ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1556
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เล่าเรื่องกรรมของคนกับสัตว์ (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

[คัดลอกลิงก์]


ที่จริงเรื่องที่เกิดขึ้นให้รู้ให้เห็นมีอยู่มากมาย ที่น่าจะทำให้กลัวกรรม
แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ยังแสดงให้เห็นผลแห่งกรรมชัดเจน

หมาพวกหนึ่งมีรูปร่างหางหูประกอบพร้อมด้วยขนเครื่องปกคลุมที่งดงามแม้จะตามประสาหมา
เป็นที่เอ็นดูรักชอบของผู้คนทั้งหลาย
ซื้อขายกันได้ด้วยราคาเป็นพันเป็นหมื่น และได้รับการเลี้ยงดูอย่างทะนุทนอม
ข้าวปลาอาหารมีราคาสูง ที่หลับที่นอนก็เสมอกับผู้เป็นคนเป็นเจ้าของ
จะกินจะอยู่จะหลับจะนอนสะดวกสบายไปทั้งสิ้น
จะกล่าวว่าคนเลี้ยงหมาเหมือนลูกสุดที่รักก็ไม่น่าจะผิด
จะพูดจาด้วยก็มีแม่ๆ ลูกๆ วุ่นวายอยู่ ราวคนพูดกับคน

บางทีคนพูดกันคนยังไพเราะไม่เท่าส่วนหมาอีกพวกหนึ่ง
มีสภาพที่แตกต่างกับพวกที่กล่าวแล้วอย่างลิบลับ
ขนไม่ต้องพูดถึงว่าสวยว่างามเล เป็นขี้เรื้อนจนไม่เหลือขน
มองดูมีความรู้สึกว่าจะทั้งแสบทั้งคันเนื้อหนังที่เต็มไปด้วยขี้เรื้อน
หมาพวกนี้เที่ยววิ่งตะลอนๆ หากินพอปะทังความหิวไปวันๆ

ถูกเตะถูกตีจากชาวบ้านร้านตลาดที่หวงแหนข้าวปลาอาหารที่พวกเขาก็หายากหาเย็นแล้วเช่นกัน
โดยเฉพาะในยุคนี้สมัยนี้ น่าจะคิดว่าถ้าจะบังเอิญต้องเกิดเป็นหมาก็ขออย่าให้เป็นพวกหลังเลย

แต่ความปรารถนาก็หาอาจสัมฤทธิ์ได้ไม่ แม้ว่ามิได้กระทำกรรมไว้ให้เป็นเหตุแห่งผลที่ปรารถนา
ถ้ากรรมของเราที่ทำไว้ควรแก่ผล เราอาจจะต้องไปเป็นหมาขี้เรื้อนก็ได้ควรกลัวไว้บ้าง

เมื่อกว่าสิบปีมาแล้ว ไปเยี่ยมพระรูปหนึ่งที่ต่างจังหวัด มีญาติโยมติดตามไปด้วยหลายคน
ไปถึงกุฏิพระรูปนั้นเมื่อพลบค่ำ เปิดไฟในกุฏิแล้ว
เมื่อนั่งเรียบร้อย ยังไม่ทันได้ทักทายปราศรัยกันอย่างใด
ห้องข้างๆกันที่ประตูปิดอยู่ก็เปิดผางออกด้วยแรงผลัก

มีหมาไม่เล็กนักตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากห้องนั้น อย่างเร่งร้อนและไม่ทันที่ใครจะรู้ตัว
เจ้าหมานั้นก็ปราดเข้าไปถึงญาติโยมผู้หนึ่งที่ติดตามไปด้วย
พอถึงตัวญาติโยมผู้นั้น ก็ซุกหัวลงกับตัก แล้วล้มตัวลงนอนนิ่ง อย่างเป็นที่น่าพิศวงนัก

พระเจ้าของกุฏิที่จ้องมองอยู่อุทานออกมาด้วยเสียงประหลาดใจ
และอธิบายให้ได้ยินทั่วกันว่า หมาตัวนั้นเป็นหมาดุมาก
ท่านจึงขังไว้ในห้องเมื่อรู้ว่าจะมีผู้มาถึงกุฏิ
เมื่อมันดันประตูออกมานั้นท่านตกใจมาก
แล้วท่านก็ต้องประหลาดใจในอาการกิริยา
ที่เจ้าหมานั้นแสดงต่อญาติโยมผู้ไปเยือนที่มิได้เคยรู้จักกับท่านเจ้าของกุฏิมาก่อน

มิได้เคยไปที่กุฏินั้นมาก่อน จึงไม่เคยรู้จักกับหมาตัวนั้นมาก่อนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเป็นได้หรือไม่
ที่ครั้งหนึ่งในชาติหนึ่งคนกับหมาตัวนั้นจะเคยมีความเป็นมิตรสนิทสนมกัน
เมื่อรู้ว่าคนคนนั้นมาถึงที่พัก ก็ตื่นเต้นดีใจไม่ยอมถูกกักขัง ลิงโลดไปทักทายปราศรัยในทันที
บางทีจะเป็นจริงเช่นนี้ ทั้งสองอาจจะเคยเป็นคน เป็นเพื่อนรักชอบกัน

คนหนึ่งมาตายจากไป และด้วยอำนาจแห่งกรรมที่ต้องได้กระทำไว้แน่
ควรแก่การต้องเกิดเป็นหมา ก็ต้องเป็นไปตามกรรม ขณะที่คนหนึ่งยังเป็นคน
อีกคนหนึ่งเป็นหมาไปเสียแล้ว

กรรมน่ากลัวเช่นนี้ นี่มิใช่การขู่ แต่เป็นการพยายามคิดให้อาจเป็นจริงได้
นั่นก็คือ แม้เราไม่ระวังให้ดีที่สุด วันหนึ่งเมื่อตายไปจากโลกนี้
อาจจะไปมีชีวิตใหม่เป็นสัตว์เดรัจฉาน เช่นเป็นหมาขี้เรื้อนตัวนั้นก็ได้
หรือถึงเป็นหมาแสนสวยอีกตัวหนึ่งก็ดี ก็ตาม ก็ยังหาใช่สิ่งควรยินดีพอใจไม่ มิใช่หรือ.


: วันวิสาขบูชา ๒๕๔๓
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



                                                                                       
...................................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=42985

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้