ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

"สังคมวิปริต" รีดอสุจิใช้ทำคุณไสย

[คัดลอกลิงก์]
บุกค้นสำนักพ่อปู่ฤาษี หลังภาพแชร์ว่อนทำน้ำมันพรายชิ้นส่วนมนุษย์









นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com


วันนี้ (29 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และสถานีตำรวจภูธรแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นำกำลังเข้าตรวจค้นสำนักพ่อปู่ฤาษี ตำบลแม่หอพระ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนายอิ่นคำ อายุ 59 ปี เป็นเจ้าสำนัก
โดยการเข้าตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสจากการที่มีผู้โพสต์ภาพการทำพิธีเคี่ยวน้ำมันจากชิ้นส่วนมนุษย์เพื่อทำของขลังที่สำนักดังกล่าว ซึ่งเปิดทำเครื่องรางของขลังมานานกว่า 30 ปีแล้วจากการตรวจค้น พื้นที่ข้างสำนักพ่อปู่ฤษียังพบเป็นลักษณะของโรงงานเล็กๆ ที่มีเครื่องรางของขลังจำพวกเมตตามหานิยม และพวกของขลังสำหรับการค้าขายตามที่มีลูกค้าสั่งมา โดยกลุ่มลูกค้า และที่มาเป็นลูกศิษย์นอกจากชาวไทยแล้วยังมีชาวต่างชาติทั้งจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และไต้หวัน ที่มาสั่งซื้อของรวมทั้งนำสิ่งของมาให้ปลุกเสก ทำพิธี
เบื้องต้นนายอิ่นคำ ยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่มีการนำชิ้นส่วนมนุษย์มาใช้ในการทำพิธีใดๆ ทั้งสิ้น อ้างว่า สิ่งของที่ทำพิธีไม่ใช่ชิ้นส่วนมนุษย์ เป็นแค่หัวว่านเท่านั้น ส่วนน้ำมันและสิ่งของที่พบทั้งลูกกรอก และตะกรุด ไม่ได้มีส่วนผสมของชิ้นส่วนมนุษย์ตามที่มีการกล่าวอ้างเป็นสินค้าที่ตนเองทำขึ้นจากว่าน น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันหอม
ทางด้าน พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากทางตำรวจสืบทราบมาว่ามีการนำชิ้นส่วนมนุษย์มีทำน้ำมันพราย และจำหน่ายให้กับลูกค้าทางอินเตอร์เน็ต จึงได้ขอหมายศาลขอเข้าตรวจค้น เบื้องต้นแม้จะยังไม่พบชิ้นส่วนมนุษย์ อีกทั้งพบว่าวันนี้เว็บไซต์ที่ลงโฆษณาขายสิ่งของเหล่านี้ได้ปิดตัวลงแล้วหลังตำรวจติดตามสืบสวน แต่ก็จะมีการเชิญตัวไปทำประวัติ และตรวจสอบเรื่องของ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องของการโฆษณาสินค้า ว่าเข้าข่ายความผิดนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตามในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ยังพบวัดที่มีพระ และสำนักต่างๆ ที่มีลักษณะของการทำเครื่องรางของขลังจากชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ และชิ้นส่วนศพอยู่ในหลายแห่ง การเข้าดำเนินการครั้งนี้ของตำรวจภาค 5 ถือว่าเป็นการกวาดล้างให้สิ่งเหล่านี้หมดไป ส่วนความผิดก็ต้องรอตรวจสอบหลักฐานที่เก็บตัวอย่างมา หากยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนมนุษย์จริงก็จะมีความผิด



น่ากลัวและอันตรายมากครัย
ไปกันใหญ่แล้ว
ตร.บุกสำนักขมังเวทย์ล่า 2 โจรตัดหัวศพตายโหง

ลูกศิษย์สาวเปิดปากแฉกะโหลก 1 หัวขายได้เป็นล้าน



เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 กันยายน  ร.ต.อ.วิบูลย์ นนทะแสง รอง สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และทหาร เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 319/135  ชุมชนเก่าน้อย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี  ซึ่งเป็นบ้านของ นายอาทิตย์ หรืออาจารย์อ๋อง ซึ่งตั้งเป็นสำนักฤาษีนครมนต์ โดยมีนายนิรันดร เทศฉิม อายุ 51 ปี ประธานชุมชนเก่าน้อย นำตรวจค้น เพราะนายอาทิตย์ได้ไหวตัวทันหลบหนีไปแล้ว



   จากการตรวจค้นพบไหดินเผาพร้อมผ้าปิด 2 ใบ โถแก้วใส่รูปปั้นชายหญิงมัดด้วยสายสิญจน์แช่น้ำมัน ข้างในมีเส้นผมมนุษย์ น้ำมันพรายบรรจุในขวดพลาสติกจำนวนหลายขวด มีดดาบลงอาคม 2 เล่ม เข็มสักลาย 2 เล่ม สายสิญจน์ 2 ม้วน หน้ากากทองเหลือ 1 ชิ้น แผ่นทองเหลืองลงยันต์1 แผ่น จีวร 1 ผืน ป้ายโฆษณา 1 แผ่น จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

            
   นายนิรันดรให้การว่า  นายอาทิตย์และภรรยามาอยู่เช่าบ้านหลังดังกล่าวได้ 1 ปี และได้ขนอุปกรณ์มาตั้งสำนักได้ 3 เดือน จะมีลูกค้ามาสักยันต์ ลงอักขระ ครอบครู บูชาเครื่องรางของขลังเสน่ห์ยาแฝดไม่ขาดสาย โดยเฉพาะสาวไทยเมียฝรั่งมาทำจำนวนมาก นอกจากนี้ก็ยังมีวัยรุ่นหญิงชาย สาวแก่แม่ม่ายก็มี เย็นวานนี้ตนพบเห็นนายอาทิตย์และภรรยาขับรถยนต์สีขาวออกจากบ้านไปแล้วไม่กลับมาอีก สงสัยจะไหวตัวทันหลบหนีไปแล้ว

   พ.ต.ท.มานิตย์ แก้วเจริญ สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี  เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากจากกรณีมีคนร้าย 3 คน ขับรถเก๋งสีขาว เข้าไปทุบเบ้าปูนเก็บศพภายในวัดนาเมืองไทย ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี และลักกะโหลกศพนายธีระพงษ์ ศีรบุรินทร์ อายุ 27 ปี ซึ่งผูกคอตายในสวนยาง เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเสียชีวิตผิดธรรมชาติ หรือตายโหง ญาติได้นำไปฝังไว้ครบ 3 ปี จึงจะขุดขึ้นมาทำพิธีฌาปณกิจ แต่มีชาวบ้านไปกรีดยางผ่านมาพบเบ้าปูนถูกทุบและกะโหลกศพได้หายไป จึงแจ้งญาติและตำรวจ ได้ออกสืบสวนตามไล่ล่าแก๊งหมอเมื่อเช้าวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา


   
  โดยความคืบหน้าคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบทราบว่า 1 ในเก๋งคนร้ายลักศพคือ น.ส.บังอร หรือออม ศรีนานาม อายุ 27 ปี จึงเชิญตัวมาที่สถานีตำรวจทำการสอบสวน ซึ่ง น.ส.บังอร ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายณรงค์ ภูมิภูชิต หรืออาจารย์อึ่ง อายุ 35 ปี  และนายอาทิตย์ คงกะเรียน หรืออาจารย์อ๋อง อายุ 35 ปี  ซึ่งอาจารย์ทั้ง 2 คน เปิดสำนักหมอผีจอมขมังเวทย์ รับทำไสยศาสตร์ มนต์ดำ ทำเสน่ห์ ลักหัวกะโหลกจริง

   น.ส.บังอร  ให้การว่า  ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งต้องการเครื่องของขลังได้ติดตนมา ซึ่งตนก็เป็นลูกศิษย์นายอาทิตย์ เพราะเลื่อมใสศรัทธา และชอบเรื่องไสยศาสตร์ มนต์ดำ ทำเสน่ห์ ส่วนนายอาทิตย์ และนายณรงค์ เป็นเพื่อนกัน เช้าวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา นายณรงค์ได้โทรศัพท์มาชวนนายอาทิตย์ให้มาเอาของดี คือกะโหลกผีตายโหง นายอาทิตย์นึกว่ามีกะโหลกผีตายโหงรออยู่แล้ว จึงชวนตนขับรถเก๋งมาสด้า 2 สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 9946 อุดรธานี ไปเอาของดีด้วย เมื่อไปถึงบ้านนายณรงค์บอกว่าต้องไปทุบเบ้าเอากะโหลกผีตายโหงที่วัดนาเมืองไทย ต.น้ำโสม แล้วขับรถไปดูหลุมศพเป้าหมาย แต่ไม่สามารถลงมือได้ เพราะยังไม่ถึงวันที่กำหนด จึงไปพักอยู่บ้านนายณรงค์



  น.ส.บังอร  ให้การต่อว่า จนกระทั่งเช้าตรู่วันที่ 15 กันยายน พวกตนได้กลับไปที่วัดนาเมืองไทย และนำอุปกรณ์ไปทุบเอากะโหลกศีรษะศพนายธีระพงษ์ ศรีบุรินทร์ อายุ 27 ปี ที่ผูกคอตายเมื่อ 3 เดือนก่อน นายณรงค์ เป็นคนทุบเบ้าปูน ส่วนอาทิตย์และตนได้ยืนดู นายณรงค์ได้นำกะโหลกขึ้นมาได้ ก่อนจะนำกลับไปที่บ้านนายณรงค์ และผ่ากะโหลกแบ่งชิ้นส่วนกันคนละครึ่ง เสร็จแล้วได้กลับมาบ้านนายอาทิตย์ บอกตนว่าจะนำไปทำน้ำมันพราย ขี้ผึ่งเสน่ห์ ส่วนปั้นเหน่งจะคนมารับซื้อในราคา 5หมื่นบาท

  "อาจารย์ได้พากันไปเอาศีรษะศพใส่ถุงมาใส่กระโปรงท้ายรถ แล้วก็เอาไปที่บ้านอาจารย์แล้วก็ไปชำแหละ คือดึงหนัง ดึงอะไรออก ล้างกะโหลกมา แล้วมาเลื่อยตัดแบ่งกัน สมองอาจารย์ก็เทใส่กะทะเคี่ยวกับขึ้ผี้ง แล้วเทใส่ขวด ส่วนนี้ก็ไปทำใช้ทางเมตตามหานิยม และทำให้การค้าขายดีขึ้น ส่วนกะโหลกนั้นไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร มันทำได้หลายอย่าง บางคนก็เอาไปบดเป็นผงเอาไปเป็นมวลสารผสมทำเหรียญต่าง ๆ ขึ้นมาแล้วไปขายได้คาดว่าน่าจะล้านกว่า"

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1442925900
15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-9-24 14:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

บุกรวบแล้ว!! ‘อาจารย์อ๋อง’ หมอผีแก๊งลักกะโหลก
เตรียมแปลงโฉมหลบหนี-เจอของกลาง





วันที่ 24 กันยายน  พ.ศ. 2558 เวลา 11:10 น.

จากกรณีจับ อาจารย์อึ่ง จอมขมังเวท แก๊งโจรป่าช้า ลักขุดหัวกะโหลก ที่ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี หลังสืบพบหนีไปซุกบ้านเมีย ที่อ.นาด้วง จ.เลย จึงประสานชุดสืบสวน บุกรวบตัว ก่อนไปรับตัวกลับมาดำเนินคดี เจ้าตัวโบ้ย อาจารย์อ๋อง เป็นต้นคิด อ้างขายได้ 1 ล้าน มีคนซื้อเอาไปทำหวย จึงขอค่าเหนื่อย 3 แสน กะเอาเงินมาเซอร์ไพรส์เมียที่ทะเลาะกันอยู่ แต่สุดท้ายก็มาถูกจับดังกล่าว ด้านอาจารย์อ๋องโพสต์ในเฟซบุ๊กของสำนัก บอกเตรียมเข้ามอบตัวกับตร.เร็วๆ นี้ เล็งขยายผลถึงกลุ่มที่ทำธุรกิจหากินกับศพผีตายโหง ซึ่งทำร้ายจิตใจญาติ ผู้ตาย เพื่อมาดำเนินคดีต่อไปด้วย

จากเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา นายณรงค์ พันไชย ผญบ.หมู่ 10 บ้านนาเมืองไทย ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี นำนางอินปลัด ศรีบุรินทร์ อายุ 62 ปี ลูกบ้านเข้าแจ้งความกับพ.ต.อ.ประสาร ชนกนำพล ผกก.สภ.น้ำโสม ว่าศพของนายธีรพงษ์ ศรีบุรินทร์ อายุ 26 ปี ลูกชายที่เสียชีวิตจากการผูกคอตัวเองตายในสวนยางพาราเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายขโมยชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะหายไป
เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าวพร้อมสอบปากคำพยาน จนทราบว่าเมื่อวันที่ 14 ก.ย. มีพยานพบรถเก๋งสีขาวไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียน มีคนนั่งมาในรถ 4 คน ขับเข้าไปจอดอยู่บริเวณใกล้กับหลุมศพ ก่อนวันรุ่งขึ้นจะมาพบว่าเบ้าฝังศพถูกทุบแตก หัวกะโหลกศพหายไป คาดจะเอาไปขายให้พวกเล่นคุณไสยและมนต์ดำทางไสยศาสตร์ เหมือนที่เคยเป็นข่าวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเกิดในพื้นที่อ.กุมภวาปี และอ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี

ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้จำนวน 5 คน ทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวเงียบหายไป จนล่าสุดมาโผล่อีกที่อ.น้ำโสม ทั้งนี้ นับเป็นศพที่ 5 แล้วที่ถูกคนร้ายก่อเหตุขโมยชิ้นส่วนไป เบื้องต้นเชื่อคนร้ายต้องการเอาไปขายให้พวกเล่นคุณไสยและมนต์ดำทางไสยศาสตร์ ต่อมาชุดสืบสวนนำตัวน.ส.บังอร หรือออม ศรีนานาม มาสอบสวน จนยอมรับสารภาพว่าร่วมกับนายอาทิตย์ คงกระเรียน และนายณรงค์ ภูมิภูชิต ก่อเหตุเพราะต้องการนำกะโหลกไปทำของขลัง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะบุกเข้าตรวจค้นที่สำนักของทั้งคู่ แต่พบว่าไหวตัวหลบหนีไปก่อน พบเพียงหม้อต้มกะโหลก สมอง หนังหัว น้ำมันพราย และขี้ผึ้ง ของขลัง สำหรับขายให้ลูกค้าที่มีความเชื่อหลงงมงายตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

วันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึก พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พรพิชิต สุปัญญา รอง ผกก.สส.ฯ , พ.ต.ต.มานิตย์ แก้วเจริญ สว.สส. และชุดสืบสวน ภ.จวงอุดรธานี ได้บุกเข้าจับกุมตัว นายอาทิตย์ คงกระเรียน หรือ อาจารย์อ๋อง ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 271/2558 ลงวันที่ 22 กันยายน 2558 ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันหลักทรัพย์ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะ หรือรับของโจร”

ขณะอาจารย์อ๋อง จะเข้าไปตัดผมแปลงโฉม เพื่อหลบหนีที่ร้านตัดผม ใจกลางเมืองอุดรฯ จากนั้นได้คุมตัวไปตรวจค้นบ้านพัก เจอเศษกะโหลกศีรษะ และปั้นเหน่ง กะโหลกศีรษะ ส่วนสำคัญที่ตัดเป็นรูปทรงกลม พร้อมลงคาถาอาคม เป็นเครื่องรางของขลัง ในการทำเสน่ห์ และคุมตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.น้ำโสม ร่วมกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1443067842

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้