แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Tim เมื่อ 2013-6-5 22:44
ได้ไปพบเจอจากสิ่งที่ค้นคว้าอฐิษฐานส่วนตัวครับ นี้จะเป็นที่แรกที่เล่ารายละเอียดนี้
ขอมอบให้แด่บ้านจอมพระของหลวงปู่ชื่น ผู้ค้นพบพระคาถานี้คือคุณ พุทธารา โรจนฤทธิกร(น้ำใส)
ข้าพเจ้าในนายทิมตัวแทนของคณะศิษย์หลวงปู่ชื่น ขออนุโมทนาบุญ ณ ที่นี้เทอญ สาธุ
:ต่อไปนี้คือข้อความของคุณ พุทธารา โรจนฤทธิกร(น้ำใส)
ประวัติพระคาถารวมทรัพย์ของพระเรวตสัมมาสัมพุทธเจ้า
สวัสดีค่ะ
นมัสการพระเรวตะสัมมาสัมพุทธเจ้า
ลูกขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทุก ๆ ท่าน มีหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงปู่สด วัดปากน้ำ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง หลวงปู่ฤาษีบรมครู และครูบาอาจารย์ที่ไม่ได้กล่าวนามมาก็ดี
ขอให้ญาณทัสนะของลูกแจ่มใสเป็นไปไม่ข้องขัด เพื่อนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นธรรมทานด้วยเถิด สาธุ...
ขอย้อนไปเมื่อปี ๒๕๕๒ ในช่วงนั้น ดิฉันมีเรื่องบางอย่างไม่สบายใจเกี่ยวกับหมู่คณะ นักปฏิบัติด้วยกัน เหตุการณ์ครั้งนั้น ดิฉันได้เรียนรู้เรื่องโลกธรรม ๘ มีลาภ เลื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสุข ย่อมมีทุกข์ มีสรรเสริญ ย่อมมีนินทา
ทำให้ตนเองต้องถอยห่างออกมา ทำใจวางเฉย และคิดว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราจะยึดมั่นในการปฏิบัติต่อไป เราตั้งใจจะชำระจิตของเราให้บริสุทธิ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป และมีเป้าหมายในการปิดอบายในชาตินี้
เมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๒ หลังจากสวดมนต์วัตรเช้า ก็ได้ทำการขอขมาพระรัตนตรัย และสมาทานพระกรรมฐาน เป็นปกติ
จากนั้น กำหนดจิตเข้ามโนมยิทธิขึ้นไปกราบองค์สมเด็จพระสมณโคดม(พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) เมื่อทำการกราบขอขมา และน้อมถวายบุญให้พระองค์แล้ว พระองค์ได้ตรัสว่า..
“ให้แผ่เมตตาแบบไม่มีประมาณอยู่ตลอดเวลา จงตามเรามา เราจะพาไปกราบพระเรวตะพุทธเจ้า”
เมื่อไปถึงวิมานของพระเรวตพุทธเจ้า หลังจากนั้นก็ไม่เห็นสมเด็จพระสมณโคดมอีก
ดิฉันพบพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง เป็นกายลักษณะมหาบุรุษ พระวรกายใหญ่โตกว่าสมเด็จพระสมณโคดมมาก ผิวท่านสีขาวอมชมพู พระเนตรดำขลับ งามมาก ๆ ทรงพระจีวรสีกรักออกดำ ๆ
(ตอนนั้นไม่เคยรู้ประวัติของพระเรวตะพุทธเจ้าแต่อย่างใด) มีกระแสเย็น ๆ กระทบตลอดเวลา จากนั้น ก็ก้มกราบขอขมาพระองค์ท่าน
“กรรมใดที่ข้า ฯ พระองค์ เคยล่วงเกินองค์สมเด็จพระเรวตะสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอพระองค์ได้โปรดอโหสิกรรมด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า ฯ”
สมเด็จพระเรวตพุทธเจ้ายกมือประทานพร จากนั้นจึงทรงตรัสว่า..
“ขันติบารมี คือความอดทนยิ่งต่อการกระทบกระทั่งด้วยกาย วาจา ใจ จงอดทนและแผ่เมตตาให้แก่ผู้ที่มาล่วงเกินเรา ธรรมอันบริสุทธิ์นั้นจะคุ้มครอง ให้เราพ้นจากอันตรายทั้งปวง
ขอเธอจงใช้ความอดทนเป็นอาวุธ ป้องกันความชั่วทั้งปวง วันนี้นั่งภาวนาที่วิมานของฉันนะ ภาวนา
“สัมปจิตฉามิ” ไปเรื่อย ๆ จนหมดเวลา
จากนั้นไปอีก ๗ วันทุกครั้งให้เธอเข้ากรรมฐาน หลังจากเฝ้าพระอินทร์แล้ว ให้มาที่วิมานของฉันเลย ฉันจะสอนวิชาให้เธอ นั่งตัวตรงดำรงจิตให้มั่น กำหนดสู่กลางกาย พร้อมภาวนา “สัมปจิตฉามิ” ไปเรื่อย ๆ”
ดิฉันได้ทำตามนั้น จนรู้สึกกายหายไป จนกระทั่งถอนจากสมาธิเอง จากนั้นจึงได้อุทิศบุญตามปกติ
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๒ ท่านได้สอนพระคาถารวมทรัพย์ให้ดังนี้...
พระคาถารวมทรัพย์ ของพระเรวตพุทธเจ้า (ตั้งนะโม ๓ จบ) อิติสัมพุทธัสสะ อะระหานัง
สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
อริยทรัพย์มา โภคทรัพย์มา วิหาระติ
อัมหากัง หิตายะ สุขายะ ฯ (นิพพานายะจะ) หมายเหตุ -คำว่า "นิพพานายะจะ"
สำหรับผู้ปรารถนาพระนิพพานชาตินี้ให้ต่อทุกจบ)
วิธีอาราธนาพระคาถา
สำหรับวิธีการอาราธนาพระคาถา ทำดังนี้..
๑. อาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ มีพระเรวตพุทธเจ้าเป็นที่สุด และภาวนาครั้งละ ๙ จบ หลังสวดมนต์ปกติ หากสวดร่วมกับพระคาถาเงินล้าน ให้สวดก่อนคาถาเงินล้าน (ในกรณีนี้คาถามหาลาภหลวงปู่ชื่น)
๒.วิธีการภาวนา ขณะนั่งสมาธิ ท่านให้กำหนดภาพพระก่อน แล้วกำหนดวงกลมตรงกลางท้องขององค์พระ (คล้ายวิชาธรรมกาย) แต่เป็นภาพแสงสว่างในวงกลมนั้น
จากนั้นเริ่มภาวนาพระคาถาไปเรื่อย ๆ ดูวงกลมนั้นไปนิ่ง ๆ เรื่อย ๆ ไม่ต้องสนใจลมหายใจ จนจนสว่างค่อย ๆ ขยายไปเรื่อย ๆ หรือจนกว่าจะเข้าองค์ฌาณ
๓. ให้อธิษฐานจิตในสมาธิ ในสิ่งที่เราค้องการ ๑ อย่าง เมื่อสำเร็จแล้วค่อยอธิษฐานสิ่งที่ต้องการ อื่น ๆ ต่อไป
____________
ข้าพเจ้านายทิมตัวแทนของคณะศิษย์หลวงปู่ชื่นขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
|