ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1830
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ให้เอาชนะข้าศึก คือ กิเลสด้วยการภาวนาและพิจารณา

[คัดลอกลิงก์]




ชีวิตมนุษย์มีสุขเพียงเล็กน้อย
ในจำนวนน้อยแห่งสุขนั้นยังเจือด้วยทุกข์เสียอีก
สุขบางอย่างเหมือนเหยื่อที่ปลายเบ็ด..มีความทุกข์ตามมามาก



           


บุตรเศรษฐีหลายคนในเมืองสาวัตถี
เลื่อมใสในธรรมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงออกบวช
คืนหนึ่งในราตรีสงัด พวกเธอเกิดความกำหนัด มีจิตน้อมไปในกามารมณ์ที่สละแล้ว
พระศาสดาทรงทราบวาระจิตด้วยประทีป คือ สัพพัญญุตญาณของพระองค์

ตามธรรมดา พระศาสดาย่อมทรงถนอมสาวกของพระองค์
ประดุจมารดาถนอมบุตร หรือเหมือนบุคคลผู้มีนัยน์ตาข้างเดียวย่อมถนอมนัยน์ตาของตน
ดังนั้นไม่ว่าสมัยใด เมื่อพระสาวกดำริไปในทางกิเลส
ก็ทรงข่มและให้ละกิเลสนั้นเสีย


การณ์นี้  พระศาสดาทรงเสด็จออกจากพระคันธกุฏี
ตรัสเรียกพระอานนท์ผู้เป็นขุนคลังแห่งธรรม (ธรรมภัณฑาคาริก)มาเฝ้า
แล้วรับสั่งให้ไปประกาศ  ให้ภิกษุสงฆ์ประชุมกัน

ถามว่า เหตุไรจึงไม่รับสั่งให้ประชุมเฉพาะภิกษูสงฆ์หมู่นั้น?
ตอบว่า ถ้าทรงทำเช่นนั้น ทรงเกรงว่า พวกเธอเหล่านั้นจะสลดใจ
ละอายว่า พระศาสดาทรงทราบกองกิเลสอันเกิดในใจตน
เมื่อเป็นดังนี้พวกเธอเหล่านั้นจักไม่ตั้งใจฟังธรรมเทศนา
จักเสื่อมจากมรรคผลอันพึงได้  ดังนั้นพระศาสดาจึงทรงรับสั่งให้ประชุมสงฆ์ทั้งหมดพร้อมกัน
เมื่อภิกษุสงฆ์ประชุมพร้อมกันแล้ว
พากันถวายบัีงคมพระบรมศาสดาดวยจิตเปี่ยมคารวะมั่นคง


พระศาสดาทรงเปล่งพระสุรเสียงอันไพเราะและประกอบด้วยเมตตาปรานี
ประทานธรรมเทศนาดังนี้

"ภิกษุทั้งหลาย ,
ธรรมดาภิกษุไม่ควรตรึกในกาม ในพยาบาท ในวิหิงสา
กิเลสทั้งหลายเป็นเช่นข้าศึก  อย่าดูหมิ่นข้าศึกว่าเล็กน้อย
เพราะเมื่อได้โอกาสย่อมทำความพินาศให้
กิเลสทำนองเดียวกัน เมื่อเกิดขึ้นภายในแล้ว แม้น้อยก็มีโอกาสพอกพูนขึ้น
และนำความพินาศใหญ่หลวงมาสู่ผู้นั้นเอง

ภิกษุทั้งหลาย ,
กิเลสนี้เหมือนยาพิษที่ร้ายแรง เหมือนหัวฝีที่ผิวหนังปอกเปิกไปแล้ว
เหมือนอสรพิษและเหมือนไฟจากสายฟ้า
ไม่ควรที่พวกเธอจะไยดีกับกิเลสนั้นแม้เพียงเล็กน้อย

ควรกีดกันด้วยกำลังภาวนา กำลังการพิจารณา
ไม่ให้หลงเหลือในหทัยแม้เพียงน้อยหนึ่ง

ทำให้เหมือนน้ำกลิ้งตกไปจากใบบัว"



...............................

คัดลอกเนื้อหาจาก นิตยสารศุภมิตร
ปีที่ ๕๒ ฉบับที่ ๕๖๔ กรกฎาคม - สิงหาคม ๒๕๕๐.
หน้า  ๕๔- ๕๕

                                                                                       
.........................................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=40581

ขอบคุณครับ
ภิกษุทั้งหลาย ,
กิเลสนี้เหมือนยาพิษที่ร้ายแรง เหมือนหัวฝีที่ผิวหนังปอกเปิกไปแล้ว
เหมือนอสรพิษและเหมือนไฟจากสายฟ้า
ไม่ควรที่พวกเธอจะไยดีกับกิเลสนั้นแม้เพียงเล็กน้อย

ควรกีดกันด้วยกำลังภาวนา กำลังการพิจารณา
ไม่ให้หลงเหลือในหทัยแม้เพียงน้อยหนึ่ง
ทำให้เหมือนน้ำกลิ้งตกไปจากใบบัว"



   
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้