ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 42063
ตอบกลับ: 14
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พระเครื่อง? ในคอ คนดัง

[คัดลอกลิงก์]
http://www.nightsiam.com/forum/index.php?topic=3165.30

นายตำรวจดัง'พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง'



ยกนิ้ว 'สมเด็จวัดระฆัง'ที่หนึ่งในดวงใจ

ในแวดวงผู้นิยมพระเมืองไทยเรา ล้วนยกนิ้วและยกย่องกันว่า “จักรพรรดิ” แห่งพระเครื่องก็คือ “สมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม” ซึ่งท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สร้างเอาไว้กว่า ๑๐๐ ปีล่วงมาแล้ว วันนี้บุคคลที่จะครอบครอง “สุดยอดพระเครื่อง” ได้ ต้องเป็นประเภท “เงินถุงเงินถัง” อุดมด้วย “บุญวาสนา” สิ่งสำคัญคือบุคคลใดก็ตามที่มีพระสมเด็จวัดระฆังในครอบครอง ปัจจุบันน้อยคนนักที่ “ดูเป็น-กล้าซื้อ” มีไม่มาก หากไม่มั่นใจมีสิทธิ “เจ็บตัว-เจ็บใจ” แต่สำหรับนายตำรวจคนดัง พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง หรือผู้การติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ (บก.ภ.จว.สมุทรปราการ) ไม่เคยประสบปัญหา เพราะคร่ำหวอดในวงการ สนใจศึกษาพระสมเด็จมานานกว่า ๒๐ ปี

พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ ๓๕ รับราชการครั้งแรกเป็นรองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง จ.ระยอง เป็นนายเวรผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ นายเวรผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล ๘ ก่อนติดยศ พล.ต.ต. ในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม ก่อนโยกมาเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ


“ผมศรัทธาและชื่นชอบพระสมเด็จวัดระฆัง มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เริ่มสะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่ม แขวนคอเดี่ยวองค์เดียวมากว่า ๑๐ ปี ก็คือพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เคยเจอประสบการณ์กับตัวเองหลายครั้ง บ่อยครั้งเหมือนมีสิ่งดลใจให้การตัดสินใจไม่ผิดพลาด แก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยดี พระสมเด็จองค์นี้ถือเป็นโลโก้ประจำตัว หากตีพิมพ์หนังสือเล่มไหน เซียนพระเห็นปุ๊บรู้เลยว่าของผม ก็ถ่ายภาพใส่กรอบแขวนไว้เหนือหิ้งบูชาพระในห้องทำงาน ส่วนพระอื่น ๆ ผมก็ชอบพระกริ่งวัดสุทัศนเทพวรารามฯ พระปิดตาหลวงพ่อแก้วและพระสังกัจจายน์ วัดเครือวัลย์ สุดยอดพระเกจิของ จ.ชลบุรี”

สำหรับเคล็ดลับพิจารณาพระสมเด็จวัดระฆังแท้-เก๊ พล.ต.ต.จิตติ หรือผู้การติ บอกว่า หลักการดูพระเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ใครอยากเก่งจะต้องเรียนรู้ ศึกษาจากตำราให้แม่นยำเป็นพื้นฐาน จดจำพิมพ์ ทรง เนื้อหามวลสารให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยหาโอกาสศึกษาจากพระแท้ ต้องมั่นใจกล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรค ไม่เช่นนั้นส่องพระอย่างไรก็ไม่สำเร็จ

“สิ่งสำคัญคือศิลปะการดูคนให้เป็น ต้องยอมรับว่าในสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ควรเลือกคบหาคนที่จริงใจ พึ่งได้ มีคุณธรรมจริยธรรมเป็นอันดับแรก ผมเชื่อว่าความรู้นั้นทุกคนเรียนทันกันหมดจริง ๆ แล้วสังคมพระเครื่องไม่ได้น่ากลัว ขอให้เราตั้งใจ บริสุทธิ์ใจ อ่อนน้อมถ่อมตน ผู้ใหญ่พร้อมเปิดใจและสนับสนุนให้คำแนะนำ พระสมเด็จวัดระฆังทุกองค์มีตำหนิและจุดสังเกตบางอย่าง เช่น พิมพ์ทรง จึงต้องศึกษาจากของแท้และได้รับการชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญ ก็จะทำให้เราดูพระสมเด็จวัดระฆังเก่งได้ในที่สุด”

ผู้การปากน้ำ ยังฝากข้อคิดไว้อย่างน่าสนใจว่า การอาราธนาพระสมเด็จ ควรคำนึงว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ ท่านมักสอนเกี่ยวกับเวรกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และการให้ทานบารมี ดังนั้นทุกคนที่ปฏิบัติดี ประพฤติดี หมั่นสวดคาถาชินบัญชรตอนเช้าและก่อนนอน โอกาสที่พระสมเด็จวัดระฆังจะมาโปรดก็มีมาก.

วันชัย ประพฤติดี-ข้อมูล/ หมู มหาเวทย์-รายงาน


ในยุทธจักรสีกากีชื่อเสียงของ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ รองแจ๊ส รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ นั้นไม่ธรรมดา ถูกจัดอันดับต้น ๆ ในทำเนียบ “มือปราบ” ตัวจริงคนหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ฝีมือและผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคน พิชิตคดีดัง ๆ มานับครั้งไม่ถ้วน

พล.ต.ต.คำรณวิทย์ หรือ รอง แจ๊ส เป็นชาว จ.ปทุม ธานี โดยกำเนิด จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น ๓๐ ชีวิตรับราชการเริ่มต้นที่ จ.สุพรรณบุรี ชีวิตวนเวียนอยู่กับงานสืบสวนจนเชี่ยวชาญ เพื่อนร่วมรุ่นที่ดัง ๆ อาทิ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ ๑๐) คุมงานสืบสวนและรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑


“ผมเป็นตำรวจที่ศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อในบาปบุญและเวรกรรม โดยเฉพาะพระถ้ำเสือกรุวัดเขาดีสลัก อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มีประสบการณ์กับตัวเองและลูกน้อง สมัยย้ายไปรับราชการที่ภาคใต้ เผชิญหน้าแนวร่วมโจรใต้และปะทะกันบ่อยครั้ง ฝ่าดงกระสุน ดงระเบิดนับไม่ถ้วน ไม่เคยเป็นอะไร แคล้วคลาดปลอดภัย” รองแจ๊สเปิดฉากสนทนา

ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า รองแจ๊ส ตั้งใจบูรณะวัดเขาดีสลักให้เจริญรุ่งเรือง จึงได้ร่วมกับเพื่อนพ้องหาทุนทรัพย์จัดสร้างรูปหล่อพระถ้ำเสือน้ำหนัก ๓๐ ตัน มูลค่ากว่า ๑๕ ล้านบาท และสร้างพ่อปู่ฤๅษีพรหมนิมิตแกะสลักจากหินประดิษฐานไว้ในถ้ำละมุด ซึ่งเป็นสถานที่พบพระถ้ำเสือ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาแวะไปขอพร

“เรื่องบุญวาสนานี่แข่งกันไม่ได้จริง ๆ นอกจากพระถ้ำเสือแล้ว ผมอยากได้พระสมเด็จวัดระฆัง อยู่ ๆ ท่านก็มาโปรด พระชุดเบญจภาคีก็เพิ่งได้เมื่อปีที่แล้ว ผมคล้องติดตัวตลอดเวลาเลยนะ” รองแจ๊สเล่าพร้อมหยิบ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซม พระนางพญาเข่าโค้ง พระรอดลำพูนกรุมหาวันพิมพ์เล็ก พระซุ้มกอทุ่งเศรษฐี พระผงสุพรรณพิมพ์หน้าแก่ออกมาให้ชมเป็นบุญตา ก่อนอำลา รองแจ๊ส ฝากข้อคิดดี ๆ ไว้ว่า อยากให้คนเล่นพระมองวัตถุมงคลในแง่ของคุณค่าการสืบทอดพระพุทธศาสนา อย่ามองแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว ควรมีอุดมการณ์และรู้จักเสียสละ หากทำดีแล้ว สิ่งดี ๆ จะมาหาเราเอง.

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-27 16:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ที่สุดในดวงใจ'เพชร ท่าพระจันทร์'ศรัทธาหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว



ผงาดในยุทธจักร  “คนรักพระ”  มานานโข จนเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าคนหนึ่งของเมืองไทย วันนี้ใครไม่รู้จัก “เพชร ท่าพระจันทร์” หรือ สันติ อรุณศิริ ก็คงไม่ใช่คนในวงการเป็นแน่แท้

เพชร ท่าพระจันทร์ เป็นคนกรุงเทพฯขนานแท้ เกิดและเติบโตแถวย่านบางรัก ด้วยใจรักและศรัทธาพระเครื่อง ทำให้สนใจใฝ่รู้มาตั้งแต่เรียนหนังสือยังไม่จบ

“ผมชอบพระมาก ทั้งที่ดูไม่เป็น แรก ๆ อาศัยซื้อจากเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกัน สมัยนั้นองค์ละไม่กี่บาท ยามว่างก็อ่านหนังสือพระ จดรายละเอียดต่าง ๆ จนจำได้แม่นยำ นับวันความรู้ยิ่งมีมากขึ้น” พี่เพชรเปิดฉากสนทนา

ชีวิตในวงการเริ่มต้นขึ้นที่ตลาดพญาไม้ใกล้เชิงสะพานพระปกเกล้าฯ ได้เปิดแผงรับเช่า-ให้เช่าพระเครื่อง ก็ยิ่งรู้จักผู้ใหญ่และเซียนดัง ๆ หลายคน พระก็เข้ามาเยอะมาก ทั้งพระกรุ พระบูชา พระเหรียญ พระเนื้อดิน เนื้อชิน เนื้อผง พระไม้แกะ งาแกะ เครื่องราง เรียกว่าทุกประเภทผ่านตามาหมด

“ช่วงหนึ่งผมเปิดร้านที่ท่าพระจันทร์ ทำให้รู้ว่าคนที่นั่นเก่ง ๆ เยอะ เราค้นพบตัวเองว่าชอบพระเหรียญมากที่สุด มากกว่าพระกรุด้วยซ้ำ เพราะเหรียญมีศิลปะ พิมพ์ทรง ฝีมือช่าง หลากหลายให้เลือกสะสม ก็เลยกว้านซื้อ ชอบองค์ไหนเช่าหมด จนได้สมญาว่า “เพชรเหรียญ” เพราะชำนาญเรื่องพระเหรียญไปโดยปริยาย”

เคล็ดลับดูพระแท้ เพชร ท่าพระจันทร์ แนะนำว่า องค์ไหนไม่เคยเห็นหรือไม่มีก็หารูปถ่ายรุ่นเดียวกัน พิมพ์เดียวกันมานั่งดูเยอะ ๆ นานเข้าจะซึมซับและจดจำได้เอง สมัยก่อนคนที่เข้ามาในวงการใหม่ ๆ มักมีความเชื่อว่า ต้องดูพระหลักประเภท ดิน ชิน ผง ให้เก่งก่อน พระเหรียญเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ความจริงไม่ใช่เลย เฮียกวง (กวง ท่าพระจันทร์) เซียนระดับปรมาจารย์ของวงการ นิยมเล่นแต่พระหลัก เหรียญย่อยแกไม่สนใจ ผมก็เช่าต่อหลักร้อยหลักพัน เดี๋ยวนี้บางรุ่นราคาเป็นแสน ๆ บาท ถึงวันนี้ผมสะสมไว้หลายพันเหรียญ จัดเก็บเป็นหมวดหมู่ แยกเป็นจังหวัด เพื่อความเป็นระเบียบ จุดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ให้เกิดความคิดทำสารานุกรมเหรียญยอดนิยม ๗๖ จังหวัดขึ้นมา เป็นแนวทางที่ชัดเจน เป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับพระเก่า พระทั่วไป พระใหม่ ไม่ได้หวังจำหน่ายหรือแสวงหากำไร ตั้งใจให้เป็นแนวทางศึกษาแก่คนรุ่นหลัง ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก

เพชร ท่าพระจันทร์ ยังฝากข้อคิดดี ๆ ว่า การเล่นพระควรมีผู้รู้หรือที่ปรึกษาที่ดีคอยแนะนำให้ถูกทาง ก็จะทำให้คุณก้าวไปอย่างมั่นใจ เลือกสะสมพระที่ตัวเองชอบ เลือกพระที่ดูเป็นจะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก เดี๋ยวนี้พระเก๊ฝีมือเฉียบ ๆ เยอะ ถ้าชำนาญซะอย่างก็ดูออก ไม่มีทางหลอกได้เลย และหากใครมีข้อมูลเหรียญคณาจารย์ต่าง ๆ ต้องการร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ในสารานุกรมเหรียญยอดนิยม ๗๖ จังหวัด ก็ส่งตรงมาให้ผมได้เลย ขณะนี้ถึงหมวด ช จังหวัดชลบุรีแล้ว ต่อไปจะเป็น ช จังหวัดชัยนาท

“ถ้าห้องสมุดหรือพิพิธภัณฑ์ที่ไหนต้องการสารานุกรมเหรียญยอดนิยม ๗๖ จังหวัด ไว้เป็นแหล่งข้อมูลทางการศึกษา ขอให้แจ้งความประสงค์มาได้โดยตรง ยินดีจัดส่งไปให้ฟรีครับ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-27 16:48 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
'มล เชือกคาด'ศิษย์รักพยัพ คำพันธุ์ ยกนิ้วให้เสือลพ.ปาน-หนุมานลพ.สุ่น-ลิงลพ.ดิ่ง



คนเรานั้นจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างสมภาคภูมิ ล้วนต้องมีหลายสิ่งเกื้อหนุน  เฉกเช่น กมล วิริยะตลอดกาล หรือ มล เชือกคาด กว่าจะมีวันนี้เขาอาศัยความมุ่งมั่นและตั้งใจใฝ่รู้จนก้าวขึ้นชั้นทำเนียบผู้เชี่ยวชาญตัวจริงคนหนึ่งในสาย “เครื่องราง” ของเมืองไทย

ด้วยอุปนิสัยยิ้มง่าย เป็นกันเอง มนุษย สัมพันธ์เยี่ยม ชื่อของเขาจึงกลายเป็นที่รู้จักคุ้นเคยของพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในวงการ ทุกครั้งที่มีงานใหญ่ ๆ ประกวดพระเครื่อง พระบูชา ไม่ว่าที่ใด มล จะเป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินชี้ขาดวัตถุมงคลชุดเครื่องรางในนามสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย ด้วยเสมอ

“ผมเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดแถวย่านเจริญกรุง จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สาขาเครื่องกล ส่วนตัวชื่นชอบพระเครื่องมาตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยเรียน ปวช.อยู่บ้านก็ดูพระ ส่องพระ”

มล เปิดฉากสนทนาและเล่าต่อว่า “เรียนจบก็ไปทำงานพักหนึ่งแล้วไปบวชพระ ประมาณปี ๒๕๔๖ สึกออกมา กระทั่งปี ๒๕๔๙ ก็สนใจเรื่องพระมากขึ้น ค้นพบตัวเองว่าชอบเครื่องรางของขลังมากกว่าสายอื่น ๆ ผมโชคดีได้ ป๋ายัพ-พยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย และรุ่นพี่สายเครื่องรางคอยแนะนำชักชวนเข้าวงการ วันนี้เปิดร้านบนชั้น ๓ พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน และเปิดร้านในเว็บไซต์ท่าพระจันทร์ ตลาดพระ”

เมื่อถามว่าหนักใจไหมที่คนทั่วไปเชื่อว่า “เครื่องราง” เล่นยาก แต่สำหรับ มล กลับมองว่า ไม่ยาก แต่ต้องมีความจำที่ดี ดูองค์รวมได้ ผมใช้หลักการดูโหงวเฮ้ง หมายถึงดูศิลปะ ความเก่า แยกแยะให้ออกว่า ของใหม่ของเก่าต่างกันอย่างไร เล่นเครื่องรางต้องใจรัก มีแนวทางชัดเจน เครื่องรางสุดยอดในดวงใจคือ เชือกคาด เสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย รองมาเป็น หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน องคตหลวงพ่อปาน วัดบางกระสอบ ลิงหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ตะกรุด-หมากทุยหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พิสมรหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง ราหูหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง สิงห์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ-หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว สรุปแล้วเชี่ยวชาญทุกเกจิอาจารย์ เพราะเห็นของแท้ ๆ มาเยอะ ตรงนี้สำคัญมาก หากทั้งชีวิตไม่เคยเห็นของจริง ก็ยากที่จะเก่งได้

ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่เคารพนับถือนั้น มล บอกว่า “ผมคล้องรูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ติดตัวตลอด เพราะมีประสบการณ์ดี ๆ กับตัวเอง นอกจากนี้จะมีปลัดขิกเกจิต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนกันไป”

มุมมองต่อวงการพระและคติส่วนตัว “ผมยึดถือซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน วงการพระเดี๋ยวนี้พัฒนาไปในด้านที่ดี มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ เพราะมีสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย คอยดูแล คนนิยมพระแพร่หลายมากขึ้น ไปไกลถึงต่างประเทศ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง เล่นพระ เล่นเครื่องรางกันเยอะ หลัง ๆ มีอินโดนีเซียเข้ามาด้วย มั่นใจได้ว่าวงการนี้จะอยู่ต่อไปอีกยาวนาน”.
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-27 16:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้










Re: พระเครื่อง? ในคอ คนดัง (Update ทุก2สัปดาห์)

« ตอบ #34 เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 11:40:43 PM »




--------------------------------------------------------------------------------






"อ้า สุพรรณ" กล่าวถึงความสนใจในพระเครื่องว่า พระเครื่องเวลาบูชานำมาห้อยคอแล้วจะช่วยเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเราได้ดี เวลาจะทำสิ่งไม่ดีก็นึกถึงพระ เราก็จะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี และทำให้เรามุ่งมั่นแต่ในสิ่งที่ดี เพราะว่าพระเนี้ยจะทำให้คนที่แขวนหรือบูชามีจิตใจที่สุขุมเยือกเย็น จะไม่ไปทะเลาะกับใคร ไม่ไปทำร้ายใคร ไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน

เฮียอ้า สุพรรณ กล่าวว่า" ช่วงที่ผมเล่นพระครั้งแรก เป็นพระพื้นบ้านของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประเภทพระเกจิอาจารย์และพระเกจิอาจารย์สมัยนั้นก็จะมีพระของหลวงพ่อเนียม ของหลวงพ่อโบ้ย หลวงพ่อโหน่ง เป็นต้น ส่วนพระกรุเป็นประเภทพระขุนแผนบ้านกร่าง ขุนแผนไข่ผ่าซีก พระชุดกิมตึ๋ง วัดพระรูปฯ สมัยนั้นก็จะเล่นประมาณนี้ เพราะเมื่อก่อนพระประเภทนี้จะแพร่หลายมาก"

พระเครื่องที่ศรัทธาและใช้อาราธนาติดตัวอยู่ตลอดทุกวันนี้ของ เฮียอ้า สุพรรณเป็นพระหลวงพ่อเนียม หลวงพ่อวัดปากน้ำ พระสมเด็จวัดเกศไชโย และที่นับถือมากก็จะเป็นหลวงปู่ทวด พระชุดนี้เคยมีประสบการณ์ก็มีแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นไปทางแคล้วคลาด คืออย่างนี้ เราใช้หลวงปู่ทวดมานานและก็นับถือท่านมาก และหลวงพ่อเนียม คือเวลาจะเดินทางไปทางไหน เราก็จะอาราธนาพระขึ้นคอ ก็ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรที่เลวร้ายเลยสักครั้ง เดินทางปลอดภัยแคล้วคลาดตลอด

พระของจังหวัดสุพรรณมีมากมาย แต่พระซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดที่สุดของจังหวัดสุพรรณ ถ้าเป็นพระเกจิ ก็จะเป็นหลวงพ่อเนียม อันดับหนึ่งเลย หลวงพ่อโหน่ง หลวงพ่อโบ้ย คือพระเกจิอาจารย์ในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีพระที่น่าเคารพและนับถือเยอะมาก ถ้าจะให้อธิบายคงจะไม่ไหว เพราะเยอะจริงๆ ก็เอาแค่อันดับต้นๆ ก็พอ ส่วนพระกรุก็จะเป็นพระกรุวัดมหาธาตุ กรุวัดบ้านกร่าง จะเป็นประเภทพระผงสุพรรณ นี่ถือว่าเป็นสุดยอดของพระกรุ ซึ่งต้องยกให้เค้า เพราะเป็นพระที่อยู่ในชุดเบญจภาคีด้วย พระมเหศวรแล้วก็ พระลีลา พระขุนแผนบ้านกร่าง พิมพ์ทรงพลเล็ก ทรงพลใหญ่ ขุนแผนหัวเหลี่ยม อกเล็กอกใหญ่ ซึ่งเป็นที่นิยม

พระกรุวัดพระศรีฯ สร้างสมัยสุโขทัย เพราะว่าศิลปะที่ออกมามีทั้งพระลีลากำแพงศอก เพราะพระลีลาเป็นศิลปะของสุโขทัยเค้าอยู่แล้ว และยังมีพระอู่ทองที่อยู่ในกรุของวัดพระศรีฯ นี่ก็เยอะหลายองค์ พุทธคุณจะเด่นพร้อมหมดทั้งแคล้วคลาด เมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี กันภูตผีปีศาจ

เฮียอ้า สุพรรณแนะนำนักสะสมมือใหม่ การเล่นพระให้เก่งควรขยันหาข้อมูล อย่าศึกษาด้วยหูเพียงอย่างเดียว

การฟังคนอื่นมากอาจหลงทางไปเลยก็ได้
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-27 16:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ  วงศ์วรชาติ

   

ผบช.ภ.8

พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 เชื่อปาฏิหารย์ พระเครื่องช่วยรอดตาย

“ความเชื่อ-ศรัทธา” ของนายตำรวจใหญ่ ผู้คร่ำหวอดปราบปรามเหล่าร้าย  ผ่านประสบการณ์โชกโชนในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นคือ พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๘ พล.ต.ท.ก่อเกียรติ เกิดเมื่อวันที่ ๗ ก.พ. ๒๔๙๘ ที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จบการศึกษามัธยมปลายจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย จบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นนักเรียนนายร้อยอบรมรุ่นที่ ๗ ของโรงเรียนนักเรียนนายร้อยตำรวจ จบปริญญาโทพัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิตจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ติดยศร้อยตำรวจตรี เมื่อ ปี ๒๕๒๐ ตำแหน่ง รอง สวส. สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ปี ๒๕๒๔ ย้ายไปรับราชการในสังกัดตำรวจภูธรภาค ๙ เป็น รอง สว.สภ.อ.บาเจาะ รอง สวป. สภ.เมือง จ.นราธิวาส เป็นหัวหน้า สภ.ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เป็น สว.จร.สภ.หาดใหญ่ ปี ๒๕๓๗ ขึ้น รอง ผกก.ป.ครั้งแรกที่ สภ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นหัวหน้าโรงพัก สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส และ ผกก.สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

ปี ๒๕๔๓ เป็น รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ปี ๒๕๔๘ เป็น ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ๒ ปีขึ้น รอง ผบช.ภ.๙ รับผิดชอบเกี่ยวกับความมั่นคงในฐานะบัญชาการกองกำลังปัตตานี และเป็น รอง ผบ.ศปก.ตร.(สน.) โยกกลับมาเป็น รอง ผบช.ภ.๘ จนผงาดเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๘ เมื่อปี ๒๕๕๓

“ช่วงที่ผมรับราชการที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) กำลังเคลื่อนไหวอย่างหนักในพื้นที่ มีการจู่โจมทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะตำรวจ-ทหาร วิธีการคล้ายกับแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จังหวัดภาคใต้ คุณพ่อรู้และญาติ ๆ เป็นห่วงมอบพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ให้พกติดตัว ซึ่งผมก็คล้องจนทุกวันนี้  ก็มีพระนางพญากรุท่าเรือพิมพ์เล็ก หลวงปู่ทวดรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ พระปิดตาหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พระกลีบบัวหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ สมเด็จคะแนน หลวงปู่ทวดหลังเตารีดพิมพ์ใหญ่ เหรียญหลวงปู่ทวดขี่คอเปียกทอง อาจารย์สีพุฒ วัดมะเดื่อทอง เหรียญพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน บล็อกนิยม ๒ ขอบ และหลวงปู่ทวดพิมพ์กลางปั๊มซ้ำ” พล.ต.ท.ก่อเกียรติเปิดฉากสนทนา
“ผมเลื่อมใสศรัทธาในพุทธคุณของพระเครื่องที่คล้องคอมาก เพราะเคยมีประสบการณ์กับตัวเอง สมัยเป็น สวส.อยู่ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เข้าเวรพนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตาย เป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่ม ผกค. ผมไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมผู้บังคับบัญชา ขากลับก็ถูกซุ่มยิงถล่มด้วยอาวุธปืนสงครามแต่รอดชีวิตอย่างเหลือเชื่อ จึงเลื่อมใสว่า เกิดจากพุทธคุณของพระเครื่อง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาตนจึงห้อยพระทุกครั้งที่ออกจากบ้าน”

“จนเป็น ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ในปี ๒๕๔๙ ไปตรวจที่เกิดเหตุที่บ้านกลาง อ.ปานาเระ ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบวางระเบิดซุกไว้ในพงหญ้าตั้งใจระเบิดสังหารผมและทีมงาน  แต่ไม่เป็นอะไร พอใช้เครื่องตรวจหาหัวกระสุน ก็เจอระเบิดแบบจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือซุกในพงหญ้า มีการโทรฯ เข้ามาที่เครื่องด้วย แต่ระเบิดไม่ทำงาน เป็นประสบการณ์เฉียดตายที่เหลือเชื่อ ยิ่งช่วงที่ทำงาน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมจะบูชา เหรียญหลวงพ่อทุ่ม วัดควนสามโพธิ์ (วัดศุภศาสตราราม) อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ติดตัวไปทุกครั้ง เชื่อมั่นว่าท่านจะคุ้มครองให้ปลอดภัย”

พล.ต.ท.ก่อเกียรติ ยังฝากข้อคิดดี ๆ ด้วยว่า อำนาจความศักดิ์สิทธิ์ หรือ พุทธคุณด้านต่าง ๆ ของพระเครื่องจะไม่สามารถดลบันดาลหรือคุ้มครองเราได้เลย หากไม่อยู่ในศีลในธรรม ดังนั้นควรหมั่นทำความดี ผมเชื่อเสมอว่า เมื่อเรานับถือพระดีแล้วทำแต่สิ่งดี ๆ ชีวิตก็จะดีตามไปด้วย แต่ถ้าเรานับถือพระดี แต่ไม่ทำความดีก็ไม่มีความหมาย.
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-27 16:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สารวัตรป้อม-พ.ต.ท.พรชัย อมรสวัสดิ์ศิริ (ผู้เชี่ยวชาญสายพระปิดตาภาคตะวันออก)

ดูภาพใหญ่คลิกที่ภาพ
            

นาทีนี้น้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินชื่อของ พ.ต.ท.พรชัย อมรสวัสดิ์ศิริ หรือ สารวัตรป้อม ชลบุรี เขาคือผู้เชี่ยวชาญ “รู้ลึก-รู้จริง” ในสายพระปิดตาภาคตะวันออก จนได้รับความไว้วางใจจากสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย ให้เป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินชี้ขาดทุกครั้งที่มีการประกวดพระสวย-พระแท้   

พ.ต.ท.พรชัย อมรสวัสดิ์ศิริ หรือสารวัตรป้อม ชลบุรี จบการศึกษาจากโรงเรียนพลตำรวจภูธร ๒ จ.ชลบุรี (นพต.รุ่น ๒๔) และเป็นนักเรียนนายร้อยอบรม (รุ่น กอน.๕) ก่อนไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมวิทยาเขตชลบุรี จนจบปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต ปัจจุบันเป็นสารวัตรอำนวยการ สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

“ผมเป็นคนชลบุรีตั้งแต่กำเนิด ได้แรงบันดาลใจชื่นชอบพระเครื่องจากคุณพ่อทวีศักดิ์ อมรสวัสดิ์ศิริ และคุณลุงนาวาอากาศเอกเผ่าพันธุ์ เชี่ยวเวศ ทั้งสอง ท่านเล่นพระตั้งแต่ผมยังเด็ก พอโตขึ้นมาตามคุณพ่อกับคุณลุงดูพระส่องพระไปด้วย สมัยนั้นคนวงการพระเมืองชลจะเรียกคุณพ่อว่า เฮียเซ้ง ขาสั้น หรือเฮียเซ้ง ทวีภัณฑ์ (เพราะคุณพ่อผมชอบใส่กางเกงขาสั้น) คุณพ่อชอบสะสมพระปิดตาสายเมืองชลบุรีและเล่นสายนี้มาตลอด มีส่วนผลักดันให้ผมเล่นสายนี้ด้วย” สารวัตรป้อมกล่าว

“พระปิดตาสมัยก่อนที่นิยมกัน ได้แก่ พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์, พระปิดตาหลวงปู่เจียม วัดกำแพง, พระปิดตาหลวงพ่อโต วัดเนินสุทธาวาส พระปิดตาหลวงพ่อครีพ วัดสมถะ แต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่การสะสมพระปิดตาสายวัดอรัญญิกาวาส (วัดป่า) ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี สมัยนั้นไม่มีคนเล่น พอคุณพ่อเริ่มสะสมก็มีโอกาสไปกราบนมัสการเจ้าคุณวรพรต (หลวงปู่เฮี้ยง) ยิ่งศรัทธาท่านมากขึ้น เชื่อไหมผมอยู่ ป.๖ เคยเช่าพระวัดปากน้ำรุ่นแรกในราคาพันกว่าบาท เช่าพระหลวงปู่ทิม “รุ่นเจริญพร” เนื้อเงินองค์ละสองพันบาท ทุกวันนี้ยังแขวนติดตัวอยู่ เพราะมีประสบการณ์ ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปชนสุนัข อย่างจัง แต่รถไม่ล้มทั้งที่ความเร็วกว่าร้อยกิโลเมตร ถ้าล้มวันนั้นคงไม่มีผมวันนี้

เรื่องพุทธคุณนั้นผมเชื่อมั่นร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่ามีจริง แต่เราต้องคิดดีและทำดีด้วย ไม่ใช่แขวนพระดีแล้วเที่ยวไปเกเร ให้แขวนพระดียังไงก็ไม่ได้ผล ปัจจุบันพระเครื่องที่ผมเก็บสะสมอยู่จะเป็นพระปิดตาของเจ้าคุณวรพรต (หลวงปู่เฮี้ยง) วัดอรัญญิกาวาส (วัดป่า) เสียส่วนมาก องค์แรกคือพระปิดตาเม็ดแตง (พิมพ์สองหน้า) รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ องค์ที่สองพระปิดตาพิมพ์สะดือเล็ก (อิติเสริมฐาน) ปี พ.ศ. ๒๔๙๖”   
แนวทางการศึกษาพระเครื่อง “อยากจะให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่สนใจควรศึกษาจากผู้ที่มีความรู้จริง ๆ แต่ละท่านจะเชี่ยวชาญคนละอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ พระเนื้อดิน พระเนื้อชินหรือพระกรุ ควรศึกษาและสะสมทีละอย่าง ที่สำคัญหมั่นดูของแท้บ่อย ๆ ผมว่าเล่นพระไม่ยาก แต่คุณต้องมีเวลา อย่างคุณพ่อของผม  ท่านนั่งส่องพระองค์เดียวเป็นชั่วโมง ผมเคยถามท่านว่าทำไมถึงต้องส่องนาน ท่านบอกว่าเรามีพระแท้ อยู่ในมือ ถ้าไม่ส่องบ่อย ๆ ก็จะไม่ได้อะไร เพราะพระก็คือครูบาอาจารย์ของเรานั่นเอง”.
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-27 16:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ภักดิ์ มรดกไทย' เซียนหนุ่มไฟแรง ศรัทธา 'พระกรุ-คุณแม่บุญเรือน'

      

ไต่เต้าจากมือเปล่า ไม่ได้เป็นลูกหลานเศรษฐี อาศัยอดทนและไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค วันนี้ชื่อเสียงของ ปัญญา ปัญญาคำ หรือ ภักดิ์ มรดกไทย เป็นที่คุ้นเคยในแวดวงคนนิยมพระเมืองไทย ด้วยสายตาเฉียบคมจนได้รับความไว้วางใจให้เป็นกรรมการตัดสินพระเครื่องของสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ “พระกรุ” หรือ “พระยอดนิยม” แวะเวียนไปขอคำปรึกษาได้ที่ชั้น ๓ ห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน
   
“ผมเป็นคน จ.เลยโดยกำเนิด พื้นเพอยู่ อ.นาแห้ว เรียนจบชั้นประถมศึกษาก็บรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาพระธรรม โตขึ้นก็ลาสิกขามุ่งหน้าเข้ามากรุงเทพฯ ชีวิตเริ่มต้นจากศูนย์ ทำงานทุกอย่างแลกเงิน อาศัยอดทนไม่ท้อถอย ขนาดไปนอนสนามหลวงก็เคยมาแล้ว” ภักดิ์ มรดกไทย รำลึกความหลัง
   
ก่อนเล่าต่อว่า “วันหนึ่งผมมีโอกาสได้ช่วยงานที่ร้าน เฮียสมาน คลองสาม เซียนรุ่นใหญ่ อัธยาศัยดี ผมถือว่าเป็นอาจารย์ ได้รับการถ่ายทอดและสอนเคล็ดลับดูพระแท้ พระกรุ ประเภทต่าง ๆ ทำให้ดูเป็นหมดทั้งพระเนื้อดิน เนื้อชิน เนื้อผง พระหลักยอดนิยม พระเนื้อโลหะ พระหล่อ พระเหรียญ และพระเกจิอาจารย์ทั่วไป”
   
ระหว่างนั้นเพื่อนแนะนำให้ไปหาพระพุทโธน้อย คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพฯ มาคล้องติดตัว เพราะสุดยอดเมตตามหานิยม ค้าขายดี แคล้วคลาด ปลอดภัย สุดท้ายเป็น “ของเก๊” เพื่อนแนะนำให้ไปหาประวัติและหนังสือเกี่ยวกับ คุณแม่บุญเรือน มาอ่าน ก็ยิ่งสนใจ อาศัยหมั่นศึกษา จนรู้ลึกเกี่ยวกับพระเครื่องคุณแม่บุญเรือน เดี๋ยวนี้ดูได้ทุกรุ่นทุกพิมพ์ไม่มีพลาด นอกเหนือจากพระกรุต่าง ๆ
   
“เฮียสมานเห็นว่าผมฉายเดี่ยวได้แล้ว ก็สนับสนุนให้เปิดศูนย์พระเครื่องรับเช่า-ให้เช่าพระกรุและพระเครื่องคุณแม่บุญเรือนจนทุกวันนี้ ส่วนตัวผมศรัทธาคุณแม่บุญเรือน ไปหาเช่าวัตถุมงคลทุกรุ่นทุกพิมพ์มาเก็บไว้เพื่อศึกษา รวมทั้งไปค้นหาประวัติเก่า ๆ จากลูกศิษย์ใกล้ชิด ใช้เวลากว่า ๔ ปี รวบรวมข้อมูล วัตถุมงคลบางชิ้นเจ้าของหวงมาก เช่าแพงก็ต้องยอม ผมเก็บพระท่านไว้เยอะ ในที่สุดก็ตัดสินใจจัดทำหนังสือประวัติและวัตถุมงคลแยกพิมพ์อย่างถูกต้องที่สุด เป็นแนวทางศึกษาในอนาคต โดยรายได้นำไปบูรณะศาลาและทำบุญ”
   
เมื่อถามถึงสุดยอดพระเครื่องที่ศรัทธาและมีอยู่ ก็ต้องเป็นพระกรุ เช่น พระนาคปรกช่อคันไถ เนื้อชินเงิน กรุวัดมหาธาตุสุโขทัย พระลีลาถ้ำหีบ เนื้อดิน สุโขทัย พระอู่ทองนั่งกรุวังพาน สุโขทัย พระนาคปรกพิมพ์เข่าบ่วง กรุวัดมหาธาตุลพบุรี พระกรุกำแพงเพชร พระพุทโธน้อยคุณแม่บุญเรือนพิมพ์ใหญ่ (จัมโบ้) พิมพ์กลางและพิมพ์เล็ก เป็นต้น
   
ก่อนจากกัน ภักดิ์ มรดกไทย ฝากข้อคิดว่า “ถ้าจะเล่นพระ อย่าไปมองมูลค่า อย่าไปฟังนิยาย หมั่นศึกษาหาความรู้มาก ๆ ย่อมได้เปรียบ ที่สำคัญอย่าลืมคิดดี ทำดี ไม่ลืมผู้มีพระคุณ ก็จะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง”.
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-27 16:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
'ผู้กำกับโอ๋-พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์' ศรัทธา 'ลป.โต๊ะ-ลป.คำพันธ์' ช่วยรอดตาย



ในแวดวงยุทธจักรสีกากี “ผู้กำกับโอ๋” พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ ผู้กำกับการ ๖ กองบังคับการปราบปราม (ผกก.๖ บก.ป.) นับได้ว่าเป็นนายตำรวจหนุ่มไฟแรง ทั้งผลงานและฝีมือไม่เป็นรองใคร ซึ่งกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ ชีวิตเสี่ยงตายนับครั้งไม่ถ้วน เคยถูกดักยิงถล่ม-วางระเบิด แต่รอดปาฏิหาริย์ ส่วนหนึ่งเจ้าตัวเชื่อบารมี “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ปกป้องคุ้มครอง

พ.ต.อ.ทินกร เกิดที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จากโรงเรียนศรีโกสุมวิทย์มิตรภาพ ๒๐๙ จบชั้นมัธยมโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จบจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ ๓๐ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน (นรต.๔๖) และจบปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาการบริหารงานยุติธรรม

เริ่มต้นรับราชการที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ย้ายไปอยู่ฝ่ายสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล ๑ เป็นนายเวร พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บังคับการอำนวยการสำนักงานส่งกำลังบำรุง (ตำแหน่งขณะนั้น) ติดยศ พ.ต.ต.ตำแหน่งสารวัตรแผนก ๑ กองกำกับการ ๕ กองบังคับการปราบปราม วนเวียนทำงานสืบสวนมาตลอดรวมทั้งไปช่วยราชการในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนขึ้นเป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผกก.อก.บก.ปอท.) จนผู้บังคับบัญชาไว้วางใจให้มาเป็นผู้กำกับการ ๖ กองบังคับการปราบปราม รับผิดชอบพื้นที่ จ.ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส ร่วมทำงาน “ดับไฟใต้” กับหน่วยงานอื่น ๆ

“ผมเชื่อและศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะชีวิตเฉียดตายหลายครั้ง ไปทำงานใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ รอดมาได้เหลือเชื่อ ทั้งถูกลอบยิงถล่มและโดนวางระเบิด ครั้งหนึ่งเจอจะจะ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบป่วนกลางเมืองยะลา เอาระเบิดแสวงเครื่องใส่ถุงมาวางหน้ารถ ตอนนั้นผมกำลังนั่งคุยเรื่องงานกับรุ่นพี่ ๆ และผู้บังคับบัญชาในโรงแรม มีคนวิ่งมาบอกก็เลยรู้ก่อน แจ้งเจ้าหน้าที่วิทยาการมาตรวจสอบ ยังมาไม่ถึงบึ้มซะก่อนรถเละทั้งคัน ขนหัวลุกเลย เชื่อว่าพระที่คล้องคอท่านคงช่วยคุ้มครองเป็นแน่”

พูดจบผู้กำกับโอ๋ก็โชว์พระเครื่องคู่กายให้ชม ได้แก่ เหรียญพัดยศ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปี ๒๕๑๘ เหรียญหล่อหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตกรุ่น ๒ เหรียญหลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา เหรียญย้อนยุคหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม เนื้อทองคำ เหรียญหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เนื้อเงิน รุ่นแม่ทัพภาคที่ ๑ เหรียญหลวงพ่อปู่วัดโกรกกรากและเหรียญหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย รุ่นอุดมความสุขปี ๔๐ เนื้อทองแดงผิวไฟ

“ตั้งแต่คล้องพระชีวิตเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้าในชีวิตราชการ โดยเฉพาะหลวงปู่โต๊ะกับหลวงปู่คำพันธ์นี่สุดยอดเลยพุทธคุณเชื่อขนมกินได้ ท่านเคยช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยหลายครั้ง แต่สิ่งสำคัญไม่ควรลืมกันก็คือ คล้องพระแล้วต้องทำดี กตัญญูรู้คุณ ถ้าคล้องพระแพง ๆ แล้วประพฤติไม่ดี ก็ไม่เกิดประโยชน์” ผู้กำกับโอ๋กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ.
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-27 16:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
กำนันดัง 'สมไทย ขวัญชัยเกษมสุข' ศรัทธาเครื่องราง-คณาจารย์ยอดนิยม

ดูรูปใหญ่คลิกที่ภาพ


นาทีนี้ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่รุ่นเก่า ข้าราชการ พ่อค้า หรือคนเดินดินก็สามารถเชี่ยวชาญ “พระเครื่อง” และ “วัตถุมงคล” ได้ไม่ยากเลย หากตั้งใจศึกษาและเรียนรู้อย่างจริงจัง เฉกเช่น สมไทย ขวัญชัยเกษมสุข กำนัน ต.เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นักปกครองท้องถิ่นหนุ่มไฟแรง ก็ได้รับการกล่าวขานในสายตาอันเฉียบคม วันนี้จึงมีแต่พระแท้พระสวยสะสมไว้มากมาย

กำนันสมไทย เป็นชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยกำเนิด จบปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สาขานโยบายสาธารณะ ปัจจุบันประกอบกิจการส่วนตัว รับเหมาก่อสร้าง ถมดินและกิจการขนส่ง ฐานะเข้าขั้นคหบดีคนหนึ่งในท้องถิ่น

“ผมได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์กับตัวเอง ขับรถหลับในเกิดอุบัติเหตุ ตอนนั้นคล้องพระ ๓ องค์ในคอ มีเหรียญเจ้าสัว หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เหรียญหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง และเหรียญหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เหมือนกับมีคนมาสะกิดให้รู้สึกตัว  ผ่อนหนักให้เป็นเบาไปได้อย่างเหลือเชื่อ”

จากนั้นมาผมก็เริ่มศึกษาและสะสมพระหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง มีทุกรุ่นทุกพิมพ์ ขนาดแฟนห้าม ผมยังแอบไปเช่าพระอยู่เรื่อย ๆ มีมากเข้า ก็เริ่มท้อ วัตถุมงคลหลวงพ่อท่านมีเยอะมาก เก็บไม่ไหว จึงเปลี่ยนไปสะสมหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส สมเด็จพระสังฆราชฯ (แพ) หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค แล้วขยับขยายไปสายอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะเน้นพระเกจิยุคเก่ายุคใหม่เป็นหลัก เล่นง่ายดีมีที่มาชัดเจน

เล่าจบ กำนันสมไทย ก็เปิดกรุออกมาโชว์ ย้ำว่านี่เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ยังมีเก็บไว้อีกเยอะ อาทิ เหรียญหลวงปู่ไข่ วัดบพิตรพิมุข (เชิงเลน) เหรียญเจ้าสัว หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ๒๔๘๔ เหรียญพรหมสี่หน้า อาจารย์เฮงไพรวัลย์ เหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง เหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นสร้างบารมี ๒๕๑๙ เหรียญหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ๒๕๐๓ เหรียญหล่อ-เหรียญปั๊มหลวงพ่อห้อง วัดช่องลม เหรียญหล่อ-เหรียญปั๊มหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย บล็อกวัด ๒๔๕๙ เหรียญเสมา ๘ รอบ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และขุนแผนพรายกุมารพิมพ์เล็ก เหรียญหล่อหลวงพ่อจั่น วัดบางมอญ เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นแรก รุ่นประคตเต็มและรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ เหรียญหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี รุ่นแรกและรุ่นพัดยศ เนื้อทองคำ เหรียญเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต เนื้อทองคำ เหรียญปล้องอ้อย หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่ศุขประภามณฑล เนื้อตะกั่ว พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดปากทะเล พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เนื้อตะกั่ว พระปิดตาหลวงพ่อห้อย วัดหอมเกร็ด นอกจากนี้ยังมีปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ แพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เป็นต้น

ก่อนอำลากัน กำนันคนรักพระของเรา ได้ฝากข้อคิดดี ๆ ว่า “ผมอยากให้เล่นพระเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมากกว่าเป็นธุรกิจ เดี๋ยวนี้คนสนใจพระกันเยอะ การศึกษาเรียนรู้ควรดูจากของแท้ หากเคยผ่านตาองค์ต่อไปไม่ยาก ผมเช่าตามศูนย์มาตรฐานและมีรับประกัน ทำให้อุ่นใจไม่หลงทาง หากใครอยากแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องพระ ผมยินดีคุยกับทุกคน”.
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-27 16:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย 'ดร.ไพโรจน์ สุขจั่น' คล้องเหรียญเจ้าสัวหนุนดวงร่ำรวย

  

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย จากเด็กวัดอาศัยข้าวก้นบาตรเลี้ยงชีพ วันนี้ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ นั่นคือ ดร.ไพโรจน์ สุขจั่น ผู้บริหารบริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด นักธุรกิจ “มือทอง” รับงานบริหารงานขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ โดยมีภรรยาคู่ชีวิต ดร.บัวทิพย์ สุขจั่น ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี คอยให้กำลังใจ

“ทุกวันนี้ผมไม่เคยอายใคร กล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่า ผมนี่แหละเด็กวัดตัวจริง อาศัยอยู่ที่วัดโบสถ์ดอนพรหม อ.บางกรวย จ.นนทบุรี กินข้าวก้นบาตรพระ นอนวัดและเรียนหนังสือโรงเรียนวัด ชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้ได้เป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต” ดร.ไพโรจน์ เปิดฉากสนทนาด้วยรอยยิ้ม

หลังจากชีวิตประสบความสำเร็จ ฐานะความเป็นอยู่เข้าขั้นเศรษฐี ดร.ไพโรจน์ ก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากส่วนตัวเป็นชาวพุทธและเป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญเจ้าสัวขึ้นมา ๑ รุ่น ประกอบด้วย เหรียญเจ้าสัวเนื้อทองคำ เหรียญเจ้าสัวเนื้อเงิน เหรียญเจ้าสัวเนื้ออัลปาก้าและเหรียญเจ้าสัวเนื้อทองแดง ด้านหลังเป็น “ยันต์ห้าแถวหนุนดวง” เสริมโชคเสริมบารมีทำพิธีพุทธาภิเษกตั้งแต่วันที่ ๒๓ ต.ค. ๒๕๕๒ เกือบ ๒ ปีมาแล้วที่ถ้ำแถวนรมิตเรือนทิพย์พิมาน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุคมาร่วมอธิษฐานจิต เช่น พระสุนทรธรรมานุวัตร หรือหลวงพ่อละเอียด อินทวิโส วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูสุนทรธรรมนิวัฐ หรือหลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูศิริภัทรกิจ หรือหลวงปู่ศรี ปริสุทโธ วัดหน้าพระลาน จ.สระบุรี พระครูประโชติ ธรรมวิจิตร หรือหลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูวิมลสมณวัตร หรือหลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี พระครูภัทรกิจโสภณ หรือหลวงพ่อหวล ภูริภัทโท วัดพุทไธศวรรย์ จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูใบฎีกาเทียนชัย หรือหลวงพ่อเทียนชัย สุภัทโท วัดแม่ตะไคร้ จ.เชียงใหม่ พระอาจารย์สุเทพ สุทธสีโล หรืออาจารย์อึ่ง วัดเชิงหวาย จ.นนทบุรี พระสมุห์เจือ ปิยสีโล หรือหลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม หลวงพ่อจืด นิมมโล สวนปฏิบัติธรรมโพธิเศรษฐี จ.นครปฐม พระมหาจำนงค์ ภัททมโน วัดปฐมบุตรอิศราราม (ยี่สาร) เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ พระครูสังฆรักษ์อวยพรหรือหลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม พระครูประยุตนวการ หรือหลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม โดยฝ่ายฆราวาสมีอาจารย์หนู กันภัย เจ้าสำนักสักยันต์ชื่อดังต้นตำรับยันต์ 5 แถวหนุนดวง ร่วมปลุกเสกเพิ่มความเข้มขลัง

สำหรับยันต์ห้าแถวหนุนดวงนี้ที่ปรากฏอยู่ด้านหลังเหรียญ มีความเชื่อว่า มีพุทธคุณดังนี้ แถวที่ ๑ คือ พระคาถาเมตตามหานิยมสำเร็จ แถวที่ ๒ คือ พระคาถาหนุนดวงชะตา แถวที่ ๓ คือ พระคาถาแห่งความสำเร็จ คือ สำเร็จในหน้าที่การงาน แถวที่ ๔ คือพระคาถาราศีประจำตัว และแถวที่ ๕ คือ พระคาถามหาเสน่ห์ นั่นเอง

“วัตถุประสงค์สร้างวัตถุมงคลก็เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคคลทั่วไป เนื่องจากปี ๒๕๕๒ เศรษฐกิจตกต่ำมากและเหรียญเจ้าสัวก็ชื่อเป็นมงคลดีมาก ใครมีไว้บูชาจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต สมัยนั้นแจกฟรีในโอกาสที่บริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ครบรอบ ๑๕ ปี เดี๋ยวนี้หาเช่าไม่ได้ ใครมีก็หวง เพราะมีประสบการณ์กันเยอะ ผมเองก็คล้องเหรียญเจ้าสัวติดตัวไม่เคยห่างเลย นับวันยิ่งเจริญรุ่งเรือง แต่สิ่งหนึ่งอยากฝากไว้คือคล้องพระแล้วต้องพูดดี คิด ทำดี ด้วย จึงจะเกื้อหนุนให้ประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไป” ดร.ไพโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ.
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้