ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
คนที่ไม่รู้พระคุณใครนั้นยากที่จะเจริญได้
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 4254
ตอบกลับ: 5
คนที่ไม่รู้พระคุณใครนั้นยากที่จะเจริญได้
[คัดลอกลิงก์]
รามเทพ
รามเทพ
ออฟไลน์
เครดิต
8083
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-2-13 04:39
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
ความกตัญญูเป็นคุณธรรมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น เกณฑ์มาตรฐานในการวัดว่าคนๆ นั้นจะมีพื้นฐานหรือมีภาชนะในการรองรับบุญกุศลความดีได้มากเพียงใดก็ต้องดู ความกตัญญูกตเวทีของคนๆ นั้น หากคนๆ นั้นมีความกตัญญูเป็นฐานแล้ว การจะก่อร่างสร้างบุญให้ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ย่อมทำได้ บุญนั้นก็มีความแข็งแรงยั่งยืนบุญใหญ่ที่ชื่อว่า “ความกตัญญู”
พระพุทธเจ้าตรัสเป็นพุทธวจนะว่า “ภูมิ เว สัปปุริสานัง กตัญญูกตเวทิตา” ความกตัญญูเป็นพื้นฐานของคนดี สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสสเทวะ) ก็ได้แต่งเลียนแบบสำนวนขึ้นมาให้ไพเราะมากขึ้นและเป็นที่รู้จักกันในสังคมดีกว่าสำนวนแรกว่า “นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา” ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี
โดยธรรมชาติคนเราล้วนเป็นหนี้บุญคุณผู้อื่นทั้งสิ้น ใครที่กล้าประกาศตนว่าได้ดีขึ้นมาเพราะอาศัยผลแห่งการต่อสู้ด้วยตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับใครเลยก็นับว่าโกหกอย่างร้ายกาจ หรือไม่ก็เป็นคนโง่ที่เป็นวัวลืมตีน ไม่มีใครในจักรวาลนี้สามารถเติบโตขึ้นมาได้โดยไม่มีความเกี่ยวข้องหรือข้องแวะกับใครเลย ทุกคนล้วนต้องมีผู้มีพระคุณ คนที่ปฏิเสธรากเหง้ากำพืดของตนเองปฏิเสธว่าไม่มีผู้ที่มีพระคุณไม่ว่าจะโดยทางตรง หรือ ทางอ้อมจึงถือเป็นคนเลวและไม่มีทางเจริญในพระพุทธศาสนา
คำว่า “ผู้มีพระคุณ” นั้นไม่ได้หมายความเพียงแต่บิดามารดา หรือญาติผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังหมายถึงทุกสรรพสิ่งที่ยังประโยชน์ให้กับชีวิตของเราในทุกด้าน ทั้งที่เป็นครูบาอาจารย์ที่สอนโดยตรงหรือทางอ้อม เพื่อน คนรอบข้าง สัตว์เลี้ยงที่ให้คุณ ลูกค้า ลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชา ฯลฯ หรือใครก็ได้ที่เคยให้เคยช่วยเหลือไม่ว่าเป็นเรื่องใดๆ และเราเป็นผู้รับ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสโดยสรุปในเรื่องนี้ไว้ว่า บุคคลที่หาได้ยากในโลกนี้ มีอยู่ 2 ประเภทคือ ผู้ที่มีความกตัญญูรู้อุปการะที่ท่านทำแล้ว และผู้ที่มีความกตเวที
ความกตัญญู คือ ความรู้อุปการคุณที่มีผู้ทำไว้ เป็นคุณธรรมคู่กับความกตเวที คือ การตอบแทนอุปการคุณที่ผู้อื่นทำไว้นั้น บุญคุณที่ว่านี้มิใช่ว่าตอบแทนกันแล้วก็หายกัน แต่หมายถึงการรำลึกถึงพระคุณที่เคยให้ความอุปการะแก่เราด้วยความเคารพยิ่ง เมื่อรู้พระคุณแล้วก็ตอบแทนพระคุณท่าน มีความคิดเช่นนี้อยู่ภายในใจอย่างต่อเนื่อง และแสวงหาโอกาสทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณท่านอย่างไม่รู้ลืม
บุคคลเช่นนี้หาได้ยากในโลก และสัตบุรุษทั้งหลายตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยสาวก และบัณฑิตชนจึงพากันสรรเสริญยกย่อง แม้เทวดาทั้งหลายก็ปกปักรักษา ผู้ที่มีความกตัญญูกตเวที
ในทางกลับกัน คนที่ไม่รู้พระคุณใครนั้นยากที่จะเจริญได้ มีคนมากมายที่ไม่มีความกตัญญูรู้คุณผู้มีพระคุณ ชีวิตที่เห็นยังดีและมีความเจริญก้าวหน้านั้นยังคงเป็นเพราะบุญเก่ายังส่งผล แต่เมื่อหมดบุญเก่าความเจริญนั้นก็ถึงเวลาหมดสิ้นไปด้วย และยิ่งกับคนที่ไม่มีบุญเก่ามากพอ ก็จะทำให้ชีวิตต่ำลงๆ ไปเรื่อยๆ
แรงแห่งความกตัญญู เป็นแรงดึงดูดโชคลาภ ความร่ำรวยที่สำคัญมากแรงหนึ่ง หลายคนเรียกว่า แรงแห่งการตอบแทน ดังนั้นขอให้เราทุกคนได้พิจารณาถึงสิ่งของหรือผู้ที่ควรกตัญญูนั้นควรจะเป็นใครและสิ่งใดบ้าง ความกตัญญูนี้มีคุณค่าและมีพลังแห่งบุญมากมาย ยิ่งได้กระทำถูกคนถูกกาลก็จะยิ่งมีพลังมหาศาล
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
รามเทพ
รามเทพ
ออฟไลน์
เครดิต
8083
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-2-13 04:40
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
1. การกตัญญูต่อบุคคล บุคคลที่ควรกตัญญูก็คือ ใครก็ตามที่มีบุญคุณควรระลึกถึงและตอบแทนพระคุณ เช่น บิดามารดา มีอุปการคุณแก่บุตร ธิดา ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ให้การศึกษา อบรมสั่งสอน ให้ละเว้นจากความชั่ว มั่นคงในการทำความดี เมื่อถึงคราวมีคู่ครองได้จัดหาคู่ครองที่เหมาะสมให้และมอบทรัพย์สมบัติให้ไว้เป็นมรดก
บุตร ธิดา เมื่อรู้อุปการคุณที่บิดามารดาทำไว้ย่อมตอบแทนด้วยการประพฤติตัวดี สร้างชื่อเสียงให้แก่วงศ์ตระกูล เลี้ยงดูท่าน และช่วยท่านทำงานของท่าน และเมื่อล่วงลับไปแล้วก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน
พระพุทธองค์เคยตรัสว่า ลูกที่มีความกตัญญู อยากจะตอบแทนพระคุณพ่อแม่ให้ถึงที่สุด ต่อให้นำพ่อและแม่มาประดิษฐานอยู่บนบ่าซ้ายและบ่าขวา ปรนนิบัติท่านทั้งสองอยู่บนบ่าของตนให้มีความสุขเต็มเปี่ยมในทางโลกที่ท่านพอใจ กระทั่งยอมให้ท่านอุจจาระปัสสาวะอยู่บนบ่าของตนจนวันหนึ่งท่านทั้งสองนั้น ล่วงไปตามอายุสังขารอย่างสงบ แต่การปรนนิบัติมารดาบิดาถึงเพียงนั้น ก็นับว่า เป็นการแสดงความกตัญญูอย่างโลกๆ อย่างธรรมดาๆ เท่านั้นเอง
ส่วนลูกคนใดก็ตาม นอกจากปรนนิบัติมารดาบิดาอย่างที่กล่าวมาข้างต้นตามปกติแล้ว ยังได้นำพ่อแม่ดำเนินเข้าสู่เส้นทางธรรม ด้วยการนำท่านให้สมาทานประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา หรือ ทาน ศีล ภาวนา จนพ่อแม่มีธรรมกำกับชีวิต ลูกคนไหนทำได้อย่างนี้ นี่คือ ที่สุดแห่งความกตัญญู ลูกคนใดทำได้ชาตินี้มีแต่ความเจริญ
ความอกตัญญู ไม่รู้คุณคนนั้นนั้นเป็นเหตุสำคัญอีกสาเหตุหนึ่ง ที่จะคอยฉุดรั้งคนไว้ไม่ให้เดินหน้าไปสู่ความเจริญได้ ไปไหนก็ไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย และยิ่งกับคนที่แม้แต่ตอบแทนท่านยังไม่ทำซ้ำยังเนรคุณพ่อแม่ ผู้มีพระคุณนั้น ชาตินี้ไม่มีวันเจริญขึ้นมาได้
การแสดงความกตัญญูทั้งกาย วาจา ใจ เป็นสิ่งที่ควรลงมือตอบแทนพระคุณท่านให้สมกับที่ท่านเคยมีพระคุณต่อเรา คิดดี พูดดี ทำดี แล้วมันก็จะต้องได้อย่างเดียว คือได้ดีนั่นเองคือได้ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป
การแสดงความกตัญญูที่ดีที่สุดก็ต้องเริ่มจากคนใกล้ตัวคือพ่อแม่ พยายามเลี้ยงดูท่านให้ดีที่สุด ทำกับข้าวให้ท่านกิน เลี้ยงดูท่าน ช่วยเหลืองานของท่านเท่าที่ทำได้ อะไรที่ทำให้ท่านมีความสุขก็รีบทำเสีย ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ และการทำบุญกับพ่อแม่นั้น เหนือกว่าการใช้เงินสร้างโบสถ์ สร้างวิหารร้อยหลังพันหลังเสียอีก
ครูบาอาจารย์ มีอุปการคุณแก่ศิษย์ เป็นบุคคลที่เราควรให้ความกตัญญู ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ประสาทความรู้ให้ ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดีสอนศิลปวิทยาให้อย่างไม่ปิดบัง ยกย่องให้ปรากฏแก่คนอื่นและช่วยคุ้มครองศิษย์ทั้งหลาย ศิษย์เมื่อรู้อุปการคุณที่ครูอาจารย์ทำไว้ย่อมตอบแทนด้วยการตั้งใจเรียน ให้เกียรติและให้ความเคารพไม่ล่วงละเมิดโอวาทของครู ไม่ดูหมิ่นท่าน
ท่านผู้ให้ความช่วยเหลือยามทั้งที่เรามีความสุขหรือทุกข์ยาก คนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ในฐานะที่เขาได้เมตตาสงเคราะห์ให้เรานั้นผ่านความยากลำบากไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดทั้งเงินทอง การช่วยเหลืออำนวยความสะดวก จึงควรที่จะตอบแทนช่วยเหลือท่านเมื่อมีโอกาสไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่แม้เพียงเรื่องเล็กก็ต้องรีบขวนขวายตอบแทนตามกำลังที่เรามี
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
รามเทพ
รามเทพ
ออฟไลน์
เครดิต
8083
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-2-13 04:41
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
กตัญญูต่อสัตว์
สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ล้วนต่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีบุญคุณต่อเราทั้งสิ้น แม้แต่สัตว์ที่เราคิดว่าเป็นโทษ แท้ที่จริงแล้วสัตว์เหล่านั้นก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้างและสร้างคุณให้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ครูบาอาจารย์อย่างท่านมหาวีรพล วิโรจโน ซึ่งเป็นพระนักวิปัสสนาแห่งสำนักมหาจุฬาอาศรม ตำบลดงพญาเย็น จ.นครราชสีมา เป็นตัวอย่างที่ดีซึ่งจะนำมากล่าวเล่าไว้ ณ ที่นี้
ครั้งหนึ่งท่านได้ขึ้นเขาไปภาวนาคนเดียว มีสุนัขตัวหนึ่งวิ่งตามท่านมาจากเชิงเขา ไล่อย่างไรก็ไม่ยอมกลับ และเจ้าสุนัขตัวนี้มีกลิ่นติดกายที่เหม็นคละคลุ้งมาก เมื่อวิ่งเข้ามาใกล้ต้องเอามือปิดจมูกไว้ตลอดเวลา ท่านก็คิดว่าหากต้องนั่งภาวนาทั้งคืนโดยมีกลิ่นเหม็นตลอดอย่างนี้ คงภาวนาไม่ได้ ก็เพียรไล่สุนัขไปหลายครั้ง
แต่พอไล่ไปสักพัก สุนัขเจ้ากรรมตัวนี้ก็วิ่งมาหาอีกจนท่านต้องปล่อยวางว่า อยากมาก็มา อยากอยู่ก็อยู่เลือกที่อยู่เอาตามอัธยาศัย พอพลบค่ำแล้วท่านก็เข้ากุฏิเจริญภาวนาอยู่เงียบๆ เจ้าสุนัขตัวนี้ก็ส่งกลิ่นมาแตะจมูกของท่านเป็นระยะๆ แม้จะรู้สึกสะอิดสะเอียนเพียงใดก็จำต้องทนรับไว้
พอตกดึก จิตก็รวมลงเป็นสมาธิได้สักพัก ก็มีปรากฏการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น ท่านได้ยินเสียงที่ดังราวกับเสียงไม้ไร่ไม้พงเหมือนจะหักจะโค่นลงมาเป็นระยะ มีเสียงพายุใหญ่พัดเข้ามามากมายรุนแรงน่ากลัวยิ่งนัก แม้ท่านจะเป็นพระกรรมฐานแต่ตบะเดชะก็ใช่ว่าจะแก่กล้ามากมายที่จะสามารถวางเฉยอย่างสงบได้
ท่านเกิดความกลัวมาก ความกลัวแล่นเข้าไปตามทุกอณูขุมขนของร่างกาย แม้จะกำหนดภาวนาให้สงบอย่างไรก็เป็นการยากที่จะระงับความกลัวนั้นให้อยู่หมัด ก็มีกลิ่นเหม็นตุที่คุ้นเคยมาได้สักพักมาแตะจมูกท่านอย่างจัง เพียงแค่สัมผัสกลิ่นหมาเน่าท่านก็รู้ว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป ในใต้ถุนยังมีหมาเน่าตัวหนึ่งเป็นเพื่อน ท่านจึงใช้จิตสอนตนเองว่า ถ้าผีมาอย่างไรหมาก็ต้องเห็นผีก่อน หอนส่งก่อนด้วย ความกลัวทั้งหลายจึงบรรเทาเบาบางลงไป
คราวนี้แม้กลิ่นจะสะอิดสะเอียนแค่ไหนคราวนี้ก็รู้สึกว่าไม่มีความไม่ชอบใจหลงเหลืออยู่ ไม่คิดจะลงไปไล่เจ้าหมาตัวนั้นอีกแล้ว ราวกับว่าหมาตัวนี้ติดตามมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ พอรุ่งสางท่านก็ลงมาจากกุฏิ มองสุนัขตนนั้นด้วยความเมตตาและกล่าวขอบใจว่า เมื่อคืนถ้าไม่ได้กลิ่นเน่าๆ ที่มาจากตัวเจ้าคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ อาจไม่รอดมาจนถึงรุ่งเช้าก็เป็นได้
สัตว์ทุกชนิดจึงถือว่ามีบุญคุณ อาหารที่เรารับประทานก็มีเนื้อสัตว์ปะปนอยู่ เราจึงถือว่าสัตว์เหล่านั้นได้เสียสละเลือดเนื้อมาเป็นอาหารให้เราได้ดำรงชีพอยู่ได้ หมูเห็ดเป็ดไก่ทุกชนิดจึงนับเป็นสัตว์ที่มีคุณต่อเรายิ่งนัก ควรสำนึกในคุณของมัน
สัตว์ชนิดอื่นๆ ก็มีคุณต่อเราช่วยทำงานให้เรา เช่นช้าง ม้า ในอดีตสัตว์เหล่านี้เป็นพาหนะหลักๆ ที่ทำให้มนุษย์เดินทางได้สะดวกกว่าการเดินเท้า จึงควรกตัญญูไม่เห็นว่าชีวิตของพวกมันไร้ค่า หากพบเห็นช้างม้าเร่ร่อน หากหาทางช่วยเหลือได้ก็ควรทำ
วัว ควาย นับเป็นสัตว์ที่ทั้งทำงานและให้เนื้อแก่เรา สัตว์เหล่านี้มีคุณค่ายิ่ง หากมีไว้ในครอบครองก็ควรที่จะดูแลเอาใจใส่ให้ดี ไม่ให้ลำบากมากนัก เพราะสัตว์เหล่านี้ต้องเหนื่อยยากลำบากทำงานให้เราอยู่แล้ว จึงควรเลี้ยงดูให้อิ่มเช่นเดียวกับคนในปกครอง หรือแม้แต่สุนัขที่ช่วยเฝ้าบ้าน ก็เป็นสัตว์ที่มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของสูง และกตัญญูรู้คุณ เราผู้เป็นเจ้าของก็ควรรู้คุณสัตว์ เลี้ยงดูเขาให้ดีบุญกุศลก็เกิดขึ้นได้
3.กตัญญูต่อสิ่งของ
สิ่งของทุกอย่างล้วนมีคุณต่อเราเสมอ เช่น หนังสือที่ให้ความรู้แก่เรา อุปกรณ์ทำมาหากินต่างๆ เราไม่ควรทิ้งคว้าง หรือทำลายโดยไม่เห็นคุณค่า คนรวยหลายคนนั้นไม่เคยลืมคุณของสิ่งของที่ช่วยสร้างเนื้อสร้างตัว ทั้งหม้อไห หาบ รถจักรยานเก่าๆ เหล่านี้เขาเก็บไว้เพื่อระลึกถึงความยากลำบากในหนหลัง เพื่อใช้เตือนสติตน และรู้ซึ้งถึงคุณค่าของสิ่งของเหล่านี้ที่ทำให้เขาโชคดีขึ้นมาได้
ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งท่านย้ำไว้นักหนาว่า รูปพ่อแม่ รูปพระมหากษัตริย์ ครูบาอาจารย์ หนังสือสวดมนต์อย่าวางไว้ที่ต่ำ เพราะจะเป็นการไม่ดีสำหรับตนเองควรวางไว้ในที่เหมาะสม
คนเรานั้นจะถือว่าเป็นคนดีหรือเป็นคนไม่ดีนั้น ตัดสินกันได้ที่ความกตัญญู ใครขาดกตัญญูหรือคนเนรคุณนั้นไม่เรียกว่าเป็นคนดี เป็นคนชั่ว ไม่ควรคบ โบราณท่านว่า คนเนรคุณเป็นคน “ทำมาหากินไม่ขึ้น ไม่เจริญ” ซึ่งเป็นเรื่องจริงอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะคนที่ทำเรื่องร้ายๆ ทำร้าย ทำลายจิตใจพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่เสียใจถึงขั้นร้องไห้น้ำตาไหลนองหน้านั้น ชาตินี้ไม่มีวันเจริญหากไม่ขออโหสิกรรมและกลับตัวใหม่ และจะได้รับกรรมอันนี้สนองในชาตินี้เป็นส่วนมาก กล่าวคือลูกของเรา ก็จะทำต่อเราเช่นนี้เหมือนกัน
ท่านพุทธทาสได้กล่าวไว้ ในเรื่องของ โลกรอดเพราะกตัญญูว่า “คนทุกคนในโลกนี้ มีชีวิตอยู่ได้ และมีความสะดวกสบายอยู่ได้ เพราะอาศัยความรู้สติปัญญา ความสามารถของผู้อื่น อันมีจำนวนมากนับไม่ไหว หากไร้ปัจจัยอันสำคัญนี้แล้ว เขาจะต้องตาย ตั้งแต่ออกจากท้องมารดาใหม่ๆ เพราะไม่มียาจะกิน ไม่มีผ้าจะห่ม ไม่มีหลังคาจะอาศัย
คนที่มีความกตัญญูถึงที่สุด ก็คือคนที่ยอมรับว่า แม้แต่สัตว์พาหนะ เช่น วัวควาย ก็เป็นสิ่งที่มีบุญคุณละเอียดยิ่งไปกว่านั้น ย่อมรู้จักบุญคุณของป่าไม้ ทุ่งนา ห้วยหนอง คลอง ลำธาร ถนนหนทางและสิ่งสาธารณะอื่นๆ กระทั่งดอกไม้ และผีเสื้อละเอียดสุขุมยิ่งขึ้นไปกว่านั้น ย่อมรู้จักบุญคุณของศัตรูและคู่ปรับว่าให้บทเรียนชีวิตแก่เราเพียงใด
ตลอดจนรู้ถึงสิ่งอันเป็นอุปสรรคต่างๆชนิด ศัตรู ทำให้เราประกอบด้วยคุณธรรมอันสูงยิ่งขึ้นด้วยความอดกลั้น อดทน เสียสละ อุปสรรค ทำให้เรามีปัญญาเข้าใจโลกถูกต้องตามความเป็นจริง ถ้าหัวใจของคนทุกคนในโลกนี้ เต็มไปด้วยความกตัญญูกตเวทีจริงๆแล้ว โลกนี้ก็จะเป็นโลกที่สวยงาม น่าอยู่ ปลอดภัย
ความกตัญญูและ จิตที่มีการแสดงออกถึงความกตัญญูก็จะนำพาให้ชีวิตคนๆ หนึ่งได้สร้างบุญและประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมาก ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งผู้มีชื่อเสียงของเมืองไทย ได้กล่าวไว้อย่างน่าคิดเรื่องความกตัญญูจะก่อให้เกิดประโยชน์สุขและบุญกุศลได้มากมายว่า
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
รามเทพ
รามเทพ
ออฟไลน์
เครดิต
8083
4
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-2-13 04:43
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“ถ้าคุณกตัญญูต่อศาสนา ไม่มีทางเลยที่คุณจะเป็นคนเลว”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อบิดามารดา ไม่มีทางเลยที่คุณจะทำให้ท่านน้ำตาตก”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ ไม่มีทางเลยที่คุณจะไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อตนเอง ไม่มีทางเลยที่คุณจะตกเป็นทาสยาเสพติด”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อเวลา ไม่มีทางเลยที่คุณจะหายใจทิ้งไปเพียงวัน ๆ”
“ถ้าคุณกตัญญูต่ออาหาร ไม่มีทางเลยที่คุณจะกินทิ้งกินขว้าง”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อความรู้ ไม่มีทางเลยที่คุณจะนำความรู้ไปทำความเลว”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อความรัก ไม่มีทางเลยที่คุณจะนอกใจคู่รักของตน”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อความนับถือ ไม่มีทางเลยที่คุณจะทำตนเป็นคนสองหน้า”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อความซื่อสัตย์ ไม่มีทางเลยที่คุณจะทุจริตประพฤติมิชอบ”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อครอบครัว ไม่มีทางเลยที่คุณจะทำให้ครอบครัวแตกแยก”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีทางเลยที่คุณจะตัดไม้ทำลายป่า”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อผืนดิน ไม่มีทางเลยที่คุณจะปล่อยสารพิษลงสู่แผ่นดิน”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อผืนน้ำ ไม่มีทางเลยที่คุณจะปล่อยของเสียลงแม่น้ำ”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อผืนฟ้า ไม่มีทางเลยที่คุณจะปล่อยมลพิษขึ้นสู่นภากาศ”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อโลก ไม่มีทางเลยที่คุณจะสร้างอาวุธนิวเคลียร์”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อมนุษยชาติ ไม่มีทางเลยที่คุณจะก่อสงครามทุกรูปแบบ”
“ถ้าคุณกตัญญูต่อชีวิต ไม่มีทางเลยที่คุณจะปล่อยให้ชีวิตให้ไม่ได้ลิ้มซึ่งอมตะธรรม”
จิตที่กตัญญูก็จะน้อมนำไปสู่การแสดงออกซึ่งความกตัญญูอันหมายถึงสิ่งที่ดีงามทั้งหมดซึ่งไม่ต้องใช้เงินทองเลยแม้แต่บาทเดียว
จากหนังสือเรื่อง สร้างบุญบารมีอานิสงส์สูง ไม่เสียเงินแม้แต่สลึกเดียว โดย จิตตวชิระ
เครดิต...
https://torthammarak.wordpress.com
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
padiphatbeer
padiphatbeer
ออฟไลน์
เครดิต
3679
5
#
โพสต์ 2015-2-13 06:06
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สาธุ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54679
6
#
โพสต์ 2015-2-13 19:27
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...