ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงปู่คำตา ทีปังกโร วัดป่าภูคันจ้อง ~

[คัดลอกลิงก์]
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-10 10:38 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

หลวงปู่ชอบ  ฐานสโม

- ประวัติอาการอาพาธของหลวงปู่คำตา ทีปังกโร

ในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ นั้น หลวงปู่จะหยิบยกเรื่องของหลวงปู่ชอบ อยู่เสมอ คือท่านบอกว่าดูอย่างหลวงปู่ชอบท่านเป็นพระอรหันต์กรรมยังไม่เว้น กรรมตามให้ผลแค่ร่างกาย แต่จิตของท่านหลุดพ้นไปแล้ว หลวงปู่พูดเรื่องนี้สามครั้งและยังย้ำว่าต่อไปก็จะไม่พูดไม่สอนไม่พานั่งภาวนาอย่างนี้อีก ให้ทำเองพาทำมานานแล้ว อยู่ที่บ้านก็ทำ เอง
วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕ ตอนเช้าวันนั้นหลวงปู่ไม่ออกบิณฑบาต พอพระเณรกลับจากบิณฑบาต มีพระรูปหนึ่งเข้าไปกราบเรียนถามเพราะเห็นลักษณะผิดปกติ แขนด้านขวามีรอยถลอกพระรูปนั้นถามหลวงปู่ว่าล้มหรือครับ หลวงปู่ตอบว่าใช่ไม่เป็นไรพร้อมยกแขนขึ้นให้ดูพร้อมกับรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยเมตตา หลังจากฉันข้าวเสร็จ หลวงปู่กราบพระแล้วลุกไม่ขึ้น พระเณรต้องพยุงกลับกุฏิ พอตกตอนเย็นก็ขยับตัวลุกไม่ขึ้น พระเณรต้องผลัดเปลี่ยนกันเข้าเวรคอยดูแล คราวละ ๒ รูป ต้องคอยอยู่ข้างตลอดรุ่ง ถึงจะลำบากขยับไม่ได้ ลูกไม่ได้ เพราะครึ่งหนึ่งเป็นอัมพาตไม่มีแรงยกเลย แต่หลวงปู่ก็นั่งโดยเอาหมอนรองด้านหลังและข้างถ้านั่งนานบางครั้งช่วงแรก ก็ ๑ ชั่วโมง ในหนึ่งวันก็จะมีพระหนึ่งรูปเข้าเวรพอถึงตอนเย็น ๖ โมงกเข้ากุฏิเพราะอากาศหนาว วันหนึ่งหลวงปู่จะนั่งตั้งแต่ ๖ โมงเย็นถึง ๓ ทุ่ม พอจะพักก็บอก พอดีสองหลวงปู่ก็จะเรียกพระเพราะปวดเบา พระจะถามหลวงปู่ว่าหนาวไหมครับหลวงปู่ ปวดขาไหม หลวงปู่บอกว่าหนาวอยู่ ปวดขาอยู่ แต่ก็แค่นั้นแหละ พอตี ๓ หลวงปู่ก็นั่งภาวนาต่อจนถึง ๖ โมงเช้า ถึงหลวงปู่จะพูดไม่ชัด แต่ก็แสดงธรรมด้วยการปฏิบัติให้เห็นถึงความอาจหาญไม่หวั่นไหว สองสามเดือนแรกก็พอขยับได้แต่ต้องพยุง หลังจากนั้นก็เดินได้แต่ต้องอาศัยไม้เท้าช่วยเดิน ไม่ใช้รถเข็นโยมนำมาถวายหลวงปู่ก็ยังเดินขึ้นลงศาลาและกุฏิอยู่อย่างนั้น ก่อนเข้าพรรษา๑ เดือนหลวงปู่ลงอุโบสถด้วย วันนั้นถามหลวงปู่ว่า นั่งรถเข็นนะครับหลวงปู่และเอารถเข็นเข้ามา หลวงปู่ยิ้มแล้วพูดว่าเอามาลองดูซิ หลังจากนั้นก็นั่งขึ้นลงศาลาเป็นประจำ ในวันเข้าพรรษาตอนเช้าท่านพูดกับพระเณรที่คอยปฏิบัติว่า ช่วงนี้เหนื่อยมากไม่พ้นพรรษานี้หรอก
หลังจากฉันข้าวเสร็จ คณะลูกศิษย์ที่มาจากกรุงเทพฯและชาวบ้านได้ตามไปที่กุฏิ หลวงปู่ก็บอกว่าเหนื่อยมากคงไม่พ้นพรรษานี้ แล้วอาการป่วยก็ทรุดลง มีไข้เป็นบางวัน พอวันที่ ๑๒ สิงหาคม เป็นวันอุโบสถ หลวงปู่ก็มาประชุมฟังเทศน์ โดยเปิดเทปม้วนหลักใจของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนเพราะส่วนมากก็ฟังแต่หลวงตาบ้านตาด ฟังเทศน์จบหลวงปู่ก็ถามญาติโยมว่าต่ออีกไหมฟังเทศน์
เข้าใจไหมไม่ฟังก็เลิกกัน พอหลังจากนั้นก็เอารถเข็ญมารับหลวงปู่ขึ้นกุฏิ พอรุ่งขึ้นวันใหม่อาการของหลวงปู่ก็ทรุดหนัก หลังจากอาหารเสร็จหลวงปู่ก็นั่งตัวโก่ง ฉันข้าวไม่ได้จนผิดสังเกต มีพระกราบนิมนต์หลวงปู่ฉันข้าว หลวงปู่ก็บอกว่าไม่ฉัน แล้วโยมก็นิมนต์หลวงปู่ให้ฉันก็ตอบเหมือนเดิมว่าไม่ฉัน ถ้าหลวงปู่ไม่ฉันข้าวก็ขอนิมนต์หลวงปู่ขึ้นไปพักผ่อนที่กุฏิก่อนขอรับ หลวงปู่ก็ตอบว่าไปตั้งแต่วันนั้นมาหลวงปู่ก็ฉันข้าวลดลงเรื่อย ๆ ร่างกายก็อ่อนเพลียมีไข้เป็นระยะ พอตกตอนเย็นก็จะมีไข้หนักตัวร้อนและสั่น อาการ
ของหลวงปู่เป็นอย่างนี้ได้ ๖-๗ วัน คณะศิษย์ได้ปรึกษาหารือกันว่านิมนต์หลวงปู่ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อำเภอท่าบ่อ ซึ่งคณะศิษย์ได้ติดต่อกับทางโรงพยาบาลแล้ว คณะศิษยานุศิษย์ได้เข้าไปกราบเรียนหลวงปู่ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่ออาหารจะดีขึ้น หลวงปู่ทานก็นิ่งเฉยไม่พูดอะไร พอกราบเรียนเป็นครั้งที่ ๒ หลวงปู่ก็ตอบว่า "อื้อ" ทางโรงพยาบาลได้นำรถมารับหลวงปู่อยู่ที่วัด หลวงปู่ท่านพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหกวัน ขณะที่หลวงปู่ได้รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น อาการของหลวงปู่ก็ดีขึ้นตามลำดับ ในวันที่ ๒๕ หลวงปู่เพียร วิริโย วัดป่าบ้านหนองกองได้ไปเยี่ยมหลวงปู่ที่โรงพยาบาล ตอนเช้าวันที่ ๒๖ หลวงปู่ ก็กลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่วัด เมื่อกลับมาอยู่วัดอาการของหลวงปู่ก็กำเริบอีกมีแต่ทรงกับทรุด คณะศิษย์ได้นิมนต์หลวงปู่ไปรักษาตัวอีกครั้งแรกหลวงปู่ก็นิ่งเฉย ครั้งที่ ๒ หลวงปู่จึงบอกว่าไป และอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองคาย ๓ วัน อาการก็ยิ่งทรุดลงทุกวันวันที่ ๒ กันยายนตอนเช้าก็สุดความสามารถของหมอ หลวงปู่ออกจากโรงพยาบาลมาอยู่วัด เวลา ๑๓.00 น. จนถึงเวลา ๑๔.๑๔ น. หลวงปู่ก็มรณภาพ ตรงกับวันอังคารที่ ๒ กันยายน ๒๕๔๖  สิริอายุ รวม ๗๖ ปี ๓๐ พรรษา
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-10 10:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประชุมเพลิงศพหลวงปู่

พอหลวงปู่ท่านมรณภาพ หลวงปู่เพียร วิริโย ท่านได้มาเป็นประธานการประชุม เพื่อจัดงานประชุมเพลิงศพหลวงปู่ โดยได้ตกลงกันว่าจะทำแบบเรียบง่าย ไม่เก็บศพไว้นานจะเป็นภาระแก่บรรดาลูกศิษย์เราเป็นนักปฏิบัติต้องทำแบบพระกรรมฐานจริง ๆ ทำอะไรต้องพอเหมาะพอดี ไม่ใช่ทำอวดโลกอวดสงสาร เมื่อประชุมเสร็จก็ตกลงกันว่าจะเอาไว้ ๕ วัน มีเวลาเตรียมงาน ๔ วัน บรรดาลูกศิษย์แบ่งงานกัน เนื่องจากมีเวลาน้อย ประกอบกับอยู่ในช่วงพรรษา ศพหลวงปู่ตั้งที่ศาลาใหม่ ไม่มีการสวดอภิธรรมในตอนเย็นโดยตั้งไว้ให้ญาติโยมสักการบูชาไม่มีทอดผ้าบังสุกุล ก่อนหลวงปู่มรณภาพได้สั่งว่า ถ้าท่านตายไปไม่ต้องสวดมาติกาบังสุกุล ท่านบอกว่าท่านสวดมาพอแล้วให้เผาเลย บุญไม่ได้อยู่ทีการสวดมาติกาบุญอยู่กับการกระทำของตนเองต่างหาก บรรดาพระภิกษุ-สามเณรที่เคยเป็นลูกศิษย์ของท่าน เมื่อทราบข่าวได้มาช่วยงานเป็นจำนวนมากต่างก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทั้งญาติโยมก็ช่วยกันอย่างเต็มทีเพียง ๔ วัน ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย



หลวงปู่บุญมี  ปริปุณโณ



หลวงปู่เพียร วิริโย


หลวงปู่ลี กุสลธโร


วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๔๖ เวลา ๑๓.00 น. พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล โดยมี
หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ วัดป่านาคูณ เป็นประธานสงฆ์
หลวงปู่เพียร วิริโย วัดป่าหนองกอง
หลวงปู่ลี กุสลธโร  วัดผาแดง อ.หนองวัวซอ  จ.อุดรธานี  มาร่วมสวดมาติกาบังสุกุล

เวลา ๑๔.๐๐ น. ประชุมเพลิงศพหลวงปู่
เวลา ๑๕.๐๐ น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
เวลา ๑๙.๐๐ น. ทำวัตรเย็น ญาติโยม
และอาราธนานิมนต์ พระอาจารย์อุทัย ธัมมธโร วัดภูย่าอู่ แสดงพระธรรมเทศนาจนถึงเวลาอันสมควร

เวลา ๐๓.๐๐ น. เก็บอัฐิหลวงปู่ ตอนเช้า
พระภิกษุ - สามเณรรับบิณฑบาตรอบศาลาการเปรียญญาติโยม
ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ-สามเณร จากนั้นอุบาสก - อุบาสิกา
ที่มาร่วมงาน รับประทานอาหารร่วมกันเสร็จพิธี

ภายหลังเก็บอัฐิหลวงปู่เรียบร้อยแล้ว ปะมาณ 2 อาทิตย์ปรากฏพระธาตุที่แปรสภาพจากอัฐิ และอังคารจำนวนมากมาย ซึ่งครูบาอาจารย์สำคัญองค์หนึ่งได้กล่าวว่า ท่านหมดความลังเลสงในองค์หลวงปู่ท่านนี้อยู่แล้ว

ที่มาขอขอบคุณและอนุโมทนา
สุจินต์ : http://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=378

............................................................

ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20766

13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-10 10:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

                                                                                                                                                                                                    ภาพพระธาตุหลวงปู่คำตา  ทีปังกโร จากผงอังคาร ภายหลังประชุมเพลิง 2 อาทิตย์
(ขอบคุณภาพโดย คุณ ดวงจันทร์)




kit007 ตอบกลับเมื่อ 2014-7-10 10:40
...

กราบหลวงปู่ครับ
กราบบูชาหลวงปู่ครับ
สาธุครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้