|
6. น้ำตกคลองช้างเซ
น้ำตกอีกแห่งที่น่าสนใจ คือ น้ำตกคลองช้างเซ ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นเขาพระบาท ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่เหมาะแก่การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ โดยเริ่มจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เดินเป็นวงกลมแล้ววนกลับมาที่เดิม ระหว่างทางจะมีคำบรรยายเขียนไว้ ใช้เวลาในการเดินประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทาง 4 กิโลเมตร
7. น้ำตกคลองไพบูลย์
น้ำตกแห่งนี้มีระดับชั้นเล็กๆ ในลำธารกว้าง น้ำใสไหลเย็น มีแก่งหินน้อยใหญ่มีทั้งแก่งลึกแก่งตื้น มีต้นน้ำมาจากเขาคิชฌกูฏเช่นเดียวกับน้ำตกกระทิง น้ำตกคลองไพบูลย์อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏประมาณ 6 กิโลเมตร การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกันกับอุทยานฯ ถึงทางแยกเข้าที่ทำการอุทยานฯ ให้ตรงไปอีก 6 กิโลเมตร เลยสะพานข้ามคลองกระสือน้อยไป มีแยกเลี้ยวขวาเข้าน้ำตกคลองไพบูลย์ มีป้ายบอกทาง
ทางขึ้นเขาสวยงาม
8. ป่าไม้นานาพรรณ
สภาพป่าในบริเวณนี้มีทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าไม้ผลัดใบ มีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หายากคือ ไม้กฤษณาระบบนิเวศในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏแบ่งได้ 2 ลักษณะเด่นๆ คือ ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา ในส่วนของป่าดิบชื้นจะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติ พันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่าประเภทนี้ได้แก่ ยางแดง กระบาก หย่อง มะก่อ บุนนาค ลูกดิ่ง สารภี เนียนดำ มะไฟ จิกดง มะซาง สำรอง เป็นต้น ส่วนป่าดิบเขาจะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 800 เมตรขึ้นไป หรือจะพบเฉพาะบริเวณยอดเขา เช่น เขาพระบาทพลวง พันธุ์ไม้ที่พบ ได้แก่ มะก่อ กระบกกรัง สารภี พิมเสนป่า พลอง ชันใบใหญ่ รง พลับ อบเชย ดีหมี เป็นต้น
9. สัตว์ป่าน่าชม
เนื่องจากที่นี่เป็นป่าในเขตเทือกเขาสูงชัน จึงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมายหลายชนิด ได้แก่ ช้าง กระทิง เสือปลา หมีควาย กวางป่า เก้ง เลียงผา หมูป่า ชะนี เม่นใหญ่ อีเห็น พังพอน กระต่ายป่า กระรอก กระแต ค้างคาวแม่ไก่ภาคกลาง นกกระทาทุ่ง ไก่ฟ้าหลังขาว ไก่ป่า นกกระปูด นกปรอด ปลาตะเพียนทราย ปลาสร้อย ปลาหมอไทย ปลาบู่ กิ้งก่าหัวแดง เป็นต้น หากต้องการไปส่องสัตว์ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อความปลอดภัย
10. แคมปิ้งแสนสนุก
นอกจากเดินป่าสนุกๆ แล้ว การได้กางเต็นท์ตั้งแคมป์พักแรม ก็เป็นกิจกรรมสนุกๆ เหมาะกับคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวแนวผจญภัย โดยในบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ก็มีพื้นที่เตรียมไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้กางเต็นท์พักแรมกันด้วย โดยเต็นท์สำหรับเช่าพักแรม พักได้ 3-6 คน ราคา 250-500 บาท แต่ถ้าในกรณีที่นักท่องเที่ยวนำเต็นท์มาเอง จะเสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ประมาณ 30 บาท ต่อคน ต่อคืน หรือถ้าไม่อยากพักที่เต็นท์ก็พักที่บ้านพักได้ ทางอุทยานฯ มีอยู่ 6 หลัง พักได้ 2-8 คน ราคา 600-1,800 บาท
วัน-เวลาที่เปิดให้บริการ
สำหรับการเดินทางขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาท ทางจังหวัดจันทบุรี ได้กำหนดเปิดให้พุทธศาสนิกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ 2558 ตั้งแต่วันนี้ถึง 19 มีนาคม 2558 โดยมีรถยนต์บริการรับ-ส่ง ขึ้น-ลงเขา หรือเดินเท้าขึ้น-ลงเขาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการเดินทางไปท่องเที่ยวในอุทยานฯ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.30 - 16.30 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เทศบาลตำบลพลวง โทร. 039-309-281
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ให้ตรงไปใน ถนนสุขุมวิทจนถึงจังหวัดจันทบุรี จากนั้นจากตัวอำเภอเมืองจันทบุรีให้ขับผ่านแยกเขาไร่ยา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร โดยใช้ทางขึ้นเขาพระบาทพลวง (ทางขึ้นคนละจุดกับอุทยานฯ) เมื่อถึงวัดพระบาทพลวงต้องจอดรถส่วนตัวทิ้งไว้ (มีลานจอดรถไว้บริการ) จากนั้นมีรถสองแถวบริการขึ้นเขาพระบาทพลวง ออกจากวัดพลวงไปสิ้นสุดที่บริเวณทางขึ้นยอดเขาพระบาทฯ โดยรถที่ขึ้นยอดเขาแบ่งเป็น 2 ช่วง ค่าโดยสารช่วงละ 50 บาท/คน (รวมไป-กลับ 200 บาท) มีรถบริการตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะถึงจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นไปรอยพระบาท
ส่วนการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ให้ใช้ถนนสุขุมวิทเช่นกัน แต่เมื่อถึงสี่แยกเขาไร่ยา ให้แยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทาง 24 กิโลเมตร จะถึงอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือสามารถนั่งรถสองแถวสีฟ้าสาย จันทบุรี-จันทเขลม ขึ้นรถได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ท่าแฉลบ หรือสอบถามการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ โทร. 039-452-074 .
ที่มาข้อมูล : midrattana, thai.tourismthailand, holidaythai
ที่มาภาพ : thai.tourismthailand, เฟซบุ๊ก TatRayongOffice
ข้อมูลจาก:
|
|