาวสะพรั่ง เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆทั้งหลาย แต่สาวเจ้าหมั่นหมายกับหนุ่มชาวสวนนครชัยศรีไว้แล้วอย่างเป็นทางการ หนุ่มๆพากันมาซื้อของแน่น เกี้ยวพาราสีไปตามทำนอง สาวเจ้าก็โอภาปราศรัยเอาใจให้ซื้อสินค้า ในจำนวนลูกค้าที่มาเที่ยวงาน มีตำรวจหนุ่มชื่อ ร.ต.ต.สกนธ์ อยู่กองปราบปรามได้มาเที่ยวงานทุกวัน เพราะบ้านอยู่ที่ทรงคะนอง ร.ต.ต.สกนธ์พอใจสาวงามตามาก เกี้ยวพาราสีแล้วให้คนส่งจดหมายไปสารภาพรัก งานวันสุดท้าย ร.ต.ต.สกนธ์มาถามงามตาว่าได้รับจดหมายหรือไม่ สาวงามจาก็ตอบว่า ''ได้เเล้วจ๊ะ แต่หมวดต้องเข้าใจนะจ๊ะว่า ฉันหมั่นกับเจ้าของสวนหนุ่มชาวนครชัยศรีไว้เเล้วไม่อาจจะรับรักใครได้อีก ขอบพระคุณอย่างยิ่งที่มีใจให้ฉัน'' ร.ต.ต.สกนธ์เป็นลูกชายโทนของเศรษฐีอิ่ม ที่มีอิทธิพลแถบทรงคะนอง เมื่อไม่ได้ตามตรอกออกตามประตู ด้วยความรักหน้ามืดก็คิดสั้นว่า หากใช้อำนาจเถื่อนฉุดเอาสาวงามตามาทำเป็นเมีย การหมั้นก็จะต้องสิ้นสุดลงและสาวงามตาก็จะเป็นของตัวเองตลอดไป จึงลาราชการนำลูกน้องมาด้วยสี่คนล้วนเป็นตำรวจมือดีที่เรียกกันว่า ''อัศวินมือปราบสามยอด'' มาวางแผนการฉุดสาวงามตา แต่ติดที่ว่าสิบเอกฉกาจ ซึ่งเป็นอดีตทหารผ่านศึก มีบารมีวิชาอาคม และเป็นที่รักของชาวบ้านคอยดูแลอยู่จึงบุ่มบ่ามไม่ได้ เพราะกิตติศัพท์ด้านคงกระพันและความใจถึงของสิบเอกฉกาจดังกระฉ่อน วันพระ 15ค่ำ สิบตรีฉกาจออกจากบ้านไปทำบุญที่วัดตาก้องแต่เช้า ร.ต.ต.สกนธ์มาคอยดักรอคอยจนสิบตรีฉกาจไปไกลเเล้วจึงปรากฏตัวออกมา ร้องเรียกสาวเจ้าให้ออกมาจากบ้าน สาวเจ้าออกมาดู เห็นร.ต.ต.สกนธ์กับพรรคพวกก็ตกใจ แต่ทำใจดีสู้เสือ ร้องเรียกให้มานั่งกินน้ำกินท่าก่อนจะปอกส้มโอหวานให้กินแต่ ร.ต.ต.สกนธ์พยักหน้าให้ลูกน้องเข้ามาล็อคตัวสาวงามตา เอามือปิดปากไม่ให้ร้องเรียกคนช่วย อุ้มเอาไปขึ้นรถจิ๊ปที่จอดรออยู่
|