“วราหาวตาร (वराह अवतार – VARAHA AVATAR)” อวตารปางที่สามของพระนารายณ์ตอนนี้มีชื่อว่า “วราหาวตาร” ถือว่าเป็นปางสุดท้ายที่พระองค์ทรงอวตารลงมาในสมัยสัตยยุค (सत्ययुग – SATYA YUGA) หรือ กฤตยุค (कृतयुग – KRITA YUGA) โดยทรงอวตารลงมาเป็นหมูป่า เรื่องราวที่มาของพระนารายณ์อวตารปางนี้ถือ เป็นมูลเหตุที่สำคัญของนารายณ์อวตารอีกหลายปาง อันเป็นมูลเหตุให้พระนารายณ์ต้องอวตารลงมาปราบยุคเข็ญถึง 4 อวตารกันเลยทีเดียว หลังจากเหตุการณ์ในอวตารปางที่ 2 ซึ่งพระนารายณ์ทรงอวตารลงมาเป็นเต่าเพื่อช่วยเหลือในการกวนเกษียรสมุทรจนบรรลุมโนรสสมความปรารถนาของเหล่าเทวดาแล้วก็เสด็จกลับสู่ไวกูณฐ์ แล้วทรงเข้าบรรทมในสินธุ์ทันที ช่วงเวลานั้นเอง พรหมบุตรสี่กุมาร อันได้แก่ สนกะ (सनक), สนันทนะ (सनन्दन), สนาตนะ (सनातन) และ สนัตกุมาร(सनत्कुमार) ได้เดินทางมาเข้าเพื่อเฝ้าเยี่ยมเยือนพระนารายณ์ เมื่อพรหมบุตรทั้งสี่เดินทางมาถึงหน้าทางเข้าไวกูณฐ์ฝั่งตะวันออก ก็ได้พบกับนายทวารบาลที่เฝ้าประตูทางเข้าทั้ง 2 ตนนามว่า “ชยะ หรือ ชัย (जय) กับ วิชยะ หรือ วิชัย (विजय)” จึงแจ้งให้ทราบว่าตนทั้งสี่นั้นเป็นพรหมบุตรจะมาขอเข้าเฝ้าพระนารายณ์ แต่ชัยกับวิชัยไม่เชื่อ เนื่องด้วยเคยทราบมาว่าพรหมบุตรทั้งสี่นั้นเป็นอวตารหนึ่งของพระสุคุณพรหมัน (พรหมอันปรากฏรูปร่าง บางตำนานกล่าวว่าปรากฏรูปเป็นพระมหาวิษณุ ดังนั้นพรหมบุตรทั้งสี่จึงถือว่าเป็นอวตารหนึ่งของพระนารายณ์ด้วย) ซึ่งถือกำเนิดมาตั้งแต่ครั้นเริ่มต้นสัตยยุคเมื่อ 1,728,000 ปีก่อน แต่เหตุไฉนจึงมีร่างเป็นเด็กน้อยอยู่เล่า จึงกล่าวกับพรหมบุตรไปว่า “ขณะนี้พระผู้เป็นเจ้านั้นทรงบรรทมสินธุ์อยู่เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยกลับมาจาก การกวนเกษียรสมุทร จึงทรงห้ามให้ผู้ใดมาทำการรบกวนขณะบรรทม” พรหมบุตรทั้งสี่ได้ฟังดังนั้นก็กล่าวตอบไป ว่า “เราทั้งสี่นั้นอุตส่าห์เดินทางมาแสนไกลจากพรหมโลกเพื่อตั้งใจมาขอเข้าเฝ้า อีกทั้งเราทั้งสี่นั้นยังเคยได้รับเทวานุญาตจากพระเป็นเจ้า ให้สามารถเข้าเฝ้าได้ทุกเวลาไม่ว่าขณะใดก็ตาม” ชัยกับวิชัยได้ ฟังดังนั้นก็หัวเราะ พร้อมกล่าวดูถูกพรหมบุตรทั้งสี่ว่า “นี่แน่ะเจ้าทารกปากยังไม่สิ้นกินน้ำนมทั้งสี่ เจ้าช่างโกหกสิ้นดี เราเฝ้าทวารแห่งนี้มาหลายพันปียังไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีผู้ได้รับสิทธิ์ พิเศษเช่นนี้ กลับไปเถิดทารกน้อย อย่าให้เราต้องใช้กำลังขับไล่พวกเจ้าเลย” ฝ่ายพรหมบุตรทั้งสี่ได้ฟังเช่นนั้นก็หาเชื่อฟังไม่ พยายามจะข้ามผ่านประตูไวกูณฐ์ไปให้ได้ ชัยกับวิชัยจึงเงื้อคทาเข้าขัดขวางในทันที ทำให้พรหมบุตรทั้งสี่โกรธจัดเลยเกิดการต่อสู้กันขึ้น พร้อมทั้งทำการสาปชัยกับวิชัยที่มาขัดขวางการเข้าเฝ้าของตนว่า “ไอ้ทวารบาลทั้งสองนี้บังอาจนักที่มาทำร้ายเราซึ่งเป็นพราหมณ์ การทำร้ายผู้ที่เป็นพราหมณ์นั้นเป็นบาปอันมหันต์ เราขอสาปเจ้าทั้งสองให้ลงไปเกิดเป็นมารร้ายในโลกมนุษย์ถึง 3 ชาติเถิด ให้สาสมกับบาปที่เจ้าได้กระทำในครั้งนี้”
|