ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4869
ตอบกลับ: 8
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ให้มีสิบหน้ายี่สิบมือ

[คัดลอกลิงก์]
Cr Sornpraram



ปฐมเหตุแห่ง..รามเกียรติ์



มียักษ์อีกตนหนึ่งชื่อ นนทก มีหน้าที่ล้างเท้าเทวดาที่มาเฝ้าพระอิศวร

ณ เชิงเขาไกรลาสถูกเหล่าเทวดาลูบหัวทุกวันจนหัวล้าน

มีความเสียใจและแค้นใจ จึงไปเฝ้าพระอิศวรทูลขอนิ้วเพชร..



ชี้ไปที่ใครต้องตาย เมื่อพระอิศวรให้พรแล้ว จึงกลับไปล้างเท้าเทวดาตามเดิม

เมื่อถูกเหล่าเทวดาลูบหัวอีก จึงเอานิ้วเพชรชี้เทวดาล้มตายไปเป็นอันมาก




เหล่าเทวดาจึงไปทูลฟ้องพระอิศวร พระอิศวรจึงให้พระนารายณ์ไปปราบ

พระนารายณ์ได้แปลงกายเป็นนางอัปสรไปร่ายรำยั่วยวนจนนนทกหลงกลรำตาม

เอานิ้วเพชรชี้ไปที่ต้นขาตนเองล้มลง พระนารายณ์..

จึงกลับร่างเดิมเหยียบอกนนทกไว้ นนทกจึงว่าพระนารายณ์กลัวตนจึงต้องแปลงร่างมา

พระนารายณ์จึงสาปให้นนทกไปเกิดใหม่ มีสิบหัวสิบหน้าและยี่สิบมือ

สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ มีคทาและธนูเป็นอาวุธ

ส่วนพระองค์จะเกิดเป็นมนุษย์มี 2 มือ ตามไปฆ่า แล้วจึงฆ่านนทกตาย




ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-25 16:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


" ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์
   
ลงไปอุบัติเอาชาติใหม่

ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกร

เหาะเหิรเดินอากาศได้ในอัมพร

มีมือยี่สิบซ้ายขวา
  
ถือคฑาอาวุธธนูศร

กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร

ตามไปราญรอนชีวี "  





เมื่อนนทกตายแล้วจึงไปเกิดเป็นโอรสของท้าวลัสเตียนและ

พระนางรัชดาเทวี ชื่อว่าทศกรรฐ์ แปลว่าผู้มีสิบหู มีน้องชาย 2 คน

ชื่อ พิเภกและกุมภกรรณ และมีน้องสาวชื่อนางสำมนักขา

ต่อมาทศกรรฐ์ได้ไปศึกษาพระเวทย์กับฤาษีโคบุตร



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-25 16:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระราม





คือ พระนารายณ์อวตาร (แบ่งภาค) ลงมา ถือกำเนิดเป็นพระราชโอรสของ

ท้าวทศรถ กับ นางเกาสุริยา เพื่อจะปราบทศกัณฐ์ พระรามมีพระอนุชาต่างพระ

มารดา ๓ พระองค์ คือ พระพรต พระลักษมณ์ และพระสัตรุต ซึ่งต่างก็มีความ

รักใคร่กันอย่างมาก พระมเหสีของพระราม คือ นางสีดา พระรามมีกายสีเขียว

สามารถปรากฏร่างเป็นพระนารายณ์มีสี่กรได้ อาวุธประจำพระองค์ คือ ศร

ซึ่งเป็นอาวุธวิเศษ ที่ได้ประทานมาจากพระอิศวร

บทบาทที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์ ได้แก่

- เมื่อเยาว์วัยพระรามได้รับการศึกษาศิลปศาสตร์ กับสำนักฤาษีสวามิตร

หรือวิศวามิตร มีความเก่งกล้า ถึงกับฆ่ากากนาสูร และสวาหุ ซึ่งมารบกวนเหล่า ฤาษีชีไพร

- ท้าวชนกจักรวรรดิ์(ฤาษีชนก) ได้ให้หมู่กษัตริย์มาประลองยกศรรัตนธนู เพื่ออภิเษกกับนางสีดา

พระรามก็สามารถยกรัตนธนูได้สำเร็จ และได้อภิเษกกับนางสีดา

ระหว่างเดินทางกลับกรุงอโยธยา สามารถปราบรามสูร(ยักษ์ผู้ถือขวาน)

และได้รับศรจากรามสูร


- ได้ฆ่าพระยาขร และพระยาทูษณ์ พี่ชายของนางสำมนักขา

- ระหว่างออกเดินป่า ได้ปราบพิราบยักษ์

- ได้ช่วยสุครีพปราบพาลี

- ไปรบกับทศกัณฐ์ และได้ฆ่าทศกัณฐ์ได้สำเร็จ

- สถาปนาพิเภกให้ครองกรุงลงกา

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-25 16:10 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-25 16:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ย่างสามขุมคลุมแดนยักษ์





ท่าครู (แม่ไม้) มวยไชยามีชื่อว่า  “ย่างสามขุมคลุมแดนยักษ์”  อิงมาจากนิทานปรัมปราถึงลักษณะลีลาท่ายกเท้ายักย่างเยื้องรัดกุม  ทรงอำนาจของพระนารายณ์  ในหนังสือปริทัศน์มวยไทย  ปรมาจารย์เขตร์  ศรียาภัย  ได้เล่าไว้ผมขอนำมาเล่าโดยย่อนะครับ...



                   กาลครั้งหนึ่ง  ณ เขาหิมพานต์  พระอิศวรเจ้าทรงประทานดินแดนเชิงเขาหิมพานต์ให้กับ  ยักษ์ตาตะวัน  ซึ่งคอยรับใช้ให้ได้ครอบครอง  300 โยชน์   และยังให้สิทธิ์ว่ายักษ์สามารถจับสัตว์น้อยใหญ่ในเขตแดนตนกินเป็นอาหารได้  




...ยักษ์ใจพาลมันใช้สิทธิ์นั้นเต็มที่ไม่ว่าสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่  มนุษย์  ครุฑ  นาค  คนธรรพ  เทวดานางฟ้านางสวรรค์  หากล่วงล้ำเข้าพื้นที่สังหารเป็นโดนยักษ์ตาตะวันจับกินเรียบ  หลายชีวิตที่ต้องตายไปด้วยอำนาจมนต์เรียกของมันต้องชะตาขาดตกเป็นอาหารยักษ์เป็นจำนวนมาก  สร้างความเดือดร้อนไปทั่วดินแดนหิมพานต์  เหล่านางฟ้าเทวาสวรรค์ต่างไปร้องทุกข์กับองค์พระอิศวร


พระอิศวรเจ้าจึงมีบัญชาให้  พระนารายณ์  เสด็จไปปราบยักษ์  องค์นารายณ์ทรงอวตารเป็นพราหมณ์หนุ่มแสร้งผลัดหลงเข้าไปในเขตแดนยักษ์  เมื่อเจ้าอสูรร้ายพบพราหมณ์หนุ่มมันจึงจะจับกินเสีย  พราหมณ์หนุ่มได้ร้องขอทำพิธีตามคัมภีร์พระเวทเพียงสามก้าว  เมื่อทำพิธีเสร็จแล้วยักษ์จะกินก็จะพลีชีวิตให้  ที่เพียงสามก้าวจะสักเท่าไหร่ยักษ์ตาตะวันหลงกลองค์นารายณ์  มันอนุญาตยกที่ให้ไม่เอาคืน  



เมื่อยักษ์กล่าวสัจจะดังนั้น  พราหมณ์หนุ่ม (พระนารายณ์แปลง) จึงสำแดงเดช  ยกย่ำยักเยื้อง  “ย่างสามขุม”  คลุมแดนยักษ์ทั้ง  300 โยชน์  ในสามก้าว  อสูรร้ายตื่นตะลึงกว่าจะนึกขึ้นได้กายก็คงจะขาดเป็นสองท่อนไปแล้วด้วยฤทธิ์จักรนารายณ์ผู้ทรงเดชานุภาพ







ครูมวยแต่โบราณท่านสอนไว้ว่า  อย่าได้ละทิ้งท่าย่างสามขุม  ให้หมั่นฝนปรือให้คล่องแคล้ว

คุณประโยชน์ของท่าย่างนั้นอเนกอนันต์  นั่นเป็นที่มาของชื่อ  ท่าครู (แม่ไม้)  มวยไชยาครับ.






ท่าครู (แม่ไม้)  มวยไชยา


http://thaiachira.blogspot.com/2012/02/blog-post_9657.html

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-25 16:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
บรมมหานารายณ์ทศอวตาร ตอน วามนาวตาร




อันจะกล่าวถึงท้าวพลีอสุราช เอารสท่านประหลาดกุมารศรี
หยาบช้าพาลหมายครอบครองจักรวาล บุกทำลายยึดครองทั้งไตรภพ
พระวิษณุเทพเสด็จอวตาร เป็นพราหมณ์เตี้ยพิกลพิการไน้เภทภัย
หลอกของแผ่นดินสามย่างก้าว ท้ามพลีหลงการสิ้นเดชานุภาพาล

       ปางอวตารที่ห้าของพระนารายณ์คือ วามนาวตาร ทรงอวตารมาเป็นพราหมณ์เตี้ยหรือคนแคระตัวเล็กบุตรของพระกัศปเทพบิดรและพระอทิติเทพมารดร เพื่อปราบท้าวพลีบุตรประหลาดกุมารที่ยกพลอสูรยึกครองสวรรค์ โลกมุนาญ์และบาดาลไว้สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ด้วยกุศโลบายที่เรียบง่ายและเป็นที่มาของวลีที่ว่า "ย่างสามขุม"
        ประหลาดกุมารปกครองอสูรด้วยธรรมะตามบัญชาแห่งพระนารายณ์หลังจากที่ประหลาดกุมารสิ้นชีพไปบุตรชายคือท้าวพลีได้ครองราชย์ปกครองอสูรอยู่ ปรากฏว่าท้าวพลีมิได้เลือดของพ่อมาแต่น้อยกลับได้ของปู้คือหิรัณกศิปุมาเต็มๆ และคำนึงถึงความยิ่งใหญ่แต่หนหลังของปู่จนจึงคิดทวงคืนแผ่นดินจากพระอินทร์อีกครั้ง จึงยกทัพอสูรเข้าต้องสู้ด้วยพลังกำลังและความเคียดแค้นที่เต็มอก พระอินทร์จึงสู้ไม่ได้ต้องยกพลอพยพเทวดาไปอยู่ยังเชิงเขาที่พำนักของพระกัศปมุนีและพระนางอทิติ และสวดมนต์ขอให้พระนารายณ์ช่วย พระนารายณ์จึงอวตารลงมาเกิดเป็นบุตรของพระกัศปมุนีและพระนางอทิติ โดยเกิดมามีรูปร่างพิกลพิการในสายตาคนทั่วไปคือเป็นคนแคระ พระกัศปมุนีให้ชื่อว่า วามน
        วามนรำเรียนศิลปศาสตร์ไตรเพทจนครบถ้วนแล้วจึงบวชเป็นพราหมณ์ ในเวลานั้นท้าวพลีซึ่งครอบครองสามโลกได้สำเร็จก็ทำพิธียัญบูชาใหญ่ถวายแด่หิรัญกศิปุและยกตนเป็นพระผู้เป็นเจ้า จึงได้มีการเชิญพราหมณ์จากทั่วทุกหัวระแหงมาร่วมพิธีด้วย รวมทั้งวามนพราหมณ์เตี้ย ในพิธีดังกล่าวกษัตริย์จะต้องถวายปัจจัยแก่พราหมาณ์ทีเชิญตามแต่พราหมณ์จะขอ ซึ่งเป็นการแสดงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์อย่างท้าวพลี พราหมณ์คนอื่นก็ขอเล็กๆน้อยๆเพราะเกรงกลัวโทสะของท้าวพลี พอมาถึงวามนพราหมณ์เตี้ย ท้าวพลีก็เกิดเอ็นดูในความน่ารักบนแปลกประหลาดจึงถวายพรแก่วามน ว่า
        "ท่านปรารถนาสิ่งใหญ่พราหมณ์ จงแจ้งแถลงไข"
        "ท้าวพลีผู้ยิ่งใหญ่ ตัวข้าเตี้ยแคระพิกลพิการมิปรารถนาสิ่งใดของเพื่อแผ่นดินสามย่างก้าวเป็นที่อยู่อาศัยไม่มีใครมารบกวนก็เพียงพอ" ท้าวพลีก้มดูขาวามนที่สั้นก็เกิดความคิดว่าแผ่นดินสามย่างก้าวจักเท่าใดกัน จึงประทานให้และยกคนโทนำและหลั่งทักษิโณทกใส่มือพราหมณ์ ตอนนั้นพระศุกร์ผู้เป็นอาจารย์ของเหล่าอสูรเห็นภาพวามนมีสี่กรถือสังข์กับจักรก็รู้ทันทีว่าเป็นพระนารายณ์อวตารมาและเห็นว่าท้าวพลีกำลังจะหลงกลจึงหายตัวไปอดุปากพวนคนโทไม่ให้นำออกมา ท้าวพลีทั้งเททั้งเขย่าก็ไม่ออก วามนก็รู้ด้วยญาณว่าเป็นฝีมือพระศุกร์จึงเอาหญ้าคาเเทงเข้าไปถูกตาพระศุกร์บอด พระศุกร์ทนไม่ไว้ต้องรีบหายตัวไปยังที่พำนักของตน พอท้าวพลีเทน้ำลงมือวามนเรียบร้อย ทันใดนั้นวามนก็สำแดงฤทธิ์กลายร่างเป็นพระนารายญ์ สี่กรตัวสูงใหญ่สุดขอบจักรวาลก้าวขาครั้งที่หนึ่งก็เอาสวรรค์ไว้ทั้งหมด ก้าวขาครั้งที่สองก็เอาโลกมนุษย์ไว้ทั้งหมด และกำลังก้าวขาครั้งที่สามเพื่อเอาบาดาลไว้ทั้งหมด ท้าวพลีเห็นเช่นนั้นก็ตกตะลึงและนึกถึงคำสอนขอบิดาว่าไม่มีผู้ใดในไตรภพจะสามารถต้านทานอำนาจของพระนารายณ์ได้ จึงคุกเข่ากราบของอภัยและสำนึกผิดในบาปที่ตนก่อน พระนารายณ์กลายร่างกลับมาเป็นวามนพรามหณ์แคระ และเอาเท้าเหยียบหัวเป็นการลงโทษและมีบัญชาให้ท้าวพลีไปปกครองบาดาลชั้นที่ลึกที่สุดสำนึกผิดอยู่ที่นั้นชั่วชีวิต ท้าวพลีก็ยอมทำตามและยึดถือพระนารายณ์เป็นสรณะตลอดไป สามโลกก็กลับคือสู่สันติสุขอีกครั้ง
            และนี้เป็นที่มาของวลีที่ว่า ย่างสามขุม เป็นท่าหนึ่งในกระบวนแม่ไม้มวยไทยและยังเป็นการใช้วามนแทนความอ่อนน้อมถ่อมตนและการไม่ดูถูกผู้ที่ต่อยต่ำกว่าจึงนับเป็นอวตารที่มีความหายลึกซึ้งมากภาคหนึ่ง

http://icenattapachara.blogspot.com/2011/10/blog-post_9144.html

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
น่าสนใจมากๆค่ะ








วาตภัย
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้