วันนี้ท่านผู้นำจะพา คศช. ไปเที่ยวเมืองลาวกันครับ
เริ่มจากการข้ามน้ำโขงที่ จ.มุกดาหารเพื่อไป แขวงสหวันนะเขตกันครับ
"เซโปน" เป็นเมืองที่ยังมีร่องรอยอดีตให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นซากประหลักหักพัง ซากยุทธโธปกรณ์ เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางที่เวียดนามสร้างขึ้นเพื่อใช้ลำเลียงพลไปสู้กับทหารฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2506-2517 ในช่วงของสงครามอินโดจีนเส้นทางสายนี้ก็ถูกเวียดนามเหนื่อใช้เป็นเส้นทางเคลื่อนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปยังวียดนามใต้ โดยสหรัฐอเมริกาใช้ความพยายามในการทำลายเส้นทางสายนี้อย่างมากโดยการทิ้งระเบิดอย่างหนักสร้างความพินาทให้ปรากฏอยู่อย่างเด่นชัด ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังคงมีร่องลอยให้เห็นอยู่ทั้งกับระเบิดและซากอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เป็นเครื่องยืนยันอดีตอันโหดเหี้ยมจากสงครามให้ได้เห็นและศึกษาอยู่อย่างมากมาย แต่วันนี้สายลมฯ ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเยี่ยมชมเมืองแห่งประวัติศาสตร์แห่งนี้ คงได้ใช้แต่เพียงเป็นทางผ่านเลยไปยัง "พระธาตุอิงฮัง" อย่างน่าเสียดาย
สำหรับองค์พระธาตุอิงฮังนั้นอยู่ใกล้กว่าพระธาตุโพนเล็กน้อย คืออยู่ห่างจากเมืองสะหวันเขตไปทางตะวันออกประมาณ 13 กิโลเมตรเลียบเส้นทางไปบ้านโพนสิม ซึ่งไปกันคนละทางกับพระธาตุโพน พระธาตุอิงฮังนั้นถือเป็นพระธาตุคู่แฝดของ "พระธาตุพนม" ในประเทศไทย ในทุก ๆ ปี ประมาณเดือนธันวาคมจะมีงานสมโภชน์พระธาตุอิงฮัง เช่นเดียวกับ พระธาตุพนมซึ่งจะมีการจัดงานสมโภชน์ในเดือนกุมภาพันธุ์ของทุกปี โดยจะจัดงานสมโภชน์ยิ่งใหญ่ โดยจัดให้มีขบวนแห่เทียนและการฟ้อนรำถวายองค์พระธาตุทั้งสองเช่นเดียวกัน ประตูด้านหนึ่งขององค์พระธาตุอิงฮัง ภาพกามสูตร แบบภาพสลักนูนต่ำ ภาพด้านทิศซ้าย ขี่สัตว์พาหนะ ภาพด้านหลัง พระธาตุอิงฮัง เป็นพระธาตุที่ก่ออิฐถือปูนเช่นเดียวกันกับพุทธสถานทั่ว ๆ ไปในประเทศลาว มีความสูง 25 เมตร สำหรับประตูทางเข้าทั้ง 4 ด้านนั้นมีการจำหลักภาพกามาวิจิตรของฮินดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภาพกามสังวาส ที่ถูกจัดทำขึ้นและประดับอยู่หน้าประตูทางเข้าพระธาตุ
|