ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
5 ผู้ต้อง "ธรณีสูบ” สมัยพุทธกาล
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 3871
ตอบกลับ: 3
5 ผู้ต้อง "ธรณีสูบ” สมัยพุทธกาล
[คัดลอกลิงก์]
morntanti
morntanti
ออฟไลน์
เครดิต
10113
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-3-19 01:23
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
5 ผู้ต้อง "ธรณีสูบ” สมัยพุทธกาล
ดูเพิ่มเติม ==>
http://nisit.co/Wfda
โดยทั่วไปเราทราบกันว่า ในสมัยพระพุทธองค์มีคนที่ทำความชั่วจนถูกธรณีสูบไป 1 คน คือ พระเทวทัต แต่ความจริงมีถึง 5 ซึ่งทุกคนล้วนแต่ก่อกรรมทำเข็ญมุ่งร้ายต่อพระพุทธองค์และสาวกของพระองค์ทั้งสิ้น
1 พระเทวทัต ถูกธรณีสูบ
พระเทวทัต เป็นพระเชษฐาของพระนางยโสธราพิมพา ชายาของเจ้าชายสิทธัตถะ ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า พระเทวทัตตามล้างตามผลาญพระพุทธองค์มาแล้วหลายชาติ จากนั้นพระเทวทัตก็ติดตามจองเวรกับพระพุทธองค์มาหลายชาติ ชาติสุดท้ายก่อนเกิดเป็นพระเทวทัตจนถูกธรณีสูบ ได้เกิดเป็นชูชกขณะที่พระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพระเวสสันดร ในชาติที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ พระเทวทัตก็มีจิตริษยาอาฆาตพระพุทธองค์มาแต่เยาว์วัย เมื่อพระพุทธองค์ทรงผนวช พระเทวทัตก็ออกผนวชด้วย และเมื่อพระพุทธองค์บรรลุพระโพธิญาณ พระเทวทัตก็สำเร็จโลกีย์ญาณ ได้อภิญญาสามารถแปลงกายและเหาะเหินเดินอากาศได้
นายขมังธนูซึ่งพระเทวทัตส่งไปฆ่าพระพุทธองค์ ปลงอาวุธ ฟังธรรม สำเร็จมรรคผล
แม้จะสำเร็จถึงขั้นนี้แล้ว พระเทวทัตก็ยังมุ่งประกอบการชั่วจองล้างจองผลาญพระพุทธองค์ตลอด ครั้งหนึ่งได้ส่งนายขมังธนูไปปลงพระชนม์ เพื่อจะตั้งตนเป็นพระศาสดาเสียเอง เมื่อไม่สำเร็จก็ยุยงให้พระเจ้าอชาติศัตรูที่เคยเลื่อมใสพระพุทธองค์ จนหลงผิดถึงขั้นปลงพระชนม์บิดาของตัวเอง และยังยุให้มอมเหล้าช้างนาฬาคีรีให้เมามันดุร้ายไปทำร้ายพระพุทธเจ้า ทั้งยังยุยงหมู่สงฆ์สาวกของพระพุทธองค์ว่าพระองค์ยังพัวพันกับกิเลส มัวหมองในพรหมจรรย์ ฉันพระกระยาหารที่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์ ขณะที่พระเทวทัตหันไปฉันมังสวิรัติ และโอ้อวดว่ามีพรหมจรรย์ที่เหนือกว่า ความชั่วร้ายต่างๆ ที่พระเทวทัตสะสมมาหลายชาติ ก็ได้บันดาลให้แผ่นดินลงโทษ เพราะไม่อาจจะแบกความชั่วไว้ได้ต่อไป แยกตัวออกสูบพระเทวทัตตกลงขุมนรกอเวจี หมกไหม้ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป
คนที่ 2 ซึ่งถูกธรณีสูบในสมัยพุทธกาลก็คือ สุปปะพุทธะ
ส่วนคนที่ 2 ซึ่งถูกธรณีสูบในสมัยพุทธกาลก็คือ สุปปะพุทธะ ซึ่งเป็นพระราชบิดาของพระเทวทัตและพระนางยโสธราพิมพา พระชายาของเจ้าชายสิทธัตถะนั่นเอง เมื่อรู้ว่าพระเทวทัตถูกธรณีสูบเพราะจองล้างจองผลาญพระพุทธองค์ แทนที่สุปปะพุทธะจะสำนึกในบาปบุญคุณโทษ กลับมีจิตโกรธแค้นอาฆาต ทั้งยังโกรธแค้นเจ้าชายสิทธัตถะที่ทอดทิ้งธิดาของตนออกผนวช จึงนำอำมาตย์ข้าราชบริพารไปนั่งดื่มสุรา ขวางทางที่พระพุทธองค์จะออกโปรดเวไนยสัตว์ ทำให้พระพุทธองค์เสด็จดำเนินไม่ได้เพราะมีทางออกอยู่ทางเดียว ถึงกับต้องอดพระกระยาหารไป 1 วัน เมื่อพระอานนท์ทูลถามถึงความผิดของสุปปะพุทธะที่กระทำเช่นนั้น พระพุทธองค์ซึ่งทราบด้วยญาณ จึงตรัสว่า “ดูก่อนอานนท์ หลังจากนี้ไปได้เจ็ดวัน สุปปะพุทธะจะลงอเวจีตามเทวทัตไป”เมื่อสุปปะพุทธะทราบถึงพุทธดำรัส จึงขึ้นไปประทับบนชั้น 7 ของปราสาท
ทั้งยังให้นายทวารคอยขัดขวางไว้ไม่ให้พระองค์ออกจากปราสาทใน 7 วัน สุปปะพุทธะประทับอยู่ในปราสาทชั้น 7 จนถึงวันที่ 7 ก็ได้ยินเสียงม้าแก้ว ซึ่งเป็นม้าที่ทรงโปรดร้องก้อง ด้วยความเป็นห่วงม้า สุปปะพุทธะจึงวิ่งลงมา เหล่านายทวารก็คิดว่าครบ 7 วันตามกำหนดแล้ว จึงไม่มีผู้ใดขัดขวางไว้ พอสุปปะพุทธะก้าวพ้นปราสาท เหยียบพระบาทลงบนพื้น ธรณีก็เปิดออก สูบสุปปะพุทธะลงสู่ขุมนรกอเวจีตามพุทธดำรัสที่ทรงรู้ด้วยญาณ
3 พระอุบลวรรณาเถรี
รายที่ 3 ที่ถูกธรณีสูบอีกคนก็คือ นันทมานพ แม้จะมิได้ทำร้ายต่อพระพุทธเจ้าโดยตรง แต่ก็ได้ทำผิดขั้นร้ายแรงต่อพระอรหันต์ เหยื่อของนันทมานพ ก็คือ ท่านอุบลวรรณาเถรี สตรีผู้มีโฉมงดงาม เป็นที่หมายปองของชายผู้พบเห็นตั้งแต่พระราชาและเศรษฐี คหบดีทั่วไป แต่ท่านอุบลวรรณาเถรีเบื่อหน่ายในโลกีย์สุข ต้องการหาความสงบตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า จึงออกบรรพชาเป็นภิกษุณีตั้งแต่อายุได้ 16 ปี ในที่สุดก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ แม้ท่านอุบลวรรณาเถรีจะก้าวไปอยู่ในโลกแห่งความสงบ ปราศจากกิเลสใดๆ แล้ว แต่นันทมานพก็ยังฝังใจด้วยกิเลสตัณหา ปรารถนาจะลิ้มรสสวาทจากนางให้ได้ วันหนึ่งจึงไปแอบซุ่มอยู่ในป่าข้างกระท่อมที่ท่านอุบลวรรณา จำพรรษาอยู่ เมื่อเห็นว่าออกจากกระท่อมไปบิณฑบาตแล้ว นันทมานพก็เข้าไปซ่อนอยู่ใต้เตียง และเมื่อท่านอุบลวรรณฯ กลับมานันทมานพก็เข้าปลุกปล้ำ แม้ท่านอุบลวรรณฯ จะร้องให้คนช่วยก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะอยู่ในป่าเปลี่ยววิเวก พระอรหันต์อุบลวรรณาเถรีจึงได้กล่าวกับนันทมานพหวังจะเตือนสติให้เขาสำนึกในการกระทำว่า “จงอย่าทำเช่นนี้เลย ความหายนะจะมาสู่ท่าน” นันทมานพก็หาฟังไม่ ปลุกปล้ำท่านอุบลวรรณฯ จนสำเร็จดังใจปรารถนา แต่พอเขาก้าวลงจากแคร่ ธรณีก็เปิดอ้าสูบลงไปในขุมนรกอเวจี เพราะกรรมที่เขาก่อกับพระอรหันต์นั้นหนักหนาสาหัสนัก การที่ท่านอุบลวรรณฯ ถูกกระทำเช่นนี้ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของภิกษุ ภิกษุณี และพุทธบริษัททั้งปวงว่า เมื่อท่านอุบลวรรณฯ ได้รับการสัมผัสเช่นนี้ ย่อมจะฝืนความยินดีให้คล้อยตามไปด้วยยาก พระพุทธองค์จึงตรัสบอกกับพุทธสาวกว่า “พระอรหันต์นั้นเป็นเช่นเดียวกับไม้ผุ ไม่มีกิเลสและไม่มีความยินดีในกิเลส เฉกเช่นตุ๊กตาที่ไม่มีความปรารถนาในการสัมผัสฉันใด พระอรหันต์ก็เป็นฉันนั้น...”
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
morntanti
morntanti
ออฟไลน์
เครดิต
10113
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-3-19 01:25
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
4 นางจิญจมาณวิกา ถูกธรณีสูบ
รายที่ 4 ที่ถูกธรณีลงโทษเป็นหญิง และเป็นหญิงรายเดียวใน 5 รายที่ถูกธรณีสูบ ซึ่งได้ทำบาปกรรมต่อพระพุทธองค์โดยตรง นางนี้มีนามว่า จิญจมาณวิกาหลงผิดไปรับอาสาจากพวกปริพพาชก ผู้เชื่อถือศรัทธาในนิกายหนึ่ง ซึ่งเกิดความอิจฉาริษยาที่เห็นคนไปเคารพเชื่อถือในคำสอนของพระพุทธองค์ จึงว่าจ้างให้นางจิญจมาณวิกาแกล้งทำเป็นหญิงมีครรภ์ โดยเอาไม้กลึงนูนไปผูกรัดไว้ที่หน้าท้องในเสื้อผ้า ให้ดูเหมือนนางกำลังมีครรภ์ แล้วไปเต้นร้องต่อหน้าพระพุทธองค์ขณะที่กำลังเทศนาแก่สาวกว่า “ท่านสมณะโคดม จะมัวมาเทศน์หน้านวลอยู่ไย ทำให้ฉันมีครรภ์เช่นนี้มิดูแล อย่ามัวเทศน์โปรดสัตว์อยู่เลย จงไปตัดฟืนไว้ให้ฉันดีกว่า เมื่อเวลาคลอดลูกจะมิลำบาก” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสดับจึงหยุดเทศนา กล่าวกับนางจิญจมาณวิกาด้วยท่าทีสงบว่า “ดูก่อนภักคินี เรื่องที่เธอกล่าวนั้น คนอื่นเขาไม่รู้ด้วยหรอก จะมีเธอกับฉันสองคนเท่านั้นที่รู้”
พระอินทร์แปลงร่างเป็นหนู ไปกัดเชือกที่หน้าท้องของนางจิญจมาณวิกา
เหล่าพุทธบริษัททั้งหลายที่ได้ฟังต่างก็สงสัย ด้วยพระพุทธองค์ก็มิได้ทรงปฏิเสธ ร้อนถึงพระอินทร์ต้องแปลงร่างเป็นหนู ไปกัดเชือกที่หน้าท้องของนางจิญจมาณวิกา เมื่อเชือกขาดไม้ที่ทำให้ท้องนูนเหมือนคนท้องจึงหลุดลงท่ามกลางสายตาของพุทธบริษัท นางตกใจวิ่งหนีไปแต่พอลับตา ธรณีก็สูบเอาลงขุมนรกอเวจีไปอีกราย นางจิญจมาณวิกาผู้นี้ เมื่อชาติก่อนเกิดเป็นนางอมิตตา ภริยาชูชก หรือพระเทวทัตที่จองเวรพระพุทธองค์มาหลายชาติ
5 ที่ถูกธรณีสูบไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นยักษ์ มีนามว่า นันทยักษ์
ส่วนรายที่ 5 ที่ถูกธรณีสูบไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นยักษ์ มีนามว่า นันทยักษ์ ซึ่งมีฤทธิ์เดชมาก วันหนึ่ง นันทยักษ์ได้เหาะเหินเดินอากาศมากับเหมตายักษ์ ผู้เป็นสหาย ครั้นผ่านมาถึงที่พระสารีบุตร สาวกของพระพุทธองค์กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ ทำให้อากาศธาตุในบริเวณนั้นว่างเปล่า ยักษ์สองสหายไม่สามารถเหาะผ่านไปได้ นันทยักษ์ผู้มีนิสัยพาล ชาติก่อนก็อาฆาตผูกพยาบาทพระเถระไว้ จึงทำปาณาติบาต ต่อพระสารีบุตรด้วยสันดานพาล เหมตายักษ์ ได้ทัดทาน แต่นันทยักษ์ก็ไม่ฟัง เหาะขึ้นกลางอากาศแล้วใช้กระบองซึ่งเป็นอาวุธประจำตน ฟาดลงมาหมายเศียรของพระสารีบุตร ความแรงของอิทธิฤทธิ์นันทยักษ์ทำให้ภูเขาระเนระนาดไปถึง 100 ลูก แต่พระสารีบุตรซึ่งอยู่ในสมาธิหาเป็นอันตรายอย่างใดไม่ ยิ่งทำให้นันทยักษ์เกิดเร่าร้อนในอารมณ์ ตะโกนก้องไปทั่วทิศว่า “เราร้อน....เราร้อน” ทันใดก็ตกลงมาจากอากาศ พลันแผ่นดินก็เปิด สูบเอานันทยักษ์ลงขุมนรกอเวจีไปอีกราย นับเป็นรายที่ 5 ในสมัยพุทธกาล มาถึงยุคนี้แผ่นดินคลายความศักดิ์สิทธิ์ลง ไม่ได้สูบใครลงขุมนรกอเวจีอีก ไม่งั้นคนที่ทำลายพระศาสนา เช่น ตัดเศียรพระพุทธรูป ปล้นฆ่าพระสงฆ์คากุฏิ หรือว่าหรอกเงินพุทธบริษัทที่ศรัทธาเอาไปมีเมีย เคลมผู้หญิงในกุฏิ ก็คงถูกธรณีสูบลงขุมนรกอเวจีหมด หรือว่าธรณีจะมีวิธีลงโทษให้ตกนรกหมกไหม้ในวิธีอื่นก็ได้นะ
** พระเทวทัต เมื่อพ้นจากนรกเเล้วก็จะมาเกิดเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
ที่มา:
http://www.palungdham.com/t448.html
ข้อมูลจาก:
ดูเพิ่มเติม ==>
http://nisit.co/Wfda
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
majoy
majoy
ออฟไลน์
เครดิต
24694
3
#
โพสต์ 2015-3-19 07:58
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Nujeab
Nujeab
ออฟไลน์
เครดิต
27798
4
#
โพสต์ 2015-3-20 11:47
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เป็นกรรมหนักทั้งนั้นเลย เพราะมุ่งร้ายต่อพระพุทธองค์และพระอรหันตสาวก
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...