ขอน้อมถวายความอาลัยในการมรณภาพของ พระสุนทรธรรมานุวัตร ( หลวงพ่อเอียด อินทวงโส ) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ละสังขารลงแล้วเมื่อเวลาประมาณ ๒ ทุ่มกว่า ๆ ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ กรุงเทพมหานคร สิริอายุ ๘๖ ปี ๖๖ พรรษา
[size=16.7999992370605px]"หลวงพ่อเอียด อินทวังโส" หรือ "พระสุนทรธรรมานุวัตร" พระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองกรุงเก่าอยุธยา อีกทั้งยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มากด้วยพุทธาคมอีกรูปหนึ่ง
พิธีพุทธาภิเษก ณ ที่แห่งใด ต้องมีชื่อของท่านไปร่วมด้วยแทบจะทุกงาน
สิริอายุ 86 พรรษา 66 ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
ท่านมีนามเดิมว่า ละเอียด พูลพร มีภูมิลำเนาเดิมที่ ต.สะพานไทย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ก.พ. 2471 ที่บ้านเลขที่ 5 ต.สะพานไทย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
บวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ที่พัทธสีมา วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่กับหลวงพ่อแจ่ม ที่มีศักดิ์เป็นลุง และเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อขัน อินทปัญโญ วัดนกกระจาบ ด้วยวัดอยู่ใกล้กัน
จึงได้นำหลานไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อขัน เรียนวิทยาคม เขียนอักขระลงยันต์ต่างๆ จนมีความเชี่ยวชาญ
ขณะเป็นสามเณรศึกษาพระธรรมวินัย พ.ศ.2487 สอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2489 สอบได้นักธรรมชั้นโท สามเณรเอียดยังสามารถท่องพระปาฏิโมกข์ได้ขณะเป็นสามเณรด้วย พร้อมทั้งช่วยงานวัดทุกอย่างเท่าที่กำลังและความสามารถของท่านที่จะทำได้
นอกจากนี้ ยังเรียนวิชากับหลวงพ่อสังข์ ปุญญสิริ วัดน้ำเต้า
จนอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค. 2491 ที่พัทธสีมา วัดไผ่ล้อม โดยมี พระครูสุนทรวิหารกิจ (หลวงพ่อตุ้ม จันทโชติ) วัดจันทราราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูถนอม วัดใหม่กบเจา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสาธรนวกิจ วัดบางบาล เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังอุปสมบท ท่านอยู่จำพรรษาปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนของพระอุปัชฌาย์อาจารย์ เล่าเรียนศึกษาพระธรรมวินัยและสอบนักธรรมชั้นเอกได้ในพรรษาที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2493 พร้อมทั้งหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ดูแลปกครองพระลูกวัดมาเป็นอย่างดี
พ.ศ.2497 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จวบจนปัจจุบัน เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสท่านริเริ่มการก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุที่ชำรุดทรุดโทรมภายในวัดให้กลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์และมีระเบียบน่าอยู่อาศัย และด้วยท่านเป็นพระที่มีอุดมการณ์ที่ตั้งใจทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างจริงใจ จึงได้รับความไว้วางใจและได้รับมอบหมายภาระหน้าที่ในการปกครองหมู่คณะไปพร้อมกัน
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2511 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอบางบาล พ.ศ.2512 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2519 เป็นเจ้าคณะอำเภอบางบาล พ.ศ.2545 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ.2551 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2510 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่พระครูสุนทรยติกิจ พ.ศ.2511 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2526 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2533 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2546 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุนทรธรรมานุวัตร
หลวงพ่อเอียดปฏิบัติงานในหน้าที่ เดินทางไปตรวจเยี่ยมวัดเขตปกครองทุกวัดตามแต่โอกาสอำนวย ทั้งการตรวจเยี่ยมโดยตรงและเดินทางไปทำพิธีกรรมและอุปสมบทในฐานะพระอุปัชฌาย์
อีกทั้ง หลวงพ่อเอียดยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาด้านการศึกษาให้มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าทัดเทียม ด้วยการส่งเสริมพระภิกษุสามเณรให้ศึกษาพระปริยัติธรรม และแผนกนักธรรมให้มากขึ้นด้วย พร้อมกับพัฒนาโรงเรียนวัดไผ่ล้อม ให้เป็นสถานศึกษาระดับประถมศึกษาที่น่าศึกษาหาความรู้ สนับสนุนการศึกษาของนักเรียนด้วยปัจจัย 4
ด้านการสร้างพระเครื่อง-วัตถุมงคล หลวงพ่อเอียดได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลเป็นครั้งแรกเมื่อท่านอายุได้ 43 ปี ล้วนแต่ได้รับความนิยมจากคณะศิษยานุศิษย์มากมาย อาทิ ตะกรุดโทนเนื้อเงิน แหวนกำไลเงิน สีผึ้ง ผ้ายันต์ ฯลฯ
แต่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง คือ พระหลังไผ่ พ.ศ.2513
ในปัจจุบันนี้ กล่าวได้ว่านามของหลวงพ่อเอียดเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
[size=16.7999992370605px]คอลัมน์ : อริยะโลกที่ 6
|