ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
คณะศิษย์หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ (คศช.)
›
พูดคุยตามประสา คศช.
»
วิทยาศาสตร์ อธิบายเหตุผล พระธรรมธาตุหลวงปู่ เกิดจากอะไร
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 1944
ตอบกลับ: 4
วิทยาศาสตร์ อธิบายเหตุผล พระธรรมธาตุหลวงปู่ เกิดจากอะไร
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-3-14 21:29
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
วิทยาศาสตร์ อธิบายเหตุผล พระธรรมธาตุหลวงปู่ เกิดจากอะไร
วันนี้(13 มี.ค.) เฟซบุ๊ค ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่มีคำถามเกี่ยวกับอะไรบางอย่างที่ดูเป็นก้อนเล็กๆ รูปทรงเหลี่ยมๆ คล้ายผลึกเกลือ อยู่บนพระพิมพ์ในรูปด้านล่างซ้าย ซึ่งเป็นพระเครื่องของ “หลวงปู่ดู่ วัดสะแก” ซึ่งบางคนเรียกผลึกนี้ว่า พระธาตุเสด็จ หรือพระธรรมธาตุ นั้นเกิดขึ้นจากอะไร ?
สำหรับคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ ก้อนเล็กๆ นั้นน่าจะเป็น “ผลึก (crystal)” จริงๆ โดยน่าจะเป็นผลจากการตกผลึกของสารประกอบเกลือที่มีธาตุแคลเซี่ยม ละลายออกมาจากเนื้อปูนของพระแล้วมาตกผลึกด้านนอก
พระเครื่องหลวงปู่ดู่นี้ มีความแตกต่างจากพระพิมพ์อื่นๆ ตรงที่ตามประวัติบอกไว้ว่า มีการใส่ “ปูนพลาสเตอร์” ลงไปผสมในเนื้อปูนครับ หลวงปู่ดู่ทำไว้ให้คนมานั่งสมาธิที่วัดกำไว้ในมือเป็นอุปกรณ์ฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง ปูนพลาสเตอร์จริงๆ แล้วก็คือ แคลเซี่ยมซัลเฟตเฮมิไฮเดรต (Calcium sulfate hemihydrate) จากการนำแร่ยิบซั่ม (Gypsum) มาเผา … ผลึกที่เห็นนั้นจึงน่าจะเกิดจากผลึกของแคลเซี่ยมซัลเฟตนี้ซึ่งสอดคล้องกับที่ลูกศิษย์ของหลวงปู่อธิบายไว้ว่า
พระธรรมธาตุนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเวลาสร้างพระ จะต้องใส่ “ผงวิเศษ” ของหลวงปู่ลงไปด้วย และจะต้องมีความชื้นสูงแถมอีกรูปทางด้านซ้ายล่าง ที่มีคนเห็นลักษณะเหมือนเป็นราขาวๆ ขึ้นอยู่บนองค์พระ
อันนี้ก็เป็นผลึกเกลือเช่นกัน โดยมักจะเป็นเกลือของโลหะที่ใช้ในการหล่อพระ แล้วเมื่อเกิดความชื้นสูง ก็อาจจะตกผลึกเช่นนี้ได้เองเหมือนกันที่เราเห็นขี้เกลือขึ้นตามขั้วแบตเตอรี่รถยนต์หรือถ้าอยากให้ขึ้นเยอะๆ ก็เอาองค์พรไปแช่น้ำผสมสารละลายเกลือโลหะ (เช่น สารละลายคอปเปอร์ซัลเฟต) ก่อนจะปล่อยให้ตกผลึกเอง แบบเวลาทำโครงงานวิทยาศาสตร์เด็กๆ ก็ได้
MThai News
http://news.mthai.com/hot-news/social-news/430055.html
ขอบคุณ เฟซบุ๊ค ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
majoy
majoy
ออฟไลน์
เครดิต
24700
2
#
โพสต์ 2015-3-15 09:24
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณครับ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Nujeab
Nujeab
ออฟไลน์
เครดิต
27782
3
#
โพสต์ 2015-3-16 11:12
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นานาจิตตัง
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
LightGuardian
LightGuardian
ออฟไลน์
เครดิต
1064
4
#
โพสต์ 2015-3-17 09:57
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อ้าว แล้วทำไมเขาไม่แกะพระธาตุออกไปสกัดดูล่ะคับว่าเป็นสารเคมีอะไร เป็นเกลือหรือไม่ใช่เกลือจะได้รู้เลย หลักการชัดเจนดีน่าจะทดลองให้ดูด้วยนะคร้าบ จะได้เคลี
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
majoy
majoy
ออฟไลน์
เครดิต
24700
5
#
โพสต์ 2015-3-17 19:18
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย majoy เมื่อ 2015-3-17 19:19
จริงๆ หลายอย่างก็แบบเขาว่า แต่หลายอย่างนั้นไม่ใช่
อยากบอกว่า วิทยาศาสตร์ มัรช่างล้าหลังกว่า ไสยศาสตร์ มากมายนัก ไอ้ที่ค้นพบนู่นนี่นั่น มันตามหลัง เช่น ค้นพบ พลังงานนู่นี่นั่น ค้นพบว่าออร่าเป็นไง ทางไสยศาสตร์ เค้ารู้กันมานานละ
ยิ่งเทียบกับพระพุทธศาสนา ยิ่งห่างเป็นล้านปีแสง พระธรรมนั้นทันสมัยที่สุด ไม่มีเก่าเลย
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...