ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2117
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

รู้หรือไม่..ทำไมต้องเป็นต้นคริสต์มาส?

[คัดลอกลิงก์]
รู้หรือไม่..ทำไมต้องเป็นต้นคริสต์มาส?
                                                                                                                  
                            ที่มา : http://www.tlcthai.com/
                                                        ต้นคริสต์มาส ในตำนานศาสนาคริสต์ หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้าตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์แสดงละครที่หน้าโบสถ์ถึงความหมายของคริสต์มาส และเอาต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลางเพื่อประดับฉาก แสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา ต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาง่ายที่สุดในประเทศ

การแสดงละครคริสต์มาสมีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี จนถึงศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดงนั้น กลายเป็นการเล่นเหมือนลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนา ซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง

ตอนนั้นชาวบ้านพากันเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆ แบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของตน โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน หลังจากนั้นก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ล ขนมและของขวัญอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้

นอกจากนั้น ชาวเยอรมันยังมีประเพณีอีกอย่างหนึ่งคือ มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปพีระมิด ไว้ตลอดคืนคริสต์มาส มีดาวของดาวิดที่ยอดพีระมิด ซึ่งประเพณีที่จะแขวนของขวัญและขนม ก็ได้รวมกับประเพณีของชาวเยอรมันนี้ มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้ เป็นรูปทรงพีระมิด

นี่เป็นที่มาของประเพณีปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวัญ และไฟกะพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของดาวิดไว้ที่สุดยอด                                                                                                                                                    

                             ประเพณีนี้เป็นที่นิยมชมชอบของชาวตะวันตกอยู่มาก แม้ว่าประเพณีการตั้งต้นคริสต์มาสมีความเป็นมาดังกล่าว ชาวคริสต์ในสมัยนี้ ก็ยังนิยมทำกันอยู่ เพราะเห็นว่า มีความหมายถึงพระเยซูเจ้า ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิตที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล ซึ่งหมายถึง นิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า และนอกจากนั้น ยังหมายถึง ความสว่างของพระองค์ เสมือนแสงเทียนที่ส่องในความมืด ทั้งยังหมายถึง ความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเยซูเจ้าประทานให้ เพราะต้นไม้นั้น เป็นจุดรวมของครอบครัวในเทศกาลนั้น

การให้ของขวัญในวันคริสต์มาส เป็นธรรมเนียมที่ชาวโรมเริ่มมาก่อน ด้วยการให้ของขวัญแก่เพื่อนในวันขึ้นปีใหม่ มักจะเป็นผลไม้ ขนม หรือทองคำ ต่อมาชาวอังกฤษมีวันที่ศิษยาภิบาลที่โบสถ์แจกเงินให้สมาชิกที่ยากจน ให้ของขวัญแก่พวกคนใช้ และเจ้าหน้าที่ต่างๆ ในทวีปยุโรป เด็กๆ มักจะเข้าใจว่า พระกุมารเยซูเป็นผู้นำของขวัญมาให้เขา แท้จริงแล้วพ่อแม่เป็นผู้ที่ให้แต่เด็กที่สหรัฐอเมริกามักจะคิดว่า ซานตาคลอส เป็นผู้ให้

คืนก่อนวันคริสต์มาส หรือคริสต์มาสอีฟ จะมีงานแครอลลิ่ง ซึ่งจะมีเด็กๆ ไปร้องเพลงตามบ้าน ในคืนวันคริสต์มาส ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ จะมารวมตัวกันที่โบสถ์เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การแสดง และร้องเพลงเมอร์รี่ คริสต์มาส ทุกๆ คน        
                                                                                                                                                                    
                                                                                                                                                         

ขอบคุณครับ แต่อยากรู้ด้วยว่า ทำไมต้องซานตี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้