ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 8399
ตอบกลับ: 22
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พระธาตุสิวลี

[คัดลอกลิงก์]


ประวัติ พระสีวลีเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก
พระสีวลี เป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ราชธิดาแห่งโกลิยนคร ตั้งแต่ท่านจุติลงถือปฏิสนธิในครรภ์ของพระมารดา ได้ทำให้ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระมารดาเป็นอันมาก ท่าน
อาศัยอยู่ในครรภ์ของพระมารดา นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ครั้นเมื่อใกล้เวลาจะประสูติ พระมารดาได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า พระนางจึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพร จากพระบรมศาสดาและพระพุทธองค์ตรัสประทานพรแก่พระนางว่า:-

“ขอพระนางสุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข
ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด”

ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ ทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานไป พระนางประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย ดุจน้ำไหลออกจากหม้อ พระประยูรญาติทั้งหลายได้ขนานพระนามพระราชโอรสของพระนางสุปปวาสาว่า “สีวลีกุมาร” เมื่อพระนางมีพระวรกายแข็งแรงดีแล้ว มีพระประสงค์ที่จะถวายมหาทานติดต่อกันเป็นเวลา ๗ วัน จึงจึงความประสงค์แก่พระสวามีให้กราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ มารับมหาทานอาหารบิณฑบาตในพระราชนิเวสน์ ตลอด ๗ วัน ในวันถวายมหาทานนั้น สีวลีกุมาร มีพระวรกายเข้มแข็งดุจกุมารผู้มีพระชนม์ ๗ พรรษา ได้ช่วยพระบิดาและพระมารดาจัดแจงกิจต่าง ๆ มีการนำธมกรก (ธะมะกะหรก = กระบอกกรองน้ำ) มากรองน้ำดื่มและอังคาสพระบรมศาสดาและหมู่พระภิกษุสงฆ์ ในขณะที่สีวลีกุมาร ช่วยพระบิดาและพระมารดาอยู่นั้น ท่านพระสารีบุตรเถระได้สังเกตดูอยู่ตลอดเวลา และเกิดความรู้สึกพอใจในพระราชกุมารน้อยเป็นอย่างมาก ครั้นถึงวันที่ ๗ ซึ่งเป็นวันสุดท้าย พระเถระได้สนทนากับสีวลีกุมารแล้วชักชวนให้มาบวช สีวลีกุมาร ผู้มีจิตน้อมไปในการบวชอยู่แล้ว เมื่อพระเถระชักชวน จึงกราบทูลขออนุญาตจากพระบิดาและพระมารดา เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงติดตามพระเถระไปยังพระอารามพระสารีบุตรเถระ ผู้รับภาระเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้สอนพระกรรมฐานเบื้องต้น คือ ตจปัญจกกรรมฐานทั้ง ๕ ได้แก่ เกสา(ผม) โลมา(ขน) นขา(เล็บ) ทันตา(ฟัน) ตโจ (หนัง) ให้พิจารณาของทั้ง ๕ เหล่านี้ว่าเป็นของไม่งานเป็นของสกปรก ไม่ควรเข้าไปยึดติดหลงใหลในสิ่งเหล่านี้ สีวลีกุมาร ได้สดับพระกรรมฐานนั้นแล้วนำไปพิจารณาในขณะที่กำลังจรดมีดโกนเพื่อโกนผม ครั้งแรกนั้นท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๒ ท่านได้บรรลุเป็นพระสกทาคามี จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๓ ท่านได้บรรลุเป็นพระอนาคามี และเมื่อโกนผมเสร็จ ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์

เมื่อท่านอุปสมบทแล้วปรากฏว่าท่านเป็นพุทธสาวกที่มีลาภสักการะมากมาย ด้วยอำนาจบุญบารมีของท่านที่สั่งสมมา ลาภสักการะเหล่านี้ได้เผื่อแผ่ไปยังพระสงฆ์สาวกท่านอื่น ๆ ด้วย แม้พระบรมศาสดาเมื่อทรงพาหมู่ภิกษุสงฆ์เสด็จทางไกลกันดาร ถ้ามี พระสีวลี ร่วมเดินทางไปด้วย ความขาดแคลนอาหารและที่พักอาศัยในระหว่างทางก็จะไม่เกิดขึ้นแก่หมู่ภิกษุสงฆ์เลย เช่น....

พระพุทธองค์และหมู่ภิกษุอาศัยบุญพระสีวลี

สมัยหนึ่ง พระบรมศาสดาเสด็จพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จำนวน ๕๐๐ รูปไปเยี่ยมพระเรวตะผู้เป็นน้องชายของพระสารีบุตรเถระ ซึ่งจำพรรษาอยู่ ณ ป่าไม้ตะเคียน เมื่อเสด็จมาถึงทาง ๒ แพร่ง พระอานนท์เถระได้กราบทูลสภาพหนทางว่า.....

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าเสด็จไปทางอ้อม ระยะทางไกล ๖๐ โยชน์ มีประชาชนอยู่
อาศัยมาก พระภิกษุไม่ลบากด้วยภิกขาจาร แต่ถ้าเสด็จไปทางลัดระยะทางประมาณ ๓๐ โยชน์
ไม่มีประชาชนอยู่อาศัย มีสภาพเป็นป่าใหญ่ มีแต่อมนุษย์อยู่อาศัย พระภิกษุสงฆ์จะลำบากด้วย
ภิกขาจาร”

พระพุทธองค์ ตรัสถามว่า:-

“ดูก่อนอานนท์ พระสีวลีมากับเราด้วยหรือไม่?”
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเสวลีมากับเราด้วย พระเจ้าข้า”

พระพุทธองค์ ตรัสว่า:-

“ดูก่อนอานนท์ ถ้าอย่างนั้นก็จงไปทางลัด ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลด้วยอาหาร
บิณฑบาต เพราะเทวดาทั้งหลายที่สิงสถิตอยู่ในป่าระหว่างทาง จะจัดสถานที่พักและอาหาร
บิณฑบาตไว้ถวายพระสีวลีผู้เป็นที่เคารพนับถือของพวกตน เราทั้งหลายก็จะได้อาศัยบุญของ
พระสีวลี นั้นด้วย”

ได้รับยกย่องในทางผู้มีลาภมาก

ด้วยอำนาจบุญที่ท่านพระสีวลี ได้บำเพ็ญสั่งสมอบรมมาตั้งแต่อดีตชาติ เป็นปัจจัยส่งผลให้ท่านเจริญด้วยลาภสักการะ โดยมีเทพยาดา นาค ครุฑ และมนุษย์ทั้งหลาย นำมาถวายโดยมิ
ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าท่านจะอยู่ในที่ใด ๆ ในป่า ในบ้าน ในน้ำ หรือบนบก เป็นต้นด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์ จึงทรงประกาศให้ปรากฏในหมู่พุทธบริษัทตรัสยกย่องท่านในตำแหน่ง เอคทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง ผู้มีลาภมาก นับว่าท่านพระสีวลีเถระเป็นพระมหาสาวกอีกรูปหนึ่งที่ได้ช่วยกิจการ พระศาสนา แบ่งเบาภาระของพระบรมศาสดาเป็นอย่างมาก ท่านดำรงอายุสังขารโดยสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 10:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้





3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 10:10 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ และพระอริยสงฆ์ธาตุเชื่อกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอานุภาพปกป้องคุ้มครอง ทำให้ร่มเย็นเป็นสุข  หนึ่งในจำนวนพระอรหันตธาตุที่สำคัญที่คนโบราณยกย่องนับถือมากที่สุด ก็คือ พระธาตุของพระสีวลีเถระ  เนื่องด้วยพระสีวลีเป็นเลิศในด้านความอุดมสมบูรณ์  ไปไหนมาไหนไม่อดอยาก พระพุทธเจ้าก่อนจะประทานความเป็นเอตทัคคะด้านนี้ให้แก่พระสีวลีทรงทำการทดสอบบารมีให้เป็นที่ประจักษ์แก่หมู่สงฆ์ทั้งปวงเดินทางไปในที่ห่างไกลทุรกันดาร แต่ปรากฎว่าเป็นที่อัศจรรย์ว่า เมื่อพระสีวลีเหยียบย่างเข้าไปในถิ่นใด สถานที่นั้นๆก็กลับกลายเป็นที่อุดมสมบูรณ์ทั้งสิ้น เป็นที่ประจักษ์ในบุญบารมีของพระสีวลี

ในธรรมชาตินั้นมีธาตุที่พระแม่ธรณีได้สร้างขึ้น โดยถือตามสมมุติว่านั่นคือ ธาตุแห่งองค์พระสีวลี ธาตุดังกล่าวนี้มีลักษณะคล้ายเม็ดพุทรา มีขนาดเล็กตั้งแต่ไข่ปลาจนถึงขนาดเท่ากำปั้น ลักษณะจะเป็นปุ่มโปนงอกขึ้นทั่วไป บางองค์ดูคล้ายน้อยหน่า บางองค์คล้ายเมล็ดมะละกอ บางทีก็คล้ายผลยอป่า สีเขียวดังดอกผักตบ แดงดังสีหม้อใหม่ สีพิกุลแห้ง สีเหลืองดังหวายตะค้า หรือขาวเหมือนสีสังข์ อย่างใดอย่างหนึ่ง

ลักษณะของพระธาตุพระสีวลีนั้น แปลกที่มีลักษณะเป็นตุ่มงอกไปมาทั่วทั้งองค์ คน โบราณท่านถือว่านี่คือสัญลักษณ์แห่งการงอกงาม ผู้ใดก็ตามมีไว้สักการะจะไม่มีวันอดอยากตลอดทั้งชีวิต มักพบตามถ้ำ โดยเฉพาะถ้ำที่มีน้ำขังลอดผ่านภายในถ้ำ ลักษณะถ้ำต้องสะอาดและชุ่มเย็น พระธาตุพระสีวลีจะอยู่ตามหลืบถ้ำ และแปลกที่ว่า องค์พระธาตุจะประทับอยู่บนแท่นหินที่มีลักษณะคล้ายดอกบัวและมักแช่อยู่ในน้ำ องค์พระธาตุพระสีวลีต่างกับตะกอนน้ำโดยทั่วไปเพราะองค์พระธาตุจะแข็งแกร่ง  คล้ายว่าเป็นหินงอกหินย้อยที่ปั้นเป็นลูกกลมๆองค์ที่แตกจะสังเกตุได้ว่า มีผลึกขาวใสดุจผลึกแก้วอยู่ภายในส่วนตะกอนน้ำนั้นเมื่อบีบก็แตก ไม่แกร่งเหมือนองค์พระธาตุ

ที่น่าทึ่งที่สุดคือ พระธาตุแต่ละขนาดจะแยกขนาดกันเองไม่ปะปนกัน องค์ใหญ่เท่ากำปั้นก็จะกองอยู่โดยสันโดษ  องค์ที่เล็กเท่าหัวแม่โป้งก็จะกองรวมกัน ไม่คละปะปนกัน น่าแปลกมาก เรื่องนี้ผู้ที่เข้าถ้ำไปทุกคนต่างยืนยันได้ ดุจว่า สิ่งนี้มีเทพยดามาจัดไว้ฉะนั้น

ที่น่าแปลกคือพระธาตุพระสีวลีนี้เมื่อนำมาบูชาที่บ้าน ท่านก็ยังงอกองค์ต่อได้ เมืองอกไปเรื่อยๆ บางส่วนจะหลุดออกมาบังเกิดเป็นองค์ใหม่ขึ้นอีกองค์ บางคราวท่านอาจเสด็จตามมาเพิ่ม หรือสามารถเปลี่ยนสัณฐานได้อย่างน่าแปลกใจ ยิ่งบูชาท่านไว้ ท่านยิ่งงอกให้เห็นเป็นที่ประหลาด แม้จะใส่ตลับบูชาไว้กับตัวก็ตาม

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 10:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คาถาบูชาพระสิวลี (หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท)



สีวะลี จะ มะหาเถโร ปัจจะยะลาภะปูชิโต มะนุสโสเทวะตาอินโท



พรหมมายะโม ยักขาวา ปิตัสสะ นิรันตะรัง ปะนะ ลาภะ สักการเรอาเน็นติ



นิจจัง สิวะลิดเถรัสสะลาโภจะ สักกาโร โหติ สีวะลีมะหาเถรันจะปูชะกัสสะ



สะทาวาปิ คาถันจะ สังวัดตะนัสสะลาโภจะ สักกาโรโหติเถรัสสะ อานุภาเวนะ



ลาโภเมโหตุสัพพะทาเอเตนะ สัจจะวัดเชนะ ลาโภเมโหตุ สัพพะทาฯ




คำอาราธนาพระสิวลี



สีวลี จะ มะหาเถโร เทวะตา นะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ



สีวลี จะ มะหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง



วันทามิ สัพพะทา สีวลี เถรัสสะ เอตัง คุณัง สวัสติลาภัง ภะวันตุ เมฯ




คำบูชาพระสิวลี



อิมินา สักกาเรนะ สีวลีเถรัง อะภิปูชะยามิ



เมื่อบูชาแล้วกำหนดภาวนาในใจว่า



สีวลี จะ มะหาเถโร อินโท พรัมมาจะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ประสิทธิเม



เถรัสสะ อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุเมฯ


5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 10:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คำอธิษฐานขอลาภจากพระสิวลี (แต่งโดยหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ) คำไหว้บูชาขอลาภจากพระฉิมพลี (พระสีวลีเถระ) มีดังนี้



นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ จบ)



สีวะ สีมะหา เถรัง วันทามิหัง สีวะ สีมะหา เถรัง วันทามิหัง สีวะ สีมะหา เถรัง วันทามิหัง มะหาสีวลี เถโร มะหาลาโภ โหติ มะหาสีวลี เถโร ลาภัง เม เท ถะ



พระคาถาหัวใจพระฉิมพลี



สาธุ สิวลีจะมหาเถโร



นะชาลิติ ปะสิทธิลาภา ปะสันนะจิตตา สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ สัพเพชะนา พะหูชะนา สัพเพทิสา สะมาคะตา กาละโภชะนา วิภาละโภชะนา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ ปิยัง มะมะ



คาถาบูชาพระสิวลี (แบบย่อ)



“สีวลี จะ มหาเถโร ชัยยะสิทโธ มหิทธิโก เถรัสสะ นุภาเวนะ”



คาถาเวลาไปติดต่อธุรกิจ



“นะ ชาลีติ ปะสิทธิลาภา”


6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 10:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คาถาขอลาภพระสีวลี ( ประจำวัน )

วันอาทิตย์ (ให้ภาวนา ๖ จบ )

ฉิมพะลี จะ มหานามัง สัพพะลาภัง ภะวิสสะติ เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ

วันจันทร์ ( ให้ภาวนา ๑๕ จบ )

ยัง ยัง ปุริโสวา อิตถีวา ทูเรหิวา สะมีเปหิวา เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ

วันอังคาร ( ให้ภาวนา ๘ จบ )

ฉิมพะลี จะมหาเถโร โสะโห ปัจจะยาทิมหิ เชยยะลาโภ มหาลาโภ สัพพะลาภา ภะวันตุ สัพพะทา ฯ

วันพุธ ( ให้ภาวนา ๑๗ จบ )

ทิตติตถะภะเวราชา ปิยาจะ คะระตุเม เย สารัตติ นิรันตะรัง สัพพะสุขาวะหา ฯ

วันพฤหัสบดี ( ให้ภาวนา ๑๙ จบ )

ฉิมพะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ สัพพะทา ฯ

วันศุกร์ ( ให้ภาวนา ๒๑ จบ )

ฉิมพะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะรปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง กะโรนตุ เม ลาเภนะ อุตตะโม โหติ สัพพะลาภะ ภะวันตุ สัพพะทา ฯ

วันเสาร์ ( ให้ภาวนา ๑๐ จบ )

ฉิมพะลี จะ มหานามัง อินทาพรหมา จะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ปะสิทธิ เม เถรัสสานุภาเวนะ สะทา สุขี ปิยัง มะมะ ฯ

ใครเกิดวันไหนก็ให้ท่องพระคาถาประจำวันนั้นๆ แต่คนโบราณจะนิยมสวดภาวนาทุกวัน โดยสวดตามพระคาถาในวันนั้นๆ เช่น วันจันทร์ก็สวดบทประจำวันจันทร์ วันอังคารก็สวดบทประจำวันอังคาร

7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 10:14 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คาถาพระสีวลี แบบโบราณ

สาธุ สีวลีจะมหาเถโร อุกาสะฯ

ข้าพระพุทธเจ้า ขออาราธนา พระอภิญญา พระปฎิสัมภิทา พระบุญฤทธิ์ ลาภสักการะ ของสมเด็จพระสิวลีอรหันตเถรเจ้า

จงมาบังเกิดในจักษุทวาร มโนทวาร กายทวาร ของข้าพพุทธเจ้า

ขอคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสังฆเจ้า คุณพระอริยสัจธรรม ทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ คุณพระสิวลีพระอรหันตเถรเจ้า ผู้มีความศักดิ์สิทธิ์ทรงศักดานุภาพเป็นอันมาก เหมือนสมัยที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่นั้น ลาภสักการะสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นอันมาก ลาภสักการะหลายสิ่งหลายอย่างเป็นอันมาก ได้เกิดแก่พระผู้เป็นเจ้า จนสามารถเลี้ยงภิกษุได้หลายร้อยรูปมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ในที่ทุกแห่งที่ท่านร่วมตามเสด็จไปด้วย พระผู้เป็นเจ้าเป็นที่สักการบูชา ของเทวดาและมนุษย์เป็นอันมากฉันใด ก็ดี

ขอเดชะพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสังฆเจ้า พระอริยสัจธรรมทั้ง แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ คุณพระสิวลีอรหันตเถรเจ้า จงมาบังเกิดเป็นที่พึ่ง แก่ข้าพระพุทธเจ้า

ด้วยเหตุที่ชีวิตของข้าพพุทธเจ้า ซึ่งได้เกิดมาดิ้นรนอยู่บนพื้นดิน ในท่ามกลาง ศาสนบัญชรของพระชินเจ้า มีความจำเป็นด้วยทรัพย์สิน เงินทองเป็นอันมาก หากขาดทรัพย์สินเงินทองเสียแล้ว ชีวิตจะอับเฉา และ เป็นทุกข์

เพราะเหตุฉะนี้นั้น ขอเดชะพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสังฆเจ้า คุณพระอริยสัจธรรมทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ คุณพระสิวลีอรหันตเถรเจ้า จงมาบังเกิด เป็นที่พึ่งของข้าพพุทธเจ้า บันดาลให้ทรัพย์สินเงินทองหลั่งไหลมาสู่ชีวิตข้าพระพุทธเจ้า เดือนละหลายพัน หลายหมื่น หลายแสน หลายล้าน ในหลายด้านหลายกรณี เหมือนหนึ่งลาภสักการะ สิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นอันมาก ลาภสักการะหลายสิ่งหลายอย่างเป็นอันมาก อันได้บังเกิดแก่พระสิวลีอรหันตเถรเจ้านั้น เทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 10:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ของที่ต้องเตรียมในการบูชาพระสีวลี

ดอกไม้สีขาว ๓ ดอก

ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม ๓ ดอก

ดอกบัว ๓ ดอก

น้ำสะอาดลอยดอกมะลิ ๑ ถ้วย

ธูป

เทียน

วันพฤหัสบดีให้เพิ่ม น้ำผึ้ง ๑ ถ้วย

วันเสาร์ให้ถวายอาหารทะเล หรือ อาหารจากต้นดอกบัว

การแก้บนพระสีวลี

น้ำมะพร้าวอ่อน

กล้วยหอม

การทำบุญเลี้ยงพระ ๑ ครั้ง

9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 10:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 10:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้