ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
มีดหมอ
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 3027
ตอบกลับ: 3
มีดหมอ
[คัดลอกลิงก์]
morntanti
morntanti
ออฟไลน์
เครดิต
10113
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-11-23 01:09
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
เรื่องเล่าชาวสยาม
21 พฤศจิกายน
·
มีการแก้ไข
มีดหมอ
เหตุใดทำไมจึงเรียกว่า "มีดหมอ" ทั้ง ๆ ที่หมอไม่ได้มาเกี่ยวข้องสักหน่อย ผู้ที่สร้างมีดหมอมักจะเป็นพระเกจิฯ ที่มีวิชาอาคมต่างหาก ก็ตามประสาคนช่างสงสัยนั่นแหละครับ เมื่ออยากรู้ก็ต้องถามคนที่รู้งานนนี้แน่นอนครับผมต้องไปถามเซียนพระ ทำไมจึงเรียกมีดที่กระเกจิฯ สร้างขึ้นมาว่ามีหมอ ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วน่าจะเรียกว่า "มีดพระ" จึงจะเหมาะสม คำตอบที่ออกมาจากปากของเซียนพระก็คือ....."มันเกิดจากการสันนิษฐานหลายด้าน .....(ประการแรกคือ หากเรียกว่ามีดพระ ก็จะกลายเป็นว่าพระนั้นสร้างศาสตรวุธ ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง พระท่านมิใช่นักรบ แต่พระเป็นสาวกขององค์พระศาสดา มีหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์ให้พ้นทุกข์).....(ประการต่อมาก็คือ สมัยก่อนนั้นเรื่องราวเกี่ยวกับผีเข้า หรือถูกคุณไสย มักจะมีให้เห็นกันอยู่เนือง ๆ ผู้ที่จะปราบหรือขับไล่ภูติผีปิศาจ มีคนอยู่สองกลุ่มด้วยกัน).....(กลุ่มแรกคือพระเกจิฯ ที่เรืองเวทย์ มีวิชาอาคม).....(กับอีกกลุ่มหนึ่งคือพวกหมอผี โดยเครื่องมือที่ใช้ในการสยบวิญญาณความชั่วร้าย จะเป็นพวกมีดที่พระเกจิฯ ทำขึ้นเสียเป็นส่วนมาก) ดังนั้นการเรียกชื่อจึงมักเรียกว่า (มีดหมอ) จนติดปาก"
พอได้รับฟังคำอธิบายก็ถึงบางอ้อขึ้นมาทันที อย่างน้อย ๆ เวลาที่สนทนากับใคร เราก็สามารถงัดเอาเรื่องมีดหมอขึ้นมาคุยได้อย่างไม่กระดากปาก ผมจำได้ว่าสมัยที่ยังเป็นเด็กอยู่นั้น ลุงของผมแกชอบเล่นคุณไสยเป็นชีวิตจิตใจ มนต์ดำซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเดียรัจฉานวิชา แกก็อุตส่าห์หอบสังขารไปเรียนถึงจังหวัดสุรินทร์ เรียนกับพระชาวเขมร ซึ่งถือว่ามีความชำนาญทางด้านนี้เป็นพิเศษ ตอนไปอยู่จังหวัดสุรินทร์ลุงเล่าให้ฟังว่าต้องระวังเรื่องอาหาร เพราะในบางครั้งอาจจะโดนยาสั่งก็เป็นได้ ซึ่งยาสั่งนี้หากใครโดนเข้าไปแล้วมีหวัง ไม่ตายก็คางเหลือง สติสตังค์เพี้ยนกลายเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ไปเลย ดังนั้นเวลาที่แกจะกินอาหารแต่ละมื้อ แกจะต้องใช้มีดหมอของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (อาจารย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค) จุ่มลงในอาหารก่อนทานทุกครั้งไป
ผมถามแกว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร แกบอกว่าตอนที่เรียนวิชายาดำ ยาสั่ง แกไปมีเรื่องกับนักเลงต่างถิ่น ซึ่งนักเลงก๊กนี้มันเก่งเรื่องยาสั่งเป็นอย่างมาก ขนาดพระอาจารย์ของลุงผมที่ว่าแน่ ๆ ก็ยังบอกว่าวิชาของไอ้คน ๆ นี้แก่กล้ามาก ตัวของกูเองก็ยังเอามันไม่อยู่ มึงต้องระวังตัวให้ดี หากทะเล่อทะร่าไปกินยาสั่งของพวกมันเข้า เตรียมต่อโลงรอไว้ได้เลย ทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้มันย่อมต้องมีของคู่กันเสมือนการเรียนผูกย่อมต้องมี การเรียนแก้ เมื่อมียาสั่งก็ย่อมต้องมีสิ่งที่แก้ยาสั่งนั่นก็คือ "มีดหมอ" มีดหมอที่ได้รับการปลุกเสกจากพระเกจิฯ ที่มีวิชาอาคมสูง ๆ จะแก้คุณไสย ยาดำ ยาสั่งได้จริง ๆ ขั้นตอนก็ไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก เพียงนึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์และนึกถึงพระเกจิฯ ที่สร้างมีดหมอขึ้นมา จากนั้นก็นำมีดหมอจุ่มลงไปในอาหารที่ต้องการจะพิสูจน์
ถ้าอาหารนั้นมียาสั่ง ยาดำ มีดหมอจะสำแดงอิทธิฤทธิ์โดยเปลี่ยนสีอาหารจานนั้นให้เป็นสีดำทั้งหมดทั้งจาน ในทันที เรื่องนี้สอดคล้องกับหนังสือชีวประวัติของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้กล่าวเอาไว้ว่าในขณะที่หลวงพ่อปานกำลังจะฉันภัตตาหาร ที่พวกผีตายโหงปลอมตัวมาถวายนั้น หลวงพ่อปานได้นำมีดหมอของหลวงพ่อสุ่น มาจุ่มลงในอาหารที่ท่านจะฉันเข้าไป ปรากฏว่าอาหารได้กลายเป็นเศษแก้ว หนามอันแหลมคมในบัลดล.....ในจังหวัดสุรินทร์เรื่องราวของคุณไสย ยาสั่ง ยาดำ เป็นเรื่องที่ยังมีอยู่จริง ๆ ดังนั้นการเดินทางไปเยือนสุรินทร์ท่านจะต้องหลีกเลี่ยงการมีเรื่องขัดใจกับ คนในพื้นที่เพราะ ในบางครั้งคนที่ท่านไปมีเรื่องด้วยนั้นเขาอาจจะเล่นกับท่านแบบไม่ยอมเลิก หมอผีรับจ้างทำคุณไสยในจังหวัดสุรินทร์มีเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวเขมรไม่ใช่คนไทย
อิทธิฤทธิ์อีกประการหนึ่งของมีดหมอนั้นก็คือ "การสังหารฝ่ายตรงข้ามที่มีวิชาอาคมหรือพวกหนังเหนียว พวกที่สักยันต์ตะกร้อ (อย่างเช่นจอมโจรตี๋ใหญ่) ถ้าจะกล่าวว่าใช้อาคมฆ่าคนที่มีอาคมคงจะได้กระมัง" เชื่อกันว่าสมัยที่เสือขาวจะถูกยิงเป้านั้น (เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติเหี้ยมโหดมากฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กแรกเกิด เสือขาวมีของดีที่อยู่กับตัวคือ "ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จังหวัดฉะเชิงเทรา") หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า "มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร" เสือขาวตอนนั้นกำลังทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใด ๆ ทำอันตรายเสือขาวได้เลย ปืนก็ยิงไม่ออก มีดก็แทงไม่เข้า ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งซึ่งเป็นอาจารย์ของตัวเอง ตำรวจชุดไล่ล่าซึ่งประกอบด้วย ร.ต.อ.พจน์ รัตนดิลก จ่าบุญมี แก่นกระโทก จ่าดวง เดชชาติ ได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า "จริงเสือขาวมันหนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารเสือขาวได้อย่างไร เพราะมันจะเป็นการผิดศีล"
ตำรวจชุดไล่ล่าลาหลวงพ่อดิ่งกลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า "ถ้าจะสังหารเสือขาว จะต้องใช้ลูกปืนที่หัวกระสุนทำด้วยใบมีดหมอ มีดหมอต้องเป็นของหลวงพ่อโศก วัดปากคลอง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งหลวงพ่อโศกเป็นพระสหายของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโศกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน" สมัยก่อนนั้นมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปาคลองยังพอที่จะหาได้ไม่เหมือนในเวลานี้ ซึ่งหามีดหมอของท่านไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งหาได้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นของแท้หรือเปล่า เพราะของปลอมมีแยะเหลือเกิน ทำได้เหมือนของจริงจนแยกแยะไม่ออก เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวมันก็เกินพอที่จะทำให้เสือขาวถึงกับทรุดท้องทะลุ แม้ว่าจะไม่ตายแต่ก็คางเหลืองสิ้นลายของคำว่า "จอมโจรหนังเหนียว" นับตั้งแต่บัดนั้น เสือขาวถูกพิพากษาโทษให้ประหารชีวิต (ยิงเป้า) ซึ่งกระสุนที่เพชรฆาตใช้สังหารเสือขาว หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิงทำจากใบมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองทุกนัด
เรื่องเล่าชาวสยาม
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
morntanti
morntanti
ออฟไลน์
เครดิต
10113
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-11-23 01:11
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อันนี้แถม
คนสมัยใหม่เชื่อวิทยาศาสตร์ กล่าวหาเรื่องลี้ลับว่าไร้สาระหารู้ไม่ว่า ตาบอดดักดาน แท้จริงแล้ว เรื่องทางด้านไสยศาสตร์ พระเวทย์ สิ่งลี้ลับ มันก้าวหน้าเกินกว่าวิทยาศาสตร์จะตามทัน ถึงได้เพิ่งมารู้จักว่า ออร่า รอบสิ่งมีชีวิตมีอยู่ พลัสม่ามีอยู่ เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ และคงต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าจะกระจ่างแท้
ไม่ได้บอกให้เชื่อและงมงาย แต่คนที่ประสบพบเจอกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติมีอยู่มาก และได้เล่าขานกันมาแต่ช้านาน โดยที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ผู้ใดมิได้มีความเชื่อ ขอให้สงบๆไว้ เพราะท่านอาจหลุดปากลบหลู่ ในสิ่งที่ท่านไม่เห็น ถ้าท่านได้พบเจอสิ่งที่ที่ลบหลู่ท่านอาจจะจดจำไปจนวันตาย....
เรื่องเล่าชาวสยาม
คุณไสยยังมีอยู่จิง งานล้างป่าช้าที่สุสานประชานุกูล ราชบุรี ๒๖ กันยา ๒๕๕๕ ที่หัวใจมีตะปูสองดอก ที่ลำตัวมีตะปูหนึ่งดอก
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
majoy
majoy
ออฟไลน์
เครดิต
24696
3
#
โพสต์ 2014-11-24 05:48
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่าสนใจครับ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
4
#
โพสต์ 2020-2-15 10:26
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...