ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2525
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พระพุทธเจ้าเคยกำเนิดเป็นพญานาค

[คัดลอกลิงก์]


พระพุทธเจ้าเคยกำเนิดเป็นพญานาค

พระพุทธเจ้าทรงแสดงอดีตนิทานว่า
พระองค์เคยเกิดเป็นพญานาค


ดังที่ปรากฏใน

• อรรถกถาจัมเปยยชาดก ขุททกนิกาย ชาดก
เล่ม ๓ ภาค ๗ หน้า ๑๘๕


พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภอุโบสถกรรม ความว่า
ดูก่อนอุบาสกบาสิกาทั้งหลาย
การที่ท่านทั้งหลายอยู่รักษาอุโบสถกรรมเป็นความดี
โบราณกบัณฑิตทั้งหลายละนาคสมบัติแล้ว
อยู่รักษาอุโบสถกรรมเหมือนกัน
อุบาสกอุบาสิกาเหล่านั้นทูลอาราธนา
จึงทรงนำอดีตนิทานมาตรัสดังต่อไปนี้

ในอดีตกาล พระราชาทรงพระนามว่า
พระเจ้าอังคติราช เสวยราชสมบัติอยู่ในอังครัฐราชธานี
ในระหว่างแคว้นอังคะและมคธะต่อกันมีแม่น้ำชื่อจัมปานที

ได้มีนาคพิภพอยู่ใต้แม่น้ำจัมปานทีนั้น
พระยานาคราชชื่อว่า จัมเปยยะ
ครองราชสมบัติในนาคพิภพนั้น
(โดยปกติ พระราชาแห่งแคว้นทั้งสอง
เป็นศัตรูกระทำยุทธชิงชัยแก่กันและกันเนือง ๆ
ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ)

บางครั้งพระเจ้ามคธราช ยึดแคว้นอังคะได้
บางครั้งพระเจ้าอังคราชยึดแคว้นมคธได้.

อยู่มาวันหนึ่ง พระเจ้ามคธราช
กระทำยุทธนาการกับพระเจ้าอังคราชทรงปราชัยต่อยุทธสงคราม
เสด็จขึ้นม้าพระที่นั่งหลบหนีไป
ถึงฝั่งจัมปานทีพวกทหารพระเจ้าอังคราชติดตามไปทันเข้า
จึงทรงพระดำริว่าเราโดดน้ำตายเสีย
ดีกว่าตายในเงื้อมมือของข้าศึก
ดังนี้แล้วจึงโจนลงสู่แม่น้ำพร้อมทั้งม้าพระที่นั่ง

ครั้งนั้น จัมเปยยนาคราช เนรมิตมณฑปแก้วไว้ภายในห้วงน้ำ
แวดล้อมด้วยบริวารเป็นอันมากดื่มมหาปานะอยู่
ม้าพระที่นั่งกับพระเจ้ามคธราช จมน้ำดิ่งลงไป
เฉพาะพระพักตร์แห่งพระยานาคราช
พระยานาคราชเห็นพระราชาทรงเครื่องประดับตกแต่ง
ก็บังเกิดความสิเนหา จึงลุกจากอาสนะทูลว่า

ข้าแต่มหาราชเจ้า พระองค์อย่าทรงหวาดกลัวเลย
แล้วอัญเชิญให้พระราชาประทับนั่งบนบัลลังก์ของตน
ทูลถามถึงเหตุที่ดำน้ำลงมา
พระเจ้ามคธราชตรัสเล่าความตามเป็นจริง

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-12-18 08:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ลำดับนั้น จัมเปยยนาคราช
ปลอบโยนพระเจ้ามคธราชให้เบาพระทัยว่า

ข้าแต่พระมหาราชเจ้า พระองค์อย่าทรงหวาดกลัวเลย
ข้าพระพุทธเจ้าจักช่วยจัดการให้พระองค์เป็นเจ้าของทั้งสองรัฐ

ดังนี้แล้วเสวยยศอันยิ่งใหญ่อยู่ ๗ วัน
ในวันที่ ๘ จึงออกจากนาคพิภพพร้อมด้วยพระเจ้ามคธราช

พระเจ้ามคธราชทรงจับพระเจ้าอังคราชได้
ด้วยอานุภาพของพระยานาคราช
แล้วตรัสสั่งให้สำเร็จโทษเสีย
เสวยราชสมบัติในสองรัฐสีมามณฑล

นับแต่นั้นมาความวิสาสะคุ้นเคยระหว่างพระเจ้ามคธราช
กับพระยานาคราชก็ได้กระชับมั่นคงยิ่งขึ้น

พระเจ้ามคธราชให้สร้างรัตนมณฑปขึ้นที่ฝั่งจัมปานที
แล้วเสด็จออกกระทำพลีกรรมแก่พระยานาคราช
ด้วยมหาบริจาคทุก ๆ ปี

แม้พระยานาคราชก็ออกจากนาคพิภพมารับพลีกรรม
พร้อมด้วยมหาบริวาร
มหาชนพากันมาเฝ้าดูสมบัติของพระยานาคราช

ในกาลนั้นพระบรมโพธิสัตว์เกิดในตระกูลเข็ญใจ
ไปที่ฝั่งน้ำพร้อมด้วยราชบริษัท
เห็นสมบัติของพระยานาคราชนั้นแล้ว
ก็เกิดโลภเจตนาปรารถนาจะได้สมบัตินั้น
จึงทำบุญให้ทานรักษาศีล

พอ จัมเปยยนาคราช ทำกาลกิริยาไปได้ ๗ วัน
ก็จุติไปบังเกิดเหนือสิริไสยาสน์
ณ ห้องอันมีสิริในปราสาทที่อยู่ของจัมเปยยนาคราชนั้น

สรีระร่างกายของพระบรมโพธิสัตว์ได้ปรากฏใหญ่โต
มีวรรณะขาวราวกะพวงดอกมะลิสด
พระโพธิสัตว์เห็นดังนั้น ก็เกิดวิปฏิสาร
คิดไปว่า อิสริยยศในฉกามาวจรสวรรค์
เป็นเสมือนข้าวเปลือกที่เขาโกยกองเก็บไว้ในฉาง
ได้มีแก่เรา ด้วยผลแห่งกุศลที่เราทำไว้

เราสิกลับมาถือปฏิสนธิในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานนี้
ประโยชน์อะไรที่เราจะมีชีวิตอยู่ดังนี้แล้วเกิดความคิดที่จะตาย

ลำดับนั้นนางนาคมาณวิกา ชื่อว่า สุมนา
เห็นพระมหาสัตว์นั้นแล้วดำริว่า
ชะรอยจักเป็นสัตว์ผู้มีอานุภาพมากมาเกิดแน่
ดังนี้แล้วจึงให้สัญญาแก่นางนาคมาณวิกาทั้งหลาย

นางนาคมาณวิกาเหล่านั้นทั้งหมดต่างถือนานาดุริยสังคีต
มากระทำการบำเรอขับกล่อมพระมหาสัตว์
นาคพิภพที่สถิตของพระมหาสัตว์นั้น
ได้ปรากฏเสมือนพิภพแห่งท้าวสักกเทวราช
มรณจิต (คือจิตที่คิดอยากตาย) ของพระมหาสัตว์ก็ดับหายไป

พระมหาสัตว์เจ้าละเสียซึ่งสรีระของงู
ทรงประดับเครื่องสรรพาลังการประทับเหนือพระแท่นบรรทม
นับจำเดิมแต่นั้นมา พระอิสริยยศก็ปรากฏแก่พระมหาสัตว์เจ้ามาก


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้