ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกขลัง หลากหลายเกจิอาจารย์
»
ไขปริศนา 'สีผึ้งมัทรี' ทำไม..หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ต้องโยนทิ้งน้ำ!!
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 3650
ตอบกลับ: 6
ไขปริศนา 'สีผึ้งมัทรี' ทำไม..หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ต้องโยนทิ้งน้ำ!!
[คัดลอกลิงก์]
morntanti
morntanti
ออฟไลน์
เครดิต
10113
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-6-10 09:00
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
พระเกจิตำราสายวัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา
6 มิถุนายน เวลา 11:14 น.
·
ไขปริศนา 'สีผึ้งมัทรี' ทำไม..หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ต้องโยนทิ้งน้ำ!!
สัปดาห์นี้ของดเรื่องพระเอาไว้อีกวัน เพราะยังมีเครื่องรางที่น่าสนใจ และผมก็สะสมเอาไว้เหมือนกันนั้นคือ 'สีผึ้ง'...ซึ่งท่านพ่อครูพระอาจารย์ ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจแห่งเรือนภรตมุนี เคยบอกเอาไว้ว่า... สีผึ้ง ถือเป็นเครื่องรางของขลังอย่างหนึ่งที่นิยมในหมู่นักเลงเจ้าชู้ ผู้ปรารถนาความเป็นที่รัก และตั้งแต่โบราณนานมาแล้วมีการบันทึกเอาไว้ถึงการสร้างสีผึ้งว่ามีวิธีมากมาย หลายตำรา ทั้งไสยศาสตร์ฝ่ายขาวและไสยศาสตร์ฝ่ายดำ แต่!! ยังมีสีผึ้งอย่างหนึ่งที่เนื่องในพระพุทธคุณ และอำนาจแห่งไสยศาสตร์ฝ่ายขาว สีผึ้งชนิดนั้นเขาเรียกว่า สีผึ้งมัทรี การทำสีผึ้งมัทรีนั้น ต้องอาศัยเทียนขี้ผึ้งแท้ ที่จุดในการเทศน์กัณฑ์มัทรี น้ำตาเทียนที่ได้จากการเทศน์กัณฑ์นี้ถือว่าขลังยิ่งนักในเรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยม สีผึ้งเทียนมัทรี พระอาจารย์ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ บอกว่า ลูกศิษย์หลายคนที่นำไปใช้ ได้บอกกล่าวกันว่าได้ผลเกินร้อยจริงๆ โดยเฉพาะการเจรจาค้าขาย พูดจานี้เห็นผลชะงัด เมื่อใครนำไปใช้ก็มีแต่คนรักคนชอบ นำพาโชคลาภให้แก่ผู้ใช้ โดยเฉพาะพ่อค้า-แม่ค้า ย่านสะพานเหล็กและฝั่งธนฯ เพราะสีผึ้งมัทรีนั้นอาศัยคุณพระ คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ อาศัยพลังจากเทพเทวดาที่ดลความรัก ความปรารถนาโชคลาภให้เกิดขึ้นด้วยแรงครู ไม่ทำผลเสียผลร้ายแก่ผู้ครอบครองและผู้อื่น สีผึ้งมัทรีนี้มีฤทธิ์ทางจิตใจทำให้รักใคร่บังเกิดเมตตามหานิยม ใครเขาเห็นหน้าก็รัก จากไปก็อาลัย เจรจาสิ่งใดก็น่าเชื่อถือ เข้ามาอุดหนุนแล้วก็อยากวนเวียนมาอีก ทั้งหมดเป็นไปด้วยแรงเมตตา จากอานิสงส์แห่งการเทศน์กัณฑ์มัทรี ซึ่งวิธีการหุงสีผึ้งมัทรีนี้ว่ากันตามตำราของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว แน่นอนว่า ถ้าเอ่ยถึง หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ฉะเชิงเทรา ย่อมไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะวัตถุมงคลของท่านนั้นโด่งดังเป็นอมตะ หลวงพ่อดิ่ง ท่านเป็นพระเถราจารย์ยุคอินโดจีนที่เคร่งในวัตรปฏิบัติ มีเมตตาจิต และเชี่ยวชาญแตกฉานในทุกสาขาวิชา รวมถึงพุทธาคมต่างๆ อีกทั้งเป็นที่รักเคารพและศรัทธาของบรรดาลูกศิษย์ลูกหา วัตถุมงคลของท่านล้วนทรงไว้ซึ่งพุทธานุภาพเป็นที่นิยมสะสมทั้งสิ้น ที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษและปัจจุบันนับว่าหาดูหาเช่าได้ยากยิ่ง เพราะผู้มีไว้ต่างหวงแหน ไม่ว่าจะเป็น 'ลิงไม้แกะ' ที่แกะจากรากต้นรักและรากต้นพุดซ้อนอันทรงพุทธานุภาพ และ 'เหรียญปั๊มรูปเหมือน รุ่นแรก ปี 2481' และนอกจากนี้ท่านยังมีวิชาวิทยาคมอีกมากมาย รวมไปถึง วิชาหุงสีผึ้งมัทรี ท่านพ่อครูพระอาจารย์ ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ แห่งเรือนภรตมุนี ท่านได้รับถ่ายทอดวิชามาโดยตรง โดยวิธีการหุงนั้นท่านจะนำเทียนสีผึ้งแท้ 1 คู่ น้ำสะอาด 2 ขวด ตั้งในขันเงินเปียกทอง รองด้วยพานมงคล 8 ประการ เขียนยันต์โสฬสมหามงคล ยันต์วิเศษตำรับหลวงปู่เฒ่ายิ้มแห่งวัดหนองบัว กาญจนบุรี และยันต์อิติปิโส ใส่กระดาษขาวรวม 4 ชุด ห่อขันแล้วพันด้วยสายสิญจน์ ชักขึ้นธรรมมาสน์ ถวายองค์แสดงคาถาพันจบแล้ว ดูฤกษ์ที่เป็นมงคลแล้วนำเทียนสีผึ้งแท้คู่นี้ขึ้นจุดบูชาธรรมในกัณฑ์มัทรี ซึ่งบทเทศนานี้เป็นกัณฑ์ที่ 9 90 พระคาถา โบราณาจารย์ท่านกล่าวว่าสีผึ้งที่จะนำมาหุง ให้เป็นเสน่หาเมตตาพาร่ำรวยนั้น ต้องได้จากน้ำตาเทียนที่จุดบูชาธรรมในกัณฑ์มัทรีจึงจะเต็มสูตร นำมาเคี่ยวกับยอดรักซ้อนและยอดสวาทด้วยไฟจากฟืนไม้รักไม้สวาท หลังได้เทียนมัทรีแล้วอย่างอื่นไม่ยาก เพราะเครื่องอาถรรพณ์เช่นไม้มงคลต่างๆ ก็ปลูกอยู่ในบริเวณเรือนพระภรตมุนีนั่นเอง อยู่ที่ผู้ใช้เองว่าจะอธิษฐานไปในด้านไหน ความรัก หรือว่าการงาน แต่ห้ามเด็ดขาดคือ อย่าใช้สีผึ้งไปในทางที่เสื่อมเสีย เช่น ไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่มีเจ้าของแล้วเพราะมันเป็นบาปกรรมที่ไปพรากคู่ของคนอื่นเขา เมื่อถามว่า ทำไมสีผึ้งที่หุงจากเทียนมัทรีจึงขลังนักขลังหนา ท่านบอกว่า เป็นเพราะสีผึ้งที่ได้จากน้ำตาเทียนบูชากัณฑ์เทศน์มัทรีนั้น สามารถอธิษฐานให้บังเกิดความเมตตา ได้สมปรารถนา ซึ่งควรอธิษฐานเพื่อความสุขสำเร็จให้เกิดแก่ตนและคนใกล้ชิด ที่ไม่เกิดการเบียดเบียนให้ใครต้องได้รับทุกข์จากการอธิษฐานนั้น จึงจะเป็นผลที่บริสุทธิ์ปราศจากมลทิน เหมือนจิตใจของพระนางมัทรีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดีต่อพระราชสวามี และมีความรักอันแสนบริสุทธิ์ให้ลูกทั้งสอง ท่านเคยเล่าเอาไว้ว่า มีเรื่องจริงจะเล่าให้ฟังหนึ่งเรื่อง เรื่องนี้พระอุปัชฌาย์ของท่านเล่าให้ฟังก่อนจะสอนวิชาหุงสีผึ้งให้ท่านนั้น พระอุปัชฌาย์ครูบาอาจารย์เมตตาเล่าให้ฟังว่า ท่านเป็นคนบางวัว เป็นศิษย์หลวงพ่อดิ่ง ผู้เก่งกล้าสามารถมีวิทยาอาคมขลัง วิชาหุงสีผึ้งมัทรีนี้ก็เป็นวิชาหลวงพ่อดิ่ง นั้นเอง เพราะฉะนั้นวิชาหุงสีผึ้งมัทรีนี้จึงเป็นตามสูตรตำราของหลวงพ่อดิ่ง แต่หลวงพ่อดิ่งนั้นใช้วิชานี้เพียงครั้งเดียวในยุคของท่าน ก่อนจะถ่ายทอดให้พระอุปัชฌาย์ของท่านพ่อครูพระอาจารย์ ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ ด้วยเหตุผลว่า ครั้งหนึ่งหลวงพ่อดิ่งทำพิธีหุงสีผึ้งมัทรีแจกให้ศิษย์ใกล้ชิดนำไปใช้ ปรากฏว่ามีลูกศิษย์คนหนึ่งของท่านนำไปป้ายผู้หญิง ทำให้หญิงนั้นต้องตกมาเป็นภรรยาโดยที่มิได้รักใคร่กันมาก่อน ซึ่งต่อมาไม่ช้าไม่นานเกิดเหตุการณ์สมคำโบราณว่าไว้กับหลวงพ่อดิ่ง คำนั้นคือ 'เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กระดูกแขวนคอ' เพราะหญิงสาวคนนั้นคือหลานสาวห่างๆ ของหลวงพ่อดิ่ง และทั้งๆ ที่เธอไม่ได้รักผู้ชายคนนี้เลย แต่ต้องมาตกหลุมรักด้วยมนตรา จึงเป็นเหตุทำให้หลวงพ่อดิ่งเสียใจมาก จึงบอกให้ลูกศิษย์ไปเรียกสีผึ้งทั้งหมดที่ทำแจกไปกลับมาโยนน้ำทิ้งทั้งหมด และจากนั้นท่านก็ไม่ทำสีผึ้งมัทรีอีกเลย ถามว่า ทำไมหลวงพ่อดิ่งจึงทำเช่นนั้น เพราะท่านตระหนักว่าการที่คนนำสีผึ้งไปป้ายที่ริมฝีปากแล้วไปเจรจาทำให้ผู้หญิงคนนั้นมาหลงรัก ยอมทอดกายให้เป็นเรื่องบาป หรือการเอาไปป้ายตามเนื้อตัวแล้วเจรจา มันก็เป็นบาป เพราะคำตอบคือ หญิงนั้นไม่เคยทำกรรมร่วมกับผู้ที่ป้ายสีผึ้ง แต่ต้องมาทนใช้ชีวิตร่วมด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการฝืนวิถีแห่งกรรม ผู้หญิงคนนั้นอาจจะทำกรรมร่วมกับคนอื่นไว้ก็ได้ แต่ชีวิตของเขาต้องหักเหเปลี่ยนเส้นทางดำเนินชีวิตตามวิถีของการกระทำที่ได้ กระทำไว้ ตรงนี้แหละคือบาป!! แต่ใครมีสีผึ้งมัทรีของท่านพ่อครูพระอาจารย์ ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจแห่งเรือนภรตมุนี ถือว่าไม่บาปครับ ถ้าท่านไม่ไปลักหม้อข้าวของครอบครัวชาวบ้าน!!
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22893
2
#
โพสต์ 2015-6-10 15:57
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
3
#
โพสต์ 2016-9-10 06:30
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Nujeab
Nujeab
ออฟไลน์
เครดิต
27782
4
#
โพสต์ 2016-9-10 10:04
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
5
#
โพสต์ 2017-5-23 07:56
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
sritoy
sritoy
ออฟไลน์
เครดิต
3631
6
#
โพสต์ 2017-5-23 15:26
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
7
#
โพสต์ 2020-9-8 06:37
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...