ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 3971
ตอบกลับ: 8
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เกร็ดประวัติหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา ๒วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ต.นาทราย อ.ลี้ จ.ลำพูน

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oustayutt เมื่อ 2015-5-3 09:54

พระผง รุ่น "พระสุปฏิปันโน"

ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา

พระผง รุ่น "พระสุปฏิปันโน"

เหตุการณ์ในวันที่ 16 เมษายน 2537 เป็นอีกครั้งที่ยังจำได้...ตอนที่คุณแน่งน้อยได้กราบเรียนถามครูบาเรื่อง พระรุ่นนี้ของเธอมีพระธาตุขึ้น ตามที่เธอได้กราบเรียนครูบาเหมือนในหนังสือ (คุณแน่งน้อยจะใช้เทปอัดคำพูดของครูบาไว้) วันนั้นครูบาตรวจงานในวัด ส่วนผมเดินพยุงท่าน

คุณพี่แน่งน้อยกราบเรียนครูบาว่า มีเรื่องสำคัญปรึกษา ท่านไปนั่งพักที่ศาลาพรหมจักโก (ข้างศาลเจ้าแม่กวนอิมในวัด) ครูบาท่านนั่งข้างบน คณะคุณแน่งน้อยนั่งข้างล่าง ส่วนผมก็นั่งห่างๆ เพราะเกรงจะเป็นเรื่องสำคัญ เลยไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ศาลาเงียบมาก จึงได้ยินทุกคำพูดของครูบาท่าน วันนั้นตอนคุณแน่งน้อยเปิดพระออกมา มีกลิ่นหอมประหลาดทั่วทั้งศาลา (ไม่รู้ว่าจะมีใครได้กลิ่นเหมือนผมบ้าง) ผมก็มัวแต่มองหาต้นเหตุของกลิ่นหอม

คุณแน่งน้อยเธอจะถวายพระองค์นั้นให้ครูบาเพื่อเอาไปให้คนบูชา ตั้งราคาไว้สูงมาก..

แต่ครูบาท่านไม่รับไว้ ท่านบอก...แล้วแต่ศรัทธาของญาติโยมเต๊อะ มีน้อยทำน้อย มีมากทำมาก

ผมเลยขยับตัวไปใกล้ๆ ขอชมพระผงของคุณแน่งน้อยดู พอเข้าใกล้เลยทราบสาเหตุของกลิ่นหอมมาจากพระผงของคุณแน่งน้อยนั่นเอง กลิ่นหอมนี้เป็นกลิ่นที่ไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อนเลย ยังแปลกใจว่าศาลาใหญ่มาก ทำไมถึงได้กลิ่นหอมทั่วไปหมดศาลา



ปาฏิหาริย์ ดอกบัวแก้วกลางนภา


อ้างอิง:

   

ภาพปาฏิหาริย์ ดอกบัวแก้วกลางนภา

อันเกี่ยวเนื่อง กับหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

.............................................................................

ภาพที่พี่แหม่มฯ ถ่ายภาพได้โดยไม่ได้ตั้งใจ....

คือถ่ายภาพลูกโป่ง และโคมลอย ในท้องฟ้า....

ที่หลวงปู่วงศ์ฯ บอกว่า ให้ออกมาดูเขาที่ด้านนอกอาคาร

เมื่อล้างฟิล์ม และอัดภาพมา ก็ปรากฏ ภาพดังนี้....

วันนั้นผมยืนกับครูบาตลอด เพราะต้องคอยกางร่มกันถือไม้เท้าให้ท่าน คนเยอะมากตอนปล่อยตุง

ตอนมองไปบนท้องฟ้า ด้วยตาเนื้อ ก็ประหลาดใจเหมือนที่เห็นแบบภาพที่คนถ่ายไว้ ที่เมฆเป็นรูปเหมือนดอกบัวเต็มท้องฟ้า (โชคดีจริงๆ ที่มีการถ่ายภาพนี้ไว้เป็นหลักฐาน..ไม่อย่างนั้นอาจจะมีคนว่าพูดไปเรื่อยเปื่อย) ตอนที่ท่านพูดกัน ลูกศิษย์แถวนั้นจำไม่ได้ว่าท่านพูดอะไร เพราะหลังจากนั้นท่านก็เอาเหรียญสตางค์พวกเหรียญสลึง เหรียญห้าสิบสตางค์มาแจก คนก็แย่งกันใหญ่ ผมขนาดไม่อยากได้ ยังต้องเก็บเอาไว้หลายเหรียญ (เพราะเห็นคนแย่ง เลยต้องเก็บกับเค้าบ้าง) เหมือนเป็นเครื่องยืนยันเรื่องบุญ มีจริงๆ...เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเชื่อมั่นในการทำบุญกับครูบามากๆ


ท่านเป็นพระพิเศษ ท่านกลัวคนอื่นบาป

ตอนปลายๆ ชีวิตก่อนท่านจะละสังขาร ครูบาไม่ค่อยสบาย บางครั้งท่านจะหายใจเร็วเหมือนเหนื่อย เรียนถามท่านว่า..ครูบาเหนื่อยไหมครับ

ท่านตอบว่า...เวลานี้ใจไหว แต่ร่างกายไม่ไหว

เวลานวดขาท่านบางครั้ง เหมือนบางครั้งขาท่านบวม รู้สึกสงสารท่านต้องรับแขกโปรดญาติโยม ไม่ค่อยได้พักผ่อน

มีอยู่ตอนบ่ายวันนึงจำวันที่ไม่ได้ อยู่ในห้องกับ 3 คน มีผม พี่โอภาส (ชลบุรี ) และครูบา ท่านพูดคาถาบทหนึ่งให้ฟัง ผมจดไว้ที่ถุงกระดาษ (เสียดายตอนหลังทำหายไป)

วันนั้นท่านอารมณ์ดี เล่าเรื่องอะไรให้ฟังเยอะแยะ ผมกราบเรียนว่า ครูบาไปตรวจสุขภาพที่ โรงพยาบาลศิริราชไหม เพราะมีคุณหมอผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยฝากมาเรียนนิมนต์ท่านไปตรวจรักษา ปกติท่านก็จะไปรักษาที่โรงพยาบาลลานนาที่เชียงใหม่เป็นประจำ

ครูบาท่านก็เฉยๆ ไม่รับปากว่าจะไป

พี่โอภาสเลยพูดขึ้นมาแทนว่า ครูบาไม่ค่อยอยากไปกรุงเทพ... ท่านไม่อยากลอดสะพานลอย เดี๋ยวนี้กรุงเทพสะพานเยอะ ทางด่วนเยอะ ครูบาเราไม่เหมือนพระองค์อื่นทั่วไป ท่านเป็นพระพิเศษ ท่านกลัวคนอื่นบาป ..

ผมหันไปมองหน้าครูบา ท่านก็ยิ้มๆ ให้ผม ก็ได้แต่มองหน้ากัน ตอนหลังเลยไม่ได้คุยกับท่านเรื่องจะให้ท่านไปกรุงเทพอีกเลย


เกี่ยวกับการไม่ทานเนื้อสัตว์ของครูบา

บ่อน้ำทิพย์ วัดพระบาทห้วยต้ม

นึกขึ้นได้อีกเรื่องเข้ากับช่วงเทศกาลกินเจ....

เกี่ยวกับการไม่ทานเนื้อสัตว์ของครูบา

คงเป็นอุปนิสัยของท่านที่สร้างมาแต่ก่อน ท่านมีเหตุให้ไม่ทานเนื้อสัตว์มา ตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งแตกต่างจากคนทั่วไป และคนในท้องถิ่นที่ท่านอยู่ตอนเด็กๆ

(เหมือนกับอาจารย์ของท่านทั้งครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี และตัวครูบาเอง)

อาหารที่ท่านฉัน จะมีแม่ครัวประจำเป็นผู้ปรุง ก็จะมีผักหลายชนิด น้ำพริก และต้มผัก (รสชาติเค็มๆ ดี ทานไปก็อร่อยดี เพราะลูกศิษย์จะคอยรับประทานอาหารที่ท่านฉันเหลือ)

บางทีก็จะมีผลไม้ หรืออาหารที่โยมนำมาถวาย น้ำดื่มท่านจะดื่มเฉพาะจากน้ำบ่อทิพย์ในวัด (แม้จะไปกิจนิมนต์ที่อื่น ลูกศิษย์ก็จะนำน้ำบ่อทิพย์ติดไปด้วย)

ครูบาบอก การไม่ทานเนื้อสัตว์ ก็จะทำให้กรรมค่อยๆ เบาบางลง และเข้าถึงสมาธิได้ง่าย

ครูบาท่านเคยบอกลูกศิษย์ใกล้ชิดอีกคนว่า

ถ้าจำเป็นต้องกินเนื้อสัตว์จริงๆ ให้หลีกเลี่ยงสองอย่าง คือเนื้อวัว กับเนื้อควาย ท่านบอก วัวเป็นแม่ ควายเป็นพ่อ

ผมคิดเอง ว่า พวกลูกหลานครูบา ก็อาจจะเคยเป็นลูกเป็นหลานแม่วัวอสุภราช วนเวียนในแถวเจดีย์ศรีดอนไชย (ชเวดากองจำลอง) ท่านเลยบอกแบบนั้น เพื่อสำหรับลูกศิษย์ที่ยังต้องทานเนื้อสัตว์ ก็หลีกเลี่ยงเนื้อสองชนิดนี้ไป


เวลานี้ ก็พยายามอยู่

มีอยู่บ่ายวันนึง อยู่กับท่านสองคนที่ศาลา นึกคะนอง อยากจะถามว่า ครูบาเหาะได้ไหม แต่ไม่รู้จะถามท่านอย่างไรถึงจะเหมาะสม เวลาจะถามอะไรต้องวางแผนในการตั้งคำถามก่อน เพื่อให้ท่านสามารถตอบเราได้ด้วย...

เลยถามท่านว่า ครูบาครับ อยากเหาะได้ต้องทำอย่างไร

ครูบาท่านก็นิ่งสักครู่ แล้วก็ตอบว่า...เวลานี้ ก็พยายามอยู่

ผมก็ไม่เข้าใจคำตอบท่านเท่าไร แต่ไม่กล้ารบกวนถามท่านต่อ เพราะชอบถามท่านไปเรื่อยเปื่อย บางเรื่องท่านก็ไม่ตอบ บางทีก็คงจะรำคาญผมเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้จะถามใครนอกจากท่าน


ห่วงลูกหลาน

มีเหตุการณ์หลายครั้ง ที่ผมเชื่อว่าท่านทราบว่าท่านห่วงลูกหลาน ค่อยๆ ทยอยเล่าเท่าที่นึกได้ละกัน ...

เรื่องแรก มีวันนึง ประมาณปี 2538

พี่ช่างไม้แกะสลัก ที่มาทำงานให้ครูบาบอกผมว่า ครูบาให้ลูกศิษย์วัดเอาอาหารไปให้คนที่ท้ายหมู่บ้าน

เด็กวัดเอาไปให้ตามที่ท่านสั่ง

ไปถึงก็เจอ เป็นชาวบ้านที่เพิ่งมาอยู่ใหม่ นอนหิวข้าวอยู่

ครูบาท่านทราบได้ยังไร ก็ประหลาดใจดี


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-5-3 09:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

เดี๋ยวค่อยไป ถึงเท่ากัน

เกี่ยวกับช่างไม้แกะสลักสองสามีภรรยา ถ้าจำไม่ผิด เป็นคนสุโขทัย ที่มาช่วยทำงานถวายครูบา

เมื่อก่อนจะอยู่ในบ้านหลังวัด เคยถามว่า ทำไมถึงมาศรัทธาครูบา พี่ผู้ชายเล่าให้ฟัง เหตุการณ์3อย่าง

1. ตอนแรก พี่ผู้ชายเค้าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดอื่น ได้ติดตามพระไปพิธีพุทธาภิเษกที่วัดหลวงพ่อเปิ่น ที่นครปฐม หลังพิธีได้เอาม้วนด้ายสายสิญจน์มาด้วย ตอนกลับพระที่พาไปได้มาแวะที่วัดห้วยต้ม พี่ผู้ชายได้เอาม้วนด้ายเพื่อขอให้ครูบามนต์ (เสก) ให้ ครูบารับมาแล้วก็บอกว่า..มนต์แล้ว จะมนต์อีกทำไม (เสกมาแล้ว จะเสกอีกทำไม) แต่ท่านก็เป่าให้

    ทั้งพระที่พามา ทั้งช่างคนนั้นและคณะที่มาด้วย ก็มองหน้ากัน ครูบาท่านทราบได้อย่างไร

2. ครั้งที่สอง พี่ผู้ชายคนนี้ติดตามคณะทัวร์จะไปทำบุญกันที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี มาแวะทำบุญกับครูบาก่อน ตอนเช้าก่อนออกจากวัดห้วยต้มเพื่อไปอุทัยธานี ได้มาบอกลาท่าน ครูบาบอกคณะทัวร์ว่า สักสี่โมงเช้า ค่อยไป

    แต่คณะทัวร์ก็เกรงว่าจะเสียเวลา ครูบาก็บอกอีก เดี๋ยวค่อยไป ถึงเท่ากัน

    แต่คณะทัวร์ก็จำเป็นต้องไปตามกำหนดการณ์

    ปรากฏว่าเจอหินถล่มขวางทางเส้นทางลี้เถิน ต้องรอกรมทางมาเก็บหินที่ถล่ม เสียเวลาจอดรถรอ เคลียหินที่ถล่มข้างทาง กว่ารถจะได้ออกก็สี่โมงเช้าเหมือนครูบาบอก ญาติโยมบ่นกันใหญ่ น่าจะรอเหมือนครูบาบอก

3. พี่คนนี้ พอเจอเหตุการณ์ข้างต้น ยิ่งเริ่มศรัทธาครูบา ได้มาทำบุญที่วัด ครูบามองหน้าแล้วบอกพี่คนนี้ว่าบ้านลูกวางพระ..ผิดที่ ให้ไปย้ายจากตำแหน่งที่ครูบาบอก

พี่คนนี้กลับไปบ้านเป็นเหมือนที่ครูบาบอกทุกประการ


ครูบาจะไปไหน

เมื่อปี 2549 เคยไปเขียนเรื่องครูบาไว้ น้องคนนึงเค้าเก็บกระทู้ไว้ เรื่องครูบาจะไปไหนhttp://www.phuttawong.com/v1/www.gmw....htm#LoopStart

ผมเพิ่งเข้ามาเวปคุณเนาว์ไม่นาน ได้มีโอกาสเล่าบางเรื่องเกี่ยวกับครูบาวงซึ่งผูกพันกับผมมาก ไม่มีวันไหนที่จะไม่ระลึกถึงท่าน ไม่ว่าจะไปที่ไหนแม้ต่างประเทศก็ต้องหันหน้าไปทิศที่ท่านอยู่แล้วกราบระลึกถึงท่าน

มีเรื่องหนึ่งเล่าเลย...

ครูบากับรถสามล้อไฟฟ้าของท่าน

วันนึงกำนันวิรัตน์ ภัทรประสิทธิ์ (ขออภัยถ้าเขียนชื่อผิด) กับครอบครัว จากจังหวัดพิจิตร (ครูบาท่านมีฉายาเรียกกำนันวิรัตน์ด้วย ..) ครอบครัวภัทรประสิทธิ์ศรัทธาครูบามาก ได้มาหล่อพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ที่วัด มีช่างมาหล่อสุมไฟกันทีเดียว บริเวณลานหน้าวิหารพระพุทธบาทที่วัดห้วยต้ม เพื่อถวายครูบา

ผมอยู่กับครูบาตลอดโดยมีหน้าที่ถือร่ม กับเดินตาม รถสามล้อไฟฟ้า ของท่าน (งานประจำของผมเวลาอยู่กับท่าน) ในพิธีอยู่กันประมาณไม่เกิน 20 คน จนพิธีหล่อพระเสร็จ ได้กลับมาที่กุฏิ มีโอกาสอยู่กับท่านลำพังได้ถามท่าน 2 เรื่องสำคัญดังนี้

1. ด้วยความสงสัย เพราะเป็นคนขี้สงสัย และไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ ต้องการการยืนยันให้แน่ใจ

ผมถามท่านว่า "ครูบาครับ หล่อพระวันนี้มีเทวดามาไหม "

ท่านตอบมา "มา"

ถามท่านต่อว่า "มาเยอะไหมครับ"

ท่านบอกว่า "เยอะ"

ที่ถามท่านแบบโง่ๆ อย่างนี้ เพราะสงสัยมานานว่า เทวดามีจริงไหม แต่อยากทราบจากปากท่านจริงๆ

2. ช่วงนั้นประมาณปี 2538 หรือ 39 ได้ข่าวเข้าหูว่า มีคนทรงเจ้าเข้าผีไปอ้างว่า ทรงองค์ครูบาศรีวิชัย

วันนั้นผมถามท่านว่า "ครูบาครับ เวลานี้ ครูบาศรีวิชัยอยู่ไหน"

ท่านตอบ "ดุสิต"

ผมถามต่อว่า "ครูบาขาว (ปี) เวลานี้อยู่ที่ไหน"

ท่านตอบ "ดุสิต "

ผมถามต่อว่า "แล้วครูบาวงล่ะ จะไปไหน"

ท่านยิ้มเห็นฟัน (คงรู้ทันเรา) แล้วตอบผมว่า "เฮาไปตามบุญ บ่ไปตามบาป"

ผมเลยขอท่าน.. "งั้นครูบาเอาผมไปด้วยเน้อ"

ท่านพยักหน้าบอก "อือ"

..ยังย้ำท่านอีกที ครูบาสัญญากับผมแล้วนะ อย่าลืมนะ

เล่าให้ลูกศิษย์คนอื่นๆ ฟัง ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว ยังมีเรื่องที่ท่านเคยเล่าความสัมพันธ์ในอดีตของท่านบางช่วงกับหลวงปู่บุดดา หลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ผมฟังด้วย...ค่อยๆ ทยอยเล่าละกัน งานเยอะ

เคยถามท่านว่า พระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว แบบพระศรีอาริยเมตไตรย จะมาเกิดอีกไหม

ท่านบอก..มา ท่านจะมาโปรดลูกหลานของท่าน

ส่วนครูบาของผม ผมเชื่อว่าตอนนี้ท่านก็คงอยู่ที่เดียวกับอาจารย์ของท่านทั้งสององค์ และกำลังมองดูลูกหลานทั้งหลายอยู่ตลอดเวลา


เป็นไง กินเหล้าสนุกไหม

พระอาจารย์นิกร ชัยยะเสโน
วัดพระธาตุแก่งสร้อย

มีอยู่ครั้งนึง ได้มีโอกาสติดตาม ครูบาท่านไปตรวจงานที่วัดพระพุทธบาทผาหนาม (วัดของครูบาขาวปี)

ตอนนั้น ครูบามอบหมายให้ ตุ๊นิกร ไปช่วยดูงาน คุมก่อสร้าง พอกลับมาถึงวัด มีคณะผ้าป่ามารอที่ศาลาหน้าวัด

ครูบาพอมาถึงวัดก็เดินตรงไปที่โยมคนนึง ตอนแรกผมสงสัยว่าท่านเดินไปทำไม เพราะผมเดินพยุงท่านไป

ท่านเดินไปทักโยมคนนั้นในคณะผ้าป่า...

"เป็นไง กินเหล้าสนุกไหม"

แล้วท่านก็เดินขึ้นไปบนกุฏิเลย ไม่รับทานผ้าป่าคณะนั้น

ลูกศิษย์จะทราบว่าท่านไม่ชอบพวกที่กินเหล้าเมายามาทำบุญที่วัด ครูบาท่านทราบได้อย่างไรก็น่าประหลาดใจดี คำพูดที่ท่านจะพูดบ่อยๆ ติดหูลูกศิษย์ว่า

"ระวังบุญจะฆ่าบุญ"

ลูกศิษย์คงทราบดีว่า ถ้าทำอะไรผิดอย่างไร

ครูบาท่านก็จะทราบหมด อะไรที่ท่านไม่ชอบ

ก็อย่าไปทำผิด

บางคนที่นำเนื้อสัตว์เข้ามาในวัด ครูบาท่านก็จะทราบ ลูกหลานทำอะไรก็ต้องมีสติให้ดี อย่าคิดอะไรไม่ดี อย่าทำอะไรไม่ดี เดี๋ยวครูบาท่านจะดุเอา

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-5-3 09:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ทำไมถึงรวย

ผมเคยมีความสงสัยในการทำบุญ ได้ถามคำถามท่านว่า ทำไมประเทศที่ไม่นับถือพระพุทธศาสนา หลายประเทศ แบบยุโรป อเมริกา คนถึงได้รวยกว่าเราทั้งๆ ที่เราเป็นประเทศพุทธ และมีหลวงพ่อหลวงปู่ที่เป็นเนื้อนาบุญหลายรูป

ครูบาท่านตอบ...

พวกนั้น ที่รวย เพราะฤทธิ์ของพญามาร มันหลอกเรา


สมัยพระศรีอาริย์

เข้าๆออกๆ เวป วันนี้หลายครั้ง เพราะพอนึกเรื่องอะไรที่ครูบาบอกได้ก็จะมาเขียนในสมุดบันทึกไว้ และก็มาเขียนในกระทู้ตามที่พี่มหาหินบอกไว้....

ประมาณปี 2539-2540 ผมเคยถามท่านเรื่อง สมัยพระศรีอาริยเมตไตรย ความว่า...

ครูบาครับ เค้าว่าสมัยพระศรีอาริยเมตไตรยนี่จะสุขสบายจริงไหม

ครูบาท่านตอบว่า...ณ เวลานี้ ก็เริ่มเข้าเขตศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรยแล้ว คนถึงได้สุขสบาย บารมีของท่านทำให้เราสบาย


เรื่องเกี่ยวกับ วังหน้า

...ว่าตามตรง ผมเองตอนเห็นหนังสือที่มีรูปที่ครูบาเขียนไว้ให้ลูกศิษย์ดู ก็แปลกใจ

เพราะตอนที่ผมเคยคุยกับท่าน ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เท่าไร ในส่วนที่ครูบาเคยพูดกับผมก็เป็นอีกวาระหนึ่ง เรื่องมันยาวมาก

ตอนนั้นครูบาเองก็เป็นพระในป่าในบ้านนอก ประชาชนทั่วไปก็ไม่มีคนรู้จักมากมาย ท่านพูดชื่อเจ้านายบางองค์ ท่านพยายามนึกชื่อ บางชื่อท่านก็จำไม่ได้ ท่านพยายามนึกชื่อ ผมเองก็ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ท่านก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร เรื่องมันนานมาแล้ว วันหลังมีโอกาสจะเล่าให้ฟังครับ...


เนินมหัศจรรย์ (miracle hill)

รูปปั้นฤๅษีวาสุเทพ

ที่วัดศรีดอนชัย

ผมเลือกเอาเรื่องที่ผมบันทึกเอาไว้อ่านเอง เพื่อจะได้ระลึกถึงครูบา บางเรื่องที่น่าสนใจจากพวกลูกศิษย์ใกล้ชิดคนอื่นที่น่าสนใจ ผมก็เอามาจดไว้ จะได้ไม่ลืม....

วันนึงนั่งคุยเล่นกับ ตุ๊นิกร คุยกันเรื่องครูบา

ตุ๊กรถามว่า รู้จักเนินมหัศจรรย์ไหม (miracle hill)

ผมถามว่า ที่ไหน

ตุ๊บอกว่า ที่แม่สอดไง

ผมบอกว่า รู้จัก

ตุ๊กรบอกว่า ครูบาเคยบอกว่า สมัยท่านเป็นฤๅษี ท่านไม่มีน้ำดื่ม ท่านอธิษฐานขอน้ำให้ไหลขึ้นมาบนเนิน ..

เนินมหัศจรรย์ อ. แม่สอด จ.ตาก

ทุกวันนี้คำอธิษฐานของท่านก็ยังคงอยู่

แม้เวลาจะผ่านมานานแล้ว เวลาขับรถผ่านจากตากไปแม่สอด จะเห็นคนมาจอดรถ ให้รถไหลจากที่ต่ำไปที่สูงเล่น

คำอธิษฐานเล็กๆ น้อยๆ ก็มีผลมาก

ครูบาท่านเคยบอกผม

..อย่าไปมองข้ามคำอธิษฐานเล็กๆ น้อยๆ นะ

เรื่องนี้ตุ๊กรเล่าให้ฟัง ไม่มีโอกาสถามครูบาสักที ได้แต่จดไว้


ครูบาช่วยลูกศิษย์

มีเรื่องในบันทึกของผมที่เกี่ยวเนื่องแต่คนละวาระกัน..

ลูกศิษย์ใกล้ชิดคนนึงมีเรื่องน่าสนุกมาเล่าบอกว่า

วันก่อนมีโยมคนนึงมาทำบุญกับท่าน ครูบาบอกให้นอนพักที่วัด แต่ชายคนนั้นก็ไม่ยอมนอน จะกลับกรุงเทพให้ได้ ครูบาท่านเลยเอาน้ำหมากเจิมที่หน้าผากให้ (ท่านไม่ค่อยทำให้ใคร)

ปรากฏว่าลูกศิษย์คนนั้น ขับรถไปชนกับรถ 10 ล้อพังยับเยิน แต่ไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย

ชายคนนั้นบอกว่า รถ 10 ล้อ บอกว่า เห็นพระมายืนขวางรถไว้ เลยหักหลบ

ภายหลังโยมคนนั้นได้กลับมาหาครูบา มากราบขอบคุณครูบา เค้าบอกว่า ครูบาช่วยเค้าไว้

เรื่องทำนองนี้ผมได้ยินมาบ่อยมากจนชิน แต่ก็เก็บคำถามความสงสัยไว้มาตลอด

จนวันนึงมีโอกาสเหมาะจังเรียนถามท่าน ... ครูบาไปช่วยลูกศิษย์ด้วยตัวเองหรือเปล่าครับ

ครูบาตอบ...บางทีก็ไม่ได้ไป บางทีเทวดาเค้าก็มาช่วยครูบา เค้ามาช่วยสร้างบารมี

ลูกหลาน ที่มีพระเครื่องของท่าน จงเชื่อมั่นตามที่ท่านบอก ถ้าไม่ใช่ครูบามาโปรดช่วย ก็คงมีเทวดาที่เป็นลูกศิษย์ของท่านมาช่วย ครูบาสร้างบารมี ตามที่ท่านบอก

เวลาจะไปไหนมาไหน หรือขออนุญาตสิ่งใดๆ ถ้าครูบาท่านบอกอะไร หรือห้ามอะไร ลูกศิษย์ก็จะไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่ง

ครูบา ท่านมี วาจาสิทธิ์ จริง ๆ

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-5-3 09:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

รู้ไหม? ...รู้

ครูบาขาวปี

มีอยู่วันนึง นั่งอยู่กับ ครูบาบนศาลา ท่านรับแขกอยู่ มีคณะลูกศิษย์จากกรุงเทพ ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นคณะของคุณเสริมศักดิ์...

มากราบเรียนท่านว่า จะเอาผ้าป่าไปทอดที่วัดพระพุทธบาทผาหนาม อาจจะเลยไปทอดที่วัดบ้านปางด้วย แล้วค่อยกลับมาวัดห้วยต้ม

ครูบาก็บอกว่า..ดี

พอคนไปหมดแล้ว ผมเรียนถามท่านว่า...

เวลามีคนไปทำบุญ ไปทอดผ้าป่า ให้ครูบาศรีวิชัยแบบนี้ ท่านจะรับรู้ไหม?(เพราะท่านมรณภาพไปแล้วนี่นา)

ครูบาบอกว่า รู้

ผมถามว่า ครูบาขาวหละ ท่านรู้ไหม?

ครูบาตอบว่า รู้

ถามท่านต่อว่า...แล้วเวลาลูกศิษย์ที่อยู่ที่อื่น พูดถึง หรือนึกถึงครูบาวงหละ รู้ไหม?

ครูบาบอกว่า รู้

ดังนั้นลูกศิษย์ทั้งหลายจะทำอะไรก็ระลึกถึงท่านไว้ ท่านก็คงรับรู้ตามที่ท่านบอกไว้

ท่านก็คงมาสงเคราะห์ลูกหลานตามสมควร เวลาพวกเราทำบุญอะไรเกี่ยวเนื่องกับท่าน

ครูบาท่านก็ย่อมรับรู้ตามที่ท่านบอกกับผมไว้เช่นกัน

ทำกำลังใจของเราไว้ให้ดี...

ระลึกถึงท่านตลอด


เส้นผมที่เป็นพระธาตุ ....พระโพธิสัตว์ ก็เป็น

พระอาจารย์นพดล

ตอนบ่ายวันนึง ไปทำบุญที่ วัดพระบาทตะเมาะ เจอหลวงพี่นพดล ที่วัดพระพุทธบาทตะเมาะ

ท่านเรียกมาดู ท่านบอกจะให้ดูของดี เคยเห็นไหม เป็นเส้นเกศาครูบา ที่กลายเป็นพระธาตุสีทับทิม เราก็โมทนาด้วย

อีกครั้งนึงถ้าจำไม่ผิด

รู้สึกจะเป็น อาจารย์ปฐม

เอาแก้วมาก้อนนึง มีเส้นผมอยู่ข้างใน มาให้ท่านดู

ครูบาบอกเป็นเส้นผมท่านในอดีต (ผมไม่ได้อยู่ด้วย ลูกศิษย์อีกคนบอกเรื่องนี้ให้ฟัง)

พอมีโอกาสก็เลยเรียนถามท่านว่า เส้นผมที่เป็นพระธาตุ เกิดกับพระอรหันต์เหรอครับ

ครูบาท่านบอก...พระโพธิสัตว์ ก็เป็น

(ผมค่อยใจชื้นหน่อย) ผมเลยบ่นน้อยใจกับท่านว่า....

แล้วเมื่อไรเส้นผมของครูบาที่อยู่กับผมจะเป็นสักที

ครูบาท่านหัวเราะ...ท่านบอก

เก็บเอาไว้ เดี๋ยวก็เป็น (พระธาตุ) เอง


ดี ที่ไม่ได้ขอ

เป็นที่ทราบกันดี เรื่องครูบา ท่านอธิษฐานขอพระธาตุ บางทีก็เทวดาให้ท่านมาบ้าง เหมือนภาพที่ลูกศิษย์เคยถ่ายไว้ ตอนแกะดอกบัวออกมาแล้วมีพระธาตุอยู่ข้างใน พระธาตุข้อพระหัตถ์ซึ่งมาแสดงที่พุทธมณฑล

ตรงที่บริเวณครูบาสวดมนต์ท่านจะเก็บพระธาตุสำคัญต่างๆ ไว้ตรงตู้นั้น

ก่อนครูบามรณภาพ ท่านให้ลูกศิษย์ถ่ายภาพเก็บไว้ แล้วให้จด ท่านกลัวคนภายหลังจะไม่ทราบ เรื่องหอพระเขี้ยวแก้วที่วัด ไม่ค่อยมีคนพูดถึง ลูกศิษย์ใหม่ๆ บางคนก็ไม่ทราบ

ครูบาจะเก็บพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้าไว้ที่นั่น

ถ้าได้ไปวัด ก็จะอยู่ข้างเจดีย์ หลังรอยพระบาท เมื่อก่อนจะเปิดสรงน้ำพระธาตุปีละครั้ง

ผมเคยนึกสนุก ขอพระเขี้ยวแก้วกับครูบา เรียนท่านว่า

ครูบาครับผมอยากได้พระธาตุพระเขี้ยวแก้ว แบบที่ครูบาเอามาจากศรีลังกา ขอครูบาอธิษฐานเรียกขอให้ผมหน่อย

ครูบาตอบยิ้มๆ...บ่ได้ มันแพง เพราะต้องขึ้นเครื่องบินมา

ก็ดีแล้วที่ท่านไม่อธิษฐานขอให้

เพราะได้มาคงลำบาก ของสูงไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหน

5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-5-3 09:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

พระเย็น ....พระร้อน

เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก จะนิมนต์ครูบาท่านไปทำบุญสืบชะตาเขื่อนเป็นประจำ ตอนครั้งสุดท้ายที่ครูบายังแข็งแรง ครูบายังรับนิมนต์ไปที่เขื่อน หลวงพี่เต๋ชวนผมไปด้วย ทางเขื่อนจัดให้ครูบาพักที่บ้านพักรับรอง

ผมเดินเล่นที่ด้านหน้าบ้านพัก เจอครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขตร์ จังหวัดตาก (ท่านก็ได้รับนิมนต์มา) มายืนรอ...ท่านถามผมว่า ครูบาพี่ อยู่ไหม ผมบอกว่า อยู่ พอดีครูบาวงท่านเดินมา ครูบาสร้อยพอเห็นก็เข้ามากอดครูบาวง แล้วก็ไหว้ครูบาวง ครูบาวงท่านก็ยิ้ม

ท่านคุยทักทายกันสักครู่ ครูบาสร้อยท่านเตรียมลูกประคำโลหะ (คล้ายๆ เหล็กไหล) มาถวายครูบาวง

ครูบาท่านรับแล้วจะเอาใส่ในย่าม แต่ครูบาสร้อยไม่ยอม ท่านขอให้ครูบาวงคล้องไว้ที่คอ ครูบาก็เลยเอามาสวมไว้

ตอนกลางคืนหลังครูบาสวดมนต์เสร็จ ผมนึกสนุก ลองเอาพระเครื่องเนื้อดินให้ท่านดู เคยเห็นลูกศิษย์คนอื่นชอบเอามาให้ท่านดู แล้วถามท่าน ผมถามท่านว่า...

ครูบาครับ พระอะไร

ครูบาเอามาใส่มือ แล้วบอกผมว่า พระของพระเจ้าตาก แล้วท่านก็ยื่นคืนให้

ผมก็ไม่กล้าถามท่านต่อ นอนคุยกับหลวงพี่เรื่องครูบาจนหลับไป

พอตอนเช้าเห็นเต่าสำลีครูบาวางไว้ 2-3 ตัว

ไม่มีคนสนใจเก็บ ผมเลยเก็บเอาไว้

หลวงพี่เต๋ชวนไปตรวจงานที่พระธาตุแก่งสร้อยกับครูบา ตอนนั้นแก่งสร้อยยังไม่ได้เริ่มบูรณะเลย แต่ผมไม่ได้ไปด้วยเพราะติดธุระ ลาครูบากลับก่อน

ลูกศิษย์บางคน ก็ประเภทชอบจับพลัง ส่วนผมไม่ค่อยกล้ารบกวนท่าน ต้องดูสถานการณ์ให้ดีก่อน เดี๋ยวโดนท่านดุเอา

พระร่วงหลังรางปืน

(ไม่ใช่องค์ที่เล่าในเรื่อง)

ตอนผมเจอครูบาครั้งแรก มีลูกศิษย์คนนึงเป็นทหารยศนายพันจากนครราชสีมา (สมัยนั้นการไปวัดห้วยต้มไม่สะดวกแบบนี้ โทรศัพท์วัดก็ไม่มี มือถือก็รับไม่ได้ รถก็เข้าไปลำบาก )

พี่ทหารคนนี้เอาพระเครื่องมาองค์นึง ถ้าจำไม่ผิดเป็นพระร่วงหลังรางปืนมาให้ครูบาดู แล้วถามครูบาเสียงดัง (พี่ทหารคนนี้เป็นคนเสียงดัง) เค้าถาม..ครูบาครับพระอะไรครับ

ครูบาบอก...พระองค์นี้สร้างตอนสงคราม มันร้อน

สักครู่ท่านก็เรียกพี่คนนี้เข้าไปในห้องท่าน พอออกมา ครูบาคายหมากออกมาให้

ท่านบอก เอานี่ไป

พี่ทหารแบฝ่ามือรับชานหมาก มีพระรอดออกมาด้วย....

พี่คนนั้นก็ถาม ครูบาให้ผมเหรอครับ

ครูบาก็หัวเราะชอบใจ ท่านบอกอันนี้ของเย็น เอาไว้คู่กัน (กับพระที่พี่เค้าถาม)

พี่ทหารคนนั้นก็พูด...สาธุครูบา สาธุครูบา ตลอด กราบครูบาใหญ่เลย

เรื่องพี่ทหารคนนี้มีหลายเรื่อง ต้องค่อยๆ ทยอยเล่า

ตอนผมเจอครูบาครั้งแรก

ผมก็เจอเรื่องแปลก ของท่านแล้ว


ขอลูก

ตอนต้นปี 2536 เจอลูกศิษย์คนนึง เป็นทหาร มาทำบุญกับครูบาที่วัด ได้คุยกัน เค้าเล่าเรื่องครูบาให้ฟัง

พี่คนนี้เจอครูบา ตอนสมัยเรียนโรงเรียนนายร้อย สักหลายสิบปีก่อน ได้มาเที่ยวกับเพื่อนที่ลำพูน เลยได้พบครูบา เล่าเรื่องอภินิหารหลายอย่างของครูบา เค้าบอกว่า..

น้องโชคดีได้เจอครูบาสุดยอดแล้วนะ

ตอนนั้นก็ฟังหูไว้หู สนุกดี

เค้าบอกเค้ามีลูกยากมาก ทำทุกวิธีไม่ได้ลูกสักที มาขอครูบา ต่อมาภรรยาตั้งท้องคลอดออกมาเป็นลูกแฝด เค้าเลยคิดว่าได้ลูกเพราะครูบาช่วย วันนี้เค้าเลยมากราบขอบคุณครูบา

ตอนหลังแม้ครูบาจะไม่อยู่แล้ว ผมก็เคยแนะนำคนอื่นที่มีลูกยากให้มากราบขอที่เจดีย์กับรอยพระบาท ในวัด บางคนก็ได้ลูกสมใจ


ถ้าเคยทำบุญร่วมกับครูบามา ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องมาพบกัน

เกี่ยวกับวัตถุมงคลของครูบา มีเรื่องเล่าที่อาจจะเป็นประโยชน์....

หลวงปู่บุญชุบ ทินฺนโก

วัดเกาะวาลุการาม

ครูบาท่านได้รับนิมนต์ไปพิธีพุทธาภิเษกที่วัดเกาะวาลุการาม จังหวัดลำปาง พ.ศ.2536เป็นวัดของครูบาชุบ  สหธรรมิกของท่าน ลูกศิษย์ก็ติดตามครูบาไป นั่งรถตู้ของวัดไป

ระหว่างทาง ครูบาเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังหลายเรื่อง จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไรบ้าง (จำได้เลือนๆ เรื่องกวางคำ) ถึงวัดเกาะตอนบ่ายๆ ทางวัดให้ครูบาพักกุฎิหลังวัดติดแม่น้ำวัง

ครูบาออกมารับแขกที่ศาลาในบริเวณวัด

ที่ฝั่งนึงบนศาลา มีหลวงพ่ออีกรูปที่ได้รับนิมนต์มากำลังคุยกับญาติโยม มีคนรุมล้อมท่านเยอะ ท่านแจกวัตถุมงคลด้วย

หลวงปู่แว่น ธนปาโล

วัดถ้ำพระสบาย

สอบถามคือ หลวงปู่แว่น วัดถ้ำพระสบาย (ตอนนั้นผมไม่รู้จักท่าน) ส่วนครูบามีลูกศิษย์มาทำบุญบ้าง ไม่มาก เหมือนบางคนไม่รู้จักท่านด้วยซ้ำไป ครูบานั่งสักครู่ก็กลับที่พัก

ช่วงหัวค่ำท่านไปโบสถ์เพื่อร่วมพิธี เจ้าหน้าที่จัดให้ท่านนั่งบนธรรมาสน์มุมซ้าย ท่านนั่งข้างบน (ผมนั่งเฝ้าท่านด้านล่าง ถือไม้เท้าให้ท่าน )

ตอนเริ่มพิธี พระที่เป็นพิธีกร (หรือเจ้าพิธีไม่แน่ใจ) พูดผ่านไมโครโฟนขอให้ครูบาสวดนำบทอะไรสักอย่าง (ผมฟังไม่ออก) ยื่นเอาไมค์มาให้ท่าน ครูบาบอกผ่านไมค์ เฮาสวดบ่จ้าง (สวดไม่เป็น)

พระที่เป็นพิธีกรก็เลยให้องค์อื่นสวดแทน ครูบาท่านก็นั่งหลับตา อธิษฐานของท่านไป ไม่นานสักไม่เกิน 30นาที ท่านก็จะลงจากเก้าอี้

ผมถามท่าน ครูบาทำเสร็จแล้วเหรอครับ

ท่านบอก..เสร็จแล้ว

(ตอนนั้นก็ได้แต่คิดในใจว่าทำไมท่านทำเร็วจัง) หลวงพ่อองค์อื่นๆ ยังอยู่กันเต็มพิธีเลย จนดึกดื่นบางรูปยังไม่ออกจากพิธีเลย

พาท่านกลับไปพัก ตอนเดินพยุงท่านกลับมากุฎิรับรอง ทางวัดเปิดเทปเทศน์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วย ผ่านลำโพงเสียงตามสายของวัด เลยถามครูบาว่า

หลวงพ่อฤาษีลิงดำตอนนี้อยู่ไหน

ครูบา..ไม่ตอบ แต่เอานิ้วชี้ไปข้างบนฟ้า

ผมถามท่าน..อยู่ข้างบนเหรอ

ท่านยิ้มพยักหน้า

เรื่องท่านเสกเป่าพระเครื่องแบบนี้ เคยพาคนรู้จักคนนึง (มีชื่อเสียง) หวังจะพาเค้าไปทำบุญกับครูบา เค้าเห็นญาติโยมที่มาวัดเอาวัตถุมงคลที่เช่าจากตู้มาให้ท่านมนต์อีก

ส่วนใหญ่ท่านก็จะเป่าพรวดลงไป เพื่อนคนนี้เห็น เค้าบอก ครูบาไม่เก่ง ไม่ตั้งใจทำให้ ไม่เหมือนพระภาคกลางแถวบ้านเค้า ยิ่งตอนจะกลับให้ครูบาเอาเท้าเหยียบหัวให้ผม (ชอบคุยเล่นกับท่าน ให้ท่านเหยียบให้จมเหมือนหินเลย)

เพื่อนคนนี้เห็น บอก ครูบาไม่สำรวม ทำไมเอาเท้ามาเหยียบหัวคน ผมเลยต้องรีบพากลับ เดี๋ยวจะบาปไปใหญ่

ครูบาเคยบอกอันนี้แล้วแต่สายบุญ ถ้าไม่เคยทำบุญร่วมกันมา ยังไงก็ไม่อยากทำบุญด้วย ถ้าเคยทำบุญร่วมกับครูบามา ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องมาพบกัน (กับท่าน)

วัตถุมงคลที่ท่านทำ หรืออธิษฐานเพียงสักครู่ก็ยังดีแล้ว ดังนั้น วัตถุมงคลของวัดที่ท่านตั้งใจทำไว้ตอบแทนคนที่มาทำบุญช่วยสร้างวัด ก็น่าจะยิ่งดีกว่า

เอารุ่นไหนก็ได้ ราคาถูกหรือแพง ก็เหมือนกัน ขอให้เป็นครูบาท่านทำ เช่าของทางวัด ถือว่าได้ร่วมทำบุญกับท่านด้วย



6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-5-3 09:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

แม้แต่พวกทำกรรมหนักมา (อนันตริยกรรม) ท่านก็โปรด

ผมจดบันทึกเรื่องของครูบาท่าน ไว้อ่านเวลาระลึกถึงท่าน ค่อย ๆ ทยอยเขียนถ้ามีเวลา

ตลอดเวลาที่เคยรับใช้ท่าน มีเรื่องราวมากมาย ต้องเข้าใจว่า หลวงพี่ หลวงพ่อทั้งหลาย หรือลูกศิษย์ใกล้ชิดที่วัด คงไม่ค่อยมีใครมาจดเอาไว้ เมื่อก่อนท่านบอกอะไรก็จำเอา

บางครั้งโดนครูบาดุ ท่านสอนอะไร หรือบอกอะไรก็ตักเตือนกัน บางเรื่องท่านพูดไว้ ถ้าไปถามหลวงพี่ ท่านคงไม่พูด ท่านว่าจะเป็นการอวดครูบาอาจารย์ โอกาสที่ลูกศิษย์คนอื่นจะได้ใกล้ชิดได้ฟังอะไรจากท่านก็คงลำบาก

เรื่องราวต่างๆ ของท่านจึงมีแต่ในหนังสือที่ลูกศิษย์พิมพ์ขึ้น ครูบาเองท่านก็เป็นพระป่า ท่านก็ใช้เวลาแต่ละวันเพื่อทำงานศาสนา ท่านโปรดลูกหลานทุกคน

ท่านเคยบอกแม้แต่พวกทำกรรมหนักมา (อนันตริยกรรม) ท่านก็โปรด

หวังว่าเรื่องราวของท่านจะมีประโยชน์กับลูกศิษย์บ้าง


เรื่องพระสังฆราช ญาณสังวร..

หลวงพ่อเกษม เขมโก

พระสังฆราช ญาณสังวร ท่านเสด็จมาหาครูบาวง เคยถามท่านว่า พระญาณสังวร ท่านมาหาครูบา คุยอะไรกัน

ครูบาตอบ.. เป็นเพื่อนกัน เพื่อนเป็นสังฆราช ตัวนี่ (ใช้นิ้วชี้ตัวท่าน) เป็นสังคโลก แล้วท่านก็หัวเราะ

อีกครั้งนึง ถามครูบาว่า ครูบารู้จักหลวงพ่อเกษมที่ลำปางไหม

ครูบาบอก..รู้จัก

ถามว่า เคยเจอกันไหมครับ

ท่านบอกว่า..เคยเจอกัน

ถามว่า เจอกันได้ยังไง

ครูบาบอก...พระสังฆราชมาหา มารับไปด้วย เลยเจอกัน

ถามท่านต่อว่า หลวงพ่อเกษมดีไหมครับ

ครูบาท่านบอกว่า..ดี

เหตุการณ์ต่อเนื่องกัน เรื่องนี้วันหลัง มาคุยกับ หลวงพี่เต๋ ครูบาเราเคยเจอหลวงพ่อเกษมเหรอ บอกว่าครูบาเล่าให้ฟัง

หลวงพี่บอกว่า วันนั้นได้ตามครูบาไปด้วย บอกว่าทั้งสามองค์พอเจอก็คุยสนทนากัน (พระสังฆราชญาณสังวร หลวงพ่อเกษม ครูบาวง)

หลวงพี่บอก คุยภาษาบาลีกันตลอด โต้ตอบกันใหญ่

ถามหลวงพี่ว่า คุยอะไรกัน

หลวงพี่บอก ฟังไม่รู้เรื่องเลย

เรื่องเดียวกัน มาย้อนถามครูบาท่าน ครูบาครับพูดภาษาบาลีเก่งไหมครับ (ไม่ค่อยเห็นท่านพูด)

ครูบายิ้มแล้วตอบว่า...นะโม เฮายังสวดบ่จ้าง (ยังสวดไม่เป็น)

ท่านคงถ่อมตัว


ครูบาบุญทืม วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน

ครูบาบุญทืม

วัดจามเทวี จ.ลำพูน

...ตอนท่าน (ครูบาบุญทืม) มรณภาพ ครูบาวงท่านไปรื้อกุฏิ

หลวงพี่เต๋ไปด้วย ได้เกศาครูบาศรีวิชัย และสิ่งของเกี่ยวกับครูบาศรีวิชัยที่ครูบาทืมเก็บไว้

เคยถามครูบาเรื่องครูบาบุญทืม ถามท่านว่า ครูบาทืมเก่งไหม

ครูบาตอบ..เก่ง

ถามท่านว่า ครูบาทืมเป็นพระอรหันต์หรือเปล่า

ครูบาบอก...อือ

ครูบาบุญทืมเป็นผู้ที่บอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้มาเจอครูบา ครูบาเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง

7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-5-3 09:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

เจดีย์ชเวดากอง ที่ห้วยต้ม...

เจดีย์ชเวดากอง

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย

ได้บันทึก เรื่องเจดีย์ชเวดากองไว้ ข้อมูลที่ในหนังสือไม่ได้เขียนไว้

จุดเริ่มต้นวันแรกของชเวดากอง

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2534 ครูบาพาลูกศิษย์ไปด้วยกันหลายคน บริเวณหลังวัด ตรงที่สร้างเจดีย์ทุกวันนี้

(วันนั้นตุ๊นิกรไปด้วยกับครูบา ตอนนั้นยังเป็นเณรอยู่)

ครูบามาอธิษฐานสร้างเจดีย์ ท่านมาหา น้ำบ่อน้อย ครูบาสวดมนต์อยู่นานเพื่อหาตำแหน่ง

พอได้จุดที่จะสร้างเจดีย์ ครูบาเดินไปข้างๆ น้ำบ่อน้อย ท่านเหยียบรอยเท้าไว้บนหินด้วย

(คุยกับตุ๊กร บอก วันที่ 14 ตุลา น่าจะเป็นวันเริ่มต้นของเจดีย์ชเวดากอง )

เคยถามครูบาท่านบอก เทวดาขอให้ท่านสร้าง ครูบาท่านตั้งใจทำไว้ ท่านอธิษฐานขอสิ่งของที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์มาไว้ในเจดีย์

ท่านเคยบอกลูกศิษย์ว่าท่านขอให้พระศรีอริยเมตไตรยมาที่เจดีย์นี้ในยุคที่ท่านมาโปรดบนโลก ให้เหมือนที่พม่า

เคยได้ไปตรวจงานกับครูบาหลายครั้ง ตั้งแต่ตอนเริ่มก่อสร้าง เรื่องเจดีย์ชเวดากองมีรายละเอียดอื่นๆอีก

ครูบาท่านบอกความหมายไว้หมด ต้องค่อยๆ ทยอยเล่า


พระรอด ของครูบา....

องค์นี้ท่านคายออกมาพร้อมคำหมากให้กับพระตุดี ท่านตุดีเคยได้มา 4 องค์ นี่เป็นหนึ่งใน 4

ข้อมูลจากคุณคมกฤช โพสท์ในเวบ board.palungjit.com

วันที่ 05-09-2007

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่มีคนอยากรู้ แต่ก็คลุมเครือ

เนื่องจากเพราะลูกศิษย์มักไม่ค่อยพูดถึงกัน ก็มีเล่าสู่กันฟัง ส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยบอกใคร เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับครูบาบางอย่างเลยไม่ค่อยมีคนนอกทราบ

ตุ๊เต๋ (พระอาจารย์อ่อนแก้ว ชัยยะเสนโน)..บอกไม่กล้าพูด เดี๋ยวคนอื่นได้ยินจะว่าเป็นการ ยกอาจาร์ยเราเหนือคนอื่น เช่นเรื่องพระรอด

ลูกศิษย์บางคนจะได้พระรอดจากชานหมากของท่าน บางคนได้ บางคนไม่ได้ บางคนขอท่านก็จะให้ บางคนขออย่างไรท่านก็ไม่ให้ ลูกศิษย์คนไหนไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียใจ

เคยถามครูบาเรื่องนี้...ครูบาครับ ทำไมไม่เรียกพระอย่างอื่นมาบ้าง แบบพระสมเด็จ อะไรทำนองนี้

พระอาจารย์ตุดี โฆสิตธัมโม
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม.

ครูบาท่านบอก...ไม่ได้หรอก เจ้าของเค้าหวง ครูบาจะเรียกได้เฉพาะที่ (ท่าน) ทำไว้

ภายหลังท่านยังบอก....บางคนที่เคยทำกับท่านไว้ ก็จะเรียกได้

เคยมีคนรู้จัก มาขอให้พาไปกราบท่าน เค้าเคยได้ยินเรื่องพระรอดของท่าน ไปถึงก็กราบขอพระรอดจากท่าน มาที่วัดเพราะอยากได้พระอย่างเดียว ไม่ได้อยากมาทำบุญ

เค้าบอกครูบา.. ผมอยากได้พระรอด เหมือนคนอื่นบ้าง

ครูบามองหน้าแล้วตอบ... หมดแล้ว เอานี่ไปแทน (พระธาตุข้าว)

เพื่อนคนนั้นก็ได้พระธาตุจากท่านไปแทน ประมาณ 1 กำมือ ท่านหยิบให้จากโถพลาสติกข้างๆ ที่นั่งของท่าน

ตอนกลับจากวัด ผมไม่ทันสังเกตว่า เค้าเก็บพระธาตุไว้ที่ไหน ตอนจะลาจากกัน เค้าบอกทำพระธาตุท่านหาย ให้ผมช่วยหาบนรถยนต์ หาอย่างไรก็ไม่เจอ ไม่น่าเชื่อ หายไปหมด เค้าบอก เอาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ...

ผมเพิ่งเข้าใจ ครูบาท่านคงทราบ ท่านจึงไม่ให้ไป หรืออาจจะไม่ได้ศรัทธาครูบาท่านจริงๆ

เพราะเค้าอยากได้แต่พระรอด

มีลูกศิษย์ที่สนิทกัน เป็นกระเหรี่ยงบ้านห้วยต้มชื่อ เสรี เมื่อก่อนตอนยังไม่เสียชีวิต จะช่วยครูบาหลายอย่าง เค้าเคยพูดตลกว่า...

ดูซิ รับใช้ครูบาทุกอย่าง ทำให้ครูบาทุกอย่าง ครูบาไม่เคยให้พระรอดเลย ได้แต่เต่า (สำลี) ใส่ขี้หูบ้าง ขี้เล็บบ้าง

เรื่องพระรอดนี้ ลูกศิษย์บางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้ เล่าสู่กันฟัง ลูกศิษย์ที่ไม่ได้ก็ไม่ได้เสียใจ เพราะสิ่งที่สำคัญคือ การได้ทำบุญกับท่าน ได้ช่วยครูบา ได้รับใช้ครูบาก็มีความสุขแล้ว ยึดคำสั่งสอนของท่านไว้

วัตถุมงคลของท่าน แบบไหนก็ได้ ท่านทำไว้ดีทั้งนั้น


http://writer.dek-d.com/natbaiton/story/viewlongc.php?id=747851&chapter=44

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้