ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1814
ตอบกลับ: 4
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

วิทยาศาสตร์ อธิบายเหตุผล พระธรรมธาตุหลวงปู่ เกิดจากอะไร

[คัดลอกลิงก์]
วิทยาศาสตร์ อธิบายเหตุผล พระธรรมธาตุหลวงปู่ เกิดจากอะไร

วันนี้(13 มี.ค.) เฟซบุ๊ค ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่มีคำถามเกี่ยวกับอะไรบางอย่างที่ดูเป็นก้อนเล็กๆ รูปทรงเหลี่ยมๆ คล้ายผลึกเกลือ อยู่บนพระพิมพ์ในรูปด้านล่างซ้าย ซึ่งเป็นพระเครื่องของ “หลวงปู่ดู่ วัดสะแก” ซึ่งบางคนเรียกผลึกนี้ว่า พระธาตุเสด็จ หรือพระธรรมธาตุ นั้นเกิดขึ้นจากอะไร ?



สำหรับคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ ก้อนเล็กๆ นั้นน่าจะเป็น “ผลึก (crystal)” จริงๆ โดยน่าจะเป็นผลจากการตกผลึกของสารประกอบเกลือที่มีธาตุแคลเซี่ยม ละลายออกมาจากเนื้อปูนของพระแล้วมาตกผลึกด้านนอก

พระเครื่องหลวงปู่ดู่นี้ มีความแตกต่างจากพระพิมพ์อื่นๆ ตรงที่ตามประวัติบอกไว้ว่า มีการใส่ “ปูนพลาสเตอร์” ลงไปผสมในเนื้อปูนครับ หลวงปู่ดู่ทำไว้ให้คนมานั่งสมาธิที่วัดกำไว้ในมือเป็นอุปกรณ์ฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง ปูนพลาสเตอร์จริงๆ แล้วก็คือ แคลเซี่ยมซัลเฟตเฮมิไฮเดรต (Calcium sulfate hemihydrate) จากการนำแร่ยิบซั่ม (Gypsum) มาเผา … ผลึกที่เห็นนั้นจึงน่าจะเกิดจากผลึกของแคลเซี่ยมซัลเฟตนี้ซึ่งสอดคล้องกับที่ลูกศิษย์ของหลวงปู่อธิบายไว้ว่า
พระธรรมธาตุนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเวลาสร้างพระ จะต้องใส่ “ผงวิเศษ” ของหลวงปู่ลงไปด้วย และจะต้องมีความชื้นสูงแถมอีกรูปทางด้านซ้ายล่าง ที่มีคนเห็นลักษณะเหมือนเป็นราขาวๆ ขึ้นอยู่บนองค์พระ

อันนี้ก็เป็นผลึกเกลือเช่นกัน โดยมักจะเป็นเกลือของโลหะที่ใช้ในการหล่อพระ แล้วเมื่อเกิดความชื้นสูง ก็อาจจะตกผลึกเช่นนี้ได้เองเหมือนกันที่เราเห็นขี้เกลือขึ้นตามขั้วแบตเตอรี่รถยนต์หรือถ้าอยากให้ขึ้นเยอะๆ ก็เอาองค์พรไปแช่น้ำผสมสารละลายเกลือโลหะ (เช่น สารละลายคอปเปอร์ซัลเฟต) ก่อนจะปล่อยให้ตกผลึกเอง แบบเวลาทำโครงงานวิทยาศาสตร์เด็กๆ ก็ได้

MThai News
http://news.mthai.com/hot-news/social-news/430055.html
ขอบคุณ เฟซบุ๊ค ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
                                                               
ขอบคุณครับ
นานาจิตตัง
อ้าว แล้วทำไมเขาไม่แกะพระธาตุออกไปสกัดดูล่ะคับว่าเป็นสารเคมีอะไร เป็นเกลือหรือไม่ใช่เกลือจะได้รู้เลย หลักการชัดเจนดีน่าจะทดลองให้ดูด้วยนะคร้าบ จะได้เคลี
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย majoy เมื่อ 2015-3-17 19:19

จริงๆ หลายอย่างก็แบบเขาว่า แต่หลายอย่างนั้นไม่ใช่

อยากบอกว่า วิทยาศาสตร์ มัรช่างล้าหลังกว่า ไสยศาสตร์ มากมายนัก ไอ้ที่ค้นพบนู่นนี่นั่น มันตามหลัง เช่น ค้นพบ พลังงานนู่นี่นั่น ค้นพบว่าออร่าเป็นไง ทางไสยศาสตร์ เค้ารู้กันมานานละ

ยิ่งเทียบกับพระพุทธศาสนา ยิ่งห่างเป็นล้านปีแสง พระธรรมนั้นทันสมัยที่สุด ไม่มีเก่าเลย
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้